บทที่ 4 ความทรงจำ
"เอามือออกไปจากร่างกายของฉันได้แล้ว "
"ทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้หรือว่าเพราะเกิดการกระทบจิตใจกับเรื่องที่เธอพบเจอมากันนะ! โธ่ภรรยาของฉันทำไมต้องเกิดเรื่องไม่ดีอย่างนี้ด้วย ต่อจากนี้ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะฉันจะอยู่เคียงข้างคอยปกป้องเธอเอง ตอนนี้ฉันออกจากการรับราชการแล้วต่อจากนี้เรามาอยู่กันอย่างมีความสุขเถอะนะ! เธอคงเหนื่อยมามากพักผ่อนเถอะ ฉันจะออกไปเกลี้ยกล่อมคุณแม่เอง " เหม่ยหลิงไม่ได้โต้ตอบอะไรเธอเดินดูในห้องอย่างน่าสนใจก่อนจะนั่งลงที่เตียงหนานุ่ม แต่ทำไมเหมือนร่างนี้ไม่เคยได้อยู่ในห้องนี่เลยด้วยซ้ำที่นอนแบบนี้เธอคงไม่ได้สัมผัส เมื่อเห็นว่าประตูปิดลงหยวนเหมยที่อยู่ในร่างของเหม่ยหลิงนอนลงที่เตียงก่อนจะผลอยหลับไป
อากาศเย็นสบายเหม่ยหลิงดีใจที่สามีของเธอจะกลับมาอยู่บ้านอย่างถาวรหลังจากที่ไปเป็นทหารกองหนุนเมื่อหลังจากการปฏิวัติเสร็จสิ้นทางการให้ทหารที่ไม่ได้มียศหรือทหารกองหนุนกลับบ้านพร้อมเงินจำนวนหนึ่งกลับมาด้วย วันนี้เหม่ยหลิงจึงเก็บกวาดเช็ดถูบ้านด้วยสีหน้าดีอกดีใจ เพราะมีเรื่องหนึ่งที่เธออยากบอกให้สามีรู้ สองเดือนที่แล้วสามีได้กลับมาเยี่ยมและร่วมหลับนอนหลังจากนั้นฤดูของเธอก็ไม่มาอีกเลย โชคดีที่เธอไม่แพ้ท้องจึงยังไม่มีผู้ใดรู้ เธออยากบอกกับเหวินเทียนสามีที่เธอรักเป็นคนแรก แต่แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นเพราะแม่สามีของเธอได้ชักชวนให้หญิงสาวหรือลูกสาวเจ้าของโรงเย็บผ้าที่ลู่หลินทำงานอยู่มาที่บ้าน อยากให้เธอได้เจอกับเหวินเทียนบุตรชายของตัวเอง เหวินเทียนมีใบหน้าหล่อเหลาร่างกายกำยำขยันขันแข็งหากถูกตาต้องใจลูกสาวเจ้าของโรงเย็บผ้าคงจะดีไม่น้อย จึงใช้งานเหม่ยหลิงสารพัด ให้เธอทำอาหารมากมายในตอนแรกเธอดีใจที่เห็นแม่สามีใจดีทำอาหารหลายอย่างรอเหวินเทียนและวันนี้เธอกับเวยอันคงได้ร่วมโต๊ะอาหารมื้อนี้ด้วย แต่แล้วความคิดเธอก็พังทลายเมื่อแม่สามีเดินเข้ามาในห้องครัวพร้อมบอกว่าวันนี้เธอจะแยกเหวินเทียนและให้เขาเลิกกับเธอ เหม่ยหลินเสียใจมากเธอท้องหลานของเขาอยู่หากบอกเรื่องนี้แก่แม่สามีเธอจะเปลี่ยนความคิดบ้างหรือไม่นะ? เหม่ยหลิงทำได้เพียงแค่ติดแต่ไม่กล้าแม้จะเอ่ยปากบอก
