“เช็ดซะ ฉันไม่ชอบน้ำตาผู้หญิง เธออยู่ที่นี่ต่อจนกว่าจะเรียนจบก็ได้ ฉันจะออกค่าใช้จ่ายที่เหลือให้เอง ถือว่าตอบแทนซาร่า ที่คอยดูแลฉันอย่างดีมาตลอด” เมรีเงยหน้ามองชายสูงศักดิ์ตรงหน้าด้วยความซาบซึ้ง ชื่นชม
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ” เมรียกมือไหว้ปรกๆ เอ่ยขอบคุณเสียงพร่า ยกผ้าเช็ดหน้าหอมอ่อนๆ เช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าอย่างยินดี เธอฝืนยิ้มให้เจ้านายของแม่ ทั้งที่ริมฝีปากอิ่มยังสั่นระริกเพราะกลั้นเสียงสะอื้นไว้ มันเป็นน้ำตาแห่งความยินดี ยังมีคนใจดีเมตตาตนเอง
“ฉันหมดธุระกับเธอแล้วล่ะ เธอกลับไปเถอะ ไว้เธอเรียนจบเมื่อไหร่เราค่อยมาคุยกันถึงเรื่องนี้อีกที” ฟรองซัวร์อนุญาตให้เมรีกลับไปพัก เขาหลุบเปลือกตาลงปิดบังประกายตาร้อนแรง
เมรีทรงตัวลุกขึ้นยืน เธอไม่ได้ตัวเล็กอย่างที่เขาคิด คงเป็นชาติกำเนิดและเชื้อพันธุ์ชีวิต เธอเลยดูตัวเล็กบอบบาง เมื่อเทียบกับผู้หญิงในฝั่งยุโรป เรือนกายอรชรทูกใจฟรองซัวร์ เขาแอบสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่รวยรินออกมาจากคนตรงหน้า เมื่อเมรีขยับตัวเบาๆ เขาชอบกลิ่นแบบนี้มากกว่ากลิ่นน้ำหอมชั้นนำที่มีเกลื่อนเมือง และสาวๆ นิยมใช้
เมรีเดินออกไปจากห้อง ฟรองซัวร์มองตามเขาถอนใจแรงๆ แปลกใจนิดๆ กับความผิดปกติของตัวเอง เกิดปฏิกริยารุนแรงกับผู้หญิงที่เพิ่งพบหน้า เนื้อตัวเต้นยุบยับ เหมือนสัตว์ตัวผู้ที่ถึงฤดูผสมพันธุ์!!
“คุณท่านต้องการอะไรเพิ่มไหมครับ” บัตเลอร์วัยชราที่รับใช้ตระกูลมาร์เซย์มาตั้งแต่รุ่นเก่า กระซิบถามเสียงสำรวม
ฟรองซัวร์ปรือตามอง “หาห้องให้เมรีอยู่ใหม่ด้วย เอาที่โปร่งๆ สบายหน่อยไม่แออัดเกินไป แยกออกมาอยู่เสียในตึกนี่เลยก็ได้ ช่วยจัดการให้ด้วยนะ”
“ครับนายท่าน…”
“มารายงานฉันด้วยล่ะ…” ฟรองซัวร์เปรยบอก เมื่อบัตเลอร์ชราถอยหลังออกไป แววตาของคนโตกว่ามีร่องรอยความกังวลจนเห็นได้ชัด
