Share

บทที่ 6

last update Last Updated: 2025-09-12 13:28:02

บทที่ 6

ครั้นเมื่อยิ่งซุกไซร้ ความต้องการส่วนลึกก็เหมือนจะยิ่งลุกฮือ มือที่ลูบไล้สัมผัสแค่ภายนอก ก็ค่อยๆ สอดเข้าไปสัมผัสภายใต้เสื้อแนบเนื้อตัวเล็ก ผิวเนียนนุ่มของแผ่นหลังที่สัมผัสได้ทำให้นึกอยากรู้ว่าด้านหน้าจะเนียนนุ่มกว่ากันสักแค่ไหน ไม่รอช้ามือที่กำลังลูบไล้อยู่ด้านหลังก็ค่อยๆ เลื่อนมาสัมผัสความเนียนนุ่มที่ด้านหน้า อา…! ไม่ใช่แค่เนียนนุ่ม แต่ยังอวบอัดครัดเคร่งและดึงดูดให้เขาลองบีบขยำดู ให้ตายสิ! ความนุ่มหยุ่นของก้อนเนื้อกลมกลึงทำให้เขานึกอยากเปลี่ยนธารน้ำตกแห่งนี้ให้เป็นเตียงนุ่มๆ ซะเหลือเกิน แต่เหมือนความปรารถนาของเขาจะไม่เป็นผล เพราะทันทีที่ทรวงสล้างถูกสัมผัส สติสัมปชัญญะที่เคยหลุดลอยก็คืนกลับมา

           “อื้อ…!” เธอผลักอกเขาออกแรงๆ ด้วยความตกใจ ทำคนที่เผลอไผลไปกับความมัวเมาในกลิ่นกายสาวถึงกับหงายหลังล้มตึงโดยไม่ทันตั้งตัว เธอจึงฉวยโอกาสนี้รีบวิ่งหนีไป ในขณะที่เขายังนั่งแหมะแช่น้ำด้วยความสับสนกับความรู้สึกเบื้องลึกที่มันจู่โจมเข้ามา กลิ่นหอมจางๆ ที่ยังตราตรึงอยู่ในความรู้สึก กลิ่นนั้นมันคืออะไร ทำไมเขาถึงได้รู้สึกโหยหามันมากขนาดนี้ แล้วเขาต้องทำยังไงถึงจะได้สัมผัสมันอีกครั้ง กระทั่งหันไปเห็นบางอย่าง แน่นอนว่ามันทำให้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกจุดขึ้นที่มุมปากอย่างช่วยไม่ได้

           “หึๆ” เขาหยักยิ้มพลางเดินมายังเสื้อที่เธอแขวนลืมเอาไว้

           “คุณหนีผมไม่พ้นหรอกพริมรตา” เขาหยิบเสื้อนั่นขึ้นมา พลางจับจ้องไปที่เสื้อราวกับจะมองให้ลึกถึงเจ้าของเสื้อ พลันสายตาคมกริบก็เหลือบไปเห็นบางอย่างที่ถูกติดเอาไว้ แค่แวบเดียวเขาก็รู้ทันทีว่ามันคืออะไร แต่ที่ไม่รู้เห็นจะเป็นเหตุผลของเธอ

           “คิดจะทำอะไรกันแน่พริมรตา” เขาพึมพำด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ขณะดึงกล้องที่เธอแอบติดไว้ขึ้นมาดู ก่อนจะรีบเก็บข้าวของของเธอลงกระเป๋าที่วางอยู่ข้างๆ และไม่ลืมที่จะหย่อนกล้องตัวจิ๋วลงในกระเป๋ากางเกงตัวเอง หวังจะใช้มันเพื่อเค้นเอาความจริงจากเธอ

           “ไหนว่าเป็นเกย์ แล้วมันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง เราโดนเกย์จูบ? เฮ้ย! แต่จูบเมื่อกี้มัน…ฮือ…! ทำไมฉันถึงหยุดคิดเรื่องนี้ไม่ได้” เธอยืนพึมพำอยู่ข้างรถ พลางยกมือปิดหน้าด้วยความทดท้อ เมื่อในหัวเธอดันมีแต่ภาพที่ตัวเองจูบกับเขา ใช่! เธอ…จูบ…กับ…เขา

           “เกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย เผลอเหรอ เออ! เผลอแหละ แล้วก็น่าจะเคลิ้มด้วย เฮ้ย! คิดอะไรอยู่วะเนี่ย นั่นมันจูบแรกนะ ฮึ่ย! น่าโมโหชะมัด ทำไมต้องเป็นผู้ชายคนนั้นด้วย” เธอยังยืนถกเถียงกับตัวเองอยู่ข้างรถ ด้วยไม่สามารถไปไหนได้ ก็อยู่ในชุดวาบหวิวมิหนำซ้ำยังเปียกมะลอกมะแลกซะขนาดนี้จะให้ไปไหนได้ เฮ้อ! อุตส่าห์วิ่งหนีมา สุดท้ายก็ต้องมารอเขาอยู่ดี มีใครน่าอดสูกว่านี้อีกไหม

           “ทำไมตอนวิ่งออกมาไม่หยิบเสื้อผ้ามาด้วยเนี่ย ฮือ! หนาวก็หนาว ยังต้องแบกหน้ามารออีตานั่นอีก สรุปแล้วยังไงๆ ก็ต้องพึ่งอีตานั่นใช่ไหมเนี่ย เฮ้ย! แล้วฉันต้องทำหน้ายังไง” เธอกอดอกห่อไหล่ด้วยความหนาว เมื่ออากาศเริ่มหนาวขึ้นทุกที ก่อนจะทำหน้าเหลอหลา หลังนึกขึ้นได้ว่าการเจอเขาตอนนี้ อาจทำให้เธอวางหน้าไม่ถูก แล้วเธอก็วางหน้าไม่ถูกจริงๆ

           “ไม่ต้องทำอะไร แค่บอกมาว่าคิดจะทำอะไรกันแน่” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้มขณะใช้เสื้อแจ็กเก็ตตัวเองคลุมไหล่ให้

           “คุณ!” เธอผงะถอยด้วยความตกใจ พลางหันขวับมาจ้องหน้าอีกฝ่ายตาขวาง

           “ไหนบอกทำหน้าไม่ถูก แต่ไอ้ที่กำลังทำอยู่ คุณกำลังทำหมือนอยากจะฆ่าผมนะ” เขายักไหล่อย่างยียวน ต่างกับสีหน้าขึงขังที่กำลังจับจ้องมาที่เธออย่างหมายมาด

           “ฉันฆ่าคุณแน่ ถ้าคุณกล้าทำแบบนั้นกับฉันอีก” เธอขู่ฟ่อประหนึ่งแม่เสือ แต่เขากลับไม่มีทีท่าว่าจะกลัวสักนิด มิหนำซ้ำยังสาวเท้าเข้าไปใกล้ด้วยท่าทีคุกคามอีก

           “จะๆ จะทำอะไร” เธอผงะถอยหน้าตาตื่น

           “บอกมาว่าคิดจะทำอะไร” เขาไม่ตอบมิหนำซ้ำยังถามกลับ

           “ทะๆ ทำอะไรเล่า ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร แล้วฉันก็…อุ๊ย!” เสียงหวานตะกุกตะกักก่อนจะกลายเป็นเสียงอุทาน ทันทีที่แผ่นหลังชนเข้ากับรถที่จอดอยู่ พริมรตาหันรีหันขวางอย่างพยายามหาทางหนีทีไล่ แต่ดูเหมือนจะช้าไป เมื่ออีกฝ่ายท้าวแขนทั้งสองข้างลงมากักตัวเธอเอาไว้จนหนีไปไหนไม่ได้

           “แล้วไอ้นี่พอจะทำให้คุณรู้รึยังว่าเรื่องอะไร” เขาละแขนข้างหนึ่งมาหยิบกล้องตัวเล็กจากกระเป๋าเสื้อขึ้นมาให้ดู ทำเธอผงะตาโตด้วยความตกใจอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้

           “คือฉัน…” เธออึกอัก ครั้นเมื่อหาเหตุผลดีๆ มาอธิบายไม่ได้ เธอจึงคิดจะหนีอีก แต่ก็ใช่ว่าจะง่ายอย่างที่คิด เมื่ออีกฝ่ายท้าวแขนลงมากักตัวเธออีกครั้ง มิหนำซ้ำยังโน้มใบหน้าลงใกล้ ทำคนถูกคุกคามขยับถอยเบียดชิดรถจนแทบจนแทบจะจมหายเข้าไปด้านใน

           “หรือคุณคิดจะ…จับผม” คนถูกกล่าวหาตาโต ก่อนจะโพล่งออกมาเสียงดัง

           “ฉันเนี่ยนะจับคุณ?”

           “หรือว่าไม่ใช่ล่ะ”

           “ก็ไม่ใช่น่ะสิ นี่จะบอกให้นะ ต่อให้ทั้งโลกเหลือคุณแค่คนเดียว ฉันก็ไม่เอาผู้ชายหลงตัวเองอย่างคุณหรอก” เธอแทบตะโกนใส่หน้าด้วยความโกรธกรุ่น

           “แต่จากเหตุการณ์ที่น้ำตกบอกว่าคุณไม่ได้คิดแบบนั้น คุณจงใจยั่วผม แล้วก็ถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์ผม เพราะคุณคิดจะใช้มันเพื่อบีบผม แต่เสียใจเพราะผมไม่ใช่หมูในอวยที่จะยอมให้คุณจับง่ายๆ” เขาหยักยิ้มมุมปากประหนึ่งว่ารู้ทันความคิดเธอ

           “ฉันก็แค่…เออ! จับก็จับ พอใจรึยัง” ในเมื่อพูดความจริงก็ไม่ได้ ปฏิเสธก็ไม่เชื่อ เธอก็เลยประชดด้วยการยอมรับมันซะเลย แล้วเขาก็ดันบ้าจี้เชื่อซะด้วย

           “ในที่สุดก็ยอมรับ คุณมันก็ร้ายกาจไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นหรอกพริมรตา” เขาชี้หน้าต่อว่าเธอด้วยใบหน้าถมึงทึงพลางขยับถอยห่างราวกับว่าเธอคือตัวอันตราย ใช่! เขากำลังโกรธ ผิดหวัง แล้วก็หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่คิดเอาไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ แต่พอได้ยินจากปากเธอ เขากลับรู้สึกโมโหยิ่งกว่าเดิม

           “ใช่! ฉันร้ายกาจ เพราะฉะนั้นอยู่ให้ห่างจากฉันเป็นดีที่สุด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” เธอขู่ฟ่ออย่างเหลืออด

           “เตือนตัวเองเถอะ ถ้าไม่จำเป็น อย่าเข้ามาใกล้ผม เอานี่ของคุณไป” เห็นสายตาที่เขามองมาประหนึ่งว่ารังเกียจกันนักหนา เธอถึงกับกัดฟันกรอด ก่อนเบ้หน้าเมื่อต้องรับสัมภาระที่จู่ๆ พ่อคุณก็โยนมาให้อย่างไม่ใยดี

           “เอาของคุณคืนไป” เธอโยนเสื้อแจ็กเก็ตกลับไปบ้าง ไม่สิ! นี่ไม่เรียกว่าโยน น่าจะเรียกว่าเขวี้ยงใส่มากกว่า ทำเอาเจ้าของเสื้อถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความโมโหไม่ต่างกัน แล้วก็ยิ่งหงุดหงิดขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเห็นแม่คุณเดินดุ่มๆ ไปอีกทาง หลังจากที่สวมเสื้อผ้าทับชุดวาบหวิวเสร็จแล้ว

           “จะไปไหน” เขาตะโกนถามเสียงห้วน ในขณะที่เธอก็หันมาตอบด้วยน้ำเสียงไม่ต่างกัน

           

