“พี่ภีมก็เหมือนกันนอกจากจะหล่อแล้ว ยังดะ...ดุเก่งอีกด้วย”
“นี่เธอย้อนฉันเหรอ” ชายหนุ่มจ้องเขม็งมาที่ร่างบางอย่างเอาเรื่อง
“ฟ้าเปล่าย้อนนะคะ”
“ถอดเสื้อผ้าออกซะถ้าไม่อยากหนาวตายอยู่ที่นี่”
ชายหนุ่มถอดกางเกงขากล้วยของตัวเองออก ก่อนที่เขาจะแขวนมันบนราวไม้ตรงหน้า เขาใช้โพรงถ้ำแห่งนี้เป็นที่ที่เขาอยากใช้เวลากับตัวเอง จึงไม่แปลกที่โพรงถ้ำแห่งนี้จะมีสิ่งของอำนวยความสะดวกของเขาอยู่ด้วย
“พะ พี่ภีม” ปลายฟ้าร้องเรียกร่างสูงออกมาเสียงดังลั่น ก่อนที่เธอจะหันหน้าหนีไปอีกทางด้วยความตกใจ แก้มนุ่มนิ่มแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“...” ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะชายตามองหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เขาเดินไปยังกองฝืนที่ถูกตัดทิ้งไว้อยู่ด้านในโพรงถ้ำด้านใน ก่อนจะเดินกลับมายังก่อกองไฟใกล้ๆ กับที่พักของเขา นอกจากมันจะช่วยส่องแสงสว่างแล้ว มันยังช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับเขาและเธอได้อีกด้วย
‘ดูท่าฝนจะตกหนักตลอดทั้งคืน’
หลังจากก่อกองไฟติดเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับมองไปยังสายฝนที่ยังคงกระหน่ำตกลงมาอย่างหนัก ก่อนที่เขาจะหันกลับไปมองหญิงสาวที่เกลียดแสนเกลียดอีกครั้ง
“ทำไมยังไม่ถอดอีก” ภีมเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไปเสียงดุ พร้อมกับจ้องไปยังใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวตรงหน้าอย่างรอคำตอบ
“คะ คือว่า ฟ้าไม่หนาวค่ะ”
“...” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำใดเธอกลับไป เขาเลือดที่จะเดินเข้าไปนั่งลงบนโขดหินข้างกองไฟ พร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาผิงไฟให้ความอบอุ่นกับตัวเองไปด้วย
ปลายฟ้ายืนสั่นมองดูชายหนุ่มอยู่อย่างนั้น ลมเย็นโชยเข้ามาทำให้ร่างบางรู้สึกหนาวสั่นอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวจึงรวบรวมความกล้าก่อนที่เธอจะเอ่ยขอเขาออกไป
“พะ พี่ภีมฟ้าขอนั่งด้วยคนนะคะ?”
“...”
“ขอบคุณค่ะ” ชายหนุ่มชายตามามองร่างบางเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหันกลับมาสนใจกองไฟตรงหน้าอีกครั้ง ปลายฟ้าจึงคิดเอาเองว่าเขาอนุญาตเธอแล้ว เธอจึงขยับเข้าไปนั่งลงข้างกายของเขา
“พี่ภีมคะ” ปลายฟ้าเอ่ยเรียกร่างสูงตรงหน้าออกมาเสียงอ่อน พร้อมกับมองไปที่เขาด้วยสายตาที่แสนอ่อนโยนอย่างเช่นทุกครั้ง
“...”
“ฟ้าขอโทษนะคะเรื่องวัน...”
“หุบปาก ถ้าไม่อยากออกไปยืนกลางฝน” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าออกมาเสียงเรียบ
“ถ้าพี่ภีมไม่อยากฟัง งั้นฟ้าพูดเรื่องอื่นก็ได้ค่ะ”
“...”
“พี่ภีมมาที่นี่บ่อยเหรอคะ?”
