Share

ตอนที่5

last update Last Updated: 2025-04-23 16:56:46

ย้อนนึกไปถึงตอนนั้น เธอเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ตั้งใจว่าจบมาจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ ด้วยผลการเรียนและงานวิจัยของเธอ ทำให้สถาบันวิจัยมาจองตัวเธอให้เข้าทำงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ แต่เพราะความรักบังตา ทำให้เธอปฏิเสธการเข้าทำงานที่สถาบันวิจัยแห่งชาติ แต่กลับไปสมัครงานที่บริษัทเล็กๆของอาชวีช่วยทำโครงการหลายโครงการ จนบริษัทประสบผลสำเร็จเข้าตลาดหลักทรัพย์ กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่อย่างทุกวันนี้ 

เธอยอมทิ้งความฝันเพื่อผู้ชายที่ให้เธอเป็นแค่ของเล่น ไม่มีตัวตน ไม่เคยยอมรับเธอเหตุการณ์ที่เขาทำร้ายเธอเพื่อผู้หญิงในใจของเขาจนเธอต้องเสียลูกไป มันทำให้เธอคิดได้ และชีวิตนี้เธอจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก 

" ตอนนี้ทางสถาบันกำลังวิจัยเรื่องการยับยั้งเซลล์มะเร็ง เรื่องนี้สำคัญมากเพราะมีข่าวว่ามีการค้นพบกล้วยไม้สีรุ้ง"

" กล้วยไม้สีรุ้ง มันเกี่ยวอะไรกับการวิจัยเหรอค่ะศาสตราจารย์"

" เกี่ยวสิเกี่ยวแน่นอน เพราะในตำราบอกไว้ว่ามันสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้"

" ศาสตราจารย์หมายความว่ากล้วยไม้สีรุ้งช่วยรักษามะเร็งได้"

" ถูกต้อง"

" แต่ศาสตราจารย์ครับ ในตำราโบราณจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน"

" ผมเชื่อนะ ถ้าเราได้ตัวอย่างมาวิจัยผมว่ามีความเป็นไปได้สูง"

" แล้วเราจะไปเอากล้วยไม้สีรุ้งมาจากไหน"

"หุบเขามรณะ"

ในห้องประชุม ศาสตราจารย์อธิบายรายละเอียดให้ทุกคนฟัง

" หุบเขามรณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเทือกเขาทอดตัวเป็นแนวยาว ส่วนหนึ่งอยู่ฝั่งไทยและอีกส่วนอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน"

" แล้วไอ้หุบเขามรณะนี่มันอยู่ฝั่งไหนเหรอครับ"

" คาดว่าจะอยู่ฝั่งพาม่า เพราะหุบเขานี้มีแค่เทือกเขาส่วนหน้าเท่านั้นที่อยู่ฝั่งไทย ตามแนวชายแดนตะวันตก"

" หูย แค่ชื่อก็น่ากลัวแล้วอ่ะ นี่พวกเราต้องไปตามหากล้วยไม้สีรุ้งกันจริงๆใช่ไหม"

ดารินเอ่ยขึ้นมา

" ผมจะไม่บังคับ แต่ขอความสมัครใจ ใครที่ไม่อยากไปก็ให้ทำงานอยู่ที่นี่ ส่วนคนที่จะไปผมมีเงินพิเศษให้ เป็นเงินทุนจากมิสเตอร์โจเซฟ ที่สนับสนุนโครงการวิจัยของเรา ครั้งนี้คนที่ไปจะได้คนละ5ล้านพร้อมประกันชีวิตมูลค่า10ล้าน ถ้ากลับมาจะมีโบนัสพิเศษให้อีก"

ทุกคนมองหน้ากัน

" ผมไปครับ ยังไงผมก็ตั้งใจจะไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว"

กิตติศักดิ์พูดขึ้นมาก่อนจะหันไปถามธารธารา

"แล้วน้ำหล่ะจะไปหรือเปล่า"

ธารธาราพยักหน้า กิตติศักดิ์ยิ้มดีใจจนเห็นลักยิ้มแก้มบุ๋ม โมรีมองทั้งสองก็รู้สึกอิจฉาเธอแอบชอบกิตติศักดิ์มานาน เขาไม่เคยยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนแบบนี้มาก่อน สายตาที่เขามองธารธารา มันช่างแตกต่างกับที่เขามองผู้หญิงคนอื่น เธอรู้มาว่าเขายังไม่มีแฟนแต่มีคนในใจที่แอบรักมาหลายปี คนๆนั้นคงไม่ใช่ธารธาราหรอกใช่ไหม

" โม โม"

" หือ"

" แกจะไปรึเปล่าได้5ล้านเลยนะ แกว่าคุ้มไหมอ่ะที่เราต้องไปลำบากลำบนเสี่ยงชีวิตในป่าหน่ะ"

" ฉันไป"

เดิมทีเธอไม่อยากไปลำบากในป่าเขาหรอกฟังดูชื่อหุบเขาสิ หุบเขามรณะ มีแต่อันตรายรออยู่ ไปแล้วไม่รู้จะได้กลับออกมาหรือเปล่า ที่สำคัญกล้วยไม้สีรุ้งนั่นจะมีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่กิตติศักดิ์ไป เธอจึงต้องไปด้วย ขอแค่ได่เห็นหน้าเขาในทุกๆวันก็พอ

" อืม ถ้าแกไปฉันก็ไปด้วย "

" ลูกคุณหนูอย่างแกเนี่ยนะจะเข้าป่า แกไม่กลัวลำบากเหรอ เงินแค่5ล้านทำยังกะบ้านแกจน"

" ก็ชีวิตมันเรียบง่ายเกินไปไง เลยต้องออกไปหาอะไรตื่นเต้นทำบ้าง ก็คิดซะว่าไปเข้าค่ายลูกเสือ เชื่อเหอะ ไปไม่นานหรอก พอหาไม่เจอเดี๋ยวก็ต้องกลับออกมา"

" เอาหล่ะ ใครที่จะไปให้ลงชื่อที่นี่"

ศาสตราจารย์ส่งแฟ้มเอกสารให้กิตติศักดิ์เป็นคนแรก

"แล้วเราจะออกเดินทางกันเมื่อไหร่ค่ะศาสตราจารย์"

" อีก7วันข้างหน้า"

" ศาสตราจารย์จะไปกับพวกเราไหมครับ"

" ไม่"

" อ้าว"

" ผมเป็นศาสตราจารย์ เป็นหัวหน้าของสถาบันแห่งนี้ ต้องอยู่ดูแลที่นี่ แต่ไม่ต้องห่วง ผมเตรียมแผนการเดินทางการไว้ให้พวกคุณแล้ว การเดินทางครั้งนี้ผมจะให้กิตติศักดิ์เป็นหัวหน้านำทีม กิตติศักดิ์นี่คือข้อมูลของพรานมูเล่ เป็นพรานป่าที่ชำนาญเมื่อไปถึงหมู่บ้านให้คุณติดต่อเขานำทาง "

" ครับศาสตราจารย์ ว่าแต่มีแค่พรานคนนี้คนเดียวเหรอครับ แล้วคนอื่น"

" ต้องเป็นคนนี้คนเดียวเท่านั้น"

" เพราะอะไรเหรอครับ"

" เพราะเขาเป็นคนเดียวที่เคยเข้าไปในหุบเขามรณะ แล้วสามารถกลับออกมาได้ พูดง่ายๆว่าเขาเป็นคนเดียวที่เคยไป และเคยเห็นนั่นแหละ"

" แสดงว่าคนอื่นที่เข้าไปไม่มีใครกลับออกมาเลยใช่ไหมครับ"

ภาสกรถามขึ้นมา ศาสตราจารย์พยักหน้าแทนคำตอบ

โรงอาหารสถาบันวิจัยแห่งชาติ

โมรีถือจานข้าวจ้องมองไปที่กิตติศักดิ์ที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่กับธารธารา ดารินปรุงเครื่องก๋วยเตี๋ยวเสร็จหันมา เห็นโมรียืนมองกิตติศักดิ์ก็พูดขึ้น

" มัวแต่แอบมองแอบชอบอยู่อย่างนี้จะไปเกิดประโยชน์อะไร คนใหม่ที่พึ่งเข้าสถาบันคนนั้นสวยมากเลยนะ ฉันรู้มาว่าเคยเป็นน้องรหัสของพี่กรุ๊ปมาก่อน เขาเลยสนิทกันเป็นพิเศษ ไปเถอะเราไปนั่งกับพวกเขากัน"

ดารินเดินนำหน้าพาโมรีไปนั่งโต๊ะเดียวกับกิตติศักดิ์ พอดีกับที่ภาสกรและดุษฎีถือจานข้าวเข้ามานั่งด้วย

" หวัดดีจ๊ะฉันชื่อดารินเรียกรินก็ได้ ส่วนนี่ชื่อโมรีชื่อเล่นโมเราสองคนอายุ25เท่ากัน"

ดารินแนะนำตัวเองกับธารธารา ส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ธารธาราส่งยิ้มกลับ

" ฉันชื่อธารธาราเรียกสั้นๆว่าน้ำก็ได้อายุ25เท่ากับพวกเธอ"

" ดีเลย งั้นพวกเราก็เป็นเพื่อนกันเนอะ"

" อืมได้สิ"

" เธอก็จะเดินทางไปหุบเขามรณะด้วยใช่ไหมฉันเห็นเธอลงชื่อ"

" ใช่"

" ฉันกับโมก็ไปเหมือนกัน ดีเลยจะได้มีเพื่อนช่วยเหลือกัน"

" อะแฮ่ม พี่ชื่อภาสกรเรียกพี่ว่าพี่กรนะครับพี่ก็ไปด้วย"

" ส่วนพี่ชื่อด้วงแล้วก็ไอ้หน้าตาหื่นๆข้างพี่เนี่ยชื่อไฟ แต่มันไม่ได้ไปหุบเขามรณะกับเราหรอกนะมันติดเมียหน่ะ"

ดุษฎีแนะนำตัวเองและธวัชชัยให้ธารธารารู้จัก

" พี่รู้อยู่แล้วว่าน้องชื่อน้ำ เป็นน้องรหัสของไอ้กรุ๊ปมันตอนเรียนมหาลัย มันเล่าเรื่องของน้ำให้พวกพี่ฟังบ่อยๆ ขนาดในโทรศัพท์มันยังมีแต่รูปน้ำ โอ้ย"

กิตติศักดิ์รีบเตะขาดุษฎีก่อนที่จะพูดมากไปกว่านี้ ใช่ในโทรศัพท์ของเขามีแต่รูปของธารธารา เขาแอบรักเธอมาหลายปีแต่เขารู้ว่าเธอไม่เคยคิดกับเขาเกินคำว่าพี่ชาย เขาถึงได้แต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ กดให้ลึกสุดใจ

" รีบกินเถอะน้ำ ก๋วยเตี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อยนะ "

กิตติศักดิ์บอกให้ธารธารากิน แล้วยังคีบลูกชิ้นในชามของตัวเองให้เธออีก โมรีมองดูทั้งสองก็ยิ่งเศร้าใจ ตักข้าวเข้าปากไม่รับรู้รสอะไรมีแต่ความขื่นขม ดารินเห็นเพื่อนเศร้าก็ไม่รู้จะปลอบใจยังไง เลยคีบลูกชิ้นในชามก๋วยเตี๋ยวให้เพื่อน

" อะ ฉันให้ กินเยอะๆจะได้มีเนื้อมีหนังบ้างผอมไปแล้วแก ผู้ชายหน่ะเขาชอบอวบๆดูมๆเด้งๆรู้ไหม"

โมรีก้มมองตัวเองที่หน้าอกแบนราบ อดไม่ได้ที่จะมองดูธารธาราที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามธารธาราทั้งสวยทั้งอกอวบใหญ่ น่าอิจฉาจังกลับออกมาจากป่าครั้งนี้ เธอจะเอาเงินที่ได้ไปทำนม 

ธารธารารับรู้ได้ถึงสายตาที่จ้องมองมา พอเงยหน้าก็เห็นโมรีจ้องมองเธออยู่ จึงยิ้มให้โมรีรู้ว่ามองธารธารานานไปก็ได้สติ ส่งยิ้มกลับคืนไป แล้วก้มหน้ากินข้าวในจานตัวเองต่อ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ธารนางครวญ   ตอนที่55

    แสงแดดสาดส่องมาทำให้ธารธาราค่อยๆลืมตาขึ้น ก็เห็นว่าตัวเองนั่งหลับไปข้างหินเจ้าแม่นางครวญ ไม่รู้ว่าตัวเองนั่งอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนแล้ว สายตาก็เหลือบไปเห็นอีกฝั่งมีน้ำแดงและขนมวางอยู่ เอ๋ ใครเอามาวางไว้ตรงนี้หว่า ท้องก็ร้องจ้อกๆขึ้นมา สงสัยมีคนเอามาเซ่นเจ้าแม่ตั้งแต่ก่อนเธอจะมา อือเจ้าแม่กินแล้วแหละ งั้นเธอนั่งกินขนมอย่างอร่อย อีกมือก็ยกขวดน้ำแดงขึ้นมาดูด ซู้ด" ขนมอะไรไม่รู้อร่อยดีเหมือนกันนะเนี่ย ง่ำง่ำ ง่ำ"มัวแต่กินเลยไม่รู้ว่ามีกลุ่มคนเดินเข้ามาใกล้" เจ้าแม่นางครวญขอบคุณนะเจ้าคะขนมอร่อยมากเลย ฉันขอรอผัวฉันตรงนี้เป็นเพื่อนเจ้าแม่นะ ฮือฮือ "" มารอผัวเหรอ"" ใช่ ไม่รู้เขาจะกลับมามั๊ย เขาถูกยิงตกน้ำ มีแต่คนบอกว่าเขาน่าจะตายห่าไปแล้ว ฮือฮือ แต่ แต่ฉันไม่เชื่อ ฉันจะรอเขาอยู่ที่นี่ ฮือฮือ ถึงเขาเป็นผีก็ต้องมาหาฉัน "" เอาขนมอีกไหม"" อือได้ก็ดี"ธารธารารับขนมจากมือใครไม่รู้มาแกะกิน " ง่ำ ง่ำ อื้ออร่อยหวานมันส์กรอบ "" ค่อยๆกินเดี๋ยวติดคอ กินน้ำด้วย"เธอรับขวดน้ำมาดูดแล้วหยุดชะงัก เธอพูดกับใคร ใครยื่นน้ำยื่นขนมให้เธอ แล้วก็ค่อยๆหันหลังไปมอง อาโบ ผีอาโบเหรอ นี่วิญญาณของเขามาหาเธอกลางวั

  • ธารนางครวญ   ตอนที่54

    อาโบทำสัญลักษณ์ให้ทุกคนถอย เมื่อออกมาห่างพอสมควรก็พูดเป็นภาษาชนเผ่าที่อาชาฟังไม่ออกว่าพูดอะไรกัน โพโรโรกับลูกน้องอีกคนรับคำสั่งแล้วรีบออกไป ที่เหลือให้ตามอาโบมา เซโพพาอาชาไปซุ่มดูอยู่หลังพุ่มไม้เห็นอาโบ จ่อจ่อ มะทูจ่อและลูกน้องอีกคนค่อยๆแอบเข้าไปที่ตั้งของพวกมัน " พวกอาร์มี่"" ห๊ะ อาอะไรนะ"" อาร์มี่"" แล้วมันเหมือนกับพวกอียูพวกอาร์เคไหม"" อือก็เป็นชนเผ่าปกครองตัวเองเหมือนกันแต่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดมากกว่า"" ห๊า แล้ว แล้วนายวีของฉันกับไอ้ดำจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ โธ่นาย"" ไม่ต้องห่วง อาโบเขาเก่ง อย่าลืมเขาเป็นถึงหัวหน้าพวกอาร์เค"ปัง ปัง ปัง ปัง เสียงปืนดังสนั่นติดๆกัน จ่อจ่อพาอาชวีวิ่งออกมา ตามมาด้วยลูกน้องอีกคนที่พาดำรงตามมาติดๆ อาโบกับมะทูจ่อช่วยกันยิงสู้ไม่ให้พวกอาร์มี่ตามมา เซโพกับอาชาออกจากที่ซ่อนยิงสู้พวกมันที่ตามมาแล้วรีบไปรับอาชวีกับดำรงปัง ปัง ปัง ปัง อาโบให้ทุกคนไปก่อน ส่วนตัวเองคอยยิงระวังหลังให้จนข้ามฝั่งมาได้ ฝั่งคนรอก็ลุ้นใจจดใจจ่อโดยเฉพาะธารธาราที่นั่งไม่ติด ชะเง้อรออาโบกลับมาพั่บ พั่บ พั่บ พั่บ" เสียงฮ.นี่ฮ.มาจากไหน"ทุกคนแหงนมองบนฟ้าก็เจอเฮลิคอปเตอร์ โพโรโร

  • ธารนางครวญ   ตอนที่53

    " ไม่ใช่ ผมไม่เคยเห็นคุณเป็นของเล่น แต่ผมยังไม่รู้ใจตัวเองเลยเย็นชากับคุณ เรื่องอัญผมไม่เคยจริงจังกับเธอเลย ที่จริงผมรักคุณมาตลอด รักมานานแล้ว แต่พึ่งรู้ตัวตอนที่คุณจากไป ให้โอกาสผมอีกสักครั้งผมจะรักคุณให้ดีๆ ไม่ทำให้คุณเสียใจอีก"" ฉันให้โอกาสคุณหลายครั้งแล้วแต่คุณไม่เอาเอง โอกาสครั้งสุดท้ายคือวันที่คุณทิ้งฉันไปหาอัญญาอร ฉันขอร้องคุณแล้วแต่คุณไม่เลือกฉัน"อาชวีเข่าอ่อนแทบทรุดวันนั้นอัญญาอรโทรหาเขา บอกว่ามีคนสะกดรอยเดินตามเธอมาเธอกลัวมาก ให้เขาออกไปหาเขาเลยรีบร้อนออกไป ตอนนั้นธารธาราบอกว่าให้เขาอยู่กับเธอเธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย อยากให้เขาอยู่เป็นเพื่อนแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ ยังตะคอกใส่เธอว่าให้เธอไปหายากินเอง ไม่ก็ไปหาหมอ เขาไม่ใช่หมอจะไปช่วยอะไรได้พูดจบก็สะบัดเธอออก เดินไปไม่หันหลังกลับมามอง แล้วเขาก็ไปหาอัญญาอรตอนเช้าอาชาโทรมาบอกว่าธารธาราป่วยเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน เขาเลยไปเยี่ยมเธอเห็นเธอนอนนิ่งให้น้ำเกลืออยู่ก็รู้สึกผิดนิดหน่อย แต่นั่นแหละเขาไม่ใช่หมอบอกไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ป่วยก็มาหาหมอก็ถูกแล้ว เธอเห็นหน้าเขาก็พูดคุยถามไถ่ปกติบอกว่าไม่เป็นอะไรให้เขากลับไปทำงานเถอะ เขาก็คิดว่าเธอ

  • ธารนางครวญ   ตอนที่52

    ผีตัวหนึ่งแว่บมากอดภาสกรจากข้างหลัง " ช่วยด้วยไอ้ด้วงช่วยกูด้วย"ดุษฎีจะเข้าไปช่วย แต่ไม่รู้จะช่วยยังไงเขาก็ถูกมันดึงขาอยู่เหมือนกัน" อาโบ พวกเรามารวมพลังกันน่าจะช่วยไล่พวกมันไปได้ "มูเล่ร้องบอกอาโบ อาโบบอกให้ธารธาราอยู่ใกล้ๆเขา แล้วเดินไปนั่งหันหลังชนกันสามคนกับเซโพและมูเล่ จากนั้นก็ช่วยกันร่ายคาถาอาคม ตอนนี้ทุกคนต้องช่วยตัวเองไปก่อน ธารธารานั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากอาโบ ที่จริงเธออยากจะกอดเขาไว้แน่นๆแต่ไม่อยากรบกวนสมาธิเขา มีผีโผล่มาพยายามดึงเธอแต่มีแสงสีเขียวพุ่งออกมา มันก็ต้องรีบหดมือกลับอย่างไวแล้วหายแว่บไป ผีอีกหลายตัวที่พยายามจะเข้ามาทำร้ายเธอก็เป็นแบบเดียวกัน เธอหยิบสร้อยเขี้ยวเสือไฟที่สวมอยู่ขึ้นมาดูอย่างแปลกใจแสงสีทองพวยพุ่งขึ้นมาเหนือหัวของอาโบเซโพและมูเล่ ก่อนจะแผ่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณ สาดส่องทะลุพวกผีห่าทุกตัว พวกมันส่งเสียงร้อนโหยหวนก่อนจะพากันสลายหายไปอาโบรีบลุกขึ้นวิ่งเข้าไปหาธารธาราดึงเธอเข้ามากอดไว้แน่น" ไม่เป็นอะไรใช่ไหม"" ไม่เป็นไร สร้อยที่นายให้ช่วยฉันไว้ "อาโบจับมือธารธาราเดินเข้าไปรวมกับทุกคนก่อนจะพูดขึ้น" ทุกคนเก็บของ พวกเราต้องไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย"

  • ธารนางครวญ   ตอนที่51

    อาโบนำทางทุกคนออกมาด