공유

บทที่ 356

작가: หลันซานอวี่
ภายในห้อง ทันทีที่อวิ๋นฝูหลิงเข้ามา ก็เห็นหญิงสาวท้องนูนผู้หนึ่งนอนอยู่บนเตียง ขณะที่ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

เมื่อเห็นฮูหยินฉู่เข้ามา หญิงสาวผู้นั้นก็ยื่นมือมาทางฮูหยินฉู่โดยพลัน “ท่านแม้ ปกป้องเด็กไว้ จะต้องปกป้องลูกของข้ากับพี่หมิงเอาไว้ให้ได้นะเจ้าคะ!”

ฮูหยินฉู่รีบก้าวไปด้านหน้าสองก้าว และจับมือของฮูหยินน้อยฉู่ไว้ พลางกล่าวปลอบโยนนาง “ซินเอ๋อร์ เจ้ากับลูกจะต้องไม่เป็นอันใด แม่เชิญหมอเทวดามาแล้ว...”

อวิ๋นฝูหลิงยกผ้าห่มขึ้น ก็เห็นว่าระหว่างขาทั้งสองข้างของฮูหยินน้อยฉู่มีคราบเลือดอยู่

หลังจากตรวจชีพจรแล้ว สีหน้าของนางก็เคร่งขรึมมากขึ้น

อาการของฮูหยินน้อยฉู่ไม่สู้ดีมากจริง ๆ มิน่าเล่าหมอมากมายด้านนอกจึงไม่อาจทำอันใดได้ ต่อให้มีดาบพาดอยู่บนลำคอ ก็ยังบอกตามตรงว่ารักษาไม่ได้

การตั้งครรภ์ของฮูหยินน้อยฉู่ไม่สู้ดี ทั้งยังมีอาการน้ำคร่ำแตก สิ่งที่เป็นปัญหาที่สุดคือนางตั้งครรภ์ลูกแฝด

หากไม่ระวังเพียงนิดเดียว อาจทำให้สูญเสียสามชีวิตจากหนึ่งศพได้!

ฮูหยินฉู่เห็นสีหน้าเคร่งขรึมของอวิ๋นฝูหลิง ทั้งยังไม่พูดอันใด หัวใจก็กระตุกวูบโดยพลัน

หรือแม้แต่อวิ๋นฝูหลิงก็ยังไม่มีวิธีช่วยลูกสะใภ้ของนางได้?

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 357

    ทั้งสองสกุลไปมาหาสู่กัน เมื่อเดี๋ยวไปหาเดี๋ยวมาหาเช่นนี้ อวิ๋นฝูหลิงกับโอวหยางหลันจึงคุ้นเคยกันขึ้นมาโอวหยางหลันร่ำเรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งพรสวรรค์ยังสูงส่ง จึงย่อมมีความเย่อหยิ่งเข้ากระดูกก่อนหน้านี้ยามที่ฮ่องเต้จิ่งผิงประชวรหนัก อวิ๋นฝูหลิงใช้ทักษะอันน่าอัศจรรย์รักษาคนจนหายดี หลังจากโอวหยางหมิงกลับไปก็ชื่นชมอวิ๋นฝูหลิงเป็นอย่างมาก เมื่อโอวหยางหลันได้ยินก็ไม่พอใจนักหญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ แม้จะเป็นลูกหลานสกุลอวิ๋น แต่ทักษะแพทย์จะเอาชนะบิดาของตนได้อย่างไร?เพียงแต่น่าเสียดายที่ในสำนักหมอหลวงก็มีการแบ่งเป็นหลายระดับ มิใช่ว่าใครก็ล้วนมีคุณสมบัติที่จะไปเข้าเฝ้าและรักษาฮ่องเต้จิ่งผิงได้ยามนี้โอวหยางหลันได้ตรวจอาการป่วยของเหล่านางสนมในวังหลังเท่านั้น ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ดังนั้นวันนั้นที่มีการรักษาที่ตำหนักจื่อเฉิน เขาจึงไม่ได้อยู่ที่นั่น ทั้งยังไม่ได้เห็นอวิ๋นฝูหลิงแสดงทักษะการแพทย์ด้วยตาตัวเองบิดามองออกว่าเขาไม่พอใจ จึงเชิญอวิ๋นฝูหลิงมารับประทานอาหารที่จวนหลังจากนั้นก็อ้างว่าเพื่อทดสอบคนรุ่นใหม่ในสกุล จึงเสนอให้ตรวจชีพจรวินิจฉัยโรคให้ทุกคนและสั่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 358

    เนื่องจากฮูหยินน้อยฉู่ยังฝังเข็มอยู่ ดังนั้นจึงทำได้เพียงยื่นมือออกมานอกม่านเตียง ให้โอวหยางหลันตรวจชีพจรผ่านม่านของเตียงอวิ๋นฝูหลิงบอกอาการชีพจรฮูหยินน้อยฉู่ก่อนหน้านี้ ขณะที่ตัวเองฝังเข็มไปด้วยโอวหยางหลันได้ยินก็พยักหน้าซ้ำ ๆทักษะการฝังเข็มของอวิ๋นฝูหลิงล้ำเลิศ ต่อให้เขาฝังเข็มเอง ก็เกรงว่าคงเทียบไม่ได้เพียงแต่แม้ว่าทารกในครรภ์ของฮูหยินน้อยฉู่จะได้รับการฝังเข็มเพื่อคงสภาพไว้ชั่วคราว แต่ชีพจรของนางก็ยังคงไม่สู้ดีนักโอวหยางหลันกับอวิ๋นฝูหลิงสบตากัน ทั้งสองคนมิได้บอกความจริงต่อหน้าคนไข้ แต่อ้างว่าจะไปหารือเรื่องการจ่ายยาด้วยกัน จึงเดินออกไปด้านนอกก่อนออกไป อวิ๋นฝูหลิงก็ถอนเข็มออกจากร่างของฮูหยินน้อยฉู่แล้ว ทั้งยังทำให้อาการของนางสงบลงชั่วครู่เมื่อวิ๋นฝูหลิงเข้ามาที่ห้องด้านข้าง ฮูหยินฉู่ ฉู่หมิงและโอวหยางหลันก็มารออยู่แล้วอวิ๋นฝูหลิงสบตากับโอวหยางหลัน “ท่านลุงห้า ท่านจะพูดหรือจะให้ข้าพูด?”โอวหยางหลันโบกมือ และกล่าวว่า “เจ้าพูดเถอะ”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า มองไปทางฮูหยินฉู่กับฉู่หมิง และกล่าวตามตรง “ฮูหยินฉู่ แม่ทัพน้อยฉู่ อาการของฮูหยินน้อยฉู่แย่มาก”“แม้ข้าจะฝังเข็มรักษาส

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 359

    ฮูหยินฉู่กับฉู่หมิงได้ยินอวิ๋นฝูหลิงบอกว่ามีวิธี ก็มองมาอย่างมีความหวังด้วยความพร้อมเพรียง และถามพร้อมกันว่า “วิธีอันใด?”อวิ๋นฝูหลิงมองทั้งสองคน ก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง และพ่นออกมาสี่พยางค์ “ผ่าท้องคลอดเด็ก”สีหน้าของฮูหยินฉู่กับฉู่หมิงเปลี่ยนไปพร้อมกันร่างของฮูหยินฉู่โซเซ ล้มกลับไปนั่งบนเก้าอี้สีหน้าของฉู่หมิงเคร่งขรึม ในดวงตาทั้งสองข้างราวกับจะพ่นไฟออกมา “พระชายา ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านพูดอันใดอยู่?”“ท่านเป็นหมอเทวดา ไม่บอกว่าจะช่วยภรรยาข้า และยังกล้าหมายเอาชีวิตภรรยาข้าไปอีก!”“ท่านเป็นหมอเทวดาแบบใดกัน?”“ผ่าท้องคลอดเด็กหรือ? ภรรยาช้ายังมีลมหายใจอยู่ ท่านกลับคิดจะผ่าท้อง...”ฉู่หมิงต่อว่าเสียงดัง หากมิใช่เพราะอวิ๋นฝูหลิงมีฐานะเป็นพระชายาอี้อ๋อง เกรงว่าเขาคงทุบตีนางไปแล้วโอวหยางหลันขมวดคิ้วแน่น รีบเดินมาข้างอวิ๋นฝูหลิง และกระซิบว่า “ฝูหลิง วิธีนี้ของเจ้าทำไม่ได้แน่นอน”“ไม่ต้องพูดถึงว่าจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินกุมอำนาจทางการทหารส่วนหนึ่งเอาไว้ ซึ่งมีอำนาจล้นฟ้า ฮูหยินน้อยฉู่เองก็มีพื้นเพมาจากจวนจวิ้นอ๋อง”“ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวสามี หรือครอบครัวเดิมของนาง ก็ไม่อาจไปยั่วยุได้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 360

    หมอตำแยที่เชิญมามีชื่อเสียงในเมืองหลวงคาดไม่ถึงว่าหลังจากหมอตำแยดูอาการของฮูหยินน้อยฉู่แล้ว จะบอกว่าอาการไม่สู้ดี เกรงว่าคงให้กำเนิดทารกออกมาไม่ได้หลังจากรายงานตามความจริง หมอตำแยก็คืนเงินมัดจำทันที และปฏิเสธที่จะรับงานนี้คราแรกสกุลฉู่ไม่เชื่อ จึงไปหาหมอตำแยคนอื่น ถึงขั้นเชิญหมอมาด้วยหลังจากมาตรวจอาการ ทุกคนก็ต่างบอกว่าอาการไม่สู้ดีวันนี้ฮูหยินน้อยฉู่ยังบังเอิญได้ยินสาวใช้ในจวน พูดว่านางไม่อาจให้กำเนิดลูกได้นี่จึงทำให้น้ำคร่ำของนางแตกสาวใช้ขี้นินทาผู้นั้นเป็นธรรมดาที่จะถูกฮูหยินฉู่จัดการแต่หมอทุกคนที่เชิญมาต่างก็ส่ายศีรษะ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่กล้าบอกว่าสามารถปกป้องทั้งแม่และลูกให้ปลอดภัยได้อวิ๋นฝูหลิงเป็นคนแรก ทั้งยังเป็นเพียงคนเดียวที่บอกว่ามีวิธีแม้ฮูหยินฉู่จะถูกคำว่า ‘ผ่าท้องคลอดเด็ก’ สี่พยางค์นี้ทำให้ตกใจ แต่ก็ยังสงบสติอารมณ์ลงได้ และกล่าวยืนยันกับอวิ๋นฝูหลิง“พระชายา การผ่าตัดคลอดเด็กที่ท่านพูดถึง ไม่เพียงแต่รักษาชีวิตเด็กไว้ได้ แต่ยังรักษาชีวิตผู้ใหญ่ไว้ได้ด้วยหรือ?”เห็นอวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า นางก็ถามอีกครา “มีโอกาสพลาดหรือไม่?”อวิ๋นฝูหลิงเม้มปาก “ทุกครั้งที

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 361

    ฮูหยินฉู่หวาดหวั่นใจ จนคิดไม่ตกไม่ชั่วขณะแม้อวิ๋นฝูหลิงจะบอกว่าสามารถผ่าเปิดหน้าท้องเพื่อเอาเด็กออก แล้วรักษาชีวิตของมารดากับบุตรไว้ได้ ทว่ามีความมั่นใจเพียงห้าส่วนเท่านั้นนางไม่กล้าเสี่ยงยิ่งไปกว่านั้นเรื่องใหญ่เช่นนี้ มิใช่เรื่องที่นางจะตัดสินใจได้เพียงคนเดียวอวิ๋นฝูหลิงเข้าใจดีว่าผ่าท้องเอาเด็กออกนั้นมิใช่เรื่องเล็ก ๆ สกุลฉู่ย่อมต้องการเวลาเพื่อใคร่ครวญและตัดสินใจนางจึงเขียนเทียบยาแผ่นหนึ่งไว้ให้กินยาตามเทียบยานี้ ยังพอทำให้ฮูหยินฉู่ไม่ต้องกังวลใจไปได้สองวันหลังจากส่งตัวอวิ๋นฝูหลิง ฉู่หมิงจึงปล่อยตัวเหล่าท่านหมอที่ก่อนหน้านี้บ้างก็เชิญมา บ้างก็จับตัวมากลับไปเช่นกันกระทั่งย้อนกลับเข้ามาจึงเห็นฮูหยินฉู่นั่งซึมกะทือไร้สติอยู่บนเก้าอี้ ท่าทางราวกับถูกดึงวิญญาณออกไปอย่างไรอย่างนั้น ดูเฒ่าชราลงไปมากในชั่วพริบตาเดียวฉู่หมิงก้าวเข้าไปหา “ท่านแม่ มันจะต้องมีสักทางแน่!”“พระชายาอี้อ๋องนั่นต้องกำลังพูดขู่อยู่แน่ ๆ ผ่าเปิดหน้าท้องเอาเด็กออกอะไรกัน แบบนั้นมิใช่ว่าเป็นการคร่าชีวิตของซินเอ๋อร์ไปหรอกหรือ?”“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าทั่วทั้งแคว้นต้าฉีจะหาท่านหมอที่เก่งกาจวิชาแพทย์กว่านา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 362

    ขณะที่ฉู่หมิงกำลังเดินวนไปวนมาด้วยความร้อนรนนั้น พลันได้ยินเสียงประตูเปิดดัง “แอ๊ด”เมื่อเขาเงยหน้ามอง ก็เห็นโอวหยางหมิงเดินออกมาพอดิบพอดีฉู่หมิงรีบก้าวเข้าไปคารวะจากนั้นไม่รั้งรอให้เขาพูดอันใด โอวหยางหมิงก็พูดขึ้นว่า “พอเถิด ไม่ต้องทำพิธีการหยุมหยิมพวกนี้หรอก มิใช่ว่ามาเชิญข้าไปตรวจอาการหรอกหรือ รีบนำข้าไปเถิด” ฉู่หมิงชะงัก ครั้นได้สติก็เข้าใจความหมายในคำพูดนี้ของโอวหยางหมิงว่าเต็มใจไปตรวจอาการให้ จึงดีเนื้อดีใจขึ้นมาในชั่วพริบตาเขารีบเข้าไปประคองโอวหยางหมิงขึ้นรถม้าด้วยตนเอง จากนั้นก็ตรงดิ่งไปยังสกุลฉู่กระทั่งมาถึงสกุลฉู่ จึงเห็นว่าครอบครัวคังจวิ้นอ๋องต่างมากันพร้อมหน้าแล้วทันทีที่เห็นโอวหยางหมิงเข้ามา คังจวิ้นอ๋องและคนอื่น ๆ ล้วนลุกขึ้นยืนกันอย่างพร้อมเพรียง แล้วเดินล้อมเข้ามาหาเขาโอวหยางหมิงประสานมือ “ให้ตาเฒ่าเช่นข้าได้ดูอาการคนป่วยสักหน่อยเถิด”ฉู่หมิงนำทางโอวหยางหมิงไปด้วยตนเองฮูหยินน้อยฉู่กินยาที่อวิ๋นฝูหลิงจัดไว้ให้ แล้วรู้สึกสบายขึ้นมาก ตอนนี้กำลังหลับอยู่โอวหยางหมิงเคลื่อนไหวเบามือ หลังจากตรวจชีพจรให้ถ้วนถี่ดูแล้ว จึงออกจากห้องไปคังจวิ้นอ๋องและคนอื่น ๆ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 363