“...” ปลายฟ้าเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกมาเสียงใส แต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบใดๆ จากเขา แต่มีเหรอที่ปลายฟ้าจะยอมแพ้เธอยังคงยิ้มสู้พร้อมกับพยายามชวนชายหนุ่มตรงหน้าคุยต่อ
“ถ้าพี่ภีมไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าอย่างงั้นฟ้าเล่าเรื่องของฟ้าให้พี่ภีมฟังดีกว่า...พี่ภีมจะได้ไม่เหงา”
“ฉันไม่ได้อยากฟัง”
“แต่ฟ้าอยากเล่าค่ะ” ปลายฟ้ายกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะตั้งหน้าตั้งตาเล่าเรื่องของตัวเองให้กับชายหนุ่มตรงหน้าได้ฟัง
“พี่ภีมรู้ไหมคะวันแรกที่ฟ้าย้ายเข้าไปเรียนที่อิตาลีไม่มีใครคุยกับฟ้าเลยสักคน แถมฟ้ายังโดนเพื่อนแกล้งด้วยนะคะ”
“...”
“แต่เพราะวันนั้น...ฟ้าถึงได้รู้ว่าตัวเองจะอ่อนแอและปล่อยให้คนอื่นมารังแกฟ้าอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้”
“พี่รู้ไหมค่ะว่าฟ้าทำยังไง พี่ภีมรองเดามาสิคะ...?”
“...”
“เงียบ สงสัยไม่อยากเดา งั้นฟ้าเฉลยเลยก็ได้ค่ะ” ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะยังคงเอาแต่นั่งเงียบ แต่ปลายฟ้าก็ยังคงยิ้มสู้พร้อมกับเล่าเรื่องราวในวันเด็กของเธอให้เขาฟังต่อ
“วันต่อมาพอฟ้าโดนเพื่อนแกล้งอีก ฟ้าก็รวบรวมความกล้าแล้วต่อยปากเพื่อนกลับไปเลยค่ะ”
“พี่ภีมรู้ไหมคะเด็กคนนั้นร้องไห้ขี้มูกโปร่งแล้ววิ่งหนีฟ้าไปเลย หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่กล้าแกล้งฟ้าอีกเลยเพื่อนๆ คนอื่นก็ด้วย”
“เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...เราจะไม่รู้ว่าตัวเองเข้มแข็งได้มากขนาดไหน จนกระทั่งความเข้มแข็งเป็นสิ่งเดียวที่เราต้องมี”
“ฟ้ามั่นใจว่าเรื่องนี้พี่ภีมก็คงรู้ดี...” ทันทีที่หญิงสาวเอ่ยจบชายหนุ่มก็หันกลับมามองหญิงสาวด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“ที่พี่ภีมพยายามเป็นคนที่เย็นชาอย่างทุกวันนี้ก็เพื่อปกป้องตัวเองจากเหตุการณ์ในอดีต”
“อย่ามาทำเป็นรู้จักฉันดี ทั้งๆ ที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฉันเลยสักนิด” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงเรียบ ก่อนที่มือหนาจะกระชากข้อมือบางของเธอมาจับเอาไว้แน่น
“ค่ะ ฟ้าอาจจะไม่รู้อะไรเลยอย่างที่พี่บอกจริงๆ แต่ว่าฟ้าจะพยายามรู้จักพี่ภีมให้มากกว่านี้”
“ฟ้ารู้นะคะว่าจริงๆ แล้วพี่ภีมใจดี และก็อ่อนโยนมากแค่ไหน...ฟ้าจะพยายามพาพี่ภีมคนเดิมกลับมาให้ได้เลยค่ะ”
“อวดดี” มือหนาบีบที่คางมนของหญิงเต็มแรงก่อนที่เขาจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ ตาคมจ้องมองไปยังร่างบางตรงหน้าราวกับว่าเขาอยากจะบีบเธอให้แหลกคามือ
“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะทำอย่างที่ปากเธอพูดได้ไหม” มือหนาบีบปากของหญิงสาวตรงหน้าอย่างแรง ก่อนที่เข้าจะกระชากเสื้อตัวบางของเธอออกจนมันขาดติดมือเขาออกมาด้วย
“ว๊ายยยย!! พี่ภีมจะทำอะไรค่ะ”
“ทำให้เธอรู้ไงว่าฉันเป็นคนอย่างไงกันแน่ จะได้ไม่มาปากมากกับฉันอีก”
ชายหนุ่มผลักร่างบางใส่แคร่ไม้ไผ่อย่างแรงก่อนที่เขาจะถกผ้าถุงที่เธอกำลังสวมใส่อยู่ลงไปกองที่พื้น พร้อมกับฉีกชั้นในตัวบางของเธออกอย่างไม่สนใจเลยสักนิดว่าเธอจะเจ็บรึไม่
“พะ พี่ภีมอย่าทำเลยนะคะ ฟ้ากลัว”
“เมื่อกี้ยังปากดีอยู่เลยนี่ ตอนนี้ร้องไห้ทำไม?”