ไม่นานสามีของเธอได้เดินทางกลับมาแต่ทว่าฟางเซียนดึงตัวลูกชายเอาไว้แนะนำให้รู้จักกับซิงเยียนและทันทีที่เธอเห็นใบหน้าและรูปร่างก็ตกหลุมรักเหวินเทียนทันที
ฟางเซียนดีใจจนตัวสั่นเมื่อเห็นสายตาที่ซิงเยียนจ้องมองเหวินเทียนอย่างไม่ละสายตา เธอจึงพูดให้ทั้งสองได้อยู่ใกล้ ๆ กัน จนเหม่ยหลิงนำอาหารมาจัดวางสามีที่เห็นภรรยาเขาดีใจมากเหลือเกินจะลุกขึ้นไปช่วยเธอจัดเตรียมอาหารแต่แม่ได้ห้ามเอาไว้และให้ลู่หลินไปช่วยแทน ลู่หลินได้โอกาสเข้าไปเยาะเย้ยพูดจาเหน็บแนมจนเหม่ยหลินทนไม่ไหวจะเข้ามาแนะนำตัวต่อหน้าซิงเยียนตอนนั้นนั่นเองลู่หลินกลัวว่าแผนการจะแตกจึงดึงแขนของเหม่ยหลิงไว้ก่อนจะดันร่างบองเธอเข้ามาในห้องครัวเหมือนเดิม แต่ทว่าร่างกายของเหม่ยหลิงที่พ่ายผอมเพราะไม่ค่อยได้กินอาหารเมื่อถูกกระชากเต็มแรงทำให้เธอถลาล้มท้องไปกระแทกมุมโต๊ะวางเครื่องใช้ในครัว ความรู้สึกเจ็บปวดปะทุขึ้นมาเหม่ยหลิงใบหน้าซีดเซียวใช้มือกุมที่หน้าท้องของตัวเองอย่างตกใจ ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นความรู้สึกของเธอตอนนี้เจ็บระบมไปทั้งช่วงล่าง
"อย่ามาสำออยแค่ล้มเท่านั้นมาทำเป็นตกใจรีบลุกขึ้นมาแล้วยกของกินออกไปได้แล้วและห้ามปริปากพูดอะไรไม่อย่างนั้นฉันจะจัดการกับเธอเอง " ตอนนั้นเหม่ยหลิงสั่นเทาไปทั้งตัวขยับมือไปแตะเลือดที่่กำลังไหลออกมาพลางสะอื้นไห้ ก่อนจะกรี๊ดร้องออกมาเสียงดังอย่างเสียสติ
"กรี๊ด!! ไม่จริงลูก ลูกของฉัน" เสียงกรี๊ดร้องแห่งความเจ็บปวดทำให้ฟางเซียนเหวินเทียนกับซิงเยียนที่นั่งอยู่ด้านนอกได้ยิน รีบวิ่งเข้ามาในครัวอย่างวิตกกังวลเกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้น เมื่อเหวินเทียนเข้ามาในครัวเห็นภรรยาของตัวเองนั่งอยู่กับพื้นเลือดไหลสีแดงฉานเปอะเปื้อนชุดเขารีบนั่งลงเข้าไปถามภรรยาด้วยความเป็นห่วง ส่วนลู่หลินเมื่อเธอเห็นเลือดของเหม่ยหลิงเธอยืนอึ้งทั้งตกใจทำอะไรไม่ถูก
"เหม่ยหลิงเกิดอะไรขึ้นทำไมเลือดถึงได้ไหลออกมาอย่างนี้ เธอได้รับบาดเจ็บที่ตรงใดหรือ? " เหม่ยหลิงจ้องมองชายที่รักผ่านม่านน้ำตาที่เอ่อนองเอ่ยบอกเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างสะอึกสะอื้น
"พี่เหวินเทียนลูกของเรา ลูกของเราไม่อยู่แล้ว " เมื่อพูดจบเหม่ยหลิงที่บอบช้ำก็หมดสติลงทุกคนได้ยินถึงกับพากันใบหน้าเปลี่ยนสี ไม่มีผู้ใดที่อยู่ที่นี้รู้เลยว่าเหม่ยหลิงท้อง เหวินเทียนรีบอุ้มร่างของเหม่ยหลิงไปหาหมอทันที แต่ก็สายไปแล้วเพราะเธอร่างกายอ่อนแอและไม่ค่อยได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ อีกทั้งพักผ่อนน้อยแม้จะไม่ได้เกิดเหตุการณ์นี้ปล่อยลูกไว้ยังไงก็ต้องแท้งออกมาอยู่ดี ทำให้เหวินเทียนเสียใจเป็นอย่างมากเขาเฝ้าโทษตัวเองที่ดูแลภรรยาได้ไม่ดี หลังจากที่เหม่ยหลิงพักรักษาตัวเขาได้คุยกับแม่ของเขาเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างที่เขาไปเป็นทหารแม่ของเขาทำอะไรกับเหม่ยหลิงบ้าง แต่มีหรือที่ฟางเซียนจะพูดความจริงบอกแก่บุตรชายของตน เธอแสร้งบอกว่าเธอดูแลเหม่ยหลิงเป็นอย่างดี แต่เป็นเธอต่างหากที่ไม่ค่อยกินอะไรเอง แถมยังเก็บอาหารของตัวเองให้น้องชาย เหวินเทียนเหน็ดเหนื่อยหัวใจในเมื่อเรื่องที่ผ่านมาแล้วเขาจะปล่อยให้มันผ่านไปแต่ต่อจากนี้เขากลับมาอยู่ที่นี่แล้ว จะไม่มีทางที่จะให้เหม่ยหลิงต้องลำบากอีก แต่ใครจะคิดเมื่อเหม่ยหลิงฟื้นขึ้นมาพบว่าลูกในท้องไม่อยู่ความเสียใจและน้อยใจในโชคชะตาที่รันทดชีวิตที่ผ่านมาของเธอช่างเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน เธอเฝ้าโทษแต่ตัวเองที่ดูแลลูกเอาไว้ไม่ได้ทำให้เธอตัดสินใจที่จะจากโลกใบนี้ไปโดยไม่ได้นึกถึงเวยอันแม้แต่น้อย เมื่อเหวินเทียนกลับเข้ามาที่ห้องพบภรรยาของเขาใช้ผ้าผูกกับขื่อจบชีวิตตนเองเสียแล้ว
ตอนพิเศษฟิ้ว ฟิ้ว ..สายลมพัดเย็นนะเยือกบ่งบอกว่าช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวร่างบางยืนทอดสายตาจ้องมองกลางเมืองยามค่ำคืนพลางกอดอกแน่น ชายร่างใหญ่เดินออกมาจากในตัวบ้านโผล่เข้ากอดเธอจากด้านหลังอย่างแนบชิด"ทำไมมาอยู่ตรงนี้ไม่หนาวหรือไง ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วรีบเข้าบ้านกันเถอะ" อี้หานกระซิบถามพร้อมบอกให้ภรรยาของตน"ฉันอยากมองดูดวงจันทร์อีกสักหน่อยเดี๋ยวอีกไม่กี่วันหิมะคงจะตกเมื่อนั้นดวงจันทร์ที่สวยงามคงไม่มีให้เห็น " ตั้งแต่แต่งงานมานี่ก็สามเดือนแล้ว เหม่ยหลิงมีความสุขเสียจนคิดว่านี่เป็นเพียงความฝัน"ดวงจันทร์ไม่เห็นจะน่ามองตรงไหน สู้ภรรยาของฉันก็ไม่ได้จริงสิวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่โทรเลขมาอยากให้ลูกสะใภ้มีหลานให้อุ้มเร็ว ๆ จนท่านทั้งสองบอกให้เธอหยุดขายซาลาเปาและจะจ่ายค่าจ้างเพื่อให้เธออุ้มท้องด้วยล่ะ ภรรยาคนสวยของฉันคงไม่อยากให้ท่านทั้งสองผิดหวังหรอกใช่มั้ย? อย่างนั้นเราไปดูดวงจันทร์ต่อที่ห้องดีมั้ย ป่านนี้เวยอันคงหลับไปแล้วไม่มีใครมารบกวนแล้วนะ! " อี้หานกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาพลางหอมแก้มของเธออย่างนุ่มนวล เธออายจนใบหน้าแดงระเรื่อรีบผลักเขาออกก่อนจะเดินหนีเข้าบ้าน"ไม่เอาฉันยังไม่พร้อมจะอุ้ม
บทที่ 35 แต่งงาน"ท่านนายพลมันจะเกินไปแล้วนะ แค่ผู้หญิงต้อยต่ำคุณปกป้องเธอถึงเพียงนี้เลยหรือ? เธอคงใช้ลีลาบนเตียงเก่งสินะ ไม่ว่าจะเป็นสามีฉันเหวินเทียนหรือแม้แต่คุณก็ยังติดใจเหม่ยหลิงคนนี้ เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจจริง ๆ " ซิงเยียนที่ยืนฟังมานานเธอได้เอ่ยขึ้นด้วยความคับแค้นใจเพราะไม่ว่าจะเป็นเหวินเทียนหรือแม้แต่ท่านนายพลลุ่มหลงอะไรเธอนักหนา"นั่นสินะแต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สามีเก่าของเหม่ยหลิงโง่เง้ายอมปล่อยคนดี ๆ อย่างเหม่ยหลิงหลุดมือ ฉันไม่สนใจว่าเหมยหลิงจะผ่านใครมาหรือว่าอดีตจะเป็นอย่างไรเพราะฉันเองก็มิใช่ชายที่บริสุทธิ์ฉันเคยผ่านการมีภรรยามาก่อนอย่างนี้เท่ากันว่าฉันกับเหม่ยหลิงเราเท่าเทียมกันแล้ว คุณหนูซิงเยียนลูกสาวคนเดียวเจ้าของโรงเย็บผ้าสินะ! จำไม่ผิดเมื่อไม่กี่วันก่อนส่งคนมาทำร้ายเหม่ยหลิงถึงบ้าน วันนั้นฉันใจเย็นเพราะเหม่ยหลิงห้ามเอาไว้ หากไม่มีเธอลูกน้องของคุณหนูคงไม่ได้กลับไปอย่างมีชีวิตอยู่ คงผยองใจที่ฉันไม่เอาเรื่องสินะ ไม่ว่าจะเป็นครั้งก่อนที่เหวินเทียนสามีเก่าบุกเข้ามาหวังข่มขืน หรือจะเป็นเรื่องซาลาเปาเน่า ๆ ที่มาใส่ร้ายและคอยมาตามรังแกเหม่ยหลิงไม่เลิกลา หากวันนี้ฉันจะเอา
บทที่ 34 ผู้หญิงไร้ค่าฝั่งด้านเหม่ยหลิงหลังจากที่เธอหยุดไปหลายวันเมื่อเปิดขายอีกครั้งทำให้ซาลาเปาของเธอขายดีเพราะลูกค้าประจำคิดถึงและอยากกินพากันซื้อไปคนละหลายลูก ตอนนี้เหม่ยหลิงกำลังเก็บกวาดร้าน เพราะขายซาลาเปาหมดแล้วจังหวะนั้นเองเธอสาดน้ำราดที่ถนนหน้าบ้านพอดีเป็นจังหวะเดียวกันที่สามคนแม่ลูกเดินเข้ามาหาเธอ พวกเธอร้องกรี๊ดเสียงดังต่อว่าเหม่ยหลิงขับไล่"กรี๊ด!! อะไรของเธอกันช่างไร้มารยาท" เหม่ยหลิงมองทั้งสามพลางถอนหายใจทำไมคนพวกนี้ยังมาวุ่นวายอีก