1365

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 81

    บทที่ 81 “แล้วคุณรู้ได้ยังไงคะว่าฉันจะไป” เธอปาดน้ำตาพลางถามด้วยความสงสัย เขาจึงเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นที่เขาถูกปลายฟ้าสวมกอดจากทางด้านหลัง ทำให้เขาแกะมือนั้นออก จากนั้นก็หันมาเผชิญหน้ากับปลายฟ้าเพื่อยืนยันให้อีกฝ่ายฟังชัดๆ อีกครั้ง ว่าเขาลืมเรื่องในอดีตไปหมดแล้ว ตอนนี้ในหัวใจเขาก็มีแต่ผู้หญิงที่ชื่อพริมรตาคนเดียวเท่านั้นที่เขารักหมดหัวใจ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด เขาก็ทันได้สังเกตเห็นหลังเธอไวๆ จึงพอจะเดาเหตุการณ์ได้คร่าวๆ “คุณก็เลยมาดักรอฉัน เพราะรู้ว่าฉันจะหนี?” ทันทีที่เขาพยักหน้า เธอก็โผกอดเขาอีกครั้ง พร้อมกับร้องไห้โฮ “ทำไมถึงได้ใจร้ายกับผมนักนะยัยเด็กโง่ สงสัยผมคงต้องหาโซ่มาล่ามคุณไว้ให้เราตัวติดกันตลอดเวลาแล้วมั้ง คุณจะได้หนีผมไปไหนไม่ได้อีก” เขากอดพลางใช้มือลูบหลังอย่างปลอบประโลม “ไม่หนีแล้วค่ะ คราวนี้ถึงคุณไล่ฉันก็ไม่ไป แค่คิดว่าจะไม่ได้เห็นหน้าคุณอีก ใจฉันก็แทบขาด ฉันจะไม่ยอมจากคุณไปไหนอีกเด็ดขาด ฉันรักคุณค่ะ” เธอเงยหน้าก่อนเขย่งเท้าขึ้นไปจุ๊บที่ปากเขาเบาๆ อย่างเอาใจ “ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหม ว่าถ้ามีอะไรให้พูดกันตรงๆ ถามผมตรงๆ ไ

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 80

    บทที่ 80 “เฮาทนเก็บงูพิษตี้พร้อมจะแว้งกัดเฮาได้ทุกเมื่ออย่างตั๋วบะได้เหมือนกั๋น เฮาบะพร้อมจะเสี่ยง เพราะเฮาบะพร้อมจะเสียคนตี้ฮักตี้สุดไปเพราะตั๋ว ไปซะบัวตอง อยู่ที่โน่นอาจจะบะสุขสบายเต้าตี้นี่ แต่คนตี้นั่นก่อมีน้ำใจ๋ แค่ตั๋วต้องพยายามยะตัวดีๆ ตี้เฮาต้องส่งตั๋วไป เพราะเฮายังหันว่าตั๋วเป๋นน้อง ละไค่หื้อตั๋วประบปรุงตัวซะใหม่ ถ้าบะไค่ลำบากไปเหลือนี่ กลับตัวกลับใจ๋เป็นคนใหม่ เลิกกึ๊ดเลิกขอย ละตั๋วจะพบว่าความสุขอยู่ใกล้ตั๋วแค่เอื้อม (ฉันทนเก็บงูพิษที่พร้อมจะแว้งกัดฉันได้ทุกเมื่ออย่างเธอไม่ได้เหมือนกัน ฉันไม่พร้อมจะเสี่ยง เพราะฉันไม่พร้อมจะเสียคนที่ฉันรักที่สุดไปเพราะเธอ ไปซะบัวตอง อยู่ที่โน่นอาจจะไม่สุขสบายเท่าที่นี่ แต่คนที่นั่นก็มีน้ำใจ แค่เธอต้องพยายามทำตัวดีๆ ที่ฉันต้องส่งเธอไป เพราะฉันยังเห็นว่าเธอเป็นน้อง และอยากให้เธอปรับปรุงตัวซะใหม่ ถ้าไม่อยากลำบากไปมากกว่านี้ กลับตัวกลับใจเป็นคนใหม่ เลิกคิดเลิกอิจฉา แล้วเธอจะพบว่าความสุขอยู่ใกล้เธอแค่เอื้อม” การตัดสินใจเด็ดขาดของเขาทำบัวตองถึงกับหมดแรงทรุดลงกับพื้น ไม่เหลือเค้าคุณหนูผู้เย่อหยิ่งอีกต่อไป “พฤกษ์ฝากจัดการต่อด้วย

