องค์หญิงแปดขัดเคืองใจยิ่ง เรื่องที่ผ่านมาระหว่างนางและองค์หญิงสิบสามที่ทำให้นางไม่อยากแม้จะมองใบหน้าน้องสาวคนนี้ ครานั้นองค์หญิงสิบสามแอบลอบออกนอกวังจวบจนได้มีโอกาสไปช่วยน้องสาวของบุรุษที่นางมีใจเดิมทีนางกับคุณชายตงหัวต่างมีใจให้กันจนฝ่ายนั้นจะส่งคนมาทาบทามขอพระราชทานสมรสแล้ว
หลังจากคุณชายตงหัวบุตรของเสนาบดีผู้นั้นพบองค์หญิงสิบสามเข้ากลับทำตัวห่างเหินกับนางอีกทั้งท่าทางยังผิดแปลกไปมากประหนึ่งคนแปลกหน้า จวบจนนางรู้ข่าวว่าตงหัวส่งกำไลหยกไปให้องค์หญิงสิบสามที่ตำหนัก องค์หญิงแปดจึงไปอาละวาดกับองค์หญิงสิบสามเพราะคิดว่าองค์หญิงสิบสามไม่มีมารดา ผู้หนุนหลังจะทำเช่นไรกับน้องสาวคนนี้ย่อมได้
คาดไม่ถึงว่าอ๋องฉางอันพี่ชายใหญ่ของพวกนางจะออกหน้าจนทำให้องค์หญิงแปดถูกลงโทษคัดลอกหนังสือท่วงท่างดงามจิตใจผ่องใสเล่มหนานั่นถึง ห้าร้อยบท อีกทั้งต้องถูกกักขังในตำหนักทั้งเดือน บุรุษก็หนีหน้าโทษก็ต้องรับหากไม่ใช่เป็นเพราะสิบสามผู้นี้แล้วจะเป็นเพราะผู้ใด
"น้องแปดความจริงก็เป็นเรื่องที่ดีที่คุณชายตงหัวผู้นั้นเผยธาตุแท้ออกมา หากเจ้าแต่งให้เขาไปคนโลเลเช่นนั้นจะไม่รับอนุจนเจ้าปวดหัวหรือ" องค์หญิงห้าเอ่ยขึ้น
"พี่ห้าท่านก็เข้าข้างนาง หากนางไม่ไปล่อลวงเขาบุรุษเช่นคุณชายตงหัว ที่ใสซื่อเช่นนั้นจะแปรเปลี่ยนหรือ"
"ข้าสิบสามไม่เคยล่อลวงบุรุษใดหากจะโทษต้องโทษที่เขาโลเลหรือไม่ ก็เพราะความงามของข้าที่มากจนเกินไป" องค์หญิงสิบสามตอบอย่างยียวน
"เจ้าล่อลวงเขา"
องค์หญิงแปดแค่นเสียงออกมาใบหน้าของนางเขียวคล้ำเรื่องที่ผ่านมาความจริงนางไม่อาจลืมได้ ใจของนางยังเจ็บปวดทุกคราที่คิดถึง
"ข้าบอกพี่แปดแล้วว่าไม่เคยล่อลวงเขา พบหน้ากันเพียงครั้งเดียวและ กำไลหยกข้าก็ให้คนส่งคืนแล้วจะเรียกว่าล่อลวงได้อย่างไร เขามีใจให้ข้าหรือไม่ข้ายังไม่รู้เลยท่านอย่ามาใส่ร้ายข้า ไม่แน่เขาอาจพบคุณหนูผู้อื่นเข้าก็เป็นได้ เหตุใดท่านจึงคิดว่าเป็นเพราะข้าเล่า ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว"
องค์หญิงสิบสามเอ่ยยืดยาวพลางใช้ไม้แหลมเล็กจิ้มขนมหวานกินอย่างอร่อย นางคิดว่าเรื่องนี้ช่างไร้สาระนักคุณชายตงหัวผู้นั้นมีใบหน้าเป็นอย่างไรนางยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
"สิบสาม"
องค์หญิงแปดชี้หน้านางปากสั่นระริก องค์หญิงอื่นเข้าขวางนางไว้ด้วยคิดว่าองค์หญิงแปดอาจจะกระโดดข่วนหน้าองค์หญิงสิบสามเป็นแน่ พวกเขาดึงองค์หญิงแปดไปอีกทาง
"พอได้แล้วพวกเจ้า เรื่องนี้หากมีใครนำความไปกราบทูลไทเฮาว่าเหล่าองค์หญิงต้องมาทะเลาะกันเพราะบุรุษผู้หนึ่งจะไม่ถูกลงโทษหรือ ขายหน้านักสิบสามเจ้าก็พอได้แล้ว" องค์หญิงใหญ่เอ่ยปรามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
"ข้าไม่ได้หาเรื่องเสียหน่อยเป็นพี่แปดที่เริ่ม" องค์หญิงสิบสามกล่าวจบก็ยัดหมั่นโถวเข้าปากอย่างไม่สนใจ