“ฮึกกกก พี่ภีมค่ะ”
“เปลี่ยนจากเสียงร้องไห้ เป็นเสียงครางฉันจะถูกใจมากกว่านะ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงเรียบ ก่อนที่เขาดึงกางเองชั้นในของตัวเองออก ในขณะที่มืออีกข้างยังคงกดหลังบางตรงหน้าไว้กับแคร่ไม้ไผ่อยู่อย่างนั้น
“พะ พี่ภีม” ปลายฟ้าร้องเรียกชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอเสียงอ่อน เธอทั้งรู้สึกกลัวและสับสนไปในเวลาเดียวกัน
“พี่ภีมทำแบบนี้กับฟ้าทำไมคะ?”
“พี่ภีมไม่ป้องกัน...ถ้าหากฟ้าท้องขึ้นมา พี่ภีมจะรับได้เหรอค่ะ” ปลายฟ้าเอ่ยบอกกับร่างสูงออกไป หญิงสาวจ้องมองไปยังกองไฟตรงหน้าด้วยสายตาที่เจ็บปวดจนอธิบายไม่ถูก แน่นอนว่าถ้าเธอเกิดท้องขึ้นมาจริงๆ เธอสามารถดูแลลูกของเธอให้ได้มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายได้อย่างแน่นอน แต่ที่เธอกลัวที่สุดก็คือลูกของเธอต้องขาดพ่อเหมือนกันกับเธอ...
‘ลูกฉันจะต้องมีพ่อ พ่อที่รักและสามารถปกป้องเขาได้’ ปลายฟ้าเอ่ยบอกกับตัวเองก่อนจะออกแรงขัดขืนชายหนุ่ม ถ้าเขาต้องการมีอะไรกับเธอจริงๆ เขาก็ต้องป้องกัน
“เธอไม่มีวันท้องกับฉันเหรอปลายฟ้า”
“พี่ภีม?”
“ฉันไม่เคยคิดจะมีลูก โดยเฉพาะลูกที่เกิดจากผู้หญิงอย่างเธอ”
“แล้วทำไม...?”
“ตอนเธอเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอไม่ได้สังเกตผ้าพันแผลที่แขน หรือไม่รู้สึกเจ็บแขนบ้างเลยรึไง”
“...” ปลายฟ้าก้มลงไปมองแขนเรียวของตัวเองอีกครั้งก่อนหน้านี้เธอก็นึกอยู่เหมือนกันว่าตัวเองไปโดนอะไรมา ‘ยาคุมเหรอ?’
“นี่พี่ภีมฝังยาคุมให้หนูเลยเหรอคะ”
“เธอก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ของฉัน จนกว่าฉันจะพอใจและเขี่ยเธอทิ้งไปเอง”
“...” ปลายฟ้าชะงักไปทันทีที่ได้ยินประโยนนั้นออกมาจากปากของชายหนุ่ม ก่อนที่เธอจะยกยิ้มออกมาทั้งน้ำตาพร้อมกับเอ่ยบอกกับเขาออกไปเสียงเรียบอย่างที่เธอไม่เคยพูดกับเขามาก่อน
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญพี่ภีมทำจนพอใจเลยค่ะ ฟ้ายินดีเป็นที่ระบายของพี่ภีมค่ะ”
“ไร้ค่าชะมัด”
“...”
สวบบบบบ!!!
“อึก...” ปลายฟ้ากัดริมฝีปากของตัวเองจนแน่น เพื่อไม่ให้เสียงร้องเล็ดลอดออกไปจากริมฝีปากบางของเธอ มือบางจับแคร่ไม้ตรงหน้าไว้แน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียงหลักล้มลงไปหน้ากระแทกกับแคร่ไม้ไผ่ตรงหน้า
“อดทนได้ก็อดทนไป...หึหึ”
มือหนาจับสะโพกกลมไว้แน่นก่อนที่เขากระแทกใส่เธอไม่ยั้ง ร่างบางสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทก ยิ่งเธอพยายามข่มเสียงและอารมณ์ของตัวเองเอาไว้เขาก็ยิ่งกระแทกเธอแรงขึ้น
“อ อ๊ะ!...อึก...พะ พี่ภีมเบาหน่อยค่ะ”
ตับ! ตับ! ตับ!
“...”
“ยอมเปิดปากพูดได้แล้วเหรอ?...อ โอ้วววว” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าอย่างสะใจ ก่อนที่เขาจะครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน
“พะ พี่ภีม อะ อ๊ายยย จะ เจ็บค่ะ ฟ้าเจ็บ” ปลายฟ้าร้องบอกชายหนุ่มเสียงสั่น ก่อนที่เธอจะเสียหลักล้มลงไปกระแทกเข้ากับแคร่ไม้ไผ่อย่างแรง แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ไม่คิดที่จะอ่อนโยนกับเธอเลยแม้แต่น้อย
“แค่นอนให้ฉันเอาเธอไม่ตายหรอกน่า”
“...” ปลายฟ้านอนมองออกไปยังกองไปที่ลุกโชนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เลื่อนลอย หัวของเธอปวดตุบราวกับว่ามันจะระเบิดเสียให้ได้
“ฟ้าไม่ไหวแล้วค่ะ” ปลายฟ้าพึมพำออกมาก่อนที่สติของเธอจะดับวูบไป หลังจากนั้นเธอก็ไม่สามารถรับรู้ได้อีกแล้วว่าเขาทำอะไรกับร่างกายของเธอบ้าง
“อ่าส์...!!” ภีมกระแทกใส่ร่างบางตรงหน้าไม่ยั้ง ก่อนที่เขาจะปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นของเขาเข้าไปในกายของหญิงสาวตรงหน้า
“...” ชายหนุ่มพลิกร่างบางตรงหน้าขึ้นมา ก่อนที่คิ้วหนาจะขมวดเข้าหากัน มือหนาลูบลงที่หน้าผากของหญิงสาวเบาๆ ไอร้อนจากร่างกายของคนตรงหน้าทำให้คิ้วหนาขมวดผูกกันเป็นปม ก่อนที่เขาจะมองไปยังสายฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างหนัก
“ลืมตาขึ้นมา”
“ปลายฟ้า ปลายฟ้าฉันบอกให้เธอลืมตาขึ้นมา” ชายหนุ่มตะคอกหญิงสาวตรงหน้าเสียงดังลั่น แต่ร่างบางก็ยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง
“โธ่เว้ย!...เธอจะมาตายบนเกาะของฉันไม่ได้”
ชายหนุ่มอุ้มร่างบางขึ้นมานอนบนแคร่ไม้ ก่อนที่เขาจะเดินไปยังหีบไม้พร้อมกับเปิดมันขึ้นมา ร่างสูงหยิบเสื้อผ้าของตัวเองมาใส่ก่อนที่จะหยิบอีกตัวขึ้นมาใส่ให้กับร่างบางตรงหน้า
“ตัวเบาขนาดนี้เธอกินอะไรเข้าไปบ้างไหมเนี่ย” ภีมอุ้มร่างบางด้วยมือเดียวของเขา ในขณะที่มืออีกข้างของเขากำลังปูผ้าปูที่นอนอย่างส่งๆ ก่อนที่เขาจะวางร่างบางลงกับแคร่ไม้ที่ปูที่นอนเรียบร้อยแล้วอย่างเบามือ
“...” ภีมนั่งมองร่างบางตรงหน้านิ่งๆ อยู่อย่างนั้นสักพักก่อนที่เขาจะเดินไปหยิบผ้าผืนเล็กชุบน้ำก่อนจะนำมาเช็ดตัวให้กับหญิงสาวที่นอนแน่นิ่งไม่ได้สติอยู่ตรงหน้า
“เธอไม่น่ามาที่นี่เลยปลายฟ้า”
“ทุกอย่างมันกำลังจะเข้าที่เข้าทางของมันอยู่แล้ว”
“ลูกของเราอย่างนั้นเหรอ”
ภีมพึมพำออกมาก่อนที่เขาจะนึกถึงเรื่องราวที่เขาได้เห็นกับตา และได้ยินมันกับหูทั้งสองข้างของตัวเองผ่านกล้องวงจรปิดที่คฤหาสน์ของคุณพ่อและคุณแม่ของเขาที่ร่วมสร้างมาด้วยกัน
3 เดือนก่อนหน้า...
