เช้าวันต่อมา...
“...” ปลายฟ้าค่อยลืมตาที่หนักอึ้งของตัวเองขึ้นมา ก่อนที่เธอจะสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากชายหนุ่มที่กำลังสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง
“...” แก้มขาวเนียนยกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะก้มลงไปมองแขนแกร่งที่กำลังกอดรัดเอวบางของเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ร่างกายของคนทั้งคู่แนบชิดกันทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของปลายฟ้าสั่นระรัว เธออยากจะหยุดเวลาไว้แค่ตรงนี้ ไม่ต้องมีอดีต ไม่ต้องมีอนาคต มีแค่ปัจจุบันขณะนี้เท่านั้น
‘มันคงเป็นได้แค่ความฝันใช่ไหมค่ะพี่ภีม’
“...” หญิงสาวหลับตาลงอีกครั้งทันทีที่เธอสัมผัสได้ถึงลมแรงกอดรัดจากรอบเอวบางของตัวเอง รวมถึงลมหายใจที่ถูกพ่นออกมาจากปลายจมูกโด่งของเขาเริ่งหนักหน่วงขึ้น
“ไข้ยังไม่ลดเลยว่ะ” มือหนาลูบลงที่หน้าผากของหญิงสาวในอ้อมกอดอย่างเบามือ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันก่อนที่เขาจะชะโงกหน้าขึ้นไปมองร่างบางตรงหน้าอีกครั้ง
“แก้มแดงขนาดนี้ เพราะไข้ขึ้นรึเปล่าวะ?” ภีมพึมพำออกมาเสียงอ่อน ก่อนที่เขาจะขยับตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ถึงแม้ว่าตอนนี้ฝนจะหยุดตกไปแล้ว แต่ท้องฟ้ายังคงปกคลุมไปด้วยเมฆดำทะมึนอีกไม่นานฝนคงได้กระหน่ำตกลงมาอีกอย่างแน่นอน
“...” ภีมอุ้มหญิงสาวตรงหน้าขึ้นแนบอก ก่อนที่เขาจะพาเธอเดินกลับไปยังบ้านพักของเขาที่อยู่ห่างจากโพรงถ้ำแห่งนี้เกือบ 2 กิโลเมตร
“นายหัว” บ่าวที่เดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ ก่อนที่เขาจะร้องเรียกนายของเขาออกมาด้วยความดีใจทันทีที่เห็นนายหนุ่มกำลังเดินขึ้นบันไดมาพร้อมกับหญิงสาวที่เขาโอบอุ้มไว้แนบอก
“ไปตามหมอมาหาฉัน”
“คะ ครับ” บ่าวรับคำสั่งจากนายหัว ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งออกไปยังสถานีอนามัยในทันที
“...” ภีมอุ้มร่างบางตรงหน้าเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ก่อนที่เขาจะวางเธอลงบนเตียงนอนของเขา ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจอุ้มเธอเดินออกไปจากห้องนอนของตัวเอง
ภีมเดินตรงไปตามทางเดินเล็กๆ หลังบ้านใหญ่ของเขา ก่อนจะหยุดอยู่ที่เรือนพักหลังเล็ก เรือนเล็กแห่งนี้ถูกสร้างมานานหลายสิบปีแล้ว แต่เขาก็คอยดูแลและซ่อมแซมมันอยู่ตลอดจึง แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไป แต่บ้านหลังนี้ยังคงดูสวยงามไม่ได้เสื่อมโทรมไปเลยแม้แต่น้อย
“อย่ามาตายที่เกาะของฉันล่ะ” ภีมเอ่ยบอกกับหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่เขาจะวางร่างบางลงบนเตียงนอนตรงหน้าอย่างเบามือ
“หมอมาแล้วครับนายหัว” บ่าวเอ่ยบอกกับนายเหนือหัวของเขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะหลบทางเพื่อให้คุณหมอสาวสวยประจำเกาะเดินเข้าไปตรวจร่างกายหญิงสาวด้านในได้สะดวกยิ่งขึ้น
“…”
“ไม่ต้องห่วงนะคะ หมอจะดูแลเธออย่างดี”
ภีมชะงักไปเล็กน้อยกับคำพูดของหมอหญิงวัยกลางคนตรงหน้า ชายหนุ่มมองไปยังหมอสาวด้วยสายตาที่เรียบเฉย ก่อนที่เขาจะเดินออกไปโดยที่ไม่ได้หันกลับมาสนใจคนข้างหลังอีกเลย
ปัง!!!
“ห่วงอย่างนั้นเหรอ...” ภีมพึมพำออกมาก่อนที่เขาจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้องนอนอย่างหัวเสีย
ยิ่งเขาได้เห็นแววตาใส่ซื่อบริสุทธิ์ของปลายฟ้าที่มองมาที่เขา มันก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด เพราะมันเป็นสายตาเดียวกันกับเด็กผู้หญิงคนนั้น...
“อย่าลืมนะไอ้ภีม ห้ามลืมเด็ดขาดว่ามันสองคนแม่ลูกทำอะไรไว้กับครอบครัวของมึงบ้าง”
ภีมเอ่ยบอกกับตัวเองพร้อมกับดึงบุหรี่ออกมาจากซอง ก่อนเขาจะเดินออกไปยังนอกระเบียง ชายหนุ่มสูดสารนิโคตินเข้าไปจนเต็มปอดก่อนที่เขาจะพ่นควันพิษออกมาอย่างสบายใจ ในขณะที่ตาคมยังคงจับจ้องไปยังเรือนเล็กด้านหลังด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“ไอ้บ่าวข้ามาแล้ว...”
“ยายเดินให้มันไวๆ หน่อยสิ” บ่าวเอ่ยเร่งหญิงชราที่กำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินมายังเรือนหลังเล็กของปลายฟ้า พร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ของหญิงสาวในมือ
“ไอ้บ่าว นี่ข้าก็วิ่งไวที่สุดแล้วโว้ย”
“แล้วสรุปว่าแม่หนูนี่เป็น”
“ไม่รู้ หมอบอกแค่ว่าเธอป่วย”
“ฝากด้วยนะยายเดี๋ยวผมจะขึ้นไปรายงานนายหัวก่อน”
หลายนาทีต่อมา...
“ป้าคะ...” ปลายฟ้าร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะพยายามห้ามหญิงชราไม่ให้ถอดเสื้อผ้าของเธอออก ตอนนี้บนร่างกายของเธอมีแต่ล่องลอยที่นายหัวของหญิงชราได้ฝากเอาไว้ มันคงไม่ดีต่อชายหนุ่มแน่ๆ ถ้าหากมีใครได้เห็นมันเข้า
“ฟ้าเปลี่ยนเองได้ค่ะป้า”
“คุณหมอบอกให้คุณพักผ่อนเยอะๆ นะคะ อยู่เฉยๆ”
“ปะ ป้านวลฟ้าหิวค่ะ” หลังจากที่ยื้อยุดกันอยู่พักใหญ่ ปลายฟ้าจึงใช้วิธีอ้อนหญิงชราตรงหน้าแทน
“ถ้าอย่างนั้นป้าจะไปยกข้าวต้มมาให้ทาน และจะได้ทานยาตามที่หมอสั่งนะคะ”
“ค่ะยาย” ปลายฟ้าตอบกลับไปก่อนที่เธอจะส่งยิ้มหวานไปให้กับหญิงชราตรงหน้าอย่างเป็นกันเอง
ทันทีที่ยายนวลเดินออกไปจากห้องปลายฟ้าก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก พร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ในทันที ร่างบางรู้สึกร้อนๆ หวานๆ ราวกับคนที่กำลังเป็นไข้ มือบางลูบลงที่แก้มขาวเนียนของตัวเองเบาๆ พร้อมกับนึกถึงสิ่งที่หมอสาวเอ่ยบอกกับเธอก่อนหน้านี้...
‘หมอให้ยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวดลดไข้เอาไว้นะจ๊ะ’ หมอวัยกลางคนเอ่ยบอกกับหญิงสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู
‘ช่วงนี้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนนะ ถ้าเกิดมันฉีกขาดไปมากกว่านี้หมอเกรงว่ายาพวกนี้จะเอาไม่อยู่’
‘ค่ะ’ ปลายฟ้าก้มหน้าลงเล็กน้อยด้วยความรู้สึกอายคนตรงหน้าเหลือเกิน เธออายจนไม่กล้าสู้หมอหญิงเลยด้วยซ้ำ...
‘ไม่ต้องอายหรอกจ้ะ เรื่องนี้เป็นความลับของเราสองคน หมอไม่เอาไปบอกใครหรอก’
‘…’
‘แต่หมอคงต้องเตือนนายหัวเสียหน่อย...เราชื่อฟ้าใช่ไหม’
‘ใช่ค่ะ’
‘ถ้าฟ้ามีอะไรไม่สบายใจก็ไปหาพี่ที่อนามัยได้ตลอดเวลาเลยนะจ๊ะ’ หมอน้ำเอ่ยบอกกับปลายฟ้าเสียงอ่อน พร้อมกับลูบลงที่หลังมือบางอย่างอ่อนโยน
‘ขอบคุณมากนะคะ’ ปลายฟ้ายกยิ้มหวานออกมาก่อนที่เธอจะยกมือไหว้พี่สาวตรงหน้าอย่างอ่อนน้อม
‘ด้วยความยินดีจ้ะ พี่อยากบอกอะไรกับฟ้าอย่างนึงได้ไหม?’
‘ได้สิคะ’ ปลายฟ้ายกยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าให้กับคนตรงหน้าเบาๆ
‘นายหัวของพวกเราไม่ได้โหดร้ายอะไรหรอกนะ ถึงแม้ว่าพี่จะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำกับฟ้า แต่ช่วยมองเขาให้ลึกๆ หน่อยนะฟ้า’
‘ค่ะ’
“...” ปลายฟ้าทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงอย่างหมดแรง พร้อมกับเหม่อมองออกไปยังนอกหน้าต่างอย่างคิดไม่ตก
“จะทำอย่างไงให้พี่ภีมใจอ่อนได้นะ”
“นายหัวท่านน่าสงสารนะคะ ถึงภายนอกจะดูเข้มแข็งแต่ข้างในกลับซ่อนความอ่อนแอเอาไว้”
“ป้านวล”
“ถ้าคุณฟ้าอยากเอาชนะใจนายหัว คุณฟ้าก็ต้องเปลี่ยนจากเห็นใจเป็นเข้าใจท่านก่อนค่ะ”
“...”
“ท่านไม่ชอบให้ใครมาสงสารท่านหรอกนะคะ แล้วที่สำคัญอย่าลืมแสดงความรักของคุณฟ้าให้ท่านเห็น...”
“ป้ารู้?” ปลายฟ้าเอ่ยถามหญิงชราตรงหน้าออกมาด้วยความตกใจ
“ค่ะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนให้ผู้ชายรังแกอยู่ฝ่ายเดียวหรอกค่ะ ถ้าไม่ได้รักและรู้สึกผิดต่อเขามากๆ”
“ป้านวลรู้เรื่องของฟ้ากับพี่ภีมใช่ไหมคะ?” ปลายฟ้าเอ่ยถามหญิงสูงวัยตรงหน้าออกมาอีกครั้ง
“ค่ะ คุณฟ้าอาจจะจำป้าไม่ได้ แต่ป้าจำคุณฟ้าได้นะคะ”
“...”
“ป้าเลี้ยงนายหัวมาตั้งแต่เข้ายังเป็นทารก จนกระทั่งตอนนี้...นายหัวเป็นคนอย่างไงมีเหรอที่ป้าจะไม่รู้”
“คุณฟ้าคงรู้ดีว่านายหัวของพวกเราต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง ป้าหวังว่าคุณฟ้าจะเข้าใจนะคะ”
“ฟ้าเข้าใจค่ะ ฟ้าเข้าใจดีและก็ไม่เคยโกรธพี่ภีมเลยสักครั้ง ฟ้าอยากให้พี่ภีมกลับมาเป็นคนใจดีคนเดิมค่ะ”
“ป้าจะคอยช่วยคุณฟ้าเอง ป้าก็อยากเห็นนายหัวของป้ากลับมาเป็นคนเดิม คนที่อบอุ่นและอ่อนโยนอย่างเดิม ป้าคิดว่าคุณแก้วตาคุณแม่ของนายหัวเธอก็คงอยากให้ลูกชายของเธอเป็นอย่างนั้นเช่นกัน”
“...” ปลายฟ้าพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่เธอจะยกยิ้มออกมา อย่างน้อยบนเกาะแห่งนี้ที่เธอไม่รู้จักใครเลย ปลายฟ้าก็ยังโชคดีที่ยังมีคนคอยให้คำปรึกษาถึงสองคน
“ขอบคุณนะคะ”
“คุณฟ้าทานข้าวก่อนนะคะ จะได้ทานยา”
“ป้านวลเรียกหนูว่าฟ้าเฉยๆ ก็พอแล้วค่ะ ไม่ต้องมีคุณหรอกค่ะ”
“หนูฟ้าทานข้าวแล้วก็นอนพักนะลูก ถ้ามีอะไรก็เรียกป้าได้เลยนะลูก” ป้านวลเอ่ยบอกกับปลายฟ้าเสียงอ่อน
“ค่ะ”
ช่วงเย็นของวัน...
“พี่ภีม” ปลายฟ้าร้องเรียกร่างสูงที่กำลังนั่งมองมาที่เธอด้วยความตกใจ ก่อนที่มือบางจะกำผ้าห่มผืนหนาที่คุมกายของเธออยู่เอาไว้แน่นด้วยความหวาดกลัว
ปลายฟ้าหันไปมองยังประตูทางเข้าที่ยังคงปิดสนิท ก่อนที่ปลายฟ้าจะเผลอหลับไปเธอจำได้ว่าเธอล็อคประตูเรียบร้อยแล้ว แต่ทำไม...
“พี่ภีมเข้ามาที่นี่ได้ไงคะ?”
“เดินเข้ามา”
“คุณหมอบอกว่าห้าม...”
“ฉันรู้ ฉันแค่เข้ามาดูว่าเธอตายรึยัง...” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงเรียบ ในขณะที่ตาคมยังคงจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“ฟ้าไม่ตายง่ายหรอกค่ะ พี่ภีมไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” ปลายฟ้ายกยิ้มออกมา ก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้ากลับไปเสียงสดใส
“ไม่ตายก็ดีแล้ว ถ้าขืนเธอมาตายบนเกาะของฉันคงเฮี้ยนจนไม่มีใครกล้าอยู่ที่นี่”
“ฟ้าไม่หลอกคนอื่นหรอกค่ะ ฟ้าหลอกแค่พี่ภีมคนเดียว”
“ถ้าเธอกล้าหลอกฉันจริงๆ ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าตายอีกรอบมันเป็นอย่างไง” ภีมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนที่จะเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างเตียงนอนของหญิงสาว ชายหนุ่มโน้มตัวเข้าไปใกล้หญิงสาวตรงหน้า พร้อมกับมือหนาทั้งสองข้างยันเอาไว้กับเตียงนอนของเธอ
“พี่ภีมไม่สงสารฟ้าเหรอคะ?”
“...” ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อยในขณะที่ตาคมยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่ยอมละไปไหน เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้องนอนของปลายฟ้า โดยไม่หันกลับมาสนใจหญิงสาวอีกเลย
“พี่ภีมใจอ่อนให้กับฟ้าบ้างแล้วใช่ไหมคะ...”
งานแต่งงานระหว่างภีมเดชหลานชายเพียงคนเดียวของคุณหญิงจิตตรีและพลอากาศเอกหม่อมราชวงศ์ทีปรกร วัชรสกุล และปลายฟ้า ซานโตโร ลูกสาวคนเล็กของตระกูลเก่าแก่จากอิตาลีถูกจัดขึ้น 3 วัน 3 คืน ณ โรงแรมมันตราปุระ จังหวัดภูเก็ตงานแต่งงานของเขาถูกกล่าวถึงไปทั่วเกาะภูเก็ต เนื่องจากชายหนุ่มปิดโรงแรมของตนเป็นเวลา 3 วัน 3 คืนเต็มเพื่อรับรองแขกรับ VVip ของพวกเขาตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!“...” ภีมยืนรอเจ้าสาวของเขาอยู่บริเวณชั้น 1 อย่างใจจดใจจ่อ หัวใจดวงโตเต้นโครมครามราวกับว่ามันจะหลุดออกมาเสียให้ได้เขาตั้งใจจัดงานแต่งงานขึ้นมาจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา จนกระทั่งวันนี้มาถึง...เพียงแค่เห็นรอยยิ้มของผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดของเขาก็กลับหายไปอย่างน่าประหลาด“พี่ภีมคะ”“...” เสียงเจ้าสาวร้องเรียกเจ้าบ่าวของตัวเองออกดังขึ้นมาจากชั้น 2 ของบ้านพักริมทะเลของชายหนุ่มหญิงสาวในชุดแต่งงานสีขาวสะอาดตา กับเครปหลังผืนยาวลากพื้นช่วยปกปิดแผ่นหลังเปลือยเปล่าขาวเนียนของเจ้าสาวเอาไว้“พี่ภีมคะ”“คะ ครับ”“เราออกไปกันเลยไหมคะ” ปลายฟ้าเอ่ยถามเจ้าบ่าวของเธออกมาเสียงหวาน พร้อมกับยื่นมือบางของต
“ฮึกกกก ขอโทษจริงๆ ครับ”“พี่ภีมร้องไห้เหรอคะ?” ปลายฟ้าเอ่ยถามออกมาด้วยความตกใจ“พี่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง พี่ขอโทษนะครับ...” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางในอ้อมกอดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา“พี่ภีมค่ะ” ปลายฟ้าลูบลงที่แผ่นหลังแกร่งของคนตรงหน้าเบาๆ เพื่อปลอบประโลมเขา ตั้งแต่รู้จักกับพี่ภีมเขาแสดงแต่ด้านที่เข้มแข็งให้กับทุกๆ ได้เห็น แต่ไม่นึกเลยว่าคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้น เวลาที่อ่อนแอจะน่าสงสารขนาดนี้“ไม่ต้องรู้สึกผิดแล้วนะ ตอนนี้ฟ้าไม่ได้เป็นอะไรแล้วนะคะ”“พี่กำลังรู้สึกผิดอยู่ใช่ไหมคะ?”“ฟ้ารู้ว่าพี่ภีมต้องการแก้แค้นแม่ของฟ้า...”“ถ้าคุณพ่อของพี่รู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ท่านจะต้องไม่อยู่เฉยอย่างแน่นอน”“ฮึกกกกก...”“เช้ามืดวันนั้นที่พี่ภีมรู้ข่าว ฟ้าเห็นพี่ร้องไห้...”“ในวันนั้นฟ้ารับรู้ได้นะคะว่าพี่เสียใจมากแค่ไหนกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”“ตอนที่ฟ้าโดนยิงก็เหมือนกัน...ถึงฟ้าจะไม่เห็น แต่ฟ้าได้ยินทุกคำที่พี่พูดออกมา”“ฉันรักเธอ”“ถ้าไม่มีเธอฉันคงอยู่ไม่ไหว”“ฉันไม่พร้อมจะแลกอะไรกับการไม่เธอหรอกนะปลายฟ้า เธอได้ยินฉันไหม?”“ฟ้าได้ยินค่ะ เพราะคำพูดของพี่ทำให้ฟ้าอยากกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ฟ้าอ
