บทที่ 6 เปิดร้านใหม่
เช้าตรู่วันต่อมาฟู่เยี่ยนตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อทำการติดต่อกับฉิงเชา
"สวัสดีฉิงเชาเธอได้ยินฉันมั้ย"
ติ่ง ...!!
"สวัสดีฟู่เยี่ยนตอนนี้เธอต้องการสิ่งของแล้วสินะถึงได้เรียกหาฉัน"
"ใช่แล้ว วันนี้้ฉันต้องการของมาวางขาย" ฟู่เยี่ยนพูดจบมิติได้ถูกเปิดแสงสว่างจ้าของร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ส่องสว่างออกมา
"เชิญเลือกของที่เธอต้องการได้เลย เธอทำความดีระหว่างที่มาที่นี่ครั้งหน้าเธอจะได้เข้ามาเลือกของโดยไม่ต้องทำความดีเพื่อแลกของ" สิ้นเสียงของฉิงเชาฟู่เยี่ยนจับรถเข็นเดินเลือกหยิบจับของที่จำเป็นของยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาซักผ้า สบู่ครีมแป้งและของใช้ในครัวเรือน ของใช้ในชีวิตประจำวันทุกอย่างเธอไม่ลืมที่จะหยิบออกมา รวมทั้งยาและขนมอีกด้วยเมื่อได้สิ่งที่ต้องการครบครัน แสงสว่างได้หายไปตอนนี้เธอนำของมาวางไว้ด้านล่างของตัวเรือน
ตอนนี้แสงสว่างของดวงอาทิตย์เริ่มสาดส่องเข้ามา เวลานั้นเจียวเจียนตื่นและลงมาด้านล่างเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง แต่เมื่อลงมาเห็นของที่อยู่ด้านล่างทำให้เธอตกใจดวงตาเบิกโพลง
"โอ้โห่ นี่มันอะไรกันคะของพวกนี้มาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"เจียวเจียนตื่นแล้วเหรอ เมื่อวานตอนที่เราออกไปตลาดฉันได้ไปสั่งของใช้พวกนี้ให้เขานำมาส่งนะ ตอนนั้นเธอน่าจะกำลังไปซื้อไอศกรีมเลยไม่เห็นตอนฉันสั่งของ "
"แล้วทำไมต้องมาส่งแต่เช้าด้วยคะ แถมพี่ฟู่เยี่ยนไม่ปลุกฉันด้วย"
"ฉันจะรีบปลุกเธอทำไมกัน ของพวกนี้คนงานที่ร้านเขานำลงมาอีกอย่างตอนนี้ชั้นวางของยังไม่มาติดตั้งคงยังไม่มีอะไรให้เธอทำนะ "
"อย่างนั้นฉันจะทำอาหารเช้าให้พี่ฟู่เยี่ยนนะคะ อยู่ที่บ้านหน้าที่หุงข้าวทำกับข้าวเป็นหน้าที่ของฉัน"
"เอาอย่างนั้นก็ได้ " ฟู่เยี่ยนถอนหายใจอย่างโล่งอกคิดว่าเจียวเจียนจะสงสัยเธอมากกว่านี้เสียอีก
สองวันต่อมาร้านของฟู่เยี่ยนเปิดกิจการ ผู้คนละแวกนั้นพากันตื่นตาตื่นใจไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ไม่เคยพบเห็น และฟู่เยี่ยนทำทำการค้าได้ดี หากใครซื้อของร้านเธอครบสิบหยวนเธอจะแถมน้ำยาซักผ้าถุงเล็กไปให้ทดลองใช้ ผู้คนจึงเข้ามาจับจ่ายใช้สอยกันมากมาย ป้าซือเสียนมาช่วยในวันเปิดร้านวันแรก ราคาของทุกอย่างฟู่เยี่ยนใช้ปากกาเขียนติดทุกอย่างให้คนที่เลือกซื้อได้เห็นราคา เธอเป็นคนคิดเงินส่วนป้าซือเสียนยืนอยู่หน้าร้านตรวจสอบความปลอดภัย ส่วนเจียวเจียนคอยเติมของในชั้นวาง ฟู่เยี่ยนดีใจมากที่ร้านของเธอขายดีจนของในร้านเริ่มหมดไปเยอะมาก เธอคิดว่าในหมู่บ้านนี้จะขายไม่ค่อยได้เสียอีก