องค์หญิงแปดสะบัดใบหน้าหนี ไม่มองไปทางองค์หญิงสิบสามอีกบรรดาน้องๆ หลายคนส่ายหน้าเมื่อองค์หญิงใหญ่เริ่มไม่พอใจแล้วพวกนางก็อึดอัดยิ่ง
องค์หญิงใหญ่ถอนหายใจองค์หญิงสิบสามความจริงเชื่อฟังนางเพียงคนเดียว บรรดาพี่น้องคนอื่นสิบสามมักจะมีเรื่องขัดแย้งอยู่เป็นประจำแต่ก็ไม่ได้บาดหมางจนถึงไม่พูดกัน มีเรื่องขององค์หญิงแปดที่ทำท่าว่าครานี้พวกนางคงเขม่นหน้ากันไปนาน
ส่วนองค์หญิงใหญ่นั้นแทบจะไม่เคยถามถึงเด็กเลยทั้งนี้คงเป็นเพราะเด็กคนนั้นคือตราบาปของนาง องค์หญิงใหญ่จึงรังเกียจเด็กยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือในหัวคิดเพียงแต่เรื่องสังหารเด็กนั่นให้ตายไปเสียให้พ้น องค์หญิงสิบสามถอนหายใจคิดแล้วก็รู้สึกหดหู่ยิ่งหลังออกจากตำหนักองค์หญิงใหญ่ สามีจึงพานางเข้าร่วมงานเลี้ยง ท่านย่าของหยางเอ้อหลางพาท่านชายทั้งสองเข้าร่วมงานด้วย ทุกคนห้อมล้อมเอาอกเอาใจอีกทั้งเด็กทั้งสองยังเป็นหลานรักของฝ่าบาทและขององค์รัชทายาทยิ่ง ไม่ว่าใครต่างก็แสดงความชื่นชมออกมา ก้อนแป้งน้อยของนางทั้งสองยังเด็กแต่รู้ความนัก เมื่อเห็นมารดาเพียงแต่โผหานางเบาๆ ไม่ได้งอแงเหมือนเด็กทั่วไป ภรรยาของขุนนางใหญ่หลายคนต่างหมายตาพวกเขาเอาไว้ พยายามทาบทามตั้งแต่ยังเด็ก องค์หญิงสิบสามเอ่ยปากปฏิเสธเพราะคิดว่าบุตรยังเล็กนัก การกระทำของนางไม่ไว้หน้าผู้ใดกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าตำหนิ กลางดึกคืนนั้นหยางเอ้อหลางนอนกอดภรรยาที่ร่างกายเปล่าเปลือยเอาไว้ในอ้อมกอด คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างพวกเขาแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ องค์หญิงสิบสามหลับแล้วเขากลับยังคงต้องการ เช่นนั้นจึงจับขานางแยกออกแล้วดันกายเข้าไประหว่างขา องค์หญ
องค์รัชทายาทครั้นเห็นว่าพี่หญิงของเขาและพี่เขยมาถึงแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็สดใสขึ้น องค์หญิงสิบสามยิ้มให้กำลังใจ องค์รัชทายาทที่มีชันษาแปดขวบอีกทั้งรู้ความเป็นอันมากด้วยถูกฮูหยินชราและสตรีสกุลหยางอบรมมาด้วยตนเองจึงเข้าพิธีสถาปนาอย่างกล้าหาญ องค์หญิงสิบสามเห็นน้องชายกำลังเติบโตเช่นนั้นก็ตื้นตันใจนัก นางเกือบหยุดน้ำตาไม่ได้อยู่หลายคราคิดถึงเพื่อนของนางมารดาของรัชทายาทที่จากไปก็พลันสบายใจ คนผู้นั้นคงตายตาหลับแล้วหยางเอ้อหลางเห็นภรรยาเหม่อลอย อีกทั้งมีน้ำใสคลอที่หน่วยตาจึงกุมมือของนางเอาไว้ จวบจนพิธีจบสิ้นองค์รัชทายาทก็ก้าวเข้ามาหาพวกเขาอย่างสง่างามสิ่งที่เอ่ยออกมาคำแรกสร้างความตื้นตันให้กับองค์หญิงสิบสามยิ่ง นางรู้สึกว่าองค์รัชทายาทช่างกตัญญูนักไม่เสียแรงที่นางปกป้องซาลาเปาน้อยก้อนนี้ด้วยชีวิต"พี่หญิงเมื่อข้าโตแล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าข้าจะยกให้ท่าน"เพราะรัชทายาทพูดแบบนี้นางจึงซาบซึ้งจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป หยางเอ้อหลางได้แต่ส่ายหน้าโรคบ้าสมบัติของภรรยาเห็นทีว่าจะรักษาไม่หายจริงๆ หลังจากนั้นแฝดผู้น้องของซาลาเปาน้อยพลันวิ่งมาหานางวันนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้รับ
