แชร์

คุณท่าน

ผู้เขียน: พิมพ์พิรดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-30 15:19:05

“คะ...คุณท่าน!”

“หืม? คุณท่าน?” คนถูกเรียกเลิกคิ้ว พลางหันไปมองคนสนิทแวบหนึ่งอย่างนึกรู้

 “เอาๆ คุณท่านก็คุณท่าน ตอนนี้ก็เข้าบ้านกันก่อนเถอะ” คุณพรรณรายตัดบท ก่อนนำเข้าไปในบ้าน โดยมีเด็กน้อยถือห่อผ้าก้าวตามเข้ามาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

ห้องนั่งเล่นขนาดย่อม ถูกทำความสะอาดจนเอี่ยมอ่อง มีชั้นใส่หนังสือสูงท่วมศีรษะ ที่น่าสนใจคือเปียโนสีดำ ที่ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง ทำให้เด็กน้อยต้องชะเง้อมองอย่างสนอกสนใจ

“ชอบเปียโนหรือจ๊ะ?” คนถูกถามหน้าตาเหรอหรา

“เอ่อ ชะ...ชอบค่ะ แต่แม่ไม่ชอบ” 

“หืม อะไรนะ? เข้ามาใกล้ๆ นี่ซิ” เด็กน้อยยืนนิ่ง เสียงเข้มจึงสำทับ

“เข้าไปใกล้ๆ คุณท่านสิคะ” อะไรบางอย่างในตัวหญิงมากวัยบนวีลแชร์ทำให้เด็กหญิงรู้สึกเกรงขามแต่เพราะความสนใจใคร่รู้ จึงเผลอมองเสี้ยวหน้าที่ถูกผ้าคลุมบดบังอยู่หลายนาที จนมีเสียงกระแอมเบาๆ จากแม่อบ นั่นแหละคนตัวเล็กจึงทรุดตัวลงนั่งพับเพียบข้างๆ รถวีลแชร์นั้น

“คล้าย... คล้ายกันเหลือเกิน” ดวงตาดุที่ทอดมองมาแฝงด้วยความปรานี “เธอชื่ออะไร”

“ซะ...ทราย...” ท้ายประโยคมีเสียงกระแอมแทรกขึ้นอีกครั้ง “เอ่อ... ค่ะ”

“ชื่อจริงล่ะ”

“ศุภิสราค่ะ”

“ศุภิสรา... ศศิลดา...” ชื่อหลังที่เอ่ยโดยหญิงสูงวัยกว่าทำให้คนฟังเงยหน้าสบตาคู่นั้นอย่างประหลาดใจ “เอาล่ะ ต่อไปนี้ก็มาอยู่ด้วยกันที่นี่แล้วกันนะ ฉันชื่อพรรณราย ส่วนนั่นแม่อบคนสนิทของฉัน ที่นี่เราอยู่กันแค่สามคน ไม่มีคนใช้ มีอะไรก็ต้องช่วยกันทำ เข้าใจไหม” เด็กน้อยรับคำ

“เปียโนน่ะ ถ้าอยากเรียนวันหลังจะสอนให้ แม่เธอเขาเคยเล่นเก่งทั้งเปียโนแล้วก็ไวโอลิน ลูกสาวก็คงสอนไม่ยากหรอกนะ จริงไหม” เด็กน้อยมองตามร่างบนวีลแชร์ที่แม่อบเข็นเข้าห้องไปอย่างงงๆ

การเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเรือนเล็ก ไม่ได้เลวร้ายนัก แม้ว่าต้องตื่นแต่เช้ามาช่วยแม่อบทำงานบ้านทุกอย่าง เด็กน้อยก็ไม่ได้เกี่ยงงอนหรือเกียจคร้านแม้แต่น้อย ผู้ปกครองคนใหม่เองก็ไม่ได้อารมณ์ร้ายเหมือนคนเป็นน้องสาว คุณท่านแม้เงียบขรึมจนบางครั้งดูน่ากลัว แต่ก็ยังใจดีพอที่จะสอนนู่นสอนนี่ให้เด็กในปกครองอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะเปียโนที่คนมากวัยกว่าดูเหมือนจะเชี่ยวชาญมากเป็นพิเศษ จึงถ่ายทอดให้เด็กน้อยอย่างไม่หวงวิชา หรือแม้แต่แม่อบคนสนิทที่ท่าทางจะดูเป็นคนเจ้าระเบียบ ปากร้ายแต่ใจดี และไม่เคยว่ากล่าวหรือทุบตีทำร้ายให้เจ็บช้ำน้ำใจสักครั้ง ชีวิตเล็กๆ จึงสงบขึ้น แม้บางคราวจะเหงาไปบ้างก็เถอะ และทุกวันหน้าที่หลักของศุภิสราก็คือไปรับปิ่นโตจากครัวใหญ่บนตึกสามเวลา ในวันแรกๆ นั้นสมาชิกในครัวต่างคอยพูดจากระทบกระแทกแดกดันและกลั่นแกล้งให้เจ็บช้ำน้ำใจต่างๆ นานา จนเธอต้องแอบไปนั่งร้องไห้ที่เรือนเล็กเป็นประจำ

