บทที่ 3 หย่า
“เธอคงตกใจกลัวใช่มั้ยที่ไม่มีพี่อยู่เคียงข้าง เอาล่ะเลิกร้องไห้ได้แล้วต่อจากนี้พี่ไม่คิดจะหนีไปไหนอีก เราสองคนจะต้องไม่ให้ใครมารังแกได้อีกพี่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องนายเองเวยอัน” ร่างกายของเวยอันพ่ายผอมจนหนังหุ้มกระดูกทั้งสองพี่น้องต้องพบเจอกับเรื่องไม่ยุติธรรมขนาดไหนกันนะ! แล้วทำไมเจ้าของร่างเดิมถึงได้กำลังถูกฝังอยู่ในโลง หยวนเหมยเริ่มคิดหนักในเรื่องนี้ หรือว่าเธอถูกแม่สามีกับพี่สาวรังแกจนตาย หรือว่าเธอป่วยไข้จนทนไม่ไหวตายเพราะไข้หวัดหรือ? หยวนเหมยฉุดคิดแต่ไม่ทันไรเสียงชายที่เธอพบหลังจากที่ลืมตาได้เดินเข้ามา
"เหม่ยหลิงเธอฟื้นแล้วหรือ รู้มั้ยว่าฉันดีใจแค่ไหนที่เธอฟื้นขึ้นมา ฉันคิดว่าฉันจะเสียเธอไปแล้ว ทำไมเธอถึงได้คิดสั้นอย่างนั้น รู้บ้างมั้ยฉันต้องเจ็บปวดมากขนาดไหน " น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยแววตาเจ็บปวด ของชายที่เดินเข้ามาหยวนเหมยพอเดาออกนี่คงเป็นสามีของเธอ แต่เขาพูดว่าเธอคิดสั้น นั่นก็หมายความว่าเธอไม่ได้ถูกรังแกแต่เป็นเธอเองที่คิดจะฆ่าตัวตายอย่างนั้นเหรอ! เวยอันรีบผละออกให้พี่เขยเข้ามาคุยกับพี่สาว หยวนเหมยเห็นว่าเขาจะเข้ามากอดเธอรีบใช้มือดันอกเอาไว้ ไม่รู้ว่าเพราะตัวเองเธอหรือว่าเพราะความรู้สึกของร่างนี้ทำให้เธอไม่อยากให้เขาเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย คล้ายมีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาบีบรัดหัวใจ
"อย่าเข้ามา" เหวินเทียนเห็นท่าทางของภรรยาเขาถึงกับหยุดชะงักทันที
"เกิดอะไรขึ้นหรือว่าเธอยังรู้สึกหายใจไม่ออก แต่เมื่อครู่หมอได้มาตรวจอาการแล้วเธอปกติทุกอย่างนี่น่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับฉันมากเลยที่เธอรอดกลับมาอย่างกับปาฏิหาริย์ "
"ปาฏิหาริย์บ้าบออะไร!! ปีศาจสิไม่ว่าเหวินเทียนอย่าเข้าใกล้ผู้หญิงคนนี้นะ! ตายไปแล้วกลับมาได้อย่างนี้ต้องไม่ใช่วิญญาณดีแน่ ๆ " ฟางเซียนกับลู่หลินเดินเข้ามารีบทักห้ามไม่ให้ลูกชายตัวเองเข้าใกล้เหม่ยหลิง หยวนเหมยเห็นใบหน้าทั้งสองแม่ลูกก็นึกเห็นภาพที่ทั้งสองได้ทำกับร่างเดิมเอาไว้ ถึงเวลาแล้วที่เธอจะเอาคืนให้สองพี่น้องอย่างสาสมในเมื่อเธอมาอยู่ในร่างนี้เธอก็คือเหม่ยหลิง ศักดิ์ศรีและทุกอย่างที่เธอเคยเสียไปเธอจะขอทวงคืนทุกอย่าง
