เขาเดินทางมายังห้างสรรพสินค้าเพื่อรับเครื่องเพชรให้กับคุณแม่ของตัวเอง และเมื่อได้มาเรียบร้อยก็เดินเล่นอยู่ในห้างด้วยท่าทีเหนื่อยล้า หมดเรี่ยวแรงไม่มีชีวิตชีวา จิตใจห่อเหี่ยวไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น เขาเดินมาเรื่อย ๆ ก่อนจะเจอกับใครบางคนและแน่นอนว่าเป็นคนคุ้นเคยกันดี
"พี่ไปห้องน้ำแป๊บนะคะ ที่รักรอตรงนี้นะ"
"ค่ะ"
เขาเดินไปยืนหลบอยู่ตรงมุมเสา เพราะว่าเห็นเพนเฮาส์มากับใครสักคนหนึ่ง และพอเขาเพ่งมองให้ดีจึงรู้ว่าผู้หญิงที่มาด้วยกันคือหนูนิด และเมื่ออดีตเพื่อนรักเดินออกไปเขาก็รีบเข้าไปหาหนูนิดทันที
"หนูนิด"
"พี่ไทเกอร์"
เขาทำมือชู่ ๆ ก่อนจะลากหนูนิดให้มาคุยกันในที่ลับสายตาคน อีกอย่างไม่อยากจะให้เพนเฮาส์รู้ด้วย
"มากับไอ้เพนเฮาส์ได้ยังไง คบกับมันอยู่เหรอ"
เขาเอ่ยถามอยากคาดคั้นเอาคำตอบจากลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งหนูนิดก็ยอมรับแต่โดยดี
"ใช่ค่ะหนูนิดกำลังคบอยู่กับพี่เพนเฮาส์อยู่ มีอะไรหรือเปล่าคะ"
เมื่อเขาได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาทันทีอย่างมีแผนการบางอย่าง
"พี่มีเรื่องจะให้ช่วยหน่อย"
ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังเกาหัวด้วยความมึนงง เขาก็รีบยื่นบัตรเดบิต 1 ใบไปให้น้องสาว
"อะไรคะพี่ไทเกอร์มาให้หนูนิดทำไม"
"บัตรใบนี้มีเงินอยู่ 100,000 บาท อาทิตย์ที่จะถึงนี้หนูนิดต้องพาไอ้เพนเฮาส์ไปไหนก็ได้ และที่สำคัญต้องไปค้างคืนด้วยเข้าใจไหม"
หนูนิดทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่พี่ชายบอก และก็ยังสงสัยว่าทำไมจะต้องทำแบบนั้นด้วย
"มีอะไรที่หนูนิดยังไม่รู้หรือเปล่า แต่เมื่อกี้พี่เพนเฮาส์บอกว่าจะพาหนูนิดไปเที่ยวทะเลกับน้องสาวของเขาค่ะ คงจะ..."
"ไม่ได้เด็ดขาดหนูนิดต้องห้ามไป และห้ามให้ไอ้เพนเฮาส์ไปกับน้องสาวของมันด้วย หนูต้องพามันไปที่อื่น"
"หนูนิดจะไปห้ามพี่เพนเฮาส์ได้ยังไงคะ แล้ว..."
"ถ้าไม่อย่างนั้นพี่จะบอกคุณอาว่าหนูนิดมีแฟนแล้วแถมยังให้มันมานอนด้วยที่คอนโดอีก"
เมื่อเขาเอ่ยข่มขู่แบบนั้น หนูนิดก็อ้าปากค้างก่อนจะยื่นมือไปตีไหล่พี่ชายอย่างหงุดหงิด
"ไอ้พี่บ้าอย่ามาขู่กันนะ"
"ช่วยไม่ได้หนูนิดบังคับให้พี่ต้องทำแบบนี้"
"ไอ้พี่เลว!"