“อ้าว เป็นอะไรไป ทำไมวันนี้ตาบวม” คุณพรรณรายทักเด็กในปกครองอย่างแปลกใจ

“จะอะไรล่ะคะ ก็คงถูกพวกที่ตึกใหญ่จิกกัดมาอีกล่ะสิคะ เด็กตัวนิดเดียวก็ยังทำได้ มันน่านักเชียว” แม่อบกระฟัดกระเฟียดตอบแทน คุณพรรณรายถอนหายใจเบาๆ มองคนตัวเล็กอย่างเวทนา

“ไหนเงยหน้าขึ้นซิ เจ็บมากหรือ” คำถามแปลกๆ นั้นทำให้เด็กน้อยงุนงง

“ฉันถามว่าสิ่งที่เขาว่าน่ะทำให้เจ็บมากหรือ” เด็กน้อยเม้มปากนิ่งเงียบ ก่อนส่ายหน้า หากพอนึกขึ้นได้จึงรีบตอบเบาๆ

“ไม่เจ็บค่ะ แต่ไม่ชอบ”

“เมื่อมีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบ จะบังคับจิตใจให้ใครๆ มาชอบเราทั้งหมดน่ะเป็นไปไม่ได้หรอกนะ คำพูดของคน ถ้าคำไหนที่ฟังแล้วมันไม่จริง ไม่มีประโยชน์กับชีวิตเรา จะต้องไปสนใจฟังทำไมจริงไหม” คนตัวเล็กนิ่งคิดตาม

“ถึงเราจะเป็นแค่เม็ดทราย แต่ถ้าไม่ยอมทอดตัวเองไว้ใต้ฝ่าเท้าใคร ก็จะไม่มีใครกดเราให้ตกต่ำหรือเหยียบย่ำเราได้เลย ฉะนั้นอย่าได้ลดคุณค่าของตัวเองเพียงเพราะคำพูดใคร แล้วน้ำตาทุกหยดของเราน่ะมีค่านะ อย่าไปเสียมันให้คนที่ไม่เห็นคุณค่าของเราพร่ำเพรื่อ เข้าใจหรือเปล่า” คำนั้นทำให้คนฟังคิดตาม ก่อนยิ้มออกมาได้ “เก่งมาก จำไว้นะว่าเวลาเจอปัญหาให้ยิ้มสู้แบบนี้แหละ”

นับจากวันนั้นไม่ว่าจะถูกใครว่ากระแทกแดกดันยังไง เด็กน้อยก็จะพยายามทำหูทวนลมทำตัวสงบไม่ยุ่งไม่สนใจใครทั้งนั้น โดยเฉพาะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจ้าของบ้านที่เคยประกาศิตไว้ว่าทุกที่ที่เขาอยู่คือ ‘สถานที่ต้องห้าม’ ของคนไร้ค่าเช่นเธอ หากคุณเพชรของบ้านไม่เคยรู้ เศษผ้าเช็ดหน้าที่ขาดในวันนั้นถูกเย็บให้ติดกันดังเดิมราวกับเป็นสมบัติมีค่า 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทรายเทียมเพชร   เม็ดทรายล้ำค่าที่ประดับอยู่ในหัวใจของเพชรตลอดกาล (ตอนจบ)

    “พี่โท!” โทรินทร์ อ้าแขนกว้างรับร่างอรชรของอีกฝ่ายที่โถมตัวเข้ามากอดอย่างเต็มใจ ตรีรักษ์แอบปาดน้ำตาก่อนค่อยๆ ถอยออกไปจากห้องเงียบๆ เปิดโอกาสให้คนทั้งสองอยู่ตามลำพัง“มาเมื่อไหร่คะ ทำไมไม่บอกกันก่อน” ศุภิสราละล่ำละลักถามด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา“ถ้าบอกแล้วเจ้าสาวคนสวยจะเซอร์ไพรส์เหรอจ๊ะ” ชายหนุ่มยิ้มตอบ พลางยื่นมือมาช่วยซับน้ำตาให้“พี่โทหายไปไหนมาคะ ทำไมไม่ส่งข่าวมาบ้างเลย รู้ไหมทรายคิดถึงแล้วก็เป็นห่วงด้วย แล้วทำไมตัวดำแบบนี้ล่ะ”“แหม มาอีกคนละ พี่จะตอบข้อไหนก่อนดีล่ะเนี่ย” คุณหมอหนุ่มหัวเราะเบาๆ พลางประคองดวงหน้าหวานซึ้งขึ้นอย่างพิจารณา “ ว้าว วันนี้เจ้าสาวของพี่สวยจริงๆ...”“อะแฮ่ม เจ้าสาวของใครนะ” เสียงกระแอมหนักๆ ขัดคอขึ้นในทันใด พร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ปรากฏตัวขึ้นหน้าประตู สีหน้าหล่อเหลาดูขึงขังเอาเรื่อง “พูดผิดพูดใหม่ได้นะ แล้วช่วยเอามือของนายออกไปจากเจ้าสาวของฉันด้วย ผู้หญิงคนนั้นของฉัน ถ้าไม่อยากตายก็ถอยไปห่างๆ เลย”“เอ๊ะ พี่เพชร!” ศุภิสราปรามเสียงเข้ม พลางถลึงตาดุใส่เจ้าบ่าวของตน ทำเอาคนเตรียมหาเรื่องหน้าเจื่อนลงทันตา ภาพนั้นทำให้โทรินทร์หลุดหัวเราะออกมาอย่างขำขันปนสะใจ“หัวเราะห

  • ทรายเทียมเพชร   เพราะคำว่า... รัก... คำเดียว

    ชายหนุ่มในชุดสูททักซิโด้สีขาวสุดเท่ผู้หนึ่งกำลังยืนทอดสายตามองไปยังป้ายชื่อของโรงแรมกึ่งรีสอร์ตสุดหรูเบื้องหน้าอย่างพิศวงทรายเทียมเพชร แกรนด์โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ต“ทรายเทียมเพชรงั้นเหรอ!” ไม่เลวแฮะ ชื่อเพราะ ความหมายดี ที่คนวงนอกอาจจะเพียงนึกชื่นชมคนตั้งชื่อที่เข้าใจนำเอาชื่อเล่นของเจ้าของโรงแรมและคู่หมั้นสาวมาร้อยเรียงกันอย่างเหมาะเจาะลงตัว หากทว่าจะมีสักกี่คนที่รู้ถึงความหมายแท้จริงที่ซ่อนอยู่อย่างลึกซึ้ง แต่หนึ่งในไม่กี่คนนั้นก็มี ‘เขา’ คนหนึ่งล่ะที่รู้ดีโทรินทร์ วรรณยุกต์ กระตุกยิ้มมุมปากนึกในใจอย่างขำขัน ไม่ต้องบอกก็รู้ไอ้โรงแรมนี่ใครใหญ่สุดดูเหมือนว่า ‘ไอ้ขี้เก๊ก’ คนนั้นกำลังจะโดนกรรมตามทันเข้าให้แล้ว สม! หลังจากผ่านพ้นงานวันนี้ไปคนเป็นเจ้าบ่าวก็คงได้กลัวเมียหงอไปชั่วชีวิตแน่ นึกแล้วคุณหมอหนุ่มก็อยากจะหัวเราะให้ลั่นโลก สะใจนัก ในที่สุดเจ้าคนที่หยิ่งผยองคับฟ้านั่นก็ต้องมาสยบลงให้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งเพียงเพราะคำว่า... รัก... คำเดียว และไอ้ป้ายชื่อโรงแรมนี่ไงคือเครื่องพิสูจน์ว่า...‘ศุภิสรา’ คือเม็ดทรายที่มีคุณค่าเทียมเทียบเพชร หรือไม่ก็อาจเหนือกว่า! สี่ปีแล้วสินะที่เขาไม่