ณ กรุงโรง ประเทศอิตาลี “สวัสดีค่ะคุณภีม”“...” ภีมมองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ เขาจำได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นเลขาของอาร์ซีพี่ชายเพียงคนเดียวของปลายฟ้าไม่ผิดแน่ แต่ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่ได้ล่ะ...ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยบอกใครมาก่อนว่าจะมาที่นี่ในวันนี้“ดิฉันชื่อพะแพง เป็นเลขาของคุณอาร์ซีนะคะ”“มันส่งเธอมาอย่างนั้นเหรอ?”“ใช่ค่ะ”“...”“นายท่านเป็นคนส่งฉันมาค่ะ เชิญทางด้านนี้ค่ะ” พะแพงเอ่ยบอกกับชายตรงหน้า ก่อนที่จะเดินนำเขาไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล“ปลายฟ้าอยู่ที่ไหน?” ภีมถามหญิงสาวตรงหน้าออกมาเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องไปยังหญิงสาวตรงหน้านิ่งๆ อย่างรอคำตอบ“คุณฟ้าปลอดภัยดีค่ะ ตอนนี้เธอพักรักษาตัวอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลซานโตโร”“...” มุมปากหนายกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะหุบยิ้มลงทันที พร้อมกับเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าออกไปอีกครั้งด้วยความสงสัย“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันจะมาที่นี่”“เพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวที่คุณรักอยู่ที่นี่ไงคะ...”“ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องมาที่นี่อยู่แล้ว”“เธอพาฉันไปหาฟ้าได้ใช่ไหม?” ภีมเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าออกไปตามตรง เขาไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้อีกแล้ว...“ฉันคงพาคุณไปพบค
“ปลายฟ้าไปทำอะไรให้ มึงถึงได้...” อาร์ซีเอ่ยออกมาอย่างโกรธจัด ก่อนที่เขาจะต่อยหน้าชายตรงหน้าเต็มแรงผลัวะ! ผลัวะ!!“...” ภีมยังคงยืนนิ่งปล่อยให้พี่ชายของคนรักระบายความคับแค้นใจใส่เขาอยู่อย่างนั้น เขาไม่มีอะไรจะแก้ตัวเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจนกระทั่งตอนนี้มันก็เป็นความผิดของเขาทั้งหมด“ถ้าฟ้าเป็นอะไรไปกูจะฆ่ามึงด้วยมือของกูเอง”ผลัวะ! ผลัวะ!“ขอโทษ ฮึกกกกกก ขอโทษ” อาร์ซีชะงักไปเล็กน้อยที่เห็นท่าทีของชายหนุ่มที่เปลี่ยนไป แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกสงสารคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย เพราะที่ผ่านมาน้องสาวเขาต้องทรมานขนาดไหนมันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกผิดในวันที่สายไปแล้วของคนตรงหน้าผลัวะ!“กู”ผลัวะ!“ไม่ให้...”“ตายแล้วอาร์ซีลูก” ปานมุกรีบเข้ามาห้ามปรามลูกชายของเขาในทันทีด้วยความตกใจ“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”เอริคเอ่ยถามลูกชายออกมาเสียงเรียบพร้อมกับจ้องลูกชายของเขาอย่างรอคำตอบ ก่อนที่ปานมุกจะเอ่ยถามลูกชายของเขาออกมาด้วยอีกคน“ทำไมถึงไม่ค่อยพูดค่อยจากันล่ะลูก?”“...”“แล้วนี่ฟ้าอยู่ไหน? น้องอยู่ไหนลูก?” ปามุกเอ่ยถามลูกชายออกมาเสียงสั่น เธอรู้สึกไม่ดีตั้งแต่อยู่บนแล้ว...อยู่ดีๆ ลูกชายก็ส่งคนไปรับกะทันหันแบ