    จะรักษาชีวิตคนใหญ่หรือเด็ก นี่จะให้พวกเขาเลือกเช่นไร?คังจวิ้นอ๋องกัดฟัน แล้วโพล่งขึ้นมาว่า “มิใช่ว่าพระชายาอี้อ๋องผู้นั้นบอกว่าสามารถผ่าเปิดหน้าท้องเอาเด็กออกมาได้หรอกหรือ?”พระชายาคังจวิ้นอ๋องมองคังจวิ้นอ๋องด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านเสียสติไปแล้ว?”หากบุตรสาวถูกผู้อื่นผ่าเปิดหน้าท้องแล้ว ยังจะมีชีวิตอยู่ได้เช่นไร?อย่างมากก็แค่ไม่เก็บครรภ์นี้ไว้ แล้วให้สกุลฉู่รักษาชีวิตคนใหญ่ไว้เสียดีกว่าถึงอย่างไรชีวิตของบุตรสาวย่อมสำคัญกว่า!ไว้บำรุงร่างกายของบุตรสาวดี ๆ แล้วค่อยมีบุตรใหม่อีกครั้งก็ได้แล้วทว่าคังจวิ้นอ๋องกลับมีความคิดที่ต่างออกไปแม้ว่าเขาจะเป็นท่านอ๋องจอมเอ้อระเหย แต่เรื่องใหญ่อย่างเซียวจิ่งอี้แต่งพระชายานั้น เขาที่เป็นราชนิกุลย่อมรู้เรื่องแน่นอนกระทั่งคุณงามความดีของพระชายาอ๋องผู้นั้นของเซียวจิ่งอี้ ก็มีคนพูดถึงกันอยู่ไม่น้อยพระชายาอี้อ๋องผู้นั้น มีวิชาแพทย์ติดตัวอยู่บ้างจริง ๆในเมื่อนางกล้าออกปากพูดถึงวิธีผ่าเปิดหน้าท้องเอาเด็กออก ก็ไม่มีทางเป็นคำพูดเลื่อนเปื้อนที่พูดไปเรื่อยแน่มิเช่นนั้นนางจะรับเพลิงโทสะของจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินกับจวนคังจวิ้นอ๋องได้ไหวหรือต่อให้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 364

    “วันพรุ่งไม่สู้ลองเชิญพระชายาอี้อ๋องมาอีกครั้ง แล้วให้อธิบายวิธีผ่าเปิดหน้าท้องเอาเด็กออกให้ละเอียดดีหรือไม่?”“หลังลองฟังดูแล้วค่อยตัดสินใจกันอีกครา?”หลังจากที่คังจวิ้นอ๋องและคนอื่น ๆ สบตากัน ทุกคนล้วนเห็นด้วยที่วันพรุ่งจะเชิญอวิ๋นฝูหลิงมาอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวคังจวิ้นอ๋อง พวกเขาอยากได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดเองกับหูส่วนทางอวิ๋นฝูหลิงหลังจากกลับมาถึงจวนอี้อ๋องนั้น ก็เข้ามิติไปรื้อค้นในเรือนไม้ไผ่ เพื่อตระเตรียมของสำหรับการผ่าคลอดนางมีลางสังหรณ์ ว่าสุดท้ายแล้วสกุลฉู่จะยอมให้นางทำการผ่าคลอดวันต่อมา ขณะที่อวิ๋นฝูหลิงกำลังกินข้าวเช้า ในจวนอ๋องพลันมีแขกไม่ได้รับเชิญท่านหนึ่งปรากฏตัวครั้นอวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่เสด็จมา จึงประหลาดใจไม่น้อยนับแต่งานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ทั้งคู่ก็ไม่ได้คลุกคลีอะไรกันอวิ๋นฝูหลิงสัมผัสได้ราง ๆ ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่ดูเหมือนจะมีเจตนาร้ายต่อนาง จึงคอยอยู่ห่าง ๆ ไว้แล้วเหตุใดนางถึงได้โผล่มาถึงหน้าจวนกะทันหันแบบนี้?วันนี้เซียวจิ่งอี้มิได้มีกิจอันใดพอดี และกำลังร่วมกินข้าวเช้าอยู่กับอวิ๋นฝูหลิงครั้นทราบว่าฉยงอวี้จวิ้นจู