“คุณภูถ้าผู้บริหารชุดนี้มันไม่ได้เรื่อง เราก็เปลี่ยนใหม่สิคะ”
“เราจะหาใครที่โปรไฟล์ดีๆ แบบนี้ได้อีก” ภูที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนวีลแชร์เงยหน้าขึ้นมามองเมียรักอีกครั้งอย่างรอคำตอบ
“ปลายฟ้าค่ะ”
“ลูกสาวของคุณน่ะเหรอ? ไม่ได้เจอตั้งนานแล้วไม่รู้ว่าตอนนี้หนูฟ้าจะเป็นยังไงบ้าง?”
“ตอนนี้ฟ้าของเราเป็นถึงเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า ปีนึงทำกำไรได้เป็นร้อยๆ ล้านเลยนะคะ”
“ลูกของเราเก่งใช่ไหมคะ”
“หึหึ เก่งเหมือนคุณไงล่ะ ถ้าหนูฟ้ามาไทยก็ช่วยบอกผมด้วยน่ะ”
“ค่ะ”
งานแต่งงานระหว่างภีมเดชหลานชายเพียงคนเดียวของคุณหญิงจิตตรีและพลอากาศเอกหม่อมราชวงศ์ทีปรกร วัชรสกุล และปลายฟ้า ซานโตโร ลูกสาวคนเล็กของตระกูลเก่าแก่จากอิตาลีถูกจัดขึ้น 3 วัน 3 คืน ณ โรงแรมมันตราปุระ จังหวัดภูเก็ตงานแต่งงานของเขาถูกกล่าวถึงไปทั่วเกาะภูเก็ต เนื่องจากชายหนุ่มปิดโรงแรมของตนเป็นเวลา 3 วัน 3 คืนเต็มเพื่อรับรองแขกรับ VVip ของพวกเขาตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!“...” ภีมยืนรอเจ้าสาวของเขาอยู่บริเวณชั้น 1 อย่างใจจดใจจ่อ หัวใจดวงโตเต้นโครมครามราวกับว่ามันจะหลุดออกมาเสียให้ได้เขาตั้งใจจัดงานแต่งงานขึ้นมาจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา จนกระทั่งวันนี้มาถึง...เพียงแค่เห็นรอยยิ้มของผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดของเขาก็กลับหายไปอย่างน่าประหลาด“พี่ภีมคะ”“...” เสียงเจ้าสาวร้องเรียกเจ้าบ่าวของตัวเองออกดังขึ้นมาจากชั้น 2 ของบ้านพักริมทะเลของชายหนุ่มหญิงสาวในชุดแต่งงานสีขาวสะอาดตา กับเครปหลังผืนยาวลากพื้นช่วยปกปิดแผ่นหลังเปลือยเปล่าขาวเนียนของเจ้าสาวเอาไว้“พี่ภีมคะ”“คะ ครับ”“เราออกไปกันเลยไหมคะ” ปลายฟ้าเอ่ยถามเจ้าบ่าวของเธออกมาเสียงหวาน พร้อมกับยื่นมือบางของต
“ฮึกกกก ขอโทษจริงๆ ครับ”“พี่ภีมร้องไห้เหรอคะ?” ปลายฟ้าเอ่ยถามออกมาด้วยความตกใจ“พี่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง พี่ขอโทษนะครับ...” ภีมเอ่ยบอกกับร่างบางในอ้อมกอดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา“พี่ภีมค่ะ” ปลายฟ้าลูบลงที่แผ่นหลังแกร่งของคนตรงหน้าเบาๆ เพื่อปลอบประโลมเขา ตั้งแต่รู้จักกับพี่ภีมเขาแสดงแต่ด้านที่เข้มแข็งให้กับทุกๆ ได้เห็น แต่ไม่นึกเลยว่าคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้น เวลาที่อ่อนแอจะน่าสงสารขนาดนี้“ไม่ต้องรู้สึกผิดแล้วนะ ตอนนี้ฟ้าไม่ได้เป็นอะไรแล้วนะคะ”“พี่กำลังรู้สึกผิดอยู่ใช่ไหมคะ?”“ฟ้ารู้ว่าพี่ภีมต้องการแก้แค้นแม่ของฟ้า...”“ถ้าคุณพ่อของพี่รู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ท่านจะต้องไม่อยู่เฉยอย่างแน่นอน”“ฮึกกกกก...”“เช้ามืดวันนั้นที่พี่ภีมรู้ข่าว ฟ้าเห็นพี่ร้องไห้...”“ในวันนั้นฟ้ารับรู้ได้นะคะว่าพี่เสียใจมากแค่ไหนกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”“ตอนที่ฟ้าโดนยิงก็เหมือนกัน...ถึงฟ้าจะไม่เห็น แต่ฟ้าได้ยินทุกคำที่พี่พูดออกมา”“ฉันรักเธอ”“ถ้าไม่มีเธอฉันคงอยู่ไม่ไหว”“ฉันไม่พร้อมจะแลกอะไรกับการไม่เธอหรอกนะปลายฟ้า เธอได้ยินฉันไหม?”“ฟ้าได้ยินค่ะ เพราะคำพูดของพี่ทำให้ฟ้าอยากกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ฟ้าอ