"เฮ้อ! วันนี้ช่างเป็นวันที่เหนื่อยแต่มีความสุขจริง ๆ เลย "
"พี่ฟู่เยี่ยนไปนั่งพักก่อนได้นะคะส่วนตรงนี้ฉันจะช่วยดูแลให้ ตอนนี้คนเริ่มซาแล้วด้วย" เจียวเจียนเห็นฟู่เยี่ยนเหนื่อยมาทั้งวันแถมยังไม่ได้กินข้าวกลางวันด้วยเธอเป็นห่วงจึงเดินมาบอกให้ฟู่เยี่ยนไปพักเสียหน่อย
"นั่นสิ หนูฟู่เยี่ยนท้องอยู่ด้วยต้องกินข้าวให้ตรงเวลายืนนานไม่ดีต่อสุขภาพรู้มั้ย"ป้าซือเสียนพูดขึ้นอีกคน
"ได้ค่ะอย่างไรฝากด้วยนะคะ วันนี้ร้านคงต้องปิดเร็วหน่อยเพราะของบางอย่างหมดแล้ว ป้าซือเสียนไม่รีบกลับบ้านเย็นนี้อยู่ฉลองเปิดร้านใหม่กับพวกเราก่อนนะคะ ปิดร้านแล้วเราไปกินข้าวข้างนอกกัน"
"ว๊าววว หนูฟู่เยี่ยนใจดีจริง ๆ "
พูดจบฟู่เยี่ยนเดินไปกินข้าวที่เจียวเจียนจัดเตรียมไว้ให้ ช่วงนี้เธอยุ่งจนแทบไม่มีเวลาไปคิดถึงครอบครัวของเธอเลยสักนิด
ฝั่งด้านเสี่ยวฮั่ว
หลังจากที่หย่ากับฟู่เยี่ยนเขากลับมาจากปกติจะมีเธอคอยยืนต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มต่อให้เขาใบหน้าบูดบึ้งใส่เท่าไหร่เธอมักจะส่งยิ้มตอนรับเสมอ เมื่อไม่มีเธอเหมือนอย่างเคยรู้สึกเหมือนบ้านหลังนี้มีอะไรขาดขายไป
"ทำไมยืนนิ่งอยู่แบบนั้นครับไม่เข้าบ้านหรือไง หรือว่าท่านนายพลคิดถึงคุณนาย แต่ก็น่าใจหายนะครับเมื่อไหร่ที่กลับมาจะพบคุณนายอยู่ตรงนี้เสมอ แถมยังจัดเตรียมของกินน้ำเย็น ๆ อาหารว่างไว้รอทุกวัน "
"เงียบปากของนายเดี๋ยวนี้ฉันไม่ได้คิดถึงใครทั้งนั้น เธอออกจากชีวิตของฉันไปก็ดีมากเท่าไหร่แล้วมีเธออยู่ที่นี่ฉันทนอึดอัดมาตั้งสองสามเดือนมีอะไรไปทำก็รีบไปทำเข้า "
"อึดอัดอะไรกันเสี่ยวฮั่ว " เสียงผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ของเสี่ยวฮั่วดังขั้นมาจากด้านใน ใบหน้าของเขาซีดเผือกทันที
"คุณแม่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ ทำไมไม่แจ้งล่วงหน้า"
"ทำไมต้องแจ้งด้วยล่ะ ฉันมาหาหนูฟู่เยี่ยนลูกสะใภ้ของฉันนะสิว่าแต่นี่เธอไปไหนฉันมาที่นี่ได้สักพักไม่เห็นเธอเลยหรือว่าออกไปตลาดซื้อของอย่างนั้นหรือ? "