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 79

    บทที่ 79 “ยั้งบ้าได้ละบัวตอง ตั๋วก่อฮู้ว่าเฮาบ่ะเกยกึ๊ดจะอั้นกับตั๋ว แต่อู้เรื่องนี้ขึ้นมาก่อดีละ จะได้สะสางเรื่องวันนั้นตี้ตั๋วยะหื้อเมียเฮาเข้าใจ๋ผิดละหนีไป (เลิกบ้าได้แล้วบัวตอง เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยคิดแบบนั้นกับเธอ แต่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดีเหมือนกัน จะได้สะสางเรื่องวันนั้นที่เธอปั้นเรื่องจนเมียฉันเข้าใจผิด แล้วก็หนีไป)” อา…ไม่ใช่แค่บัวตองที่กำลังตื่นตระหนก แม้แต่พริมรตาเองก็กำลังทำหน้าแหย เมื่อเรื่องวันนั้นถูกขุดคุ้ยขึ้นมาให้เธอได้อายอีก “อ้ายอู้เรื่องอะหยัง น้องบะฮู้เรื่อง ก่อบอกละว่าเขาหมู่นี้รวมหัวใส่ความน้อง น้องบะได้ยะ แต่ถ้าอ้ายบะเจื้อ น้องก่อบะมีหยังจะอู้แหม (พี่พูดเรื่องอะไร น้องไม่รู้เรื่อง ก็บอกแล้วว่าคนพวกนี้รวมหัวกันใส่ร้ายน้อง น้องไม่ได้ทำ แต่ในเมื่อพี่ไม่เชื่อ น้องก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก)” บัวตองทำท่าจะผละหนีเพื่อเอาตัวรอด แต่กลับถูกใครอีกคนเดินเข้ามาขวางไว้ซะก่อน “จะรีบไปไหนล่ะ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ จำไม่ได้เหรอว่าเธอกับฉันเรายังมีเรื่องต้องคุยกัน” เป็นปลายฟ้าที่เข้ามาขวาง ที่มาวันนี้ก็เพื่อจะลบล้างตราบาปที่อีกฝ่ายเคยฝากเอาไว้

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 78

    บทที่ 78 “เอ๊ะ! ยะหยังสองคนนั้นบะตวยมาตะฮอดบะเดี่ยว เมินละนานิ หันว่าอยากกิ๋นแต่บะหันฟั่งมา งืดแต๊ (เอ๊ะ! ทำไมสองคนนั้นยังไม่ตามมาอีก นี่ก็นานแล้วนะ เห็นบอกว่าหิวแต่กลับไม่รีบตามมา พิลึกคนจริง) ป้าสายบ่นงึมงำ หลังเห็นว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มกับพฤกษ์ยังไม่ตามมา “ปล่อยเขาเถอะค่ะป้า อีกเดี๋ยวก็คงมากันเองนั่นแหละ ป้ามานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนหนูดีกว่า นั่งกินคนเดียวแล้วมันเขินๆ เกร็งๆ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ” เธอว่าพลางหันไปมองคำเอื้อยกับคำปองที่เอาแต่ยืนมองเธอด้วยรอยยิ้มแหยๆ “บะต้องไปถือสาสองคนนี้เลยเจ้า มันก่อแค่อยากอยู่ใกล้ๆ อยากฮับใจ๊หนู ไถ่โต๊ดตี้มันเกยยะบะดีกับหนูไว้นาก๊ะ(อย่าไปถือสาสองคนนี้เลยค่ะ มันก็แค่อยากจะอยู่ใกล้ๆ อยากรับใช้หนู ไถ่โทษที่มันเคยทำผิดกับหนูไว้นั่นแหละ)” สองพี่น้องรีบพยักหน้าตามที่ป้าสายพูด “หืม! ไถ่โทษอะไรคะ” เธอเลิกคิ้วทันที “ก่อไถ่โต๊ดตี้วันนั้นมันปล่อยหื้อหนูเข้าใจ๋ผิด ทั้งๆ ตี้มันฮู้ละมันก่อหันว่ากุ๊อย่างเป๋นแผนก๋านของคุณบัวตอง แต่มันก่อยังปล่อยหื้อคุณหนีไป (ก็ไถ่โทษที่วันนั้นมันปล่อยให้หนูเข้าใจผิด ทั้งๆ ที่มันรู้แล้วมั

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 77

    บทที่ 77 “ไปพูดเพราะๆ กับมันทำไม ไม่ได้! ต่อไปห้ามพูดกับมันด้วยน้ำเสียงแบบนี้อีก ผมไม่อนุญาต” เขาทำท่างอแงราวเด็กๆ จนเธอส่ายหน้าน้อยๆ ในขณะที่พฤกษ์กับทำหน้าแหยกับสีหน้าท่าทางที่ไม่คุ้นเคยของเจ้านาย “ตกลงจะเอายังไงกันแน่คะ ไหนบอกว่าชอบให้ฉันพูดเพราะๆ ไง” นั่นสินะ ก็เขาเคยย้ำนักหนาว่าห้ามเธอพูดคำหยาบ มิหนำซ้ำยังใช้จูบมาขู่เธอด้วย “ใช่! แต่เฉพาะกับผมแค่คนเดียว คนที่มีสิทธิ์ฟังเสียงเพราะๆ ของคุณมีผมแค่คนเดียว” พฤกษ์ถึงกับกลอกตาไปมากับความหวงเมีย ที่หวงแม้กระทั่งเสียงของเมีย“เฮ้อ! ท่าจะอาการหนักแล้วเจ้านายเรา” พฤกษ์บ่นพึมพำเบา แต่มันก็ดังพอจะให้คนข้างหลังได้ยินและหันขวับไปมองตาขวางได้ แต่เพราะเคลียร์เรื่องค้างคากับเธอยังไม่จบ เขาจึงไม่อยากเสียเวลาต่อปากต่อคำกับพฤกษ์อีก “ตกลงว่าคุณจะยอมไปอยู่ที่โน่นกับผมแล้วใช่ไหม” เขาต้องถามเพื่อความแน่ใจ ด้วยกลัวว่าเธอจะหนีกลับมาอีก “เอ่อ…คือฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำอะไรได้บ้างถ้าต้องไปอยู่ที่โน่น” “ได้สิ คุณทำได้ทุกอย่างในฐานะ…ภรรยาของผม แต่งงานกันนะครับคนดี” อา…! มันคือการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานแบ

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 76

    “เอ่อ…พวกแกต้องใจเย็นแล้วฟังฉันให้ดีนะ ฉันสบายดี ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้พวกแกมาเฝ้า” เธอพยายามอธิบาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะสำหรับคนที่เตรียมตัวมาขนาดนั้น “อย่าบอกนะว่าที่แกไม่ให้พวกฉันมาเฝ้า เป็นเพราะว่าแกมีคนเฝ้าอยู่แล้ว มานี่เลยยัยตัวแสบ เล่ามาให้หมดเลยว่าเรื่องมันเป็นไงมาไง ทำไมแกกับพ่อเลี้ยงถึงได้…” แวววิวาห์ลากเพื่อนไปคุยกันอีกมุม โดยมีอีกสองสาวตามประชิด ประหนึ่งว่ากลัวเธอจะหนีระหว่างที่กลุ่มสาวๆ กำลังสอบสวนกันอย่างเข้มข้น หนุ่มๆ ก็พากันมานั่งคุยเรื่องคอขาดบาดตายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กระทั่งภาคินยื่นซองขาวมาให้พ่อเลี้ยงหนุ่ม “อะไร” ถึงจะสงสัยแต่เขาก็หยิบซองนั่นมา “ใบลาออกที่คุณขอ” ภาคินตอบตามตรง “ขอบคุณ แต่เอาตรงๆ เลยนะ ผมจะขอบคุณมากกว่านี้ ถ้าพวกคุณช่วยพาบรรดาเมียๆ ของพวกคุณกลับไป ให้ตายสิ! ผมอุตส่าห์ทิ้งงานเพื่อมาหาเมีย มาอยู่กับเมีย แต่ดูสิ่งที่เมียพวกคุณทำสิ เมียพวกคุณกำลังจะพรากเมียผมไป” เอ่อ…เดี๋ยวนะนี่คือเรื่องคอขาดบาดตายที่ว่า? “แล้วคุณคิดเหรอว่าการที่พวกผมต้องอยู่ห่างเมียแล้วพวกเราไม่เครียด เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status