"ทำไมคะ หรือว่าคุณแม่กลัวว่าฉันจะเป็นวิญญาณร้าย หากเป็นอย่างนั้นจะกลัวทำไมหรือว่าคุณแม่กับพี่ลู่หลินทำอะไรไม่ดีกับฉันไว้อย่างนั้นเหรอ ส่วนคุณไม่ต้องเข้ามาใกล้ฉันอย่างที่แม่ของคุณบอก คนตายแล้วฟื้นคงเป็นเรื่องที่แม่สามีไม่ชอบ อย่างนั้นก็ดีหากคุณแม่ไม่อยากให้ฉันเข้าใกล้เหวินเทียน วันนี้ฉันจะหย่าและออกจากบ้านแสนสกปรกนั้นเสีย จริงสิ! แต่ว่าฉันจะไม่ยอมหย่าง่าย ๆ หรอกนะ หากจะให้หย่าคุณแม่ต้องคืนสมบัติของคุณพ่อมาให้หมด ต่อจากนี้ฉันจะไม่ยอมทนอีกต่อไป " หยวนเหมยยืนขึ้นต่อหน้าทั้งสามอย่างผ่าเผยไม่เกรงกลัวอะไรอีกต่อไป เพราะเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเหวินเทียนอยู่แล้วในเมื่อแม่สามีไม่ต้องการเธอก็ไม่อยากจะอยู่ให้โขกสับเหมือนกัน แต่คำพูดของเธอทำให้แม่สามีอารมณ์เดือดดานเลือดขึ้นหน้าดวงตาร้อนผ่าว
"นี่เธอกล้าพูดอย่างนี้กับฉันได้ยังไง อย่างนี้ต้องสั่งสอน" ดวงตาของฟางเซียนแข็งกร้าวเดินพุ่งตรงง้างมือหวังจะตบเข้าที่ใบหน้าของเหม่ยหลิงแต่มีหรือที่เหม่ยหลิงคนใหม่จะยอม เธอก็มีมือมีเท้าเหมือนกัน ไม่ทันให้ตนเองโดนตบแต่เธอคว้ามือของแม่สามีก่อนพร้อมใช้มืออีกข้างตบเข้าที่ใบหน้าของแม่สามีฉากใหญ่ จนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันตกใจ
เพี๊ยะ!!!
"นี่เธอกล้าลงไม้ลงมือกับคุณแม่ได้ยังไง เหวินเทียนแกดูภรรยาแกสิ ฟื้นขึ้นมาแล้วนิสัยยังเปลี่ยนไปอีกด้วย คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะเจ็บมั้ย" ลู่หลินรีบเข้ามาประคองแม่ปากต่อว่าเหม่ยหลิงไม่หยุดเหวินเทียนรีบเข้าไปห้ามทั้งสองคนเพราะที่นี่เป็นสถานพยาบาล
"หยุด! หยุดทุกคนเรื่องนี้ค่อยกลับไปคุยกันที่บ้าน " ฟางเซียนจ้องมองใบหน้าของเหม่ยหลิงอย่างอาฆาตกลับถึงบ้านเมื่อไหร่เธอจะจัดการกับเหม่ยหลิงให้ถึงที่สุด
"เหม่ยหลิงใจเย็นลงก่อนเถอะนะ ตอนนี้เธอฟื้นแล้วหมอให้เธอกลับบ้านได้มาเถอะเดี๋ยวฉันจะประคองเอง เวยอันพาเหม่ยหลิงกลับบ้านกัน " เหวินเทียนจ้องมองเหม่ยหลิงด้วยความห่วงใยแต่ทว่าเธอกลับไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนตรงหน้าด้วยซ้ำ มีหลายเรื่องที่เธออยากรู้เกี่ยวกับร่างเดิม หากจะเอ่ยถามเขาคงคิดว่าเธอความทรงจำหายไปแล้วแน่ ๆ แล้วที่ผ่านมาเขาไปอยู่ที่ไหน หากรักเธอมากขนาดนี้ทำไมถึงยอมให้แม่กับพี่สาวคอยรังแกภรรยาตนเองกัน
เหม่ยหลิงยอมกลับบ้านกับเหวินเทียนแต่ไม่ใช่ว่าเธอจะเปลี่ยนความคิดแต่เธออยากหาความทรงจำของร่างนี้และอยากรู้ให้ได้ว่าเพราะอะไรเธอถึงคิดสั้นจนต้องอยากตายและทิ้งน้องชายที่เธอรักเอาไว้
ครั้นเมื่อมาถึงบ้านแม่สามีนั่งที่เก้าอี้หันหลังไม่ต้อนรับเธออย่างเห็นได้ชัด สภาพบ้านเป็นอย่างที่เธอเคยเห็นในความทรงจำ
"คุณแม่ยอมให้เหม่ยหลิงสักครั้งไม่ได้หรือ? ตอนนี้ร่างกายของเธอไม่แข็งแรงแถมเธอยังพ้นจากการตายตอนนี้เธออาจจะมีนิสัยแข็งกร้าวไม่เหมือนเดิม อีกไม่กี่วันคงจะหายช่วยเอ็นดูเหม่ยหลิงสักครั้งเถอะนะครับ"
"เหวินเทียนทำไมถึงได้เชื่อเธออย่างนั้นกันไม่เห็นหรือไงว่าเธอมองแม่ด้วยสายตายังไง ตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ที่นี่เธอไม่เคยกล้าเงยหน้ามองแม่อย่างนี้เลยด้วยซ้ำ หรือว่าเหวินเเทียนรักเธอมากกว่าแม่ผู้ให้กำเนิด ฉันเสียใจจริง ๆ " ฟางเซียนแสร้งบีบน้ำตามีหรือที่ลูกชายอย่างเหวินเทียนที่รักแม่และยอมเชื่อฟังแม่ทุกอย่างจะไม่ใจอ่อน
"โธ่แม่ครับ ผมรักแม่แต่ก็รักเหม่ยหลิงเหมือนกันจะให้ผมทำยังไง เรื่องนี้เราค่อยคุยกันนะครับ ผมจะพาเธอไปพักที่ห้องก่อน " เขาโอบแขนกอดเธอเดินผ่านหน้าของฟางเซียน เหม่ยหลิงหันหลังกลับมาแสยะยิ้มให้สองแม่ลูกเหมือนคนชนะพลางซบที่อกของเขาทำอย่างไร้เรี่ยวแรงเดินเข้าไปในห้องแต่เมื่อเข้ามาถึงในห้องเธอกลับผลักเขาออกไปจนเหวินเทียนไม่เข้าใจเธอสักนิด
ตอนพิเศษฟิ้ว ฟิ้ว ..สายลมพัดเย็นนะเยือกบ่งบอกว่าช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวร่างบางยืนทอดสายตาจ้องมองกลางเมืองยามค่ำคืนพลางกอดอกแน่น ชายร่างใหญ่เดินออกมาจากในตัวบ้านโผล่เข้ากอดเธอจากด้านหลังอย่างแนบชิด"ทำไมมาอยู่ตรงนี้ไม่หนาวหรือไง ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วรีบเข้าบ้านกันเถอะ" อี้หานกระซิบถามพร้อมบอกให้ภรรยาของตน"ฉันอยากมองดูดวงจันทร์อีกสักหน่อยเดี๋ยวอีกไม่กี่วันหิมะคงจะตกเมื่อนั้นดวงจันทร์ที่สวยงามคงไม่มีให้เห็น " ตั้งแต่แต่งงานมานี่ก็สามเดือนแล้ว เหม่ยหลิงมีความสุขเสียจนคิดว่านี่เป็นเพียงความฝัน"ดวงจันทร์ไม่เห็นจะน่ามองตรงไหน สู้ภรรยาของฉันก็ไม่ได้จริงสิวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่โทรเลขมาอยากให้ลูกสะใภ้มีหลานให้อุ้มเร็ว ๆ จนท่านทั้งสองบอกให้เธอหยุดขายซาลาเปาและจะจ่ายค่าจ้างเพื่อให้เธออุ้มท้องด้วยล่ะ ภรรยาคนสวยของฉันคงไม่อยากให้ท่านทั้งสองผิดหวังหรอกใช่มั้ย? อย่างนั้นเราไปดูดวงจันทร์ต่อที่ห้องดีมั้ย ป่านนี้เวยอันคงหลับไปแล้วไม่มีใครมารบกวนแล้วนะ! " อี้หานกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาพลางหอมแก้มของเธออย่างนุ่มนวล เธออายจนใบหน้าแดงระเรื่อรีบผลักเขาออกก่อนจะเดินหนีเข้าบ้าน"ไม่เอาฉันยังไม่พร้อมจะอุ้ม
บทที่ 35 แต่งงาน"ท่านนายพลมันจะเกินไปแล้วนะ แค่ผู้หญิงต้อยต่ำคุณปกป้องเธอถึงเพียงนี้เลยหรือ? เธอคงใช้ลีลาบนเตียงเก่งสินะ ไม่ว่าจะเป็นสามีฉันเหวินเทียนหรือแม้แต่คุณก็ยังติดใจเหม่ยหลิงคนนี้ เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจจริง ๆ " ซิงเยียนที่ยืนฟังมานานเธอได้เอ่ยขึ้นด้วยความคับแค้นใจเพราะไม่ว่าจะเป็นเหวินเทียนหรือแม้แต่ท่านนายพลลุ่มหลงอะไรเธอนักหนา"นั่นสินะแต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สามีเก่าของเหม่ยหลิงโง่เง้ายอมปล่อยคนดี ๆ อย่างเหม่ยหลิงหลุดมือ ฉันไม่สนใจว่าเหมยหลิงจะผ่านใครมาหรือว่าอดีตจะเป็นอย่างไรเพราะฉันเองก็มิใช่ชายที่บริสุทธิ์ฉันเคยผ่านการมีภรรยามาก่อนอย่างนี้เท่ากันว่าฉันกับเหม่ยหลิงเราเท่าเทียมกันแล้ว คุณหนูซิงเยียนลูกสาวคนเดียวเจ้าของโรงเย็บผ้าสินะ! จำไม่ผิดเมื่อไม่กี่วันก่อนส่งคนมาทำร้ายเหม่ยหลิงถึงบ้าน วันนั้นฉันใจเย็นเพราะเหม่ยหลิงห้ามเอาไว้ หากไม่มีเธอลูกน้องของคุณหนูคงไม่ได้กลับไปอย่างมีชีวิตอยู่ คงผยองใจที่ฉันไม่เอาเรื่องสินะ ไม่ว่าจะเป็นครั้งก่อนที่เหวินเทียนสามีเก่าบุกเข้ามาหวังข่มขืน หรือจะเป็นเรื่องซาลาเปาเน่า ๆ ที่มาใส่ร้ายและคอยมาตามรังแกเหม่ยหลิงไม่เลิกลา หากวันนี้ฉันจะเอา
บทที่ 34 ผู้หญิงไร้ค่าฝั่งด้านเหม่ยหลิงหลังจากที่เธอหยุดไปหลายวันเมื่อเปิดขายอีกครั้งทำให้ซาลาเปาของเธอขายดีเพราะลูกค้าประจำคิดถึงและอยากกินพากันซื้อไปคนละหลายลูก ตอนนี้เหม่ยหลิงกำลังเก็บกวาดร้าน เพราะขายซาลาเปาหมดแล้วจังหวะนั้นเองเธอสาดน้ำราดที่ถนนหน้าบ้านพอดีเป็นจังหวะเดียวกันที่สามคนแม่ลูกเดินเข้ามาหาเธอ พวกเธอร้องกรี๊ดเสียงดังต่อว่าเหม่ยหลิงขับไล่"กรี๊ด!! อะไรของเธอกันช่างไร้มารยาท" เหม่ยหลิงมองทั้งสามพลางถอนหายใจทำไมคนพวกนี้ยังมาวุ่นวายอีก