“เฮ้ เฮ้” ฉินเหยียนเย่ว์พูดไม่ออกเกิดอะไรขึ้น?ตงฟางหลีลากนางเข้าไปในห้อง พูดอะไรบางอย่างที่ฟังไม่เข้าใจ แล้ววิ่งหนีไป?ไม่เข้าใจเลยสักนิด!ฉินเหยียนเย่ว์อารมณ์เสีย หยิบไม้ปัดขนไก่มาเล่นกับเฮยตั้นอย่างไม่ใส่ใจ โดยอ้างสวยหรูว่าเป็นการช่วยให้เฮยตั้นหายดีเฮยตั้นดูถูกการละเล่นที่โง่เขลาเช่นนี้ เหยียดอ
“ข้าทำได้ คือว่า...ต่อไปอาจจะไม่ได้เจอเจ้าบ่อย ๆ ดังนั้นจึงซื้อของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เจ้า ขอบคุณเจ้าที่ดูแลเป็นอย่างดีในช่วงนี้” หลิวซิงดึงปิ่นปักผมผีเสื้อออกจากแขนเสื้อ แล้วยัดใส่มือของอวี้เอ๋อร์โดยไม่รอให้นางปฏิเสธ“หากเจ้าชอบก็เก็บไว้ ไม่ชอบก็โยนทิ้งไป” หลิวซิงกล่าวพลางใช้วิชาตัวเบาวิ่งหนีอวี้
“พวกเราอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น หากจะให้ไปจับนางมาก่อนนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ นั่นเป็นพี่สะใภ้รองของข้าเชียว หากทำอะไรไม่ดีต่อนาง พี่รองคงได้มาโทษพวกเราเป็นแน่” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “อวี้เอ๋อร์เจ้าคิดหาวิธีถ่วงเวลานางเอาไว้ก่อน ส่วนเรื่องการเลื่อนวันงานมงคลสมรสออกไปนั้น เกรงว่าคงจะปิดเป็นความลับได้อีกไม่
“ยามนั้น หม่อมฉันคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าองค์ชายใหญ่จักต้องตายในช่วงต้นเดือนสอง หลังคล้ายวันพระราชสมภพของเสด็จพ่อไปไม่กี่วัน หม่อมฉันมิคิดเลยว่า เขาจะอดทนนานกว่าที่หม่อมฉันคาดการณ์เอาไว้เสียอีก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “พี่เจ็ด หม่อมฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดแปลกไปเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันวางมือเอาไว้บนห
“นางกลับมาจริง ๆ ด้วย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเล็กน้อย “นอกจากพวกเจ้าแล้ว ยังมีใครรู้อีกหรือเปล่าว่านางกลับมา?” “ไม่มีแล้วเพคะ ไม่มีทางที่ผู้อื่นจักสังเกตุเห็นได้อย่างแน่นอนเพคะ” อวี้เอ๋อร์กล่าว “วิชาแปลงโฉมของนางนั้นเก่งกาจเป็นอย่างยิ่ง หากมิใช่เสี่ยวเยียนอยู่ด้วยละก็ หม่อมฉันย่อมมิอาจส
“จักลองดูหรือไม่?” “ยัยหนู ช่วงนี้เจ้าหาญกล้าขึ้นมากนะ” ตงฟางหลีจับมือของฉินเหยี่ยนเย่ว์เอาไว้ ก่อนจะดึงเข็มเงินที่อยู่ในมือนางออก “ผู้ใดมอบความกล้าให้เจ้ากัน?” “เฮยตั้นให้มา เฮยตั้น ข่วนเขาเลย!” “เหมียว” เฮยตั้นที่ได้ยินนั้น พลันลืมตาขึ้นมาด้วยท่าทีเกลียจคร้าน เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของตงฟาง