“อ้าว กลับมาแล้วหรอครับคุณพิชชา” แดนรีบกล่าวทัก เมื่อเห็นว่าที่นายหญิงเดินแสดงสีหน้าเพลียเข้ามาในคฤหาสน์หลังจากที่ไปทำงานมาทั้งวัน จนตอนนี้ตกเย็น “อื้ม เดนอยู่บนห้องรึเปล่า“ คนถูกทักทายพยักหน้าตอบเบาๆพร้อมกล่าวถามถึงเป้าหมาย เมื่อตั้งใจว่าจะรีบกลับมาง้อว่าที่สามีหลังงานเสร็จ ทว่ากลับไม่เป็นไปตามที่คิด เมื่อลูกน้องคนสนิทเผยสีหน้าสับสน “ไม่นะครับ บอสไม่ได้ออกไปหาคุณพิชชาที่บริษัทหรอครับ ตั้งแต่เช้าแล้วนะครับ ผมก็คิดว่าจะกลับมากับคุณ“แดนตอบพรางทำหน้างง ขมวดคิ้วมองหญิงสาวตรงหน้าที่ขึ้นชื่อว่าคนรักของเจ้านายที่ดูเหมือนตอนนี้เธอก็กำลังเผยความกังวลออกมาตามคำพูดของตนอย่างเห็นได้ชัด “อ้าว… เดนไปหาฉันแป๊ปเดียวแล้วดันมีเรื่องกันนิดหน่อย แล้วเดนก็ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วนะ ทำไมป่านนี้ยังไม่กลับอีกล่ะ..” พิชชาเริ่มเป็นกังวล “หรือว่า… บอสจะคิดสั้นครับ!” ทันไดนั้นแดนเกิดตะหวาดลั่นออกมา นำพาความหญิงสาวสดุ้งตกใจกับคำพูดของลูกน้องชายคนสนิท ทำไมแดนถึงได้มีท่าทีจริงจังตื่นตระหนกเช่นนั้น “นายหมายความว่าไงกัน เดนจะทำแบบนั้นไปทำไม” คิ้วบางขมวดเข้ากันจนแทบผูกเป็นโบว์ ชายตรงหน้ากำลังจะสื่อถึงอะไร แล้วทำไมแ
“พี่มาได้ไงกันคะ”พิชชาเบิ่กตากว้างมองดูแฟนหนุ่มที่กำลังกอดรัดเธอไว้บนตักด้วยความประหลาดใจ ทำไมอยู่ๆถึงได้โผล่มาตรงเวลาเสียอย่างกับรู้ว่ากำลังมีชายอื่นมาจีบเธออยู่ “พอดีพี่คิดถึงเมียพี่ ถ้าไม่ได้เห็นไม่ได้กอดไม่ได้หอมก็เหมือนใจมันจะขาดน่ะสิ ก็เลยรีบเลี้ยวรถมาหาน้องเลย“ ปากตอบแฟนสาวคนรักทว่าสายตาไม่ได้มองมาทางเธอสักนิด เมื่อเอาแต่จ้องมองค้อนใส่ชายบนโซฟาฝั่งตรงหน้าไม่ละ หากฉีกเนื้อเค้ากินได้คงทำไปนานแล้วล่ะมั้ง “เหอะ.. คุณไปเป็นสามีคุณพิชชาตอนไหนไม่ทราบครับ” แอดัมเองไม่คิดจะยอม จ้องตากับชายเบื้องหน้ากลับอย่างเอาเรื่อง วันนั้นยังควงหญิงอื่นมางานวันเกิดเขา พอมาวันนี้กลับประกาศความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอ แอดัมกล้าวแทรกบทสนทนาของสองคนที่นั่งกันอยู่บนตักจนหญิงสาวเองที่ตอนแรกหันหน้ามองเดนนิสตอนนี้หันกลับมามองตน “อ้าว ดูเหมือนคุณแอดัมจะตกข่าวนะครับเนี่ย ว่าผมกับพิชชาเรารักกันมานานสองนานแล้ว ยังไงก็ขออนุญาตนั่งแบบนี้แล้วกันนะครับ พอดีผมคิดถึงเมีย“ คนถูกถามตอบกวนประสาทไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่เพียงแต่พูดเปล่า ก้มลงจุ๊บไหล่เนียนทำท่าทางโอ้อวดใส่อีกคนจนทำเอาคนมองหัวเสีย เป็นใครมาจากไหนคิดจะมาแย่งผู้
(โถ่บอสส ทำไมต้องรีบกลับมาทำงานล่ะครับ ความจริงบอสนั่งสวยๆก็มีคุณเดนนิสคอยดูแลอยู่แล้ว) เช้าของอีกวัน เสียงจากปลายสายเปร่งดังลอดออกมาจากมือถือที่ถูกวางไว้บนโต๊ะเครื่องสำอางหรูโดยเปิดสปิกเกอร์โฝนทิ้งไว้ ในขณะที่เจ้าของโทรศัพท์นั่งแต่งหน้าทาลิปเตรียมตัวไปทำงาน “หมดเวลาพักร้อนของนายแล้วทิว หรือว่านายอยากหางานใหม่” พิชชาสวนปนประชด สายตาจ้องมองการกระทำตัวเองหน้ากระจก (อุ้ย ผมล้อเล่นเองครับบอสสส ผมเนี่ยคิดถึงบอสที่สุดเลยครับ จะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยครับ) เพียงได้ยินคำขู่ก็ทำเอาคนฟังรีบเปลี่ยนคำพูดแทบไม่ทัน เดี๋ยวได้หางานใหม่ขึ้นมาจริงๆทิวก็ตายแหงๆสิ รีบเปล่งถ้อยคำหวานเอาอกเอาใจผู้เป็นนาย ”ดี นายไปรอที่บริษัทเลย ไม่ต้องมารับฉัน“ สิ้นสุดคำพูด หลังลูกน้องรับคำเรียบร้อยสายการโทรจึงถูกตัด ลิปสติกสีแดงกํ่าถูกทาทับลงบนริมฝีปากอวบอิ่ม มองดูรูปหน้าสง่าของตนด้วยความชื่นชม ก่อนเสียงประตูทางห้องนํ้าที่ถูกเปิดดังขึ้น ตามมาด้วยชายร่างโปร่งที่เดินโชว์ซิกแพคเป็นก้อนๆออกมา ย่างเท้ายาวเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างแฟนสาว ก่อนโน้มหน้าลงแนบริมฝีปากกับแก้มนิ่มหนึ่งฟอด “ที่รักกก ทำไมไม่ไปบริษัทกับพี่ น้องไม่เห็นจำเป
“ฉันคิดไว้ไม่มีผิด ว่าเธอต้องกลับมา” “ฉันเคยบอกคุณแล้วว่ามันเพิ่งจะเริ่ม แต่คาดว่าตอนนี้ใกล้จะจบแล้วแหละค่ะ” พิชชายิ้มหวาน เธอมั่นใจว่าเกมส์กำลังเดินมาถึงจุดจบ “ใครว่าล่ะ ถ้าฉันไม่อนุมัติ มันก็ไม่มีทางจบ หรืออาจจะจบ แต่จบไม่สวย” หญิงวัยกลางเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทุกอย่างอยู่ในกำมือเธอ หากจะจบก็ต้องได้รับคำจากเธอเพียงคนเดียว พิชชาไม่ได้ทำอะไรให้เธอเกลียดหรอก แถมตอนนี้ยังเพรียบพร้อม เพียงแต่ว่าตนนึกหมั่นไส้กับความหยิ่งยะโสหัวแข็งของหล่อนก็เพียงเท่านั้น “ไม่คิดเลยนะคะ คุณอุตส่าห์กำจัดฉันออกไปได้ คิดว่าจะหาคนดีๆให้กับลูกชายแบบที่เคยกล่าวสะดิบดี ที่ไหนได้ล่ะคะ พอฉันกลับมาก็เห็นเดนกกอยู่กับผู้หญิงในผับ หรือฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคุณหญิงดารินมีรสนิยมแบบนั้น“ พิชชาตอบสวน ทำเอาหญิงวันกลางหน้าชาไปกันครึ่ง ทุกคำพูดล้วนมาจากใจจริง ไม่ได้อยากประชดหรือเอาชนะ ทว่าเธอไม่พอใจอย่างหนัก มันเหมือนถูกหยามว่าเธอไม่มีแม้แต่คุณค่าเทียบเท่ากับผู้หญิงแบบฟางฟางเลย ทีตอนเธอกลับขัดขวางเอาเป็นเอาตาย แต่พอเป็นผู้หญิงคนนั้นกลับปล่อยให้กกอยู่กับชายคนรักตนโดยไม่แม้แต่จะสนใจ เธอผิดอะไรนักหนาที่แค่อยากจะครองคู่กับคนรัก
“กระเป๋าคุณฟางฟางรวมถึงของใช้ทั้งหมดครับบอส” แดนเองเร็วทันใจเหลือเกิน เมื่อได้ยินข่าวว่าบอสกำลังเดินทางมาจัดการยัยแม่มดคนนี้เขาก็เตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยก่อนแล้ว ไปได้ไวๆเลยยิ่งดี ต่อจากนี้จะไม่มีนางมารนางยักษ์มาอยู่ร่วมคฤหาสน์หลังเดียวกันแล้ว ช่างเป็นใจแดนเสียจริงๆ เมื่อได้ยินบอสเรียกก็รีบลากกระเป๋าที่เตรียมไว้ลงมาทันที ”ไม่นะ อร๊ายยย! อย่ามายุ่งกับของๆฉันนะ! คุณจะทำแบบนี้กับฟางไม่ได้นะเดน! ฟางจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!“ เมื่อร้องห่มร้องไห้ไม่เป็นผลจึงตบะแตก ร้องกรี๊ดเสียงดังด้วยความโมโหโกรธ จะมาไล่กันง่ายๆแบบนี้ได้ยังไงกัน เดนนิสเองไม่มีความจำเป็นจะต้องถกเถียงอะไรให้เสียเวลาต่อ ส่งสายตามองแดนเป็นสัญญาณคำสั่งลูกน้องคนสนิทก็รับรู้ได้ทันที แดนรับคำหันไปมองบอดี้การ์ดในสูทดำที่ยืนคุ้มกันอยู่รอบๆผลอยพยักหน้าเบาๆให้รีบจัดการยัยมารที่ตนหมั่นไส้มานานนี้ออกไปให้พ้นๆเสียที การ์ดสองคนไม่รอช้า รีบเดินต้อนเข้ามาลากฟางฟางออกไปพร้อมข้าวของของเธออย่างรู้งาน เสียงเกรี้ยวกราดดังลั่นสนั่นทั่วทาง โดนไล่ดั่งไม่ใช่คนขนาดนั้นยังจะดิ้นพล่านดึงดันที่จะอยู่ต่ออีก ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะไร้ยางอายไปถึงไหน ”เหอ
“พี่จะสิงร่างน้องอยู่แล้วนะ กอดน้องมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วถึงตอนนี้ก็ไม่ยอมปล่อย น้องแทบขยับตัวไม่ได้อยู่แล้ว” พิชชาบ่นยับเมื่อคนเป็นพี่โอบรัดตัวเธอไว้แน่นในอ้อมกอดไม่ยอมคลาย ตั้งแต่อยู่ในผับเมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้ที่กลับมาถึงคอนโด หากสิงร่างเธอได้คงสิงไปนานแล้ว อะไรมันจะเป็นขนาดนั้น “ก็พี่กลัว.. น้องไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง การที่อยู่ๆก็มีคนมาบอกว่าคนที่เรารักจะไม่อยู่กับเราแล้ว จะไม่กลับมาตลอดไป..“ เดนนิสเล่าถึงความในใจพร้อมนํ้าตาที่เริ่มคลอเอ่อจนแทบล้นเบ้าตาเมื่อย้อนนึกถึงเวลานั้นทีไร เขาไม่เคยรับมันได้แม้ตอนนี้จะรับรู้แล้วว่าเป็นเพียงเรื่องหลอก ”น้องแค่แกล้งเล่น พี่ก็เห็นแล้วนี่ว่าน้องไม่ได้เป็นอะไรเลย แค่อยากแกล้งให้พี่หลาบจำสักหน่อย“ หญิงสาวพยายามอธิบาย เธอเองยอมรับได้ว่าเห็นนํ้าตาเขาทีไรหัวใจดวงน้อยมันอ่อนระทวยทุกที “แต่น้องก็ไม่ควรเอาความเป็นความตายมาแกล้ง พี่แทบขาดใจตายอยู่แล้ว“ “แต่เรื่องนี้พี่มีความผิดอยู่เต็มๆนะคะ ลองคิดดูสิ น้องอุตส่าห์รีบกลับมาเพื่อเซอร์ไพรส์พี่ แต่พอเปิดประตูเข้ามา สิ่งแรกที่เห็นคือแฟนกำลังเอากับผู้หญิงคนอื่น ถ้าเป็นพี่ พี่จะรู้สึกยังไง“ พิชชาสว