ความเป็นอยู่ของเมรีดีขึ้นกว่าก่อน คงเป็นเพราะไม่ต้องประหยัดเหมือนตอนที่เดินทางมาถึงฝรั่งเศสใหม่ๆ ตอนนั้นมารดาของเธอต้องประหยัดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพราะแค่ค่าเดินทางของเมรีก็ต้องใช้เวลาเก็บอยู่นาน ไหนจะค่าเล่าเรียนของเมรีอีก ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ทำให้เธอโหมทำงานหนักเพิ่มขึ้น สะสมทุกบาททุกสตางค์เพื่อให้บุตรสาวเพียงคนเดียวได้มาอยู่ด้วยกัน ฟรองซัวร์ออกค่าใช้จ่ายให้เมรีจนเหลือเฟือ แต่เพราะเคยประหยัดจนเคยตัว เมรีก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม จนสาวใช้ในบ้านคลายความริษยาลง หลายคนแอบอิจฉาในความโชคดีของเมรี เธอได้รับโอกาสดีๆ เจ้าของคฤหาสน์หนุ่มรูปหล่อ
เริ่มต้นวันใหม่ของทุกวัน เมรีจะเข้าไปช่วยเอสก้าทำงานในครัว จนสาวใหญ่ผู้นั้นรักและเอ็นดูเมรีเหมือนเป็นลูกหลาน นางสอนเมรีเรื่องการทำอาหาร และขนมอบให้เมรีหลายอย่าง จนเธอคลายความเศร้า ก่อนจะออกไปเรียนเมรีสาละวนช่วยทำงานอย่างแข็งขัน ไม่สนใจว่าจะถูกเหน็บจากคนรอบตัวมากเพียงใด เธอยิ้มรับโดยไม่โกรธ เมรีจึงเป็นที่รักใคร่ของคนในบ้าน แต่ก็เป็นแค่ชนชั้นแรงงานเท่านั้นที่พอใจ กับประมุขของคฤหาสน์มาร์เซย์ โซเฟีย ไม่เคยชอบหน้าหญิงอาภัพผู้นี้เลย นางเล็งเห็นอนาคตได้อย่างชัดเจน หญิงผู้นั้นงดงามผิดจากคนธรรมดาทั่วๆ ไป ประกายบางอย่างในตัวเมรีเป็นที่แตะตา ใบหน้าหวานงดงามฉ่ำหวานและคงจะต้องตาฟรองซัวร์ไม่ใช่น้อย บุตรชายของนางถึงได้กางปีกอุ้ม อุปการะส่งเสียเมรีให้เรียนต่อจนจบ
บุตรชายของเธอเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ แต่ในมุมมองของเขา ผู้หญิงเปรียบเหมือนผักปลา เขาใช้เงินฟาดหัว หากมีความต้องการ นางจึงเดาได้ไม่ยากอนาคตของเมรีคงไม่แคล้วจบบนเตียงนอนของบุตรชาย แต่โซเฟียหวั่นใจอะไรบางอย่าง มันติดค้างอยู่ในใจจนเริ่มรู้สึกกังวล
“เบีย…ไปตามเมรีมาหาฉันหน่อยสิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับแม่นั่น” โซเฟียสั่งคนสนิท เพื่อกำหลาบเมรีให้เจียมตัว หากหญิงผู้นั้นไฝ่สูงคิดการใหญ่โดยการจับบุตรชายของนาง เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ โดยการยอมบ้านเล็กเมียเก็บของฟรองซัวร์ ข่าวลือหนาหูถึงความเจ้าชู้ เปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่นของฟรองซัวร์ทำให้โซเฟียไม่สบายใจ
เบียรับคำสั่ง นางรีบไปหาเมรี และรู้ว่าจะเจอหญิงผู้นั้นได้ที่ไหน เบียรู้สึกเห็นใจหากเธอต้องตกเป็นเครื่องระบายอารมณ์ของฟรองซัวร์ เจ้านายหนุ่มไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน และคงจะไม่คิดยกย่องเมรีด้วย เนื่องจากเธอเป็นแค่ผู้หญิงยากจน ไร้เกียรติ
ฟรองซัวร์โตมากับความแห้งแล้งกับการแข่งขันทุกเวลา จนกลายเป็นคนกระด้างและแสนจะโหดร้าย เขาพร้อมที่จะพุ่งชนแต่เพราะความสามารถของเขาจึงพาแบรนด์มาร์เซย์โด่งดังไปทั่วโลก ติดหนึ่งในสิบธุรกิจทำเงินของประเทศฝรั่งเศส มีอิทธิพลจนทำให้ใครไม่กล้าเข้ามาตอแย
ชายหนุ่มอายุ32ปี เขาเป็นหนุ่มเต็มตัวฟรองซัวร์ผ่านผู้หญิงมาเยอะแยะจนเบียขี้เกียจำ แต่ะละคนที่เข้ามาต่างก็หวังชื่อเสียงเงินทอง ที่ฟรองซัวร์สามารถเนรมิตให้ได้ แต่ถ้าถามถึงเรื่องหัวใจ เบียก็ไม่เคยเห็นว่าผู้หญิงคนไหน จะสามารถคว้าหัวใจของเจ้านายหนุ่มไปครองได้สักคน เพราะเขาดูยาก และยังไม่เคยมีใครทำให้ฟรองซัวร์สนใจได้เกินกว่าสามวัน
“เมรีๆ คุณโซเฟียให้ไปพบที่ห้องสมุดจ้ะ” เบียเจอเมรีในห้องครัวจริงๆ ขนาดเธอแต่งตัวธรรมดา ก็ยังไม่สามารถข่มความงดงามสมวัยของเมรีลงได้ จนเบียแอบเป็นห่วงเมรีอยู่ในใจไม่ได้
“คุณโซเฟียอยากพบเมรีทำไมคะ ไม่รู้ว่าเมรีไปทำอะไรให้คุณโซเฟียขัดตาหรือเปล่า?” เมรียิ้มแหยๆ กลัวกับการที่ต้องไปพบกับประมุขของคฤหาสน์มาร์เซย์
“ไปเถอะน่าเดี๋ยวคุณโซเฟียรอนาน” เบียกล่าวเร่ง ให้เมรีรีบขึ้นไปพบเจ้านายเร็วๆ หญิงสาววางงานในมือเดินคอตกขึ้นไปบนตึกใหญ่ มีสายตาเป็นห่วงมองตาม เพราะโซเฟียคงสังเกตเห็นแววตาแปลกๆ ของบุตรชายที่มีต่อเมรี ประกายสายตาแบบนั้นคนเป็นแม่ก็คงอดกลัวไม่ได้ ฟรองซัวร์ถูกฝึกมาอย่างหนัก เขาเก็บอาการได้ดีเสมอมา ไม่น่าเชื่อว่าเมรีที่ไม่มีอะไรดึงดูดจะทำได้ หล่อนแค่อ่อนเยาว์ แรกแย้มคุณสมบัติแค่นั้น ไม่น่าทำให้ฟรองซัวร์หลุดพิรุธออกมาจนทุกคนจับได้
บทที่32.เปิดตัวมาดามมาร์เซย์สามเดือนต่อมา เมรีให้กำเนิดทายาทคนแรกของฟรองซัวร์เป็นเพศชายใบหน้าคมเข้มเหมือนบิดาเกือบร้อยเปอร์เซ็น ทารกเพศชายผิวขาวผมสีน้ำตาลไหม้ แววตาสีคาราเมลเป็นลูกผสมระหว่างฝรั่งเศสแท้กับไทยแลนด์แบบเมรี โซเฟียเห่อหลานชายคนแรก นางอุ้มไม่ยอมวางมือ จนฟรองซัวร์อ่อนใจ แต่ก็ยินดีที่มารดายอมรับสายเลือดของตัวเองอย่างเต็มใจโนแอล แดเซค์ มาร์เซย์ชื่อของบุตรชายที่ฟรองซัวร์คัดสรรมา ข่าวหน้าหนึ่งลงเกรียวกราวอยู่เป็นอาทิตย์ กับการเปิดตัวทายาทมาร์เซย์สู่สาธารณะชน ทั่วทั้งวงการแตกตื่น...เมื่อปรากฏภาพเมรียืนเคียงคู่กับฟรองซัวร์ในฐานะแม่ของเด็กน้อยผู้นั้น พวกเขาแปลกใจแต่ก็ต้องยอมรับ เมื่อเป็นข่าวที่กรองแล้ว “เมรีดูอะไรอยู่?” ฟรองซัวร์ถามเมรีในเช้าวัน
บทที่31.ครอบครัวอบอุ่นของฟรองซัวร์ ภาพข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ การประกาศจับมือกันระหว่างมาร์เซย์กับแซงส์ เป็นการเซ็นสัญญาเปิดสาขามาร์เซย์ในห้างสรรพสินค้าแซงส์ที่มีอยู่ทั่วทั้งยุโรป ลบภาพการประกาศหมั้นของฟรองซัวร์กับชาแปลน์ที่เคยหลุดออกมาก่อนหน้านี้ เป็นการแก้ปัญหาที่ทั้งสองฝ่ายพอใจ เพราะชาแปลน์ไม่ได้โกรธเคืองอะไรฟรองซัวร์ เธอแค่เสียความรู้สึกดีๆ ให้ผู้ชายเพียบพร้อม เพราะฉะนั้นชาแปลน์จึงตั้งใจว่าจะพิจารณาผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะคนที่จะมาร่วมชีวิตกัน “ใช้หัวใจชาแปลน์ อย่าเอาความเหมาะสมมาเป็นตัววัด อย่าให้อะไรทั้งหมดมาขวางทางเรา ไม่มีอะไรดีไปกว่าความสุขที่เราได้อยู่ใกล้คนที่เราพอใจ” ฟรองซัวร์เตือนชาแปลน์ในวันหนึ่งที่ได้เจอกัน ชาแปลน์ชำเลืองมองยิ้มๆ ชายตรงหน้าเปลี่ยนไปมาก เขาดูคล้ายคนมากขึ้น มีรอยยิ้มไม่ได้กระด้างเหมือนเคย 
บทที่29.กลับมาอยู่ในคฤหาสน์มาร์เซย์ โซเฟียกลับมายังคฤหาสน์มาร์เซย์พร้อมกับความเศร้า แม้ชาแปลน์จะไม่ปฏิเสธชัดเจน แต่คำพูดของหญิงสาวก็คงไม่ต้องคิดต่อ “ฉันคงไม่มีวาสนาได้ชาแปลน์มาเป็นลูกสะใภ้แล้วล่ะนะ” โซเฟียบ่นเบาๆ “คุณต้องทำใจค่ะ คุณชาแปลน์เธอมีตัวเลือกเยอะ ไม่ได้มีแค่คุณฟรองซัวร์เท่านั้นที่เหมาะสมกับเธอ มันเป็นเรื่องของคนสองคนน่ะค่ะ เราไม่สามารถไปกะเกณฑ์ใครได้ คุณโซเฟียกับคุณผู้ชายโชคดีที่ตกลงแต่งงานกันเพราะความรัก แต่คุณฟรองซัวร์เธอไม่ได้รักใคร่ชอบพอคุณชาแปลน์เลยนี่คะ คุณก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตา” เบียปลอบใจเจ้านาย “ทำไมฉันถึงไม่คิดข้อนี้นะ ลูกชายฉันก็เหลือเกิน เขาอยู่ท่ามกลางคนเด่นคนดัง ไหนจะนางแบบ ไหนจะดารา หน้าตาดีๆ ทั้งนั้น ทำไมไม่สนใ
บทที่30.ฉันยอมแพ้ เมรีลืมตาเธอนอนอยู่บนเตียงคนเดียว หญิงสาวเหลือบมอง นาฬิกาที่พนังห้อง เธอตื่นสายโด่ง เธอจึงรีบลงจากเตียง และลงมือทำสะอาดห้อง ก่อนจะไปอาบน้ำ เดินลงมาด้านล่างแบบกล้าๆ กลัวๆ “แม่นั่นตื่นหรือยังล่ะ นอนกินบ้านกินเมืองเป็นคุณนายอยู่เหรอไงคงกำลังหลงระเริงกับตำแหน่งเมียของฟรองซัวร์อยู่สินะ” เสียงโซเฟียดังลั่น เมรีจึงเดินเลี่ยงไปอีกทาง “คุณก็…เมรีไม่สบายก็ต้องตื่นสายสิคะ กินยาลดไข้เข้าไปอาจจะตื่นเอาตอนบ่ายๆ เลยก็ได้ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ดึกโขอยู่นี่คะ” เบียพูดแก้ให้ “ย่ะ…ฉันรู้แล้วว่าแม่เมรีเขาไม่สบาย แต่ไม่คิดจะลุกขึ้นมาหาอะไรกินก่อนหรือไง เขาต้องกินเยอะๆ หลานฉันก็หิวแย่นะสิ”&nbs
บทที่28.เมียผมท้องแล้วแม่จะว่าไง ฟรองซัวร์อึ้งไปหลังผลตรวจร่างกายเมรีออกมา แพทย์ประจำโรงพยาบาลอธิบายพร้อมกับแสดงความยินดี“ภรรยาคุณ ตั้งครรภ์ได้6สัปดาห์แล้วครับ”เมรีน้ำตาตก เธอก้มกน้าลงซ่อนรอยน้ำตาไว้ “ขอบคุณครับ” ฟรองซัวร์ดีใจจนพูดไม่ถูก ในที่สุดสิ่งที่เป็นโซ่ทองคล้องเขากับเมรีไว้ก็เกิดขึ้นแล้ว “ดูแลสุขภาพให้ดีทานอาหารให้ครบห้าหมู่ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ ที่อาจกระทบกระเทือนลูกในท้อง เพราะช่วงสองสามเดือนแรกยังมีภาวะเสี่ยงในการแท้งอยู่มาก นอนพักผ่อนให้เพียงพอ หมอจะให้ยาบำรุงเลือดและยาแก้แพ้ ต้องมาตรวจให้ตรงเวลาจะได้คอยดูพัฒนาการ การเจริญเติบโตของเด็กในท้องด้วย พอครบกำหนดจะได้มาอัลตร้าซาวด์ดูว่าเด็กสมบรูณ์หรือเปล่า เอาหนังสือคุณแม่มือใหม่กลับไปศึกษาด้วยนะครับ จะได้เตรียมรับมือกับคุณลูกจอมซนที่กำลังจะเกิดในอีกเจ
บทที่27.บทสุดท้ายของเมรี ฟรองซัวร์นั่งฟังมารดาบ่นด้วยสีหน้านิ่งเฉย เสียงที่ผ่านเข้ามาทางรูหูข้างซ้ายเลยออกไปทางรูหูข้างขวา เมื่อชายหนุ่มไม่สนใจฟัง โซเฟียต่อว่าเรื่องบุตรชายไม่กลับไปที่คฤหาสน์มาร์เซย์เหมือนเดิม “แม่ไม่สนใจความต้องการของลูกหรอกนะฟรองซัวร์ มันไม่มีทางเป็นไปได้ เรื่องที่ลูกต้องการคงไม่มีใครยอมรับ สายเลือดมาร์เซย์ต้องมาจากแม่ที่เหมาะสม ไม่ใช่ใครก็ได้อย่างที่ลูกต้องการ” โซเฟียบ่นขรม ความต้องการของบุตรชายสวนทางกับคามต้องการของนางฟรองซัวร์เงยหน้ามองมารดา ริมฝีปากหนาหยักเหยียดยิ้ม ก่อนเขาตั้งใจบอกมารดา ประโยคที่โซเฟียได้ยินแล้วแทบจะสิ้นสติ “ถ้าเป็นอย่างนั้นแม่ก็เตรียมขายหน้าทุกคนได้เลยครับ ผมจะไม่ยอมแต่งงานกับชาแปลน์แน่นอน ถ้าสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้อย่างที่ผมหวังไว้”&nb