"คุณแม่ครับวันนี้ฟู่เยี่ยนไม่สบายคงให้คุณแม่เข้าพบไม่ได้เธอเป็นไข้หวัดนะครับ วันนี้คุณแม่กลับไปก่อนและค่อยมาวันหน้านะครับ ไม่อย่างนั้นผมจะบอกให้เธอไปหาคุณแม่ที่บ้านเอง"
"อะไรนะ !!นี่ลูกสะใภ้ฉันไม่สบายอย่างนั้นเหรอ? จะให้ฉันกลับได้ยังไง ฉันจะต้องไปดูอาการเธอเสียหน่อยแล้วหากไม่สบายมากก็รีบพาไปหาหมอสิ แกนี่ไม่ได้เรื่องเลยนะ" ใบหน้าของเสี่ยวฮั่วเริ่มมีเหงื่อผุดออกตามรูขุมขน หันไปมองหน้าของตู่หนานเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ทว่าตู่หนานกลับส่ายหหน้าและเดินหนีออกไป
ฉิงถิงรีบเดินไปที่ห้องนอนของเสี่ยวฮั่วไปดูอาการลูกสะใภ้ เสี่ยวฮั่วรีบเดินตามก่อนจะยืนบังไม่ให้คนเป็นแม่เข้าไปด้านในไม่อย่างนั้นเธอจะจับได้แน่นอนว่าตอนนี้ทั้งสองหย่ากันแล้ว
"คุณแม่ครับอย่าเข้าไปเลยนะครับ หากเข้าไปรบกวนเวลาคนป่วยอาจทำให้เธอรำคาญและปวดหัวมากกว่าเดิม ผมจะเข้าไปดูเธอเอง และถ้าเธอไม่ไหวจริง ๆ ผมที่เป็นสามีต้องดูแลเธออยู่แล้ว แต่ว่าถ้าคุณแม่เข้าไปแล้วติดไข้หวัดจากเธอใครจะดูแลคุณแม่กัน อีกอย่างคุณแม่อายุเยอะแล้วหากเจ็บป่วยไปอีกคนฟู่เยี่ยนคงต้องโทษตัวเองที่ทำให้คุณแม่ไม่สบายเชื่อผมเถอะนะครับ"
ฉิงถิงเริ่มคิดตามคำพูดของเสี่ยวฮั่วก่อนจะถอนหายใจออกมา
"เอาอย่างนั้นก็ได้ ฉันทำซุปไว้อย่าลืมเอาเข้าไปให้ลูกสะใภ้กินด้วย "
"ครับคุณแม่จะกลับแล้วผมจะให้ตู่หนานไปส่งนะครับ"
"ไม่ต้องเดี๋ยวฉันจะกลับเอง " พูดจบฉิงถิงไปหยิบกระเป๋าของเธอก่อนจะออกไปจากบ้านของเสี่ยวฮั่ว เขาถอดหายใจอย่างโล่งอกคิดว่าจะถูกจับไปเสียแล้ว
บทที่ 29 ความรักที่แท้จริงหนึ่งเดือนผ่านมาตอนนี้ฟู่เยี่ยนยังอยู่กับจางจื่อจือแต่ไม่ได้อยู่ในฐานะเพื่อนเพราะตอนนี้ทั้งสองได้หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้ว และวันนี้ทั้งสองตั้งใจจะเดินทางไปที่มณฑลเหิงฉีไปหาพ่อของฟู่เยี่ยนเพื่อทำทุกอย่างให้เป็นทางการและขนบธรรมเนียม ฟู่เยี่ยนเองก็อยากกลับไปขอโทษที่เธอไม่ได้บอกลาและติดต่อไปเลยสักครั้งยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเสียใจที่ละเลยความรู้สึกของคนแก่คนหนึ่งที่ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นห่วงเธอมากขนาดไหนติ่ง !! เสียงระบบดังขึ้นในระหว่างที่ฟู่เยี่ยนกำลังแต่งตัวเพื่อออกเดินทาง“สวัสดีฟู่เยี่ยน ดูเหมือนตอนนี้เธอมีความสุขดีสินะ”“ใช่ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก ว่าแต่เธอเถอะเงียบหายไปเลยตั้งแต่มาบอกเรื่องภารกิจ แล้วเรื่องที่ฉันทำภารกิจผ่านไม่ผ่านไม่เห็นจะมาบอกเลยสักครั้งเวลาที่ฉันอยากได้ของเพียงแค่คิดมิติก็เปิดออกเธอไปไหนมา ”“ฉันมีเรื่องให้ทำนิดหน่อยนะ วันนี้ฉันมาเพื่อแจ้งเรื่องภารกิจเธอทำได้สำเร็จ ฉันดีใจด้วยนะและฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะมาแจ้งเธอ”“เรื่องสำคัญอะไรเหรอ ? ว่าแต่ภารกิจที่เธอทำให้ ทำให้คนรักมีความสุขนี่คือใครกันหรือใช่ผิงผิงมั้ย” “เรื่องภารกิจที่ฉันให้เธอทำให้คนรักม
บทที่ 28 ฉันเลือกคุณฟู่เยี่ยนขับรถมาถึงบ้านต้องแปลกใจ บ้านที่สว่างรอเธออยู่ทุกวันวันนี้กลับมืดไร้แสงไฟ เธอดับเครื่องยนต์ทุกคนพากันเดินลงจากรถด้วยความสงสัยไม่ต่างกัน“พี่ฟู่เยี่ยนนายอำเภอจางจื่อจือวันนี้ออกไปทำงานนอกพื้นที่ใช่มั้ยคะ ”“จริงสิฉันลืมได้ยังไงกันนะ วันนี้เขาคงเหนื่อยมาก ๆ แน่ ๆ เราช่วยกันทำกับข้าวไว้รอเขากันเถอะ ส่วนผิงผิงลูกอิ่มแล้วใช่มั้ยนั่งเล่นของเล่นรอแม่กับพี่เจียวเจียนทำกับข้าวก่อนนะ ทำเสร็จแล้วจะให้พี่เจียวเจียนพาไปอาบน้ำ”“ค่ะคุณแม่ ” ทั้งสามเดินเข้ามาในบ้านพร้อมเปิดไฟแต่เมื่อเดินไปที่ห้องครัวกลับพบว่าตอนนี้บนโต๊ะกับข้าวมีอาหารเต็มไปหมด“เอ๊ะ ! ทำไมกับข้าวถึงมีเต็มโต๊ะแบบนี้คะหรือว่านายอำเภอกลับมาแล้ว ว่าแต่ทำไมถึงไม่เปิดไฟกัน” เจียวเจียนพูดขึ้นด้วยความสงสัยฟู่เยี่ยนพลางครุ่นคิดหรือว่าเขาเหนื่อยมากจนปิดไฟนอน แต่ทว่าเขาไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้ง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกกว่ามีอะไรแปลก ๆ ไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จึงบอกให้เจียวเจียนพาผิงผิงไปอาบน้ำ“เจียวเจียนเธอพาผิงผิงไปอาบน้ำและให้ผิงผิงเล่นอยู่ในห้องเธอค่อยมากินข้าวนะ ฉันจะไปดูจางจื่อจือก่อนฉันคิดว่าเขาน่าจะไม่สบาย” เธอรู้
บทที่ 27 จากกันด้วยดีแต่ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าและท่าทางของฟู่เยี่ยนต้องทำให้เขาหุบยิ้มทันที ครั้นนั้นฟู่เยี่ยนไม่ได้จะหยิบจับแหวนในกล่องเธอดันกล่องกลับมาหาเขาใบหน้าของเธอแสดงความดุดันและจริงจังอย่างที่เขาเคยเห็นเมื่อครั้งที่เธอขอหย่า“เก็บแหวนของคุณไว้เถอะค่ะ แหวนวงนี้ฉันขายทิ้งไปแล้วเช่นเดียวกับความรู้สึกที่ฉันตัดสินใจขายมัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกดี ๆ ความรักความผูกพันมันจบลงตั้วแต่วันนั้นแล้ว เราทั้งสองไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก แต่เราสามารถทำหน้าที่พ่อและแม่ให้แก่ผิงผิงได้ ฉันเปิดใจยอมให้อภัยในสิ่งที่ผ่านมาแต่ทว่าตอนนี้หัวใจของฉันมีคนอื่นเข้ามาอยู่แทนคุณแล้ว คนที่ทำทุกอย่างโดยที่ฉันไม่ได้ร้องขอเขาเป็นห่วงห่วงใยคอยเอาใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยเขาไม่เคยสนใจรูปร่างภายนอกของฉันและไม่เคยอายที่มีฉันเดินเคียงข้าง สิ่งนั้นที่เขามีคุณไม่เคยมีเราทั้งคู่จากกันด้วยดีเถอะนะคะ ฉันไม่อยากจะเกลียดคุณไปมากกว่านี้ ” เสี่ยวฮั่วพูดไม่ออกร่างกายสั่นเทาใจของเขาเริ่มสั่นคลอนไปหมด“ฉันไม่มีทางเข้าไปแทรกเลยสินะ เอาล่ะฉันเองก็เป็นลูกผู้ชายพอในเมื่อเธอตัดสินใจอย่างนั้นฉันเองไม่สามารถ
บทที่ 26 แต่งงานกับฉันนะเสี่ยวฮั่วดีใจมาก ๆ ที่ฟู่เยี่ยนเธอเริ่มเปิดใจให้เขาเข้าใกล้ผิงผิงและตอนนี้เธอยังยอมบอกว่าเขาคือพ่อของผิงผิงอีกด้วย เขาพาเด็กหญิงตัวน้อยนั่งรถไปหาคุณแม่ของเขาที่บ้านป้าไป๋เซียง คุณแม่ต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ได้เห็นหลายสาวน่ารักคนนี้“ผิงผิงพ่อขอโทษนะ ลูกคงจะโกระจะเกลียดพ่อมากใช่มั้ยที่ไม่ได้ดูแลและเลี้ยงลูกมา” เสี่ยวฮั่วขับรถยนต์พลางหันมามองหน้าของผิงผิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา เด็กหญิงเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกห่างจากอกผู้เป็นแม่เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนจะคอยมีฟู่เยี่ยนคอยอยู่ข้าง ๆ เสมอ“หนูไม่โกรธและก็ไม่เกลียดคุณลุงเลยค่ะ ดีใจเสียอีกที่ได้รู้ว่าพ่อของหนูยังมีชีวิตอยู่ ”“ผิงผิงเป็นเด็กดีจริง ๆ เลิกเรียกคุณลุงได้แล้วนะเรียกคุณพ่อสิ” “ได้ค่ะคุณพ่อ” ผิงผิงยิ้มหวานให้แก่เขา ทั้งสองพากันเดินทางไปถึงบ้านป้าไป๋เซียง แม่ของเสี่ยวฮั่วต่างก็แปลกใจและดีใจที่เห็นหน้าของหลานสาว เธอพาผิงผิงไปกินข้าวพาเที่ยวเล่นและซื้อของเล่นอย่างที่ผิงผิงอย่างได้ จนกระทั่งถึงเวลาไปส่งผิงผิงที่ร้านเพราะตอนนี้ก็ค่ำมากแล้ว ระหว่างทางไปที่ร้านเหมียวเหมียวฉิงถิงได้เอ่ยถามลูกชายเพร