เธออุตส่าห์ไม่ไปเอาเรื่องซิงเยียนที่ส่งคนมาทำร้ายเธอแต่วันนี้ทั้งสามพากันเดินมาหาเธออย่างพร้อมหน้าดูก็รู้แล้วว่าต้องมาหาเรื่องแน่นอน"อะไรกันเดินมาไม่ดูเองยังหาว่าฉันเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ? ถามชาวบ้านที่เดินไปมาแถวนี้สิว่าเมื่อครู่ฉันตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรือพวกคุณเดินมาไม่ดูเอง วันนี้ตอนแรกก็อากาศแจ่มใสดีอยู่ทำไมตอนนี้เริ่มมืดครึ้มไปเสียแล้วล่ะ เป็นอย่างนี้ทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย " เหม่ยหลิงทำเป็นไม่สนเดินถือกระถังน้ำเข้าบ้าน ลู่หลินทนไม่ไหวคว้าตัวเธอเอาไว้พร้อมกระชากผมของเธอเต็มแรง"นี่แกกล้าทำกับพวกฉันแบบนี้เหรอ? หลายครั้งมาแล้วที่ฉันไม
บทที่ 33 มีดีอะไรนักหนาทั้งสามมาถึงบ้านของลุงจ่าวทันทีที่ป้าเสี่ยนเห็นหน้าของอี้หานก็จดจำได้ทันทีนี่นายทหารที่เห็นวันนั้นเธอยิ้มกริ่มจ้องมองใบหน้าของเหม่ยหลิง วันนี้เธอคงพาเขามาเปิดตัวสินะ เมื่อเธอจะเอ่ยถามแต่ก็ถูกเหม่ยหลิงกระซิบกระซาบเสียก่อน“ฉันรู้นะว่าป้าคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่ป้าคิดหรอกนะ เวยอันชื่นชอบนายพลผู้นี้มาจึงชักชวนเขามาด้วยฉันขัดไม่ได้จึงยอมให้เขามาด้วยเท่านั้น”“ป้ายังไม่ได้ว่าอะไรเลยมีเพียงแค่เวยอันหรอกหรือที่ชื่นชอบท่านนายพลป้าคิดว่าอาเหม่ยก็ชอบเหมือนกันซ่ะอีก ฮ่า ฮ่า ท่านนายพลเชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะวันนี้คงเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดของสามีฉันแล้วที่มีนายพลผู้ยิ่งใหญ่มาร่วมงาน” ป้าเสี่ยนพูดจบได้เดินจากเหม่ยหลิงไปหาอี้หานเชิญเขาเข้าไปในบ้านปล่อยให้เหม่ยหลิงยืนหน้าแดงอยู่เพียงลำพังทุกคนร่วมกันกินอาหารเย็นกันอย่างสุขสันต์จนถึงเวลาเอ่ยคำอวยพรและมอบของขวัญให้ และพากันแยกย้ายกลับบ้าน อี้หานสั่งให้ลูกน้องชุดเดิมกลับไปพักและสลับเปลี่ยนอีกชุดมาเฝ้าที่หน้าบ้านของเหม่ยหลิง ใจจริงเขาเองอยากจะอยู่เฝ้าเธอแต่จะทำให้เธอลำบากใจจึงทำได้เพียงให้ลูกน้องมาเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้2 ว