  • ทรายเทียมเพชร   เม็ดทรายล้ำค่าในชีวิตผู้ชายธรรมดา

    สี่ปีต่อมา เขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นตามคำพูดนั้นได้จริง!พีรภัทรวางหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวการขยายสาขาและเปิดตัวโรงแรมแห่งใหญ่ล่าสุดของเขาลงอย่างพอใจ หลายปีที่ผ่านมาเขาต้องใช้ความพยายามมากมายเพื่อจะบริหารกิจการของบิดาให้มั่นคง รวมถึงขยายกิจการออกไป ร่างสูงใหญ่มองออกไปนอกหน้าต่าง ใครจะไปเชื่อว่าวันนี้สิ่งที่เขาเคยเอ่ยกับผู้หญิงที่รักไว้จะกลายเป็นจริงขึ้นมาในวันนี้ โรงแรมกึ่งรีสอร์ตหรูริมชายหาดสวยติดทะเลคืออนุสรณ์แห่งความรักที่เขามีต่อเธอผู้นั้น“คุณเพชรคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”“ใครกันครับ นัดไว้หรือเปล่า ”“เอ่อ... ไม่ทราบค่ะ”“อ้าว” ชายหนุ่มอุทานลั่น “แล้วเขาบอกหรือเปล่าว่ามีธุระอะไร”เลขานุการสาวส่ายหน้ายิ้มๆ มองเจ้านายหนุ่มรูปหล่อผู้เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั้งเมือง แถมยังเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงติดท็อปไฟว์ของเมืองไทยเวลานี้อย่างมีเลศนัย“เปล่าค่ะ แต่เธอให้บอกแค่ว่าจะคอยคุณที่หาดทรายเพชรค่ะ” พีรภัทรครุ่นคิดเพียงชั่วครู่ ก่อนคลี่ยิ้มออกมาในที่สุด... ที่หาดทรายเพชร หญิงสาวร่างบางระหงผู้หนึ่งกำลังยืนทอดสายตามองผืนทะเลสีฟ้าครามเบื้องหน้าปล่อยหัวใจล่องลอยไปไกลแสนไกล จนกระทั่งมีอ้อมแขนของใครคนหนึ

  • ทรายเทียมเพชร   ทำเพื่อผู้หญิงที่เขารัก

    “นายต้องการอะไร”“ฉันต้องการความมั่นใจจากคนที่น้องทรายรักน่ะสิ” คนพูดต้องกล้ำกลืนความขมปร่าลงไปอย่างยากเย็น ในใจเพียรบอกกับตัวเองเป็นครั้งที่ร้อย...เขาทำเพื่อผู้หญิงที่เขารัก ทำเพื่อน้องทราย เขาเจ็บแค่ไหนก็ได้เพื่อไม่ให้เธอต้องเจ็บ!พีรภัทรมองแววตาของคนตรงหน้าอย่างชั่งใจก่อนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ“ฉันสัญญาว่าจะคอยดูแลปกป้องเธอให้มีความสุขและไม่ทำให้เธอต้องเจ็บปวดตลอดไป’“ถ้าเมื่อไหร่ที่นายผิดคำพูด วันนั้นฉันจะมาทวงหัวใจของฉันกลับคืน จำเอาไว้ด้วย!”“จะไม่มีวันนั้นเด็ดขาด ฉันขอสัญญา!” โทรินทร์รีบสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนยื่นซองจดหมายสีขาวฉบับหนึ่งให้ พร้อมส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร“งั้นฉันขอฝากนายดูแลเธอด้วยนะ... ขอให้นายโชคดี!”ที่วังรวิภาส งานหมั้นจวนจะถึงฤกษ์พิธีอยู่แล้ว หากกลับไม่มีวี่แววของว่าที่คู่หมั้นหนุ่มจะมาถึงสักที หม่อมราชวงศ์รัชชากรณ์ผุดลุกผุดนั่งอย่างหัวเสีย ไอ้เจ้าหมอเวรนั่นมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน หรือมันจะเบี้ยว “ทำยังไงดีคะคุณพี่ ใกล้ได้ฤกษ์แล้ว น้องเกรงว่า...” หม่อมราชวงศ์พิมพ์อรุณรวีเอ่ยอย่างเป็นกังวล แลเห็นแขกผู้ใหญ่เริ่มมีทีท่ากระสับกระส่ายมองหน้ากันไปมาอย่างอึดอัด มี

  • ทรายเทียมเพชร   ฉันรักเธอยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง

    “เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร พี่โทมาเมื่อไหร่คะ ทำไมไม่ได้ยินเสียงรถเลย” คนพูดทำยิ้มกลบเกลื่อน หากโทรินทร์ไม่ยอมปล่อยผ่าน เขาจับไหล่ทั้งสองของเธอไว้ แล้วมองลึกเข้าไปในดวงตาแสนเศร้าระทมทุกข์คู่นั้น“ไม่ไว้ใจพี่แล้วใช่ไหม หรือเห็นพี่โทคนนี้เป็นคนอื่น” คุณหมอหนุ่มตัดพ้ออย่างน้อยใจ นั่นทำให้อีกฝ่ายต้องยอมจำนน ศุภิสราถอนหายใจเฮือก นึกถึงคำพูดของใครคนหนึ่งที่ทำให้เธอต้องเป็นทุกข์อยู่เวลานี้‘ฉันรักพี่เพชร รักมานานแล้ว’ ดวงหน้าจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตาเศร้าสลดอย่างน่าสงสาร ‘อีกไม่นานฉันกับพี่เพชรก็จะแต่งงานกัน’‘แล้วคุณมาบอกฉันทำไมกันคะ ทำไมไม่ไปบอกเขาเอง’‘เพราะฉันอยากให้เธอเห็นใจในความรักของเราสองคน ตั้งแต่เธอกลับเข้ามาในชีวิตพี่เพชร เขาก็ไม่เหมือนเดิมอีก เพราะเขาสงสารที่เคยทำไม่ดีกับเธอมาก่อน แต่นั่นไม่ใช่ความรักที่แท้จริง มันก็เป็นแค่เพียงความรู้สึกผิดที่เขามีต่อเธอเท่านั้น ฉันขอร้องล่ะ อย่าแก้แค้นเขาด้วยการทำให้พี่เพชรต้องรู้สึกผิดต่อเธอมากไปกว่านี้เลยนะ ฉันทนเห็นเขาต้องมาเป็นทุกข์แบบนี้ไม่ได้’ คำนั้นราวกับฟ้าผ่าลงกลางหัวใจ‘ฉันรู้ว่าเธอก็รักเขาเหมือนกัน อาจดูเหมือนเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ช่วยหลีกทางใ

  • ทรายเทียมเพชร   ความหวังดีกลายเป็นยาพิษ

    “อย่าห่วงเลยครับ เพราะตอนนี้ทุกอย่างมันสายไปแล้ว สิ่งที่ผมบอกแม่ไปมันไม่มีวันเป็นจริงได้ ระหว่างผมกับเธอ ตอนนี้เธอไม่ใช่แค่เม็ดทรายธรรมดาแต่เป็น ‘หม่อมหลวงศุภิสรา รวิภาส’ ลูกสาวมหาเศรษฐีที่รวยล้นฟ้า เขามีผู้ชายดีๆ ที่รักเขา และเขาก็รักผู้ชายคนนั้นมาก อีกไม่นานทั้งสองก็จะแต่งงานกัน แล้วชีวิตของเราสองคนก็จะเป็นเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันได้อีก เพราะฉะนั้นถึงผมจะรู้สึกยังไงก็ไม่สำคัญแล้ว” ปลายเสียงห้าวลึกสั่นสะท้าน“ตาเพชร!” สีหน้าเจ็บปวดของลูกชายทำให้ผู้เป็นแม่สะท้อนใจ“ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่เป็นไร” คนพูดฝืนยิ้มทั้งที่หัวใจกำลังร้องไห้ “ ก็แค่ต้องทนเจ็บอีกครั้ง แล้วมันก็จะผ่านพ้นไปเหมือนทุกครั้ง แต่ผมยังยืนยันคำเดิม ผมจะไม่แต่งงานกับน้องเฟื่อง และนอกจากทรายแล้ว ผมก็ไม่แต่งงานกับใครตลอดชีวิต ” พีรภัทรหลับตาลงอย่างเจ็บปวดรวดร้าว“คุณแม่ครับ ผมขออยู่คนเดียวสักพักได้ไหม ได้โปรดเถอะนะครับ แล้วหลังจากนี้ถ้าคุณแม่อยากให้ทำอะไรผมก็จะตามใจทุกอย่าง แต่ยกเว้นเรื่องแต่งงานเรื่องเดียวเท่านั้น แล้วจะให้ผมขึ้นสวรรค์ลงนรกที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงระโหยอย่างคนสิ้นหวัง คุณพราวพิไลเดินคอต

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status