คุยกันได้ไม่นานยัยแว่นก็กดตัดสายเขาทันที อะไรวะเนี่ยคุยทีไรสองคนนี้ก็ทะเลาะกันตลอด แต่ก็ยังดีที่เธอยังรับปากว่าจะช่วย ไม่อย่างนั้นเขาคงมาถึงทางตัน เอาวะใจเย็นก่อนรอลุ้นว่าจะเป็นไงดี
ทางด้านของเพนตี้เคยถูกพี่ชายลากกลับมาคอนโดของเขาได้ประมาณเดือนกว่าแล้ว แต่พี่ชายตัวดีไม่ได้มาค้างด้วยหรอก ยังแอบสงสัยอยู่ว่าไปนอนที่ไหนกับใคร ทำตัวมีลับลมคมใน ทีกับเธอห้ามนั่นห้ามนี่สารพัด เหอะ!
"พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง"
เพนเฮาส์เดินออกมาจากห้องนอนจากนั้นก็จงเข้ามาหาน้องสาวที่นั่งอยู่ตรงโซฟา
"บ่าย ทำไม"
"จะไปส่ง"
"ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ปะพี่เพนเฮาส์ เพนโตแล้วนะบังคับกันอย่างกับเด็กไม่รู้จักโต"
เพนตี้ถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกเบื่อหน่าย อายุ 20 กว่าปีจะเรียนจบอยู่แล้ว จะมาอะไรกับเธอนักหนาก็ไม่รู้ ความจริงเรื่องการคบผู้ชายมันเป็นสิทธิ์ของเธอด้วยซ้ำ จะมาบังคับชีวิตขนาดนี้ทำไมกัน
"เพราะถ้าแกคบผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ไอ้ไทเกอร์ฉันก็ไม่ทำแบบนี้หรอก"
เธอหันไปมองใบหน้าของพี่ชายอย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้เขาก็ทำตัวดีขึ้นเยอะมาก ไม่เห็นมีอะไรจะเสียหายถ้าเราจะคบกัน
"พวกพี่มีเรื่องอะไรกันเพนไม่รู้หรอกนะ แต่ไม่ควรมาลงที่น้องเข้าใจหรือเปล่า"
"มันเป็นคนเจ้าชู้พี่ไม่อยากให้เราไปยุ่งกับมัน พี่เป็นห่วงแกนะเพน"
เธอส่ายได้ทันทีเพราะไม่ได้เชื่อในประโยคคำพูดของพี่
"ไม่ใช่ว่าพวกพี่มีปัญหากันแล้วคิดที่จะแก้แค้นกันไปมาหรือไง"
เพนเฮาส์เข้ามาใกล้น้องสาวก่อนจะจ้องมองสบตาด้วยสีหน้าจริงจัง
"มันไม่ใช่แบบนั้น ไอ้ไทเกอร์มันเป็นผู้ชายเจ้าชู้ก็น่าจะรู้ว่ามันไม่หยุดที่ใครหรอก"
"คนเรามันผิดพลาดกันได้ พี่ไม่คิดจะให้โอกาสเขาหน่อยหรือไง"
"ก็ให้อยู่นี่ไง ตอนนี้มันกำลังพิสูจน์ตัวเองอยู่ ถ้ามันรักแกจริงมันจะต้องพยายามทุกอย่างเพื่อจะได้อยู่กับแก แต่ตอนนี้พี่ไม่ให้มันใกล้ชิดกับแกแน่นอน แล้วแกก็อย่าพยายามติดต่อมันล่ะถ้าฉันอยากให้คุยจะให้คุยเองเข้าใจไหมน้องรัก"
เพนตี้ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างรำคาญ จะมีแฟนสักคนยังมีอุปสรรคขัดขวางมากมายขนาดนี้ แล้วเธอจะต้องถูกควบคุมชีวิตในสภาพแบบนี้อีกนานแค่ไหน
ตู๊ดดดดดด
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเธอจึงเหลือบสายตาหันไปมองใบหน้าของพี่ชายซึ่งเขาก็จ้องมองเธออยู่เช่นกัน
"พี่ไปรับสิ"
พูดจบเธอก็หันไปดูทีวีตรงหน้าต่อ เพนเฮาส์ลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ก่อนจะกดรับสักพักก็เดินเข้ามายื่นให้กับน้องสาวเพราะคนที่โทรเข้ามาคือเพื่อนสนิท หม้อแกง
"ว่ายังไงหม้อแกง"
เธอพูดคุยกับปลายสายหลังจากที่พี่ชายเอาโทรศัพท์มายื่นให้ เพราะตอนนี้เธอกำลังถูกยึดโทรศัพท์อยู่ กับไทเกอร์ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก แค่ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบเท่านั้นเพราะพี่ชายไม่ให้คุยมากกว่านี้