ถึงภีมลูกรักในวันที่ลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้พ่อคงไม่ได้มีลมหายใจอยู่บนโลกนี้แล้ว ชีวิตนี้พ่อทำผิดต่อทุกคนโดยเฉพาะแม่และน้องของลูก พ่อไม่ได้หวังให้ลูกให้อภัยพ่อ แต่พ่อหวังว่าสักวันลูกจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง ภีมของพ่อเป็นคนอย่างไงพ่อรู้ดี ต่อไปนี้พ่ออยากให้ลูกใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับคนที่ลูกรักอย่างมีความสุข อย่าได้ยึดติดกับความผิดพลาดของพ่ออีกเลยนะลูกและสุดท้ายนี้ลูกคงจะได้เห็นพินัยกรรมที่พ่อทำไว้แล้ว ทั้งหมดมันเป็นความตั้งใจจริงของพ่อตั้งแต่แรก ถ้าไม่มีแม่ของลูกพ่อก็คงไม่ได้มีทุกอย่างอย่างในทุกวันนี้ ดังนั้นสมบัติทั้งหมดที่พ่อสร้างมากับแก้วตาแม่ของลูกพ่อขอยกมันให้กับลูกทันหมดรักลูกภีมตลอดไป “...” ภีมอ่านจดหมายตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย ก่อนที่เขาจะหันไปมองทุกคนด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ผมฝากจัดการต่อด้วยนะครับ” ภีมเอ่ยบอกกับคนทนายของคุณพ่อเขาเสียงเรียบ“ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”“ครับ”“พวกแกยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” ประตูบานใหญ่ถูกมืบางของปาลินกระชากออกอย่างแรง ก่อนที่เธอจะกลับเข้ามาอีกครั้งด้วยสภาพที่ต่างไปจากก่อนหน้านี้“แ
ณ ศาลาสวดพระอภิธรรมรถตู้คันหรูถูกขับเข้ามาจอดหน้าศาลาที่ถูกจัดขึ้นอย่างสมฐานะมหาเศรษฐีระดับต้นๆ ของประเทศ ถึงแม้ว่าคุณภูธเรศจะจากไปแล้วแต่สิ่งที่เขาสร้างยังคงเป็นที่ประจักรต่อสายตาของคนรุ่นหลัง“.../...” ภีมเดินจากรถตู้คันหรูท่ามกลายสายตาทุกคู่ที่จับจ้องมาที่เขา ตั้งแต่วันที่คุณแม่ของเขาจากไปเขาก็หายตัวไปเลย จนกระทั่งเขากลับมาปรากฎตัวอีกครั้งในวันนี้พร้อมกับสาวสวยข้างกายเขา“...” ปาลินมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับลูกสาวของตัวเองด้วยสายตาที่เรียบเฉย“20 ปีไม่เคยจะมาให้พ่อเห็นหน้า พอเขาตายก็หวังจะมาเอาสมบัติเขาสินะ” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของปาลินเอ่ยขึ้นก่อนที่สายตาของเธอจะมองไปยังลูกเลี้ยงของเพื่อนสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกลียด“พอเถอะน่า...ยังไงเขาก็ลูก” ปาลินเอ่ยบอกกับเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง“ลินดูแลคุณภูมาตลอด 20 ปี ฉันเชื่อว่าสมบัติทุกอย่างคุณภูต้องยกให้เธออย่างแน่นอน”“...” ปาลินไม่ได้ตอบเพื่อนของเธอกลับไป เธอทำเพียงแค่อมยิ้มให้กับเพื่อนสาวอย่างน้อมรับคำพูดของคนตรงหน้า“ตัวจริงคุณภีมหล่อมาก แต่น่าเสียดายที่เขามีภรรยาแล้ว”“นั่นสิยะ คนอะไรหล่อ รวย เก่ง ฉล