บทที่ 32 พี่ชอบพี่สาวฉันจริง ๆ ใช่มั้ยเขาค่อย ๆ ทายาให้เหม่ยหลิงอย่างเบามือเธอจ้องมองความอ่อนโยนที่เขามอบให้ เขาเป็นคนเดียวเมื่อไหร่ที่เธอพบเจอกับเรื่องอันตรายจะเข้ามาช่วยไว้ได้เสมอ เมื่อมีเขาอยู่เคียงข้างหัวใจของเธออบอุ่นทุกครั้ง ความหวาดกลัวที่มีทั้งหมดได้หายไป"ขอบคุณนะคะที่เข้ามาช่วยเหลือฉันทุกครั้งที่ฉันตกอยู่ในเหตุการณ์อันตราย หากไม่มีคุณฉันคงไม่รู้จะทำอย่างไรเลย ""ไม่เห็นจะต้องขอบคุณหลายครั้งเลย คงเป็นโชคชะตาที่ลิขิตมาให้เราได้พบเจอกัน ตอนนี้รู้สึกดีแล้วใช่มั้ยฉันขอออกไปคุยกับลูกน้องสักครู่นะ" เหม่ยหลิงพยักหน้าให้อี้หาน เขาเดินออกมาด้านนอกสั่งการให้ลูกน้องไปสืบประวัติสามีเก่าของเหม่ยหลิงรวมถึงซิงเยียนที่เป็นคนสั่งการให้คนมาทำร้ายเหม่ยหลิงอีกด้วย เมื่อสั่งการเสร็จเขาได้เดินเข้ามาหาเหม่ยหลิงด้านในเห็นเธอกำลังเก็บของที่หล่นลงบนพื้นที่ซื้อมาจากตลาดอย่างทุลักทุเลจึงนั่งลงช่วยเธอเก็บของ"มาให้ฉันช่วย ซื้อของมาเยอะขนาดนี้จะขายซาลาเปาพรุ่งนี้ใช่มั้ย? แขนเจ็บแบบนี้คงนวดแป้งไม่ได้แน่ ๆ ว่าแต่ของนี่คืออะไร"เขาเก็บของหันไปเห็นของมีค่าคล้ายซื้อไว้เก็บสะสมนิยมมอบให้ผู้ใหญ่ที่นับถือ"อ้อ...
บทที่ 31 เป็นเขาอีกแล้วที่ช่วยเหลือเมื่อมาถึงหน้าประตูเหม่ยหลิงวางของไว้ที่โต๊ะหน้าบ้านก่อนจะไขกุญแจเปิดโดยมีชายคนนั้นคอยเดินตามหลังติด ๆ ทันทีที่เธอเปิดประตูเหม่ยหลิงคว้าไม้ถูพื้นฟาดใส่หัวของชายคนนั้นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทำให้เขาโมโหผลักกายของเหม่ยหลิงจนล้มกับพื้น"โอ๊ย!!! นี่เธอกล้าลงมือกับฉันอย่างไม่หวาดกลัวเลยอย่างนั้นหรือตอนแรกตั้งใจแค่มาข่มขู่แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ต้องทำให้เธอเจ็บกว่าฉัน""อึก! ฉันไปทำอะไรให้ทำไมต้องมาทำฉันแบบนี้อยากได้อะไรก็เอาไปเลย" เหม่ยหลิงเจ็บแขนเพราะถูกผลักจนล้มถลาลงทับแขนตัวเอง ความหวาดกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นแววตาของชายที่อยู่ตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขาอาฆาตจนเหม่ยหลิงคิดว่าหากเธอสู้ไม่ไหวหรือไม่มีใครช่วยเธอได้วันนี้เธอคงได้ตายอีกครั้งแน่ ๆ คนเดียวที่เธอคิดถึงกลับเป็นอี้หาน เฝ้าภาวนาในใจให้เขามาช่วยเธอ"เธอไม่เคยทำอะไรให้ฉันแต่เป็นคุณหนูของฉันต่างหากที่เธอไปก่อกวนให้รำคาญใจ ไม่พูดมากมานี่ซ่ะดี ๆ ฉันจะจัดการให้เธอเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เอง" เขาขึ้นคร่อมร่างของเหม่ยหลิงก่อนที่จะยกมือที่ถือมีดขึ้นเพื่อแทงเข้าที่หน้าอกของเธอ เหม่ยหลิงหัวใจเต้นร