บทที่ 25 ผิงผิงเกลียดคุณแม่“คุณมาทำอะไรที่นี่ผิงผิงมาหาแม่เดี๋ยวนี้” เสียงแหลมตะโกนออกมาดังสนั่นทำให้ทั้งสองหันขวับไปมองทันที ผิงผิงรีบเดินไปหาแม่ของเธออย่างรวดเร็วเพราะกลัวจะถูกแม่ว่า“ฟู่เยี่ยน... ฉันแค่อยากเจอผิงผิงทำไมเธอถึงใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้” “ใจร้ายเหรอ ? ฮึ..ใช่ฉันมันใจร้ายแต่ใครกันที่ใจร้ายกว่าถ้าคุณยังไม่เลิกยุ่งกับเราสองแม่ลูกฉันจะพาผิงผิงหนีไปให้ไกลที่สุด และรอบนี้คุณจะไม่ได้เห็นเธออีก” “คุณแม่คะคุณลุงรู้สึกผิดและเสียใจที่เคยทำร้ายจิตใจคุณแม่ คุณแม่ยกโทษให้คุณลุงเถอะนะคะ คุณแม่เคยสอนไม่ใช่เหรอคะถ้าเราทำผิดให้ขอโทษการขอโทษคือทางออกที่ดีที่สุด อย่างนั้นแค่คุณลุงขอโทษคุณแม่ก็ควรให้อภัยไม่ใช่หรือคะ”“ผิงผิงเรื่องนี้หนูยังไม่เข้าใจ ชายคนนี้เลวร้ายยิ่งกว่าที่หนูคิดเชื่อแม่อยู่ให้ไกลจากคน ๆ นี้ ”“ทำไมล่ะ ? ทำไมเธอถึงไม่สนใจความรู้สึกของลูกบ้าง เธอจะพรากฉันกับลูกอีกนานแค่ไหน ฉันเองก็มีสิทธิ์ในตัวลูกเหมือนกันนะฉันขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ฉันผิดไปแล้วให้ฉันได้ทำหน้าที่พ่อให้แก่ผิงผิงเถอะนะ ” เสี่ยวฮั่วเดินเข้ามาใกล้พร้อมบอกผิงผิงว่าเขาคือพ่อของเธอ ตอนนี้ผิงผิงงงงวยไปหมดร
บทที่ 24 ฉันคือพ่อของผิงผิงฝั่งด้านเสี่ยวฮั่วเขาไม่ได้ไปหาฟู่เยี่ยนแต่เลือกที่จะไปหาผิงผิงที่โรงเรียนเขาไม่ลืมที่จะซื้อขนมหวานติดไม้ติดมือมาด้วย เขาให้ตู่หนานพาแม่ไปหาฟู่เยี่ยนส่วนเขามาที่นี่คนเดียว ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเวลาวิ่งเล่นของเด็ก ๆ เขาเดินเข้ามาในโรงเรียนต้องถูกยามที่หน้าโรงเรียนเรียกตัวเองไว้ก่อน“เดี๋ยวครับ คุณเป็นผู้ปกครองหรือเป็นใครที่จะเข้าไปในโรงเรียนครับ ”“ฉันเป็นพ่อของผิงผิง อยากเข้าไปหาเธอสักหน่อยเธอเรียนอยู่ที่นี่ใช่มั้ย” ยามจ้องมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเขาก็จำได้ผู้ปกครองที่มารับผิงผิงจะมีแต่ผู้หญิงและยิ่งเรื่องการลักพาตัวเด็กไปแลกค่าไถ่หรือจับตัวไปขอทานช่วงนี้ยิ่งมีเยอะการที่เขาเป็นยามของที่นี่จึงต้องเข้มงวด“ผู้ปกครองของผิงผิงเหรอครับ อย่ามาโกหกเลยแกเป็นพวกลักพาตัวเด็กใช่มั้ย นี่จะเอาขนมมาล่อเด็กและจับตัวไปสินะคิดว่าฉันไม่รู้หรือไงออกไปจากที่นี่ก่อนที่ฉันจะเรียกจัดการเรียกตำรวจ” เสี่ยวฮั่วตกใจคิดว่าที่นี่จะเข้าง่าย แต่ก็เข้าใจยามที่เฝ้าหน้าประตูดี เขาช่างเป็นคนที่รักในหน้าที่จริง ๆ“ฉันไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ คุณเองก็น่าชื่นชมทำหน้าที่เป็นอย่างดี ฉันคือนายพลเว่ย