หนูนิดบ่นอุ๊บอิ๊บก่อนจะทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เธอยังไม่รู้ว่าจะให้เขาแยกจากน้องยังไงเหมือนกัน
"อย่าบอกนะว่าพี่ไทเกอร์เป็นไอ้เลว คนเจ้าชู้ที่มาเกาะแกะพี่เพนตี้"
เขาหันขวับไปมองน้องสาวทันทีด้วยใบหน้าตึงจัด
"ใครบอกแบบนั้น ไอ้เพนเฮาส์ใช่ไหม"
"อือ พี่เขาก็พูดถูกนะพี่ไทเกอร์เป็นแบบนั้นจริง ๆ ไม่ใช่เหรอคะ"
"บ้าเอ๊ย ไอ้เพนเฮาส์กูเอาคืนมึงแน่ หึ ทำตามที่พี่บอกด้วยล่ะ โน่นมาแล้วพี่ไปก่อนนะ"
"ค่ะ บาย"
หลังจากที่เขากลับมาจากห้างก็รอเวลาในช่วงเย็น และเมื่อได้เวลาที่นัดกับคุณแม่ไว้ก็เดินทางไปยังร้านอาหารชื่อดัง เขาเดินทางมาถึงสักพักใหญ่แถมยังมาถึงก่อนใครเพื่อนด้วย เพื่อนแม่ที่นัดเขาก็ยังไม่มาเลย จึงนั่งมองเมนูไปเพลิน ๆ สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนคุณแม่กำลังคุยกับใครสักคน เขาเงยหน้าหันไปมองก็เห็นว่าคุณแม่เดินมากับผู้ชายคนหนึ่ง
"อ้าวตาเกอร์มานานหรือยังลูก"
เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน
"มาสักพักแล้วครับ สวัสดีครับ"
"พี่คิมมานั่งคุยกันก่อน ไม่ได้คุยกันนานเลยคงต้องคุยกันยาวเลยวันนี้"
คุณแม่หัวเราะคึกคักอยู่กับผู้ชายอีกคนที่ชื่อคิม ท่านดูเป็นคนใจดีไม่น้อยเลย
"ว่าไงเราชื่อไทเกอร์ใช่ไหม ลุงเป็นเพื่อนกับแม่ของเรานะ แต่ลุงเคยเจอไทเกอร์ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วล่ะ คงจะจำกันไม่ได้"
"ครับคุณอา สวัสดีอีกครั้งนะครับ"
เขาส่งยิ้มทักทายผู้ใหญ่ ท่านเองก็ยิ้มกลับมาให้เช่นกัน คุณแม่ของเขาหันซ้ายมองขวาก่อนจะเอ่ยถามรุ่นพี่ที่สนิท
"ว่าแต่ภรรยาของพี่อยู่ไหน"
"เห็นว่าไปห้องน้ำนะ แล้วคงจะรอลูกสาวด้วยแหละพอดีว่ามากรุงเทพฯมาเยี่ยมลูกสาวแล้วก็ลูกชายน่ะ"
คุณแม่ของเขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหยิบเมนูมาสั่งอาหารในระหว่างที่รอครอบครัวของลุงคิม
"รอนานไหมคะคุณลี"
คนที่นั่งอยู่บนโต๊ะก็เงยหน้าหันไปมองคนที่มาใหม่ ซึ่งเป็นผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณแม่ของเขา เดาว่าน่าจะเป็นภรรยาของลุงคิม แล้วก็มีผู้หญิงอีกคนที่เดินตามมาข้างหลัง เมื่อทั้งสองคนหันมามองสบตากัน ไทเกอร์ก็ยกยิ้มมุมปากทันที
"ไม่นานหรอกจ้ะมานั่งกินข้าวกันเถอะ"
"ไทเกอร์รู้จักกับลูกสาวลุงไว้สิ นี่เพนตี้ลูกสาวลุงเอง เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย NRU"
คุณแม่ได้ยินแบบนั้นก็ตาโตก่อนจะหันมายิ้มให้กับลูกชาย
"เรียนที่เดียวกับแกไม่ใช่หรือไง รู้จักหนูเพนตี้หรือเปล่าล่ะ ดูจากอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันนะ"
ไทเกอร์ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มมุมปากออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นที่ครอบครัวของเราสองคนรู้จักกัน เหมือนตอนนี้สวรรค์กำลังเป็นใจเข้าข้างเขาแล้วล่ะ