เธออุตส่าห์ไม่ไปเอาเรื่องซิงเยียนที่ส่งคนมาทำร้ายเธอแต่วันนี้ทั้งสามพากันเดินมาหาเธออย่างพร้อมหน้าดูก็รู้แล้วว่าต้องมาหาเรื่องแน่นอน"อะไรกันเดินมาไม่ดูเองยังหาว่าฉันเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ? ถามชาวบ้านที่เดินไปมาแถวนี้สิว่าเมื่อครู่ฉันตั้งใจจะทำอย่างนั้นหรือพวกคุณเดินมาไม่ดูเอง วันนี้ตอนแรกก็อากาศแจ่มใสดีอยู่ทำไมตอนนี้เริ่มมืดครึ้มไปเสียแล้วล่ะ เป็นอย่างนี้ทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย " เหม่ยหลิงทำเป็นไม่สนเดินถือกระถังน้ำเข้าบ้าน ลู่หลินทนไม่ไหวคว้าตัวเธอเอาไว้พร้อมกระชากผมของเธอเต็มแรง"นี่แกกล้าทำกับพวกฉันแบบนี้เหรอ? หลายครั้งมาแล้วที่ฉันไม
บทที่ 33 มีดีอะไรนักหนาทั้งสามมาถึงบ้านของลุงจ่าวทันทีที่ป้าเสี่ยนเห็นหน้าของอี้หานก็จดจำได้ทันทีนี่นายทหารที่เห็นวันนั้นเธอยิ้มกริ่มจ้องมองใบหน้าของเหม่ยหลิง วันนี้เธอคงพาเขามาเปิดตัวสินะ เมื่อเธอจะเอ่ยถามแต่ก็ถูกเหม่ยหลิงกระซิบกระซาบเสียก่อน“ฉันรู้นะว่าป้าคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่ป้าคิดหรอกนะ เวยอันชื่นชอบนายพลผู้นี้มาจึงชักชวนเขามาด้วยฉันขัดไม่ได้จึงยอมให้เขามาด้วยเท่านั้น”“ป้ายังไม่ได้ว่าอะไรเลยมีเพียงแค่เวยอันหรอกหรือที่ชื่นชอบท่านนายพลป้าคิดว่าอาเหม่ยก็ชอบเหมือนกันซ่ะอีก ฮ่า ฮ่า ท่านนายพลเชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะวันนี้คงเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดของสามีฉันแล้วที่มีนายพลผู้ยิ่งใหญ่มาร่วมงาน” ป้าเสี่ยนพูดจบได้เดินจากเหม่ยหลิงไปหาอี้หานเชิญเขาเข้าไปในบ้านปล่อยให้เหม่ยหลิงยืนหน้าแดงอยู่เพียงลำพังทุกคนร่วมกันกินอาหารเย็นกันอย่างสุขสันต์จนถึงเวลาเอ่ยคำอวยพรและมอบของขวัญให้ และพากันแยกย้ายกลับบ้าน อี้หานสั่งให้ลูกน้องชุดเดิมกลับไปพักและสลับเปลี่ยนอีกชุดมาเฝ้าที่หน้าบ้านของเหม่ยหลิง ใจจริงเขาเองอยากจะอยู่เฝ้าเธอแต่จะทำให้เธอลำบากใจจึงทำได้เพียงให้ลูกน้องมาเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้2 ว