(ฉันจะชวนแกไปเที่ยวทะเลไปด้วยกันนะ)
"ไปกันสองคนเหรอ"
(อืม พี่ชายแกให้ไปหรือเปล่า)
"พี่เพนเฮาส์ เพนอยากไปเที่ยวทะเลกับหม้อแกง"
เธอหันไปมองสบตากับพี่ชายซึ่งตอนนี้กำลังมองเธออยู่เช่นกัน
"ก็ไปสิเดี๋ยวพี่ไปด้วย"
เพนได้ยินแบบนั้นก็เบ้ปากใส่พี่ชายตัวเองก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนรักต่อ ดูเหมือนว่าหม้อแกงจะได้ยินเช่นเดียวกันจึงเงียบไปไม่ได้พูดอะไรอีก
"อือ ไป ๆ เมื่อไหร่ล่ะ แต่ว่าพี่ชายฉันไปด้วยนะ"
(โอเคงั้นเจอกันอาทิตย์หน้าที่จะถึงนะ)
"จ๊ะ เจอกันนะหม้อแกง"
ทางด้านของไทเกอร์เขานั่งรอโทรศัพท์จากหม้อแกงอยู่หลายชั่วโมง หรือว่ายัยแว่นมันกำลังเอาคืนผมอยู่เนี่ย รอนานอยู่นะไม่เห็นจะโทรกลับมาสักที
ตู้ดดดดด
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนรักก็รีบกดรับสายทันทีด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
"ว่ายังไงเพนตี้ไปไหม"
(ไปสิ)
"พูดจริงดิขอบคุณนะหม้อแกงขอบคุณจริง ๆ"
น้ำเสียงของเขาดูดีใจจนเกินเหตุ ก็คนมันดีใจนี่ในที่สุดก็จะได้เจอกับคนรักแล้ว แต่ทว่าประโยคถัดมาทำให้เขารู้สึกเอะใจแปลก ๆ
(อือ จองให้อีกห้องนะ)
"จองห้องให้ใครอีก"
(ก็ห้องของพี่เพนเฮาส์ไง)
หลังจากวางสายไทเกอร์ถึงกับนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้นนานพอสมควรเมื่อได้ยินคำตอบของหม้อแกง พี่ชายตัวแสบมันไปด้วยอย่างนั้นเหรอ วัน ๆ ไม่คิดจะทำงานทำการอะไรตามเฝ้าน้องต้อย ๆ อย่างเดียวเลยหรือไง เฮ้อ เอายังไงดีเนี่ยไปไม่เป็นเลย หรือว่าจะปรึกษาคนฉลาดอยากให้แบรี่ดีกว่า ว่าแล้วก็กดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนทันที
ตู้ดดดดด
(ว่าไงไทเกอร์)
"แบรี่มึงช่วยกูหน่อยสิ ทำยังไงก็ได้ให้ไอ้เพนเฮาส์มันไม่ตามเพนตี้ไปที่เกาะของมึง มึงช่วยกูหน่อยนะเพื่อนเลิฟ นะ ๆ"
เขาพยายามอ้อนวอนเพื่อนรักถึงแม้จะรู้ว่ามันช่างริบหรี่ซะเหลือเกิน
(กูจะช่วยมึงยังไงดีเนี่ย เอางี้แล้วกันเดี๋ยวกูจะให้ลูกน้องสืบว่าไอ้เพนเฮาส์มีแฟนอยู่หรือเปล่า บางทีอาจจะทำอะไรได้บ้าง)
"แล้วแฟนมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องของกูวะ"
(ควายอีกละมึงเนี่ย ถ้ารู้ว่าแฟนมันเป็นใครมึงก็ขอให้แฟนมันช่วยดิวะ)
"เออจริงด้วย แฮะ! ขอบใจมากครับเพื่อนรัก"
(เออ แค่นี้แหละ)
เขากดวางสายก่อนจะยิ้มออกมาทันที นอนพิงโซฟาคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย สักพักก็มีคนโทรศัพท์เข้ามาซึ่งเป็นคุณแม่ของเขานั่นเอง
"ไทเกอร์ไปเอาเครื่องเพชรให้แม่หน่อยจ้ะ ห้าง A)
"แม่ผมเครียดอยู่นะยังจะหางานให้อีก"
(เครียดอะไรลูกแค่ผู้หญิงทิ้งเอง)
"โห! แค่เหรอ... ว่าแต่ใครเล่าให้แม่ฟังเนี่ย ผมยังไม่เคยบอกเลยนะ"
(ปอร์เช่โทรมาเล่าให้แม่ฟังเมื่อวาน)
โคตรปากหมาเลยไอ้เพื่อนบ้า กล้าดียังไงโทรไปบอกแม่ของเขา ชิ
"รู้แล้วแม่ยังจะตอกย้ำผมอีกหรือไง แต่แม่ต้องเข้าใจใหม่นะคือผมไม่ได้ถูกผู้หญิงทิ้ง แต่ว่าพี่ชายของแฟนผมมันขัดขวางครับ"
เขาพยายามอธิบายเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง และเมื่อแม่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาด้วยความสะใจ
(ถ้าเกิดว่าแม่เป็นพี่ชายของเด็กคนนั้น แม่ก็จะขัดขวางเหมือนกัน)
"แม่อ่ะตอนนี้เกอร์เป็นคนดีแล้วป่ะ ไม่รู้แหละแม่ต้องช่วยเกอร์นะ นะครับ ๆ"
(แล้วแม่จะไปช่วยยังไงล่ะลูก เอางี้ไปเอาเครื่องเพชรมาให้แม่ก่อน แล้วก็ไปกินข้าวเป็นเพื่อนแม่ด้วยตอนเย็น แล้วค่อยมาคุยกันเรื่องแม่หนูคนนั้นดีไหม)
"ตกลงครับแม่เย็นนี้เจอกันครับ"
และในที่สุดงานมงคลก็มาถึง เป็นงานแต่งงานระหว่างไทเกอร์และเพนตี้ ส่วนคู่ของหนูนิดและเพนเฮาส์จะแต่งงานทันทีหลังจากที่ฝ่ายหญิงเรียนจบ ครอบครัวสุขสันต์ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอีกในตอนนี้เจ้าบ่าวกำลังนั่งรอเจ้าสาวอยู่ในห้องที่ทางออแกไนซ์จัดไว้ให้ และฤกษ์มงคลเวลา 9:09 น. จะมีพิธีสวมแหวนแต่งงานระหว่างทั้งคู่ ซึ่งตอนนี้เจ้าสาวก็เดินเข้ามากับเพื่อนอีกคนซึ่งก็คือหม้อแกง"สวยมาก!""เจ้าสาวสวยมาก!"ทุกคนร้องว้าวออกมาด้วยความตื่นเต้น เจ้าสาวดูมีน้ำมีนวลสวยงามที่สุด ภายในงานนี้ไม่มีใครที่โดดเด่นไปกว่าเธออีกแล้ว ช่างกล้องรัวชัตเตอร์กันอย่างเพลิดเพลิน หม้อแกงพาเพื่อนสนิทไปนั่งตรงที่ทางออแกไนซ์จัดเตรียมไว้ ก่อนจะเดินออกมาหาชายคนรักที่ยืนอยู่ไม่ห่าง"เพนสวยจังเลยค่ะ"และเมื่อหญิงสาวมานั่งลงตรงหน้า ชายหนุ่มก็เอ่ยชมไม่หยุด ตัวเธอเองก็รู้สึกเขินไม่น้อย ตลอดทางที่เดินเข้ามามีแต่เสียงซุบซิบพูดคุยกันว่าเธอดูสวยเหมือนเจ้าหญิง"ไทเกอร์ก็หล่อเหมือนกันนะ""แน่นอนอยู่แล้ว นี่ใครไทเกอร์เลยนะ"ทั้งสองคนจ้องมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข บรรยากาศตลบอบอวนไปด้วยความอบอุ่น เจ้าบ่าวสวมแหวนเพชร 15 กะรัตให้คนรักบนน
เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที พยาบาลก็ถือชาร์จอะลูมิเนียมเดินเข้ามาหาคุณหมอพร้อมจะยื่นมาให้เขาตรงหน้า"ผลการตรวจออกมาเรียบร้อยแล้วค่ะ""เป็นยังไงบ้างครับหมอ"ไทเกอร์ลุ้นเป็นอย่างมาก เขากำมือคนรักของตัวเองไว้แน่น รอดูว่าผลการตรวจจะเป็นไปอย่างที่คาดหวังหรือเปล่า เอาจริงตื่นเต้นมากเลยนะ เขาอยากมีลูกกับเพนตี้ใจจะขาด ครอบครัวอบอุ่นสมบูรณ์ดีที่สุดในชีวิตเลย"ผลการตรวจออกมาแล้วนะครับ คุณเพนตี้กำลังตั้งครรภ์ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ"และเมื่อผลการตรวจออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ไทเกอร์และคุณแม่ก็ลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นก่อนจะสวมกอดกันด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก ส่วนคนที่ท้องก็จ้องมองไปยังทั้งสองคนก่อนจะส่ายหน้ายิ้ม ๆ"เย้! เมียผมท้องแล้วครับแม่ เพนตี้ท้องแล้วโว้ยยยย"หญิงสาวหัวเราะขำ ๆ กับท่าทีของชายคนรัก เล่นใหญ่ทั้งแม่และลูกเลย สงสัยจะอยากมีหลานมากจริง ๆ"ถ้าอย่างนั้นเรารีบเดินทางไปที่เชียงรายเถอะ ไปสู่ขอหนูเพนตี้กัน ถ้าเกิดว่าทางนั้นรู้ว่ากำลังท้องต้องตื่นเต้นมากแน่เลย""รีบไปกันเถอะครับแม่ ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะครับเอาไว้เดี๋ยวผมจะพาภรรยามาฝากครรภ์ที่นี่""ยินดีมากเลยครับ เดี๋ยวหมอให้ยาบำรุงไปก่อน ถ้าพร้อม