"รู้จักสิครับ รู้จักดีซะด้วย"
ทางด้านของเพนตี้เธอเดินไปนั่งลงที่โต๊ะก่อนจะเหลือบสายตาไปมองชายคนรัก บอกตามตรงว่าคิดถึงเขามากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เยอะเพราะว่าพี่ชายตัวดีกำลังขัดขวางอยู่ และวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่มาเยี่ยม แถมยังโทรศัพท์มาบอกว่าจะไปกินข้าวกับเพื่อน ก็เลยถือโอกาสพาเธอออกมากินข้าวด้วยกัน แล้วก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจเพราะครอบครัวของไทเกอร์และเธอรู้จักกัน โลกมันช่างบังเอิญซะจริง
"ตาไทเกอร์ปีนี้จะจบแล้วล่ะค่ะ คงจะให้ไปฝึกงานที่บริษัทลุงเขาก่อน จากนั้นก็ให้มารับช่วงต่อเลย แล้วหนูเพนตี้ละลูกเป็นอะไรมาจ๊ะฝึกงานที่ไหน"
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นไปมองน้าลีซึ่งเป็นคุณแม่ของไทเกอร์ ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
"หนูเรียนภาษามาค่ะ แล้วก็ยื่นฝึกงานที่บริษัท 3D tour ตอนนี้ก็รอตอบรับอยู่ค่ะ"
เธอตอบคำถามผู้ใหญ่พร้อมกับเหลือบสายตาหันไปมองผู้ชายอีกคน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมกินข้าวเอาแต่จ้องหน้าเธอไม่หยุด ร่างกายดูซูดผอมไปเยอะเลยน่าสงสารชะมัด
"ตายจริงจะไปฝึกทำไมที่นั่นล่ะ มาฝึกที่สตาร์คีรีทัวร์สิ"
น้าลีรีบแนะนำทันที ซึ่งเพนตี้เคยไปยื่นที่นั่นเรียบร้อยแล้วแต่เขาไม่รับนักศึกษาฝึกงานจึงเปลี่ยนที่ใหม่
"หนูไปยื่นแล้วค่ะเขาบอกว่าไม่รับนักศึกษาฝึกงาน"
เธอพยายามอธิบายให้ผู้ใหญ่ฟัง ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ก็เป็นผู้ฟังที่ดีไม่ได้แทรกอะไร และเมื่อไทเกอร์ได้ยินแบบนั้นก็รีบหันไปอ้อนคุณแม่ทันที
"แม่ครับไปบอกฝ่ายบุคคลจัดการให้ด้วย ผมจะให้เพนตี้ไปฝึกงานที่บริษัทของเราครับ"
เพนตี้อ้าปากค้างต้องมองสองแม่ลูกอย่างอึ้งไป สตาร์คีรีทัวร์เป็นบริษัททัวร์ที่ใหญ่ที่สุดระดับประเทศ เพิ่งรู้ว่าเป็นของครอบครัวไทเกอร์ แสดงว่าร่ำรวยไม่น้อยเลย
"เป็นบริษัทของน้าลีเหรอคะ"
"ใช่แล้วบริษัทของน้าเอง เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูเพนตี้มายื่นเอกสารใหม่นะลูก น้าจะแจ้งฝ่ายบุคคลให้"
"ขอบคุณมากเลยนะคะน้าลี"
เพนตี้ยกมือขอบคุณผู้ใหญ่ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างดีใจ ในที่สุดเธอก็จะได้ฝึกงานบริษัททัวร์ที่ใหญ่ที่สุดระดับประเทศ ดูเหมือนว่าตอนนี้สวรรค์จะเข้าข้างเธอกับคนรัก เพราะว่าทุกอย่างดูจะราบรื่นไปหมด
และในที่สุดงานมงคลก็มาถึง เป็นงานแต่งงานระหว่างไทเกอร์และเพนตี้ ส่วนคู่ของหนูนิดและเพนเฮาส์จะแต่งงานทันทีหลังจากที่ฝ่ายหญิงเรียนจบ ครอบครัวสุขสันต์ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอีกในตอนนี้เจ้าบ่าวกำลังนั่งรอเจ้าสาวอยู่ในห้องที่ทางออแกไนซ์จัดไว้ให้ และฤกษ์มงคลเวลา 9:09 น. จะมีพิธีสวมแหวนแต่งงานระหว่างทั้งคู่ ซึ่งตอนนี้เจ้าสาวก็เดินเข้ามากับเพื่อนอีกคนซึ่งก็คือหม้อแกง"สวยมาก!""เจ้าสาวสวยมาก!"ทุกคนร้องว้าวออกมาด้วยความตื่นเต้น เจ้าสาวดูมีน้ำมีนวลสวยงามที่สุด ภายในงานนี้ไม่มีใครที่โดดเด่นไปกว่าเธออีกแล้ว ช่างกล้องรัวชัตเตอร์กันอย่างเพลิดเพลิน หม้อแกงพาเพื่อนสนิทไปนั่งตรงที่ทางออแกไนซ์จัดเตรียมไว้ ก่อนจะเดินออกมาหาชายคนรักที่ยืนอยู่ไม่ห่าง"เพนสวยจังเลยค่ะ"และเมื่อหญิงสาวมานั่งลงตรงหน้า ชายหนุ่มก็เอ่ยชมไม่หยุด ตัวเธอเองก็รู้สึกเขินไม่น้อย ตลอดทางที่เดินเข้ามามีแต่เสียงซุบซิบพูดคุยกันว่าเธอดูสวยเหมือนเจ้าหญิง"ไทเกอร์ก็หล่อเหมือนกันนะ""แน่นอนอยู่แล้ว นี่ใครไทเกอร์เลยนะ"ทั้งสองคนจ้องมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข บรรยากาศตลบอบอวนไปด้วยความอบอุ่น เจ้าบ่าวสวมแหวนเพชร 15 กะรัตให้คนรักบนน
เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที พยาบาลก็ถือชาร์จอะลูมิเนียมเดินเข้ามาหาคุณหมอพร้อมจะยื่นมาให้เขาตรงหน้า"ผลการตรวจออกมาเรียบร้อยแล้วค่ะ""เป็นยังไงบ้างครับหมอ"ไทเกอร์ลุ้นเป็นอย่างมาก เขากำมือคนรักของตัวเองไว้แน่น รอดูว่าผลการตรวจจะเป็นไปอย่างที่คาดหวังหรือเปล่า เอาจริงตื่นเต้นมากเลยนะ เขาอยากมีลูกกับเพนตี้ใจจะขาด ครอบครัวอบอุ่นสมบูรณ์ดีที่สุดในชีวิตเลย"ผลการตรวจออกมาแล้วนะครับ คุณเพนตี้กำลังตั้งครรภ์ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ"และเมื่อผลการตรวจออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ไทเกอร์และคุณแม่ก็ลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นก่อนจะสวมกอดกันด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก ส่วนคนที่ท้องก็จ้องมองไปยังทั้งสองคนก่อนจะส่ายหน้ายิ้ม ๆ"เย้! เมียผมท้องแล้วครับแม่ เพนตี้ท้องแล้วโว้ยยยย"หญิงสาวหัวเราะขำ ๆ กับท่าทีของชายคนรัก เล่นใหญ่ทั้งแม่และลูกเลย สงสัยจะอยากมีหลานมากจริง ๆ"ถ้าอย่างนั้นเรารีบเดินทางไปที่เชียงรายเถอะ ไปสู่ขอหนูเพนตี้กัน ถ้าเกิดว่าทางนั้นรู้ว่ากำลังท้องต้องตื่นเต้นมากแน่เลย""รีบไปกันเถอะครับแม่ ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะครับเอาไว้เดี๋ยวผมจะพาภรรยามาฝากครรภ์ที่นี่""ยินดีมากเลยครับ เดี๋ยวหมอให้ยาบำรุงไปก่อน ถ้าพร้อม