ในขณะที่หยางเอ้อหลางจุมพิตประกบขยี้ไปบนริมฝีปากงามอีกทั้งนิ้วมือของเขายังไต่ลงไปบดขยี้ปลายเกสรเพิ่มความต้องการกระสันอยากให้ภรรยามากขึ้นอีกทั้งยังจ้วงแทงลงมาใช้แรงกระแทกนางถี่ยิบ อ้าปากคว้าเต้าอวบกลมใหญ่ของนาง ปากดูดกลืนสองเต้าเต็มรัก สะโพกแข็งแรงซอยกระแทกรุนแรงจนทำให้ร่างกายขององค์หญิงสิบสามเต้นระริกองค์หญิงสิบสามกอดศีรษะของเขาไว้ ก่อนที่เขาจะจับนางพลิกร่างให้หันหลังอีกทั้งยังขยับสะโพกของนางเข้าหาตน แนบร่างลงมาหานางจากด้านหลัง ให้นางคุกเข่าอยู่บนเก้าอี้กอดตระกองรวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนหยางเอ้อหลางดูดแผ่นหลังของนางแรงๆ อีกทั้งยังลากลิ้นเลียนางจนทั่วแผ่นหลังเนียนนุ่มในขณะที่เร่งจังหวะของสะโพกตนอัดร่างลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปากครางบอกรักภรรยา เนื้อนุ่มนิ่มในอ้อมกอดหอมกรุ่นทำให้มัวเมายิ่ง เขาจุมพิตแผ่นหลังนางจนทั่ว ฝากรอยแดงเอาไว้แทบทุกตารางผิวองค์หญิงสิบสามแหงนใบหน้าหาเขา อ้าปากเย้ายวน หยางเอ้อหลางประกบปากของตนลงมาทันใด สองลิ้นพัวพันต่างคนต่างสูบลมหายใจซึ่งกันและกันแลกจุมพิตหวานฉ่ำรุนแรง ยิ่งจุมพิตยิ่งมัวเมาส่วนสะโพกบดเบียดและจ้วงแทงลงมาจากด้านหลัง นางบีบรัดเขาจนเขาต้องห่อปาก กระนั
หยางเอ้อหลางสัมผัสได้ถึงกลีบอวบอูมที่เต็มปากของตน น้ำหวานพรั่งพรูออกมา เขาสูดปากแรงๆ พร้อมดูดนางเต็มรัก นางบิดกายเร่งเร้า หยางเอ้อหลางหยอกเย้ากลีบนุ่มของนางจนอิ่มเอม ลิ้นร้อนของเขาห่อเป็นแท่งกระแทกเข้าไปในร่องลึก ไซร้สัมผัสกับปลายเกสรสีแดงที่สั่นระริกอยู่ที่ปลายลิ้น ก่อนจะดุนลิ้นตนเองลงมาหนักๆ จนภรรยาแทบจะแดดิ้นอยู่เบื้องล่างองค์หญิงสิบสามที่กำลังสติกระเจิงไปกับรสสวาทบัดนี้หาได้สนใจสิ่งใดไม่ นางยกสะโพกค้างให้เขาใช้ลิ้นรักนางอย่างเต็มที่ ความงดงามอวบอูมของภรรยาทำให้เขาฉ่ำเยิ้มเช่นกัน พูเนื้อของนางช่างเย้ายวนใจโดยแท้"ตรงนี้ของท่านงดงามมากรู้หรือไม่" เขากล่าวจบพลันสูดปากลากลิ้นแทงลงมาเต็มๆ องค์หญิงสิบสามกำเก้าอี้แน่น เขากำลังทำให้นางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว"อ๊า ท่านพี่ อื้อ" นางครางไม่หยุดปากในขณะที่สามีละเลงลิ้นลากดุนวนไซร้ไปตามกลีบเกสร ดูดกลืนปลายสีแดงสดที่สั่นระริกเต้นเร้า หญิงงามที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เบื้องหน้าดวงตาฉ่ำเยิ้มประดุจมีหมอกจาง ๆ อยู่ด้านในดวงตาคู่งามนั้นช่างยั่วยวนเขายิ่งนักเขาเงยหน้าเพ่งพิศที่เต้าคู่งาม ขยับกายว่องไวอ้าปากแล้วดูดรวบปลายถันไว้ในปาก ดูดแรงๆคล้ายกลั่นแกล