최신 챕터

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 632

    อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่แมลงวันสักตัวก็อย่าคิดว่าจะได้ออกไปจากจุดพักแรมของทางการนี้ยามนี้คนผู้นั้นซึ่งคิดจะหลบหนีออกจากจุดพักแรมถูกจับตัวอยู่ และถูกทหารลาดตระเวนโยนมาไว้ตรงหน้าเซียวจิ่งอี้แล้ว เหล่าทหารองครักษ์ที่คอยเฝ้าอยู่ข้างเวินเจา จำคนผู้นั้นได้ทันทีว่าเป็นสตรีผู้นั้นซึ่งมาส่งอาหารก่อนหน้านี้เมื่อเอาเรื่องราวมารวมเข้าด้วยกัน ก็รู้ได้ว่านางจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางยาพิษเวินเจาเป็นแน่เซียวจิ่งอี้ลูบแหวนหยกบนมือ สายตามองไปที่นางอย่างเย็นชา“เหตุใดเจ้าต้องวางยาพิษด้วย?”“ในจุดพักแรมยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดของเจ้าอีกหรือไม่?”สตรีผู้นั้นเพียงแค่ส่งเสียงหัวเราะ โดยไม่ได้ตอบคำถามเซียวจิ่งอี้เห็นเช่นนั้นก็มิได้โกรธ และออกคำสั่งว่า “ไปพาตัวทุกคนในจุดพักแรมแห่งนี้มา ตรวจสอบพื้นเพของสตรีผู้นี้ให้ละเอียด จับตัวทั้งครอบครัวของนางมาให้หมด!”มีผู้ใต้บังคับบัญชาทำตามคำสั่งทันทีเซียวจิ่งอี้สังเกตการแสดงออกของสตรีผู้นั้น ทว่ากลับเห็นว่าการแสดงออกของนางไม่เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่ยามที่ได้ยินเซียวจิ่งอี้บอกว่าจะจับทั้งครอบครัวของนางมา ก็ยังไม่แม้แต่จะขยับคิ้วแววตาของเซียวจิ่งอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 631

    รอบด้านรถคุมตัวนักโทษมีทหารองครักษ์เฝ้าอยู่สิบกว่าคน ทหารองครักษ์เรียกได้ว่าเข้มงวดมากทันทีที่มีคนเข้ามาใกล้ พวกทหารองครักษ์ก็ตะโกนออกไปอย่างระแวดระวัง “ใคร?”หญิงที่มาส่งอาหารราวกับถูกเสียงตะโกนทำให้ตกใจ และพูดอย่างสั่นเทาทันที “ใต้...ใต้เท้า ข้าน้อยเป็น...เป็นคนที่มาส่งอาหารเจ้าค่ะ...”เหล่าทหารองครักษ์มองบะหมี่บนถาดในมือนาง สีหน้าจึงเพิ่งอ่อนลงหลายส่วนหนึ่งในนั้นโบกมือ “เข้ามา”หญิงส่งอาหารผู้นั้นจึงเพิ่งก้าวไปด้านหน้า ถือบะหมี่ไปยังรถคุมตัวนักโทษคาดไม่ถึงว่าเพิ่งเดินไปไม่กี่ก้าว ยังมิทันได้ไปตรงหน้ารถคุมตัวนักโทษ ก็ถูกคนขวางทางไว้ทหารองครักษ์ผู้หนึ่งถือเข็มเงินไว้ในมือ แสดงท่าทีว่าจะทดสอบพิษในบะหมี่เมื่อหญิงผู้นั้นเห็นเช่นนี้ แววตาก็เกิดประกายวาบผ่านเล็กน้อยผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็ลดสายตาลงอย่างรวดเร็ว และปกปิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ไว้ทหารองครักษ์ใช้เข็มเงินทดสอบในบะหมี่ เมื่อเห็นว่าเข็มเงินไม่ได้เปลี่ยนสี จึงเพิ่งพยักหน้าให้คนด้านข้างเล็กน้อยคนผู้นั้นก้าวมาด้านหน้ารับบะหมี่ไปทันที และกล่าวกับหญิงผู้นั้นว่า “เจ้าไปได้แล้ว”หญิงผู้นั้นสะดุ้งก่อนโค้งคำนับอย่างนอบน้อม