ในตอนนี้เพนเฮาส์ได้กลับมาจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดินทางไปเจอกับครอบครัวของหนูนิด และแอบบอกว่าเป็นเพื่อนรักของไทเกอร์ จึงทำให้ครอบครัวของหนูนิดไว้ใจ เพราะเป็นเพื่อนรักของหลานชาย แถมเขายังโทรมายืนยันว่าเพนเฮาส์เป็นคนดี เรื่องราวจึงจบลงอย่างง่ายดายส่วนไทเกอร์เขาเปลี่ยนวันหยุดมาให้ตรงกับวันหยุดของเพนตี้ และวันนี้เขาพาคนรักมากินบุฟเฟ่ต์ทะเลพรีเมี่ยมตามที่สัญญาเอาไว้ ว่าแต่บุฟเฟ่ต์บ้าอะไรก็ไม่รู้ราคาหัวละตั้ง 4,990 บาท กินแล้วมันลอยได้หรือยังไง"เมียจ๋ากินเยอะ ๆ เลยนะ"เขานั่งแกะกุ้งล็อบสเตอร์ให้กับเพนตี้ เอาอกเอาใจสารพัด และตอนนี้เธอกินไปแล้วสองตัว ขนาดตัวโคตรใหญ่ยังงงเลยว่ากินไปได้ยังไง"ทำไมเกอร์ไม่กินล่ะ""เห็นที่รักกินก็อิ่มแล้วช่วงนี้ดูอุดมสมบูรณ์นะเรา มีน้ำมีนวลขึ้นเยอะเลย"หญิงสาววางกุ้งล็อบสเตอร์ลงก่อนจะจ้องมองไปยังชายหนุ่มด้วยใบหน้าหงุดหงิด"เกอร์กำลังบอกว่าเพนอ้วนเหรอ"หญิงสาวเท้าสะเอวจ้องหน้าคนรักอย่างเอาเรื่อง กล้าดียังไงมาบอกว่าเธอดูอุดมสมบูรณ์ ทั้งที่ความหมายคือการบอกว่าเธออ้วน ไทเกอร์ได้ยินแบบนั้นก็รีบปฏิเสธพัลวัน"ไม่ใช่ หมายถึงว่าเมียจ๋าสวยขึ้นไงจ๊ะ อึ๋มขึ้นด้วย
ทางด้านของเพนเฮาส์เขาเพิ่งจะได้สติ ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า เมื่อเห็นใบหน้าของคนรักอยู่ตรงหน้าก็ตกใจรีบขยับตัวลุกขึ้นจนตัวเองเจ็บตัวรีบกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัว หนูนิดเห็นแบบนั้นก็ตกใจ รีบขยับตัวลุกขึ้นประคองชายหนุ่มเอาไว้ก่อนจะเอ็ดเขาเสียงไม่ดังมากนัก"อย่าเพิ่งลุกสิคะเดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก""หนูนิดให้อภัยพี่แล้วใช่ไหม แล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน"เขากุมขมับตัวเองเอาไว้ หันไปมองโดยรอบด้วยความมึนงง ก่อนหน้านี้จำได้ว่าตัวเองอยู่ที่คอนโด ดื่มเหล้าเมาทั้งวันทั้งคืน ตอนนั้นกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ว่าหลังจากนั้นก็ภาพตัดไปเลย"อยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ พี่ไทเกอร์บอกว่าพี่เพนเฮาส์จะได้ผ่าตัด แต่ดูจากสภาพในตอนนี้... อย่าบอกนะคะว่าพี่ทั้งสองคนโกหกหนูนิด"ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่ากำลังโดนหลอกอยู่ เพราะสภาพของคุณที่จะเข้าห้องผ่าตัดไม่น่าจะเป็นแบบนี้ เธอเตรียมจะลุกขึ้นออกไปแต่ทว่าชายหนุ่มก็ดึงรั้งตัวเข้าหาก่อนจะโอบก่อนเอาไว้แน่น"อย่าทิ้งพี่ไปเลยนะ พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีหนูนิด""แล้วทำไมพี่ถึงทิ้งหนูนิดได้ละคะ"หญิงสาวเอ่ยถามกลับไปซึ่งทำเอาชายหนุ่มอึ้งไปไม่น้อยเหมือนกัน ตัวเองยังทิ้งไปโดยไม่สนใจไยดี ทีแบ