บทที่ 32 พี่ชอบพี่สาวฉันจริง ๆ ใช่มั้ยเขาค่อย ๆ ทายาให้เหม่ยหลิงอย่างเบามือเธอจ้องมองความอ่อนโยนที่เขามอบให้ เขาเป็นคนเดียวเมื่อไหร่ที่เธอพบเจอกับเรื่องอันตรายจะเข้ามาช่วยไว้ได้เสมอ เมื่อมีเขาอยู่เคียงข้างหัวใจของเธออบอุ่นทุกครั้ง ความหวาดกลัวที่มีทั้งหมดได้หายไป"ขอบคุณนะคะที่เข้ามาช่วยเหลือฉันทุกครั้งที่ฉันตกอยู่ในเหตุการณ์อันตราย หากไม่มีคุณฉันคงไม่รู้จะทำอย่างไรเลย ""ไม่เห็นจะต้องขอบคุณหลายครั้งเลย คงเป็นโชคชะตาที่ลิขิตมาให้เราได้พบเจอกัน ตอนนี้รู้สึกดีแล้วใช่มั้ยฉันขอออกไปคุยกับลูกน้องสักครู่นะ" เหม่ยหลิงพยักหน้าให้อี้หาน เขาเดินออกมาด้านนอกสั่งการให้ลูกน้องไปสืบประวัติสามีเก่าของเหม่ยหลิงรวมถึงซิงเยียนที่เป็นคนสั่งการให้คนมาทำร้ายเหม่ยหลิงอีกด้วย เมื่อสั่งการเสร็จเขาได้เดินเข้ามาหาเหม่ยหลิงด้านในเห็นเธอกำลังเก็บของที่หล่นลงบนพื้นที่ซื้อมาจากตลาดอย่างทุลักทุเลจึงนั่งลงช่วยเธอเก็บของ"มาให้ฉันช่วย ซื้อของมาเยอะขนาดนี้จะขายซาลาเปาพรุ่งนี้ใช่มั้ย? แขนเจ็บแบบนี้คงนวดแป้งไม่ได้แน่ ๆ ว่าแต่ของนี่คืออะไร"เขาเก็บของหันไปเห็นของมีค่าคล้ายซื้อไว้เก็บสะสมนิยมมอบให้ผู้ใหญ่ที่นับถือ"อ้อ...
บทที่ 31 เป็นเขาอีกแล้วที่ช่วยเหลือเมื่อมาถึงหน้าประตูเหม่ยหลิงวางของไว้ที่โต๊ะหน้าบ้านก่อนจะไขกุญแจเปิดโดยมีชายคนนั้นคอยเดินตามหลังติด ๆ ทันทีที่เธอเปิดประตูเหม่ยหลิงคว้าไม้ถูพื้นฟาดใส่หัวของชายคนนั้นทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทำให้เขาโมโหผลักกายของเหม่ยหลิงจนล้มกับพื้น"โอ๊ย!!! นี่เธอกล้าลงมือกับฉันอย่างไม่หวาดกลัวเลยอย่างนั้นหรือตอนแรกตั้งใจแค่มาข่มขู่แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ต้องทำให้เธอเจ็บกว่าฉัน""อึก! ฉันไปทำอะไรให้ทำไมต้องมาทำฉันแบบนี้อยากได้อะไรก็เอาไปเลย" เหม่ยหลิงเจ็บแขนเพราะถูกผลักจนล้มถลาลงทับแขนตัวเอง ความหวาดกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นแววตาของชายที่อยู่ตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เขาอาฆาตจนเหม่ยหลิงคิดว่าหากเธอสู้ไม่ไหวหรือไม่มีใครช่วยเธอได้วันนี้เธอคงได้ตายอีกครั้งแน่ ๆ คนเดียวที่เธอคิดถึงกลับเป็นอี้หาน เฝ้าภาวนาในใจให้เขามาช่วยเธอ"เธอไม่เคยทำอะไรให้ฉันแต่เป็นคุณหนูของฉันต่างหากที่เธอไปก่อกวนให้รำคาญใจ ไม่พูดมากมานี่ซ่ะดี ๆ ฉันจะจัดการให้เธอเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เอง" เขาขึ้นคร่อมร่างของเหม่ยหลิงก่อนที่จะยกมือที่ถือมีดขึ้นเพื่อแทงเข้าที่หน้าอกของเธอ เหม่ยหลิงหัวใจเต้นร