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 630

    เซียวจิ่งอี้นั่งอยู่บนรถม้า สายตามองทะลุผ่านหน้าต่างรถม้า เห็นพวกลุงหลี่ในฝูงชนเมื่อเห็นพวกเขาน้ำตาคลอเบ้า คุกเข่าขอบคุณด้วยสีหน้าซาบซึ้ง ก็นึกถึงก่อนหน้านี้ที่เทียนเฉวียนรายงานว่าพลเรือนจากเกาะหมัวกุ่ยเหล่านั้นได้รับการจัดหาที่อยู่อย่างเหมาะสมแล้ว ดูท่าผู้ใต้บังคับบัญชาจะทำหน้าที่ได้ไม่เลวทีเดียวมุมปากของเซียวจิ่งอี้โค้งเล็กน้อย ในอกรู้สึกอุ่น ๆ ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้กำลังพรั่งพรูขึ้นมาขบวนรถม้าเดินทางมาหนึ่งวันแล้ว และแวะค้างแรมในจุดพักแรมของทางการหลังจากเซียวจิ่งอี้ลงมาจากรถม้า ก็มองไปทางรถคุมตัวนักโทษคันหนึ่งในกลุ่มเป็นพิเศษคนที่นั่งอยู่ในรถคุมตัวนักโทษมิใช่ใครอื่น แต่เป็นเวินเจานั่นเองสาเหตุที่เซียวจิ่งอี้จัดขบวนใหญ่โต ก็เพื่อดึงดูดสายตาของท่านจอมปราชญ์เหวินและพวกคนแคว้นเยว่ ให้มาช่วยเหลือเวินเจาระหว่างการเดินทางครั้งนี้ เป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขาแล้วหากพวกเขายังไม่ลงมือ รอจนให้เวินเจาถูกคุมตัวกลับเมืองหลวง ย่อมมีโอกาสสูงที่จะถูกลงโทษประหารชีวิตหลังจากเข้าเมืองหลวงแล้ว หากพวกท่านจอมปราชญ์เหวินคิดจะเข้าไปช่วยคนในคุกหลวง นั่นก็นับว่าเพ้อฝันแล้วส่วนการบุกไปชิงตัว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 629

    ยามที่กลุ่มของเซียวจิ่งอี้ออกจากจินโจว กองทหารเกียรติยศของอี้อ๋องคุ้มกันโดยตรง จึงมีความยิ่งใหญ่เกรียงไกรมากเทียบกับก่อนหน้านี้ที่ออกจากเจียงโจว พาอวิ๋นฝูหลิงกับลูกชายกลับเมืองหลวงโดยไม่ให้เป็นจุดสนใจนับว่าต่างกันโดยสิ้นเชิงระหว่างทางมีขุนนางและประชาชนมารอส่งไม่กี่วันที่ผ่านมา เซียวจิ่งอี้ได้จัดระเบียบเหล่าขุนนางในจินโจว ลงโทษข้าราชการทุจริต คืนความยุติธรรมให้ประชาชนอวิ๋นฝูหลิงใช้วิชาแพทย์ช่วยเหลือผู้คน เมื่อเจอผู้ป่วยที่ครอบครัวยากจน ก็ยังยกเว้นค่ารักษาของพวกเขาด้วยสิ่งนี้ย่อมทำให้เกิดน้ำหนักในใจของประชาชนเซียวจิ่งอี้กับอวิ๋นฝูหลิงมีจิตใจเมตตา ประชาชนย่อมจดจำความดีของพวกเขาไว้ในใจท่ามกลางฝูงชนที่คับคั่ง ชายร่างสูงผอมผิวคล้ำผู้หนึ่งยืดคอยาว มองไปทางรถม้าของเซียวจิ่งอี้ด้านข้างของเขามีเด็กหนุ่มยืนเขย่งปลายเท้า พลางดึงแขนเสื้อถามเขาว่า “ลุงหลี่ ท่านเห็นท่านอ๋องกับพระชายาหรือไม่?”ชายร่างสูงผอมผิวคล้ำกับเด็กหนุ่ม ก็คือลุงหลี่กับฟางอวี่ที่เซียวจิ่งอี้และอวิ๋นฝูหลิงช่วยออกมาจากเกาะหมัวกุ่ยก่อนหน้านี้หากเซียวจิ่งอี้อยู่ที่นี่ด้วยในยามนี้ จะต้องจำได้เป็นแน่ว่านอกจากลุงหลี่กั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 628