ในตอนนี้เพนเฮาส์ได้กลับมาจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดินทางไปเจอกับครอบครัวของหนูนิด และแอบบอกว่าเป็นเพื่อนรักของไทเกอร์ จึงทำให้ครอบครัวของหนูนิดไว้ใจ เพราะเป็นเพื่อนรักของหลานชาย แถมเขายังโทรมายืนยันว่าเพนเฮาส์เป็นคนดี เรื่องราวจึงจบลงอย่างง่ายดายส่วนไทเกอร์เขาเปลี่ยนวันหยุดมาให้ตรงกับวันหยุดของเพนตี้ และวันนี้เขาพาคนรักมากินบุฟเฟ่ต์ทะเลพรีเมี่ยมตามที่สัญญาเอาไว้ ว่าแต่บุฟเฟ่ต์บ้าอะไรก็ไม่รู้ราคาหัวละตั้ง 4,990 บาท กินแล้วมันลอยได้หรือยังไง"เมียจ๋ากินเยอะ ๆ เลยนะ"เขานั่งแกะกุ้งล็อบสเตอร์ให้กับเพนตี้ เอาอกเอาใจสารพัด และตอนนี้เธอกินไปแล้วสองตัว ขนาดตัวโคตรใหญ่ยังงงเลยว่ากินไปได้ยังไง"ทำไมเกอร์ไม่กินล่ะ""เห็นที่รักกินก็อิ่มแล้วช่วงนี้ดูอุดมสมบูรณ์นะเรา มีน้ำมีนวลขึ้นเยอะเลย"หญิงสาววางกุ้งล็อบสเตอร์ลงก่อนจะจ้องมองไปยังชายหนุ่มด้วยใบหน้าหงุดหงิด"เกอร์กำลังบอกว่าเพนอ้วนเหรอ"หญิงสาวเท้าสะเอวจ้องหน้าคนรักอย่างเอาเรื่อง กล้าดียังไงมาบอกว่าเธอดูอุดมสมบูรณ์ ทั้งที่ความหมายคือการบอกว่าเธออ้วน ไทเกอร์ได้ยินแบบนั้นก็รีบปฏิเสธพัลวัน"ไม่ใช่ หมายถึงว่าเมียจ๋าสวยขึ้นไงจ๊ะ อึ๋มขึ้นด้วย
ทางด้านของเพนเฮาส์เขาเพิ่งจะได้สติ ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า เมื่อเห็นใบหน้าของคนรักอยู่ตรงหน้าก็ตกใจรีบขยับตัวลุกขึ้นจนตัวเองเจ็บตัวรีบกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัว หนูนิดเห็นแบบนั้นก็ตกใจ รีบขยับตัวลุกขึ้นประคองชายหนุ่มเอาไว้ก่อนจะเอ็ดเขาเสียงไม่ดังมากนัก"อย่าเพิ่งลุกสิคะเดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก""หนูนิดให้อภัยพี่แล้วใช่ไหม แล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน"เขากุมขมับตัวเองเอาไว้ หันไปมองโดยรอบด้วยความมึนงง ก่อนหน้านี้จำได้ว่าตัวเองอยู่ที่คอนโด ดื่มเหล้าเมาทั้งวันทั้งคืน ตอนนั้นกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ว่าหลังจากนั้นก็ภาพตัดไปเลย"อยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ พี่ไทเกอร์บอกว่าพี่เพนเฮาส์จะได้ผ่าตัด แต่ดูจากสภาพในตอนนี้... อย่าบอกนะคะว่าพี่ทั้งสองคนโกหกหนูนิด"ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่ากำลังโดนหลอกอยู่ เพราะสภาพของคุณที่จะเข้าห้องผ่าตัดไม่น่าจะเป็นแบบนี้ เธอเตรียมจะลุกขึ้นออกไปแต่ทว่าชายหนุ่มก็ดึงรั้งตัวเข้าหาก่อนจะโอบก่อนเอาไว้แน่น"อย่าทิ้งพี่ไปเลยนะ พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีหนูนิด""แล้วทำไมพี่ถึงทิ้งหนูนิดได้ละคะ"หญิงสาวเอ่ยถามกลับไปซึ่งทำเอาชายหนุ่มอึ้งไปไม่น้อยเหมือนกัน ตัวเองยังทิ้งไปโดยไม่สนใจไยดี ทีแบ
ทั้งสองคนเห็นประตูถูกเปิดออกและมีคุณหมอเดินออกมาพร้อมกับพยาบาล ก็รีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งเข้าไปหาทันที"หมอคะ พี่ชายหนูเป็นยังไงบ้างคะ"เธอเอ่ยถามคุณหมอเสียงสั่น ไทเกอร์กุมมือคนรักเอาไว้ หันมามองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาให้กำลังใจกันและกัน"ตอนนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ คนไข้พักผ่อนน้อยร่างกายอ่อนแรงมาก จนหกล้มหัวหัวแตกตอนนี้หมอทำแผลให้เรียบร้อยแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง"เธอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอที่ช่วยเหลือพี่ชายของเธอ"ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ"คุณหมอยิ้มให้กับทั้งสองคนก่อนจะเดินออกไปทันที เขาเหลือบสายตามองคนรักก่อนจะส่งยิ้มไปให้"ไม่ร้องแล้วนะ""อื้ม ขอบคุณนะคะที่ช่วยพาพี่เพนเฮาส์มาส่งโรงพยาบาล"เขาอมยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจากกุมมือพาเธอเดินออกไปจากหน้าห้องฉุกเฉิน เดี๋ยวอีกสักพักพยาบาลน่าจะพาเพนเฮาส์ขึ้นไปยังห้อง VIP"ก็พี่เขยนี่นาต้องช่วยอยู่แล้ว"หญิงสาวหันหลังกลับไปมองยังประตูห้องฉุกเฉิน ก่อนจะทำหน้าเศร้าหมองเพราะรู้สึกสงสารพี่ชาย"หนูนิดก็ใจแข็งจริง ๆ เลย ไม่รู้จะช่วยพี่เพนเฮาส์ยังไงแล้ว"ไทเกอร์กินมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะหยิบโทรศัพท์
ในเวลานี้เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อก็เลยคิดว่าออกไปหาหญิงสาวในตอนนี้เลยจะดีกว่า อยู่กับแม่เดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันอีก เรื่องเก่าตั้งนานมาแล้วขุดมาพูดอยู่ได้ ทั้งแม่ทั้งเพื่อนเลย เฮ้อ"ถ้างั้นผมไปหาเพนนะครับ""เหมือนว่าหนูเพนตี้จะออกไปพื้นที่กับไกด์นะลูก"เขาที่กำลังจะเดินออกไปต้องหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองใบหน้าของคุณแม่ด้วยความสงสัย"ทำไมถึงให้เพนตี้ออกพื้นที่ครับ""ก็หนูเพนตี้ขอแม่ออกไปเองจะห้ามได้ยังไงล่ะ"คุณแม่พิงโซฟาก่อนจะหันมามองใบหน้าของลูกชายพร้อมกับยิ้มออกมา เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปตามตัวที่ไหนก็เลยคิดว่าการอยู่กับแม่น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด"งั้นผมรอตรงนี้ก็ได้""ตามสบายจ้ะ"สามชั่วโมงต่อมา...เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของคุณแม่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขยี้ตาของตัวเองก่อนจะลืมตาขึ้นมองว่าใครกำลังเข้ามา อากาศมันเย็นไปหน่อยก็เลยเผลอหลับไป และเมื่อเขาเห็นประตูถูกเปิดออกก็ยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของคนรักกำลังเดินเข้ามา"น้าลีเรียกหนูเหรอคะ""จ๊ะ มีคนมาหาน่ะ"เขาเห็นคนรักก็รีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งไปสวมกอดเธอทันทีด้วยความคิดถึง"ทำไมไม่รับโทรศัพท์เกอร์ ทักไลน์ไปก็ไม่ตอบ คอนโดก็