เขาเอ่ยเสียงพร่า พร้อมทั้งแลบลิ้นปาดเลียกลีบเกสรหอมหวานล้ำค่าของภรรยาอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อเห็นภรรยาบิดกายร้อนรุ่ม อีกทั้งส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาหยางเอ้อหลางเร่งเติมเชื้อไฟสวาทด้วยการลากไล้นิ้วมือเรียวไปตามโคนขาอ่อนขาวเนียนแผ่วเบา ร่างงามสั่นสะท้านระทดระทวยเอนหลังพิงกำแพงเพื่อช่วยพยุงกายของตนไม่ให้ล้มลงด้วยพลังปลายลิ้นของเขา"ทะท่านพี่ อือ อือ"ปากงดงงามครางครวญ หยางเอ้อหลางยิ่งปลุกเร้าลงบนเนื้ออูมตรงหน้า ร่างของนางกระตุกบิดไปมาอีกทั้งยังอ้าขาของตนให้เขาดูดกินได้ลึกขึ้น จากเดิมที่หวังจะให้เขากระทำการอย่างว่องไวบัดนี้กลับไม่คิดจะเร่งรัดแล้ว ปล่อยให้เขากระทำการอ้อยอิ่งกับร่างกายของตนเองเช่นนี้โดยไร้ซึ่งสติเมื่อเห็นว่าตนเองจู่โจมภรรยาจนนางยืนไม่ติดแล้ว เขาจึงอุ้มนางขึ้นแล้วพานางมานั่งยังเก้าอี้บุขนแกะนุ่ม จับขาของภรรยาแยกออกให้พาดไปที่พนักเก้าอี้ทั้งสองข้าง เผยความงดงามสีแดงสดเบื้องหน้าอย่างเต็มที่ในเวลานี้เป็นเวลากลางวันจึงมองเห็นนางแจ่มชัดเต็มสองตาประตูด้านหน้าถูกปิดแน่นหนาชนิดที่เรียกว่าไม่อาจมีแม้แต่แมลงสักตัวที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ หยางเอ้อหลางจึงกระทำกับภรรยาอย่างหย่ามใจอีกทั้ง
คิดแล้วก็ต้องขอบคุณสามีเช่นเขา ทำให้ชะตาชีวิตของนางเปลี่ยนได้ดุจพลิกฝ่ามือนางจึงอดขยับกายจุมพิตปลายคางของเขาอย่างขอบคุณไม่ได้ อีกทั้งมือน้อยยังสอดเข้าไปในสาบเสื้อเพื่อสัมผัสความอบอุ่นด้านในอย่างแนบชิดแม้จะอยู่ในชุดคลุมที่มิดชิดจึงไม่มีผู้ใดเห็นการกระทำอุกอาจไร้ยางอายของนาง แต่หยางเอ้อหลางนั้นรับรู้อีกทั้งยังถูกนางลูบคลำอกของตนไปมาไม่หยุดเช่นนี้ ใบหน้าจึงแดงก่ำ สิ่งที่ควรอ่อนลงกลับผงาดแข็งกร้าวมากกว่าเดิมเพราะนางลูบไล้อกของเขาอีกทั้งซุกอยู่ในอ้อมกอด กลิ่นกายของนางก็หอมยิ่งหอมจนทำให้เขากลัวว่าผู้อื่นจะได้กลิ่นจนทำให้รู้สึกหึงหวงขึ้นมา เขากอดนางแน่นขึ้น เห็นสายตาทหารหลายคนแอบลอบมองภรรยาตนแล้วก็รู้สึกโมโหนัก กระนั้นก็ไม่อาจปัดเรื่องอยากกินนางในตอนนี้ออกจากสมองได้ หัวหน้าขันทีนำพวกสองสามีภรรยาไปยังตำหนักปีกรับรอง อีกทั้งยังรายงานกำหนดการต่าง ๆ ในพิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาทอย่างละเอียดให้พวกเขาฟังหยางเอ้อหลางทั้งพยายามควบคุมตนเองจึงทำท่าสนใจข้อมูลที่หัวหน้าขันทีรายงาน แต่องค์หญิงสิบสามนั้นไม่สนใจฟังแม้แต่น้อย สามีพาทำสิ่งใดนางก็แค่ปฏิบัติตามเท่านั้น มือของนางจึงยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวหัวนมเล