บทที่14.คำสั่งห้ามของฟรองซัวร์
“เมรีมีเรื่องขออนุญาตค่ะ” เมรีพูดเป็นงานเป็นการ เธอไม่อยากปิดบังเขา
“เรื่องอะไรล่ะ ถ้าไม่หนักหนาสาหัสนัก ผมก็อาจจะอนุญาต”
“เมรีผ่านเข้ารอบคัดตัวแบรนด์มาร์เซย์ค่ะ เลยอยากจะขออนุญาตจากคุณก่อน”
“ว่าไงนะ!!” ฟรองซัวร์กรรโชกถามเสียงห้าว
“เมรีผ่านการคัดเลือกรอบ60คนค่ะ” เมรีพยายามอธิบาย
“ไม่มีทาง ผมไม่มีทางให้เมรีไปเดินยักย้ายส่ายสะโพกอวดใคร เมียคนเดียวผมเลี้ยงได้ อยากได้เงินเท่าไหร่ล่ะผัวคนนี้จะให้ ขอให้บริการให้ถึงใจก็พอ” ฟรอ
บทที่29.กลับมาอยู่ในคฤหาสน์มาร์เซย์ โซเฟียกลับมายังคฤหาสน์มาร์เซย์พร้อมกับความเศร้า แม้ชาแปลน์จะไม่ปฏิเสธชัดเจน แต่คำพูดของหญิงสาวก็คงไม่ต้องคิดต่อ “ฉันคงไม่มีวาสนาได้ชาแปลน์มาเป็นลูกสะใภ้แล้วล่ะนะ” โซเฟียบ่นเบาๆ “คุณต้องทำใจค่ะ คุณชาแปลน์เธอมีตัวเลือกเยอะ ไม่ได้มีแค่คุณฟรองซัวร์เท่านั้นที่เหมาะสมกับเธอ มันเป็นเรื่องของคนสองคนน่ะค่ะ เราไม่สามารถไปกะเกณฑ์ใครได้ คุณโซเฟียกับคุณผู้ชายโชคดีที่ตกลงแต่งงานกันเพราะความรัก แต่คุณฟรองซัวร์เธอไม่ได้รักใคร่ชอบพอคุณชาแปลน์เลยนี่คะ คุณก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตา” เบียปลอบใจเจ้านาย “ทำไมฉันถึงไม่คิดข้อนี้นะ ลูกชายฉันก็เหลือเกิน เขาอยู่ท่ามกลางคนเด่นคนดัง ไหนจะนางแบบ ไหนจะดารา หน้าตาดีๆ ทั้งนั้น ทำไมไม่สนใ
บทที่30.ฉันยอมแพ้ เมรีลืมตาเธอนอนอยู่บนเตียงคนเดียว หญิงสาวเหลือบมอง นาฬิกาที่พนังห้อง เธอตื่นสายโด่ง เธอจึงรีบลงจากเตียง และลงมือทำสะอาดห้อง ก่อนจะไปอาบน้ำ เดินลงมาด้านล่างแบบกล้าๆ กลัวๆ “แม่นั่นตื่นหรือยังล่ะ นอนกินบ้านกินเมืองเป็นคุณนายอยู่เหรอไงคงกำลังหลงระเริงกับตำแหน่งเมียของฟรองซัวร์อยู่สินะ” เสียงโซเฟียดังลั่น เมรีจึงเดินเลี่ยงไปอีกทาง “คุณก็…เมรีไม่สบายก็ต้องตื่นสายสิคะ กินยาลดไข้เข้าไปอาจจะตื่นเอาตอนบ่ายๆ เลยก็ได้ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ดึกโขอยู่นี่คะ” เบียพูดแก้ให้ “ย่ะ…ฉันรู้แล้วว่าแม่เมรีเขาไม่สบาย แต่ไม่คิดจะลุกขึ้นมาหาอะไรกินก่อนหรือไง เขาต้องกินเยอะๆ หลานฉันก็หิวแย่นะสิ”&nbs
บทที่28.เมียผมท้องแล้วแม่จะว่าไง ฟรองซัวร์อึ้งไปหลังผลตรวจร่างกายเมรีออกมา แพทย์ประจำโรงพยาบาลอธิบายพร้อมกับแสดงความยินดี“ภรรยาคุณ ตั้งครรภ์ได้6สัปดาห์แล้วครับ”เมรีน้ำตาตก เธอก้มกน้าลงซ่อนรอยน้ำตาไว้ “ขอบคุณครับ” ฟรองซัวร์ดีใจจนพูดไม่ถูก ในที่สุดสิ่งที่เป็นโซ่ทองคล้องเขากับเมรีไว้ก็เกิดขึ้นแล้ว “ดูแลสุขภาพให้ดีทานอาหารให้ครบห้าหมู่ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ ที่อาจกระทบกระเทือนลูกในท้อง เพราะช่วงสองสามเดือนแรกยังมีภาวะเสี่ยงในการแท้งอยู่มาก นอนพักผ่อนให้เพียงพอ หมอจะให้ยาบำรุงเลือดและยาแก้แพ้ ต้องมาตรวจให้ตรงเวลาจะได้คอยดูพัฒนาการ การเจริญเติบโตของเด็กในท้องด้วย พอครบกำหนดจะได้มาอัลตร้าซาวด์ดูว่าเด็กสมบรูณ์หรือเปล่า เอาหนังสือคุณแม่มือใหม่กลับไปศึกษาด้วยนะครับ จะได้เตรียมรับมือกับคุณลูกจอมซนที่กำลังจะเกิดในอีกเจ
บทที่27.บทสุดท้ายของเมรี ฟรองซัวร์นั่งฟังมารดาบ่นด้วยสีหน้านิ่งเฉย เสียงที่ผ่านเข้ามาทางรูหูข้างซ้ายเลยออกไปทางรูหูข้างขวา เมื่อชายหนุ่มไม่สนใจฟัง โซเฟียต่อว่าเรื่องบุตรชายไม่กลับไปที่คฤหาสน์มาร์เซย์เหมือนเดิม “แม่ไม่สนใจความต้องการของลูกหรอกนะฟรองซัวร์ มันไม่มีทางเป็นไปได้ เรื่องที่ลูกต้องการคงไม่มีใครยอมรับ สายเลือดมาร์เซย์ต้องมาจากแม่ที่เหมาะสม ไม่ใช่ใครก็ได้อย่างที่ลูกต้องการ” โซเฟียบ่นขรม ความต้องการของบุตรชายสวนทางกับคามต้องการของนางฟรองซัวร์เงยหน้ามองมารดา ริมฝีปากหนาหยักเหยียดยิ้ม ก่อนเขาตั้งใจบอกมารดา ประโยคที่โซเฟียได้ยินแล้วแทบจะสิ้นสติ “ถ้าเป็นอย่างนั้นแม่ก็เตรียมขายหน้าทุกคนได้เลยครับ ผมจะไม่ยอมแต่งงานกับชาแปลน์แน่นอน ถ้าสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้อย่างที่ผมหวังไว้”&nb
บทที่26.เลือก ฟรองซัวร์เปิดหน้าหนังสือพิมพ์ดูหัวข้อข่าว ชายหนุ่มขมวดคิ้ว...กำหนดการแต่งงานของเขากับชาแปลน์เป็นประเด็น มีหลายสื่อกำลังควานหาตัวเขาให้ขวัก!! ชายหนุ่มพับหนังสือพิมพ์โยนไว้บนโต๊ะ ความเครียดที่รุมเร้ามาเกือบหนึ่งอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่า เขายกมือขึ้นคลึงระหว่างหัวคิ้ว...เขาพาเมรีกลับมาจาก นอร์ ปาดกาแลได้เกือบสองอาทิตย์ ชาโตว์เลอนอร์มังคือที่นอนของตนเองตอนนี้ เขาไปทำงานปกติแต่แต่เลี่ยงที่จะเผชิยหน้ามารดา แม่ของเขาก็เงียบหายไปเช่นกัน ฟรองซัวร์ใจชื้น...แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด หนึ่งอาทิตยืก่อนเริ่มมีสื่อเล่นข่าวเรื่องงานวิวาห์ของเขาแล้ว ชายหนุ่มพยายามทำใจเย็น เขาคิดว่าไม่วันใดวันหนึ่งมารดาก็ต้องโผล่หน้ามาแฉ่งเขาแน่นอน...แต่ผิดคาด...มารดาไม่มา ไม่แม้แต่จะส่งใครมาด้วยนางประโคมข่าวเรื่องเขากับแซงส์แทน “เจ้านายมีข่าวดีไม่บอกลาลิชซาเลยนะคะ เสียชื่อเลขา
บทที่25.มาถึงทางตัน หญิงสาวเดินออกมาจากหลังฉาก ดวงตาบวมเปล่งเพราะร้องไห้อย่างหนัก เธอพยายามตัดใจข่มกลั้นความเสียใจไว้ให้น้ำตาไหลย้อนไปท่วมหัวใจ ฟรองซัวร์เหลือบมองเมรีเธอแปลความหมายแววตาเขาไม่ออก เขาลุกขึ้นยืนเดินตรงไปยังกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่วางแอบไว้มุมห้องและไม่ได้รับความสนใจจากฟรองซัวร์เลยมาตลอดสามวันชายหนุ่มรื้อกระเป๋าค้นหากล่องเครื่องประดับที่ตั้งใจมอบให้เมรี จนกระทั่งพบกล่องใบนั้นที่ซุกอยู่ก้นกระเป๋านั่นเอง ฟรองซัวร์เปิดกล่องหยิบแหวนเพชรออกมาจากตัวล็อก ดวงตาสีเขียวมรกตเปล่งแสงวาบ เขายิ้มมุมปากด้วยความพอใจ แหวนทองคำขาวเรียบๆ มีเพชรเม็ดใหญ่กลางมรกตที่โอบล้อม รูปแบบโบราณเพราะเป็นแหวนประจำตระกูลมาร์เซย์ ฟรองซัวร์เดินตรงมายังเมรีเธอนั่งหมิ่นๆ ปลายเตียง หญิงสาวนั่งก้มหน้าน้ำตาคลอ ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งด้านข้าง จับมือเรียวขึ้นสอดเรือนแหวนบนนิ้วเรียวของเมรี หญิงสาวฝืนดึงมือกลับ