ทั้งสองคนเห็นประตูถูกเปิดออกและมีคุณหมอเดินออกมาพร้อมกับพยาบาล ก็รีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งเข้าไปหาทันที"หมอคะ พี่ชายหนูเป็นยังไงบ้างคะ"เธอเอ่ยถามคุณหมอเสียงสั่น ไทเกอร์กุมมือคนรักเอาไว้ หันมามองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาให้กำลังใจกันและกัน"ตอนนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ คนไข้พักผ่อนน้อยร่างกายอ่อนแรงมาก จนหกล้มหัวหัวแตกตอนนี้หมอทำแผลให้เรียบร้อยแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง"เธอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอที่ช่วยเหลือพี่ชายของเธอ"ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ"คุณหมอยิ้มให้กับทั้งสองคนก่อนจะเดินออกไปทันที เขาเหลือบสายตามองคนรักก่อนจะส่งยิ้มไปให้"ไม่ร้องแล้วนะ""อื้ม ขอบคุณนะคะที่ช่วยพาพี่เพนเฮาส์มาส่งโรงพยาบาล"เขาอมยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจากกุมมือพาเธอเดินออกไปจากหน้าห้องฉุกเฉิน เดี๋ยวอีกสักพักพยาบาลน่าจะพาเพนเฮาส์ขึ้นไปยังห้อง VIP"ก็พี่เขยนี่นาต้องช่วยอยู่แล้ว"หญิงสาวหันหลังกลับไปมองยังประตูห้องฉุกเฉิน ก่อนจะทำหน้าเศร้าหมองเพราะรู้สึกสงสารพี่ชาย"หนูนิดก็ใจแข็งจริง ๆ เลย ไม่รู้จะช่วยพี่เพนเฮาส์ยังไงแล้ว"ไทเกอร์กินมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะหยิบโทรศัพท์
ในเวลานี้เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อก็เลยคิดว่าออกไปหาหญิงสาวในตอนนี้เลยจะดีกว่า อยู่กับแม่เดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันอีก เรื่องเก่าตั้งนานมาแล้วขุดมาพูดอยู่ได้ ทั้งแม่ทั้งเพื่อนเลย เฮ้อ"ถ้างั้นผมไปหาเพนนะครับ""เหมือนว่าหนูเพนตี้จะออกไปพื้นที่กับไกด์นะลูก"เขาที่กำลังจะเดินออกไปต้องหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองใบหน้าของคุณแม่ด้วยความสงสัย"ทำไมถึงให้เพนตี้ออกพื้นที่ครับ""ก็หนูเพนตี้ขอแม่ออกไปเองจะห้ามได้ยังไงล่ะ"คุณแม่พิงโซฟาก่อนจะหันมามองใบหน้าของลูกชายพร้อมกับยิ้มออกมา เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปตามตัวที่ไหนก็เลยคิดว่าการอยู่กับแม่น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด"งั้นผมรอตรงนี้ก็ได้""ตามสบายจ้ะ"สามชั่วโมงต่อมา...เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของคุณแม่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขยี้ตาของตัวเองก่อนจะลืมตาขึ้นมองว่าใครกำลังเข้ามา อากาศมันเย็นไปหน่อยก็เลยเผลอหลับไป และเมื่อเขาเห็นประตูถูกเปิดออกก็ยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของคนรักกำลังเดินเข้ามา"น้าลีเรียกหนูเหรอคะ""จ๊ะ มีคนมาหาน่ะ"เขาเห็นคนรักก็รีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งไปสวมกอดเธอทันทีด้วยความคิดถึง"ทำไมไม่รับโทรศัพท์เกอร์ ทักไลน์ไปก็ไม่ตอบ คอนโดก็