    จนกระทั่งสถานการณ์ทุกอย่างสิ้นสุดแล้ว หัวใจที่ตื่นตระหนกอยู่นานของเขาจึงสงบลงขณะนั้นเองจู่ ๆ ก็ได้ยินว่าอวิ๋นฝูหลิงจะถอนพิษให้ตามที่รับปากเขาไว้ เมื่อหวนนึกถึงทุกสิ่งก่อนหน้านี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกราวกับอยู่คนละโลกหลังจากเขาตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก็เพิ่งก้าวไปข้างหน้าอวิ๋นฝูหลิงหยิบหมอนหนุนจับชีพจรออกมาจากกล่องยา และส่งสัญญาณให้เวินจือเหิงวางมือลงไปหลังตรวจชีพจรของเวินจือเหิงแล้ว อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงมือกลับมา และกล่าวว่า “พิษในร่างถูกถอนออกกว่าครึ่งแล้ว พูดตามหลักร่างกายของเจ้าควรจะฟื้นตัวได้ประมาณเจ็ดถึงแปดส่วนแล้ว”“แต่ช่วงนี้จิตใจเจ้ากระสับกระส่าย และวิตกกังวลมากเกินไป ทั้งยังได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้วยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก”“โชคดีที่ตอนยังเด็กเจ้าได้รับการเลี้ยงดูไม่เลว พื้นฐานร่างกายจึงแข็งแรง ตอนนี้จึงมีต้นทุนให้ใช้จ่ายได้”“ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังโชคดี ได้พบหมอเทวดาคนหนึ่งเช่นข้า!”เวินจือเหิงได้ยิน สีหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มขมขื่นสายหนึ่งสกุลเวินเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่อย่างกะทันหัน เขาในฐานะผู้นำสกุลย่อมต้องค้ำจุนทั้งสกุลไว้ช่วงนี้ เขากินไม่อิ่มนอนไม่หลับ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 627

    อวิ๋นฝูหลิงเหลือบมองเวินจือเหิง เห็นว่าแม้เขาจะร่างกายอ่อนแอ แต่กลับมีแรงใจไม่เลว ในใจจึงอดไม่ได้ที่จะมองเขาดีขึ้นสกุลเวินมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีขี้ผึ้งทองและการลักลอบค้าของผิดกฎหมาย กอปรกับเวินเจาจากบ้านรองสกุลเวินยังถูกตรวจสอบพบว่าเป็นเชื้อสายของราชวงศ์แคว้นเยว่ ยิ่งไปกว่านั้นทุกร่องรอยยังแสดงให้เห็นถึงความมักใหญ่ใฝ่สูงของแคว้นเยว่ ซึ่งตั้งใจโค่นล้มราชสำนัก ถือเป็นกบฏอย่างแท้จริงหากคนของบ้านรองเข้าไปพัวพันกับคดีใหญ่เช่นนี้ เกรงว่าทั้งสกุลย่อมถูกทำลายลงตรงหน้าสกุลเวินยังสามารถยืนหยัดอยู่ในจินโจวได้ ต้องขอบคุณเวินจือเหิงซึ่งเป็นผู้นำตระกูลจริง ๆหากมิใช่เพราะเขามีไหวพริบมองการณ์ไกล ชิงยอมจำนนต่อเซียวจิ่งอี้เร็วกว่าก้าวหนึ่ง และเป็นฝ่ายลงทัณฑ์ญาติเพื่อผดุงธรรม นำหลักฐานที่เกี่ยวข้องซึ่งตัวเองตรวจสอบพบไปส่งมอบ ช่วยเป็นแรงสนับสนุนให้เซียวจิ่งอี้ เกรงว่าทุกคนในสกุลเวินคงจะติดคุกกันหมดแล้วหลังจากนั้น เวินจือเหิงก็เป็นฝ่ายขอรับโทษ บริจาคทรัพย์สมบัติเก้าส่วนของสกุลเวินให้ราชสำนักตระกูลที่มั่งคั่งเช่นสกุลเวิน ทรัพย์สมบัติที่สั่งสมมาหลายร้อยปีย่อมไม่อาจประเมินต่ำเกินไปได้ทรัพย์สมบัติ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 626

    อาศัยแค่เทียบยานั้นใบเดียว ด้วยการรักษาโรคชนิดหนึ่งได้อย่างแม่นยำ ก็เพียงพอที่จะตั้งตัวได้ ถึงขั้นมีชื่อเสียงโด่งดังทว่ายามนี้อวิ๋นฝูหลิงกลับหยิบตำราแพทย์เล่มหนึ่งออกมาให้ทุกคนเวียนกันอ่านและคัดลอกอย่างใจกว้างช่างมีจิตใจกว้างขวางเสียนี่กระไร!ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนต่างตกตะลึงจนพูดไม่ออกโดยเฉพาะหมอผู้ดูหมิ่นอวิ๋นฝูหลิงในคราแรก ยามนี้สัมผัสได้เพียงความร้อนผ่านที่แก้ม รู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่งผ่านไปครู่หนึ่ง จึงเพิ่งมีคนตั้งสติได้ โค้งคำนับอวิ๋นฝูหลิงด้วยความเคารพ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง “การกระทำของแม่นางอวิ๋น เป็นแบบอย่างให้พวกข้าแล้วจริง ๆ พวกข้ายังเทียบแม่นางอวิ๋นไม่ติดเลย!”เมื่อมีคนเริ่มกล่าว คนอื่นก็เริ่มตอบสนองออกมาเช่นกัน พากันโค้งคำนับกล่าวขอบคุณอวิ๋นฝูหลิงอย่างจริงจังมีบางคนถึงกับเรียกอวิ๋นฝูหลิงว่าท่านอาจารย์ ขอบคุณที่ครั้งนี้นางช่วยรักษาอาการโรคที่เกิดจากขี้ผึ้งทองในจินโจว ทั้งยังถ่ายทอดคำสอนและไขข้อสงสัยอวิ๋นฝูหลิงก็มิได้อวดภูมิ รับคำคนเหล่านั้นอย่างนอบน้อมประการแรก ช่วงที่นางรักษาคนไข้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองในจินโจว ก็ได้สอนวิธีการรักษาของตัวเองให้เหล่าหมอท่า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 625

    ท่านหมอในสำนักผิงอันต่างมองไปที่ตำราแพทย์ในมือหางซานสุ่ยด้วยดวงตาเป็นประกายนั่นเป็นถึงตำราแพทย์ที่บันทึกศาสตร์ฝังเข็มและเทียบยาสำหรับการรักษาผู้ป่วยเสพติดขี้ผึ้งทองเชียวนะโดยเฉพาะเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเป็นผู้เขียนตำราเล่มนี้ด้วยตัวเองในช่วงเวลาที่ได้ทำงานร่วมกันมานี้ ท่านหมอในเมืองจินโจวถือว่าได้เปิดหูเปิดตารับรู้ถึงฝีมือการแพทย์อันสูงส่งของอวิ๋นฝูหลิงแล้วยามหารือเรื่องการรักษาผู้ป่วยติดขี้ผึ้งทอง นางก็มักจะหาแนวทางสำหรับการรักษาที่เหมาะสมที่สุดออกมาเสมอทักษะฝังเข็มล้ำเลิศ เทียบยาก็ล้ำลึกพิสดาร แม้จะเป็นท่านหมออาวุโสที่สั่งสมประสบการณ์มานานก็ยังมีบ้างที่ด้อยกว่าโดยเฉพาะเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเป็นหมอหญิงอ่อนวัยที่อายุเพิ่งยี่สิบปีมีท่านหมอในเมืองจินโจวบางคนที่รู้สึกว่า การที่อวิ๋นฝูหลิงมีชื่อเสียงเลื่องลือนั้นทั้งหมดล้วนเป็นเพราะรัศมีอันมีติดตัวมาแต่กำเนิดด้วยนางถือกำเนิดในสกุลอวิ๋นเท่านั้น นางถึงได้มีชื่อเสียงและได้รับความเคารพอยู่บ้างในแวดวงแพทย์เช่นนี้ทว่าใครจะไปรู้ว่าอวิ๋นฝูหลิงกลับใช้ฝีมือการแพทย์ของตัวเองมาตบหน้า สอนเป็นบทเรียนให้พวกเขาอย่างดีหลังได้รู้ซึ้งถึงฝีมือการแพทย์ของ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 624

    ขุนนางที่ถูกส่งมาใหม่เหล่านี้ ต่างทยอยเดินทางมาถึงจินโจวกันแล้วในช่วงไม่กี่วันมานี้ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางมาถึง งานบริหารราชการและบริหารกองทัพของจินโจวล้วนมีเซียวจิ่งอี้รับผิดชอบชั่วคราวบัดนี้ขุนนางชุดใหม่มาถึงแล้ว แน่นอนว่าเซียวจิ่งอี้ย่อมเริ่มมอบหมายงานแก่พวกเขา คืนอำนาจบริหารราชการและกองทัพของจินโจวให้ขุนนางที่เหมาะสมจากความหมั่นเพียรและการจัดระเบียบของเซียวจิ่งอี้ งานบริหารราชการในเมืองจินโจวจึงได้รับการจัดระเบียบเป็นที่เรียบร้อยนานแล้ว ขอแค่เหล่าขุนนางที่มารับหน้าที่นี้ต่อไปมัวแต่กินดื่ม ไม่ทำการงาน ก็สามารถบริหารปกครองเมืองจินโจวได้ และฟื้นฟูให้จินโจวรุ่งเรืองขึ้นมาใหม่อีกครั้งได้สิ่งเดียวที่ทำให้เซียวจิ่งอี้ไม่สบอารมณ์และปวดหัวก็คือ จวบจนบัดนี้ยังไม่อาจจับกุมตัวราชครูเผ่าเยว่ผู้นั้นได้ไม่ว่าจะค้นหาไปทั่วเมือง หรือใช้เวินเจาเป็นเหยื่อล่อ ล้วนไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยของราชครูเผ่าเยว่ผู้นั้นอีกทั้งประตูเมืองจินโจวก็ไม่อาจปิด ไม่อนุญาตให้ชาวบ้านเข้าออกได้เป็นเวลานานได้แม้ว่าประชาชนจะไม่กล้ามีปากเสียง แต่การชดเชยเรื่องอาหารการกินในชีวิตประจำวันก็นับว่าเป็นปัญหานอกจากนี้ประ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status