หากการแต่งงานคือกรงขังอิสรภาพ เธอก็ถูกขังอยู่ในกรงเถื่อนของผู้ชายที่ไร้หัวใจ ยามสิ้นหวัง ท้อแท้ และหวาดกลัว กำลังใจที่ดีที่สุดก็คือตัวเอง ความเจ็บปวดที่ใจไม่ทำให้ใครตาย ‘นิชาดา’ เฝ้าบอกตัวเองให้กัดฟันสู้ ฝืนทนเข้าไว้ แม้ยังมองไม่เห็นหนทางหลุดพ้น แต่อย่างน้อยก็ไม่มีใครต้องมาเจ็บไปกับเธอ
View Moreภายในห้องที่มีเพียงแสงจากโคมไฟ เสียงการเคลื่อนไหวร่างกายสุดเร่าร้อนพร้อมเสียงหอบหายใจแรงจากร่างสูงใหญ่ และเสียงครางระส่ำจากคนใต้ร่างสอดประสานเป็นระยะ ต่างก็ตกอยู่ในอารมณ์คุกรุ่นแห่งความใคร่ที่โรมรันกันราวสมรภูมิรบ
เหงื่อกาฬท่วมร่างสูงใหญ่ซึ่งค้ำอยู่ด้านบนทั้งที่แอร์เย็นฉ่ำ ครู่หนึ่งร่างอวบอิ่มที่ฟุบคว่ำหน้าก็ถูกรั้งสองแขนขึ้นให้ลุกนั่งคุกเข่า แรงกระชั้นจากด้านหลังรุนแรงทำเอาหญิงสาวสะท้านตามทั้งกาย
ขณะที่ต่างก็กำลังทะยานขึ้นเพื่อคว้าความสุขเสียงหนึ่งก็ดังขัดจังหวะ
“ฉิบ...”
ชายหนุ่มสบถเสียงเข้มเครียดด้วยความหงุดหงิด ยังไม่ยอมรับโทรศัพท์ ทว่ากดร่างอวบอิ่มลงจับสะโพกหนั่นแน่นส่งแรงเน้นหนักจนร่างสาวหมอบแนบที่นอนกระทั่งตนใกล้ไปถึงจุดหมายก็เคลื่อนออกมาจัดการตนเองจนหมดสิ้นพร้อมกัดฟันคำรามในลำคอ
เครื่องป้องกันถูกโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี พร้อมร่างสูงใหญ่ซึ่งมีมัดกล้ามกำยำก้าวลงเตียงด้วยอารมณ์ฉุนจัด คว้ามือถือเครื่องบางของตนที่ส่งเสียงอยู่ในกระเป๋ากางเกงและแทบจะหล่นออกมาเพราะถูกจับสะบัดทิ้งลวกๆ เมื่อเกือบหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้มากดรับ
“มันใช่เวลาไหมวะไหมเต้ย”
เสียงเข้มกัดฟันเอ่ยดุดัน
“ขอโทษครับนาย”
“มึงโดนตีนแน่”
คนถูกขัดจังหวะยังคงเข่นเขี้ยว
“ว่ามา ถ้าเรื่องไม่เป็นเรื่องเจอคูณสอง”
“เอ่อ...”
เสียงกลืนน้ำลายมาจากปลายสาย ขณะเดียวกันเจ้าของร่างสูงใหญ่ก็เดินไปคว้าเสื้อคลุมในตู้ออกไปยืนยังระเบียงด้านนอก เมื่อปลายหางตาเห็นว่าร่างอวบอิ่มเปลือยเปล่าบนเตียงขยับจะก้าวลงมาหาตน บอกให้รู้ว่าต้องการอยู่ตามลำพัง
“เพื่อนเก่านายพยายามติดต่อนายครับ เบอร์เก่าของนายเลิกใช้แล้วก็เลยโทรหาผม”
“มึงพูดชื่อเลยได้ไหม อารัมภบทอยู่ได้”
“คุณเมฆ”
“ไอ้ห่านั่นกูไม่นับเป็นเพื่อน”
ผู้เป็นนายแทบตวาดใส่มือถือ
“คุณเมฆบอกว่ามีเรื่องขอร้องนาย เรื่องด่วน...”
ลูกน้องคนสนิทพยายามอธิบายแม้จะรู้ว่าอารมณ์ของนายตนขุ่นจัดแล้ว ทว่ากลับถูกตัดสายทันที
มือหนาทุบลงบนราวระเบียงอย่างหงุดหงิดพร้อมเอ่ยอาฆาต
“ไอ้เวร เสือกโทรมาได้ เจอหน้าโดนแน่มึง”
ยังไม่ทันเอ่ยจบ เสียงมือถือก็ดังขึ้นอีกครั้ง เห็นเบอร์ลูกน้องคนสนิทชายหนุ่มก็ไม่คิดรับ กำลังจะหมุนตัวหันกลับเข้าห้องก็มีข้อความเข้ามาจึงเหลือบมองทั้งที่ไม่อยากอ่านนัก
‘ถ้าอยากเอาคืนคุณเดชให้ติดต่อกลับ คุณเมฆบอกมาแบบนี้ครับนาย’
อีกฝ่ายน่าจะใช้การพูดส่งข้อความฟรี เพราะส่งมาทันทีเมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมรับสาย และมันก็หยุดเท้าของชายหนุ่มได้
‘เอาคืนลุงเดชงั้นเหรอ’
ดวงตาคู่คมดุทอดมองไปยังวิวมุมสูงของเหมืองหลวงที่แสงสียามค่ำคืนดูน่าตื่นตาใจ มุมปากได้รูปขยับเหยียดหยัน
‘ไอ้เมฆ ริทำตัวเป็นหมาสองราง เพราะรู้ว่ากูงัดข้อกับลุงอยู่ตลอดไม่มีวันนับญาติ อยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะคาบข่าวอะไรมาขายกู’
======
เรื่องที่สองมาแล้วค่า เรื่องนี้นางเอกน่าสงสารมากๆ แต่อย่าเพิ่งเกลียดพระเอกนะคะ ^-^"
ฝากติดตามเรื่องราวต่อไปด้วยนะคะ
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ
Comments