ณ กรุงโรง ประเทศอิตาลี “สวัสดีค่ะคุณภีม”“...” ภีมมองร่างบางตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ เขาจำได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นเลขาของอาร์ซีพี่ชายเพียงคนเดียวของปลายฟ้าไม่ผิดแน่ แต่ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ที่ได้ล่ะ...ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยบอกใครมาก่อนว่าจะมาที่นี่ในวันนี้“ดิฉันชื่อพะแพง เป็นเลขาของคุณอาร์ซีนะคะ”“มันส่งเธอมาอย่างนั้นเหรอ?”“ใช่ค่ะ”“...”“นายท่านเป็นคนส่งฉันมาค่ะ เชิญทางด้านนี้ค่ะ” พะแพงเอ่ยบอกกับชายตรงหน้า ก่อนที่จะเดินนำเขาไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกล“ปลายฟ้าอยู่ที่ไหน?” ภีมถามหญิงสาวตรงหน้าออกมาเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องไปยังหญิงสาวตรงหน้านิ่งๆ อย่างรอคำตอบ“คุณฟ้าปลอดภัยดีค่ะ ตอนนี้เธอพักรักษาตัวอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลซานโตโร”“...” มุมปากหนายกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะหุบยิ้มลงทันที พร้อมกับเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าออกไปอีกครั้งด้วยความสงสัย“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันจะมาที่นี่”“เพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวที่คุณรักอยู่ที่นี่ไงคะ...”“ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องมาที่นี่อยู่แล้ว”“เธอพาฉันไปหาฟ้าได้ใช่ไหม?” ภีมเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าออกไปตามตรง เขาไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้อีกแล้ว...“ฉันคงพาคุณไปพบค
“ปลายฟ้าไปทำอะไรให้ มึงถึงได้...” อาร์ซีเอ่ยออกมาอย่างโกรธจัด ก่อนที่เขาจะต่อยหน้าชายตรงหน้าเต็มแรงผลัวะ! ผลัวะ!!“...” ภีมยังคงยืนนิ่งปล่อยให้พี่ชายของคนรักระบายความคับแค้นใจใส่เขาอยู่อย่างนั้น เขาไม่มีอะไรจะแก้ตัวเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจนกระทั่งตอนนี้มันก็เป็นความผิดของเขาทั้งหมด“ถ้าฟ้าเป็นอะไรไปกูจะฆ่ามึงด้วยมือของกูเอง”ผลัวะ! ผลัวะ!“ขอโทษ ฮึกกกกกก ขอโทษ” อาร์ซีชะงักไปเล็กน้อยที่เห็นท่าทีของชายหนุ่มที่เปลี่ยนไป แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกสงสารคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย เพราะที่ผ่านมาน้องสาวเขาต้องทรมานขนาดไหนมันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกผิดในวันที่สายไปแล้วของคนตรงหน้าผลัวะ!“กู”ผลัวะ!“ไม่ให้...”“ตายแล้วอาร์ซีลูก” ปานมุกรีบเข้ามาห้ามปรามลูกชายของเขาในทันทีด้วยความตกใจ“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”เอริคเอ่ยถามลูกชายออกมาเสียงเรียบพร้อมกับจ้องลูกชายของเขาอย่างรอคำตอบ ก่อนที่ปานมุกจะเอ่ยถามลูกชายของเขาออกมาด้วยอีกคน“ทำไมถึงไม่ค่อยพูดค่อยจากันล่ะลูก?”“...”“แล้วนี่ฟ้าอยู่ไหน? น้องอยู่ไหนลูก?” ปามุกเอ่ยถามลูกชายออกมาเสียงสั่น เธอรู้สึกไม่ดีตั้งแต่อยู่บนแล้ว...อยู่ดีๆ ลูกชายก็ส่งคนไปรับกะทันหันแบ
ถึงภีมลูกรักในวันที่ลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้พ่อคงไม่ได้มีลมหายใจอยู่บนโลกนี้แล้ว ชีวิตนี้พ่อทำผิดต่อทุกคนโดยเฉพาะแม่และน้องของลูก พ่อไม่ได้หวังให้ลูกให้อภัยพ่อ แต่พ่อหวังว่าสักวันลูกจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง ภีมของพ่อเป็นคนอย่างไงพ่อรู้ดี ต่อไปนี้พ่ออยากให้ลูกใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับคนที่ลูกรักอย่างมีความสุข อย่าได้ยึดติดกับความผิดพลาดของพ่ออีกเลยนะลูกและสุดท้ายนี้ลูกคงจะได้เห็นพินัยกรรมที่พ่อทำไว้แล้ว ทั้งหมดมันเป็นความตั้งใจจริงของพ่อตั้งแต่แรก ถ้าไม่มีแม่ของลูกพ่อก็คงไม่ได้มีทุกอย่างอย่างในทุกวันนี้ ดังนั้นสมบัติทั้งหมดที่พ่อสร้างมากับแก้วตาแม่ของลูกพ่อขอยกมันให้กับลูกทันหมดรักลูกภีมตลอดไป “...” ภีมอ่านจดหมายตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย ก่อนที่เขาจะหันไปมองทุกคนด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ผมฝากจัดการต่อด้วยนะครับ” ภีมเอ่ยบอกกับคนทนายของคุณพ่อเขาเสียงเรียบ“ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”“ครับ”“พวกแกยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” ประตูบานใหญ่ถูกมืบางของปาลินกระชากออกอย่างแรง ก่อนที่เธอจะกลับเข้ามาอีกครั้งด้วยสภาพที่ต่างไปจากก่อนหน้านี้“แ
ณ ศาลาสวดพระอภิธรรมรถตู้คันหรูถูกขับเข้ามาจอดหน้าศาลาที่ถูกจัดขึ้นอย่างสมฐานะมหาเศรษฐีระดับต้นๆ ของประเทศ ถึงแม้ว่าคุณภูธเรศจะจากไปแล้วแต่สิ่งที่เขาสร้างยังคงเป็นที่ประจักรต่อสายตาของคนรุ่นหลัง“.../...” ภีมเดินจากรถตู้คันหรูท่ามกลายสายตาทุกคู่ที่จับจ้องมาที่เขา ตั้งแต่วันที่คุณแม่ของเขาจากไปเขาก็หายตัวไปเลย จนกระทั่งเขากลับมาปรากฎตัวอีกครั้งในวันนี้พร้อมกับสาวสวยข้างกายเขา“...” ปาลินมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับลูกสาวของตัวเองด้วยสายตาที่เรียบเฉย“20 ปีไม่เคยจะมาให้พ่อเห็นหน้า พอเขาตายก็หวังจะมาเอาสมบัติเขาสินะ” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของปาลินเอ่ยขึ้นก่อนที่สายตาของเธอจะมองไปยังลูกเลี้ยงของเพื่อนสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกลียด“พอเถอะน่า...ยังไงเขาก็ลูก” ปาลินเอ่ยบอกกับเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง“ลินดูแลคุณภูมาตลอด 20 ปี ฉันเชื่อว่าสมบัติทุกอย่างคุณภูต้องยกให้เธออย่างแน่นอน”“...” ปาลินไม่ได้ตอบเพื่อนของเธอกลับไป เธอทำเพียงแค่อมยิ้มให้กับเพื่อนสาวอย่างน้อมรับคำพูดของคนตรงหน้า“ตัวจริงคุณภีมหล่อมาก แต่น่าเสียดายที่เขามีภรรยาแล้ว”“นั่นสิยะ คนอะไรหล่อ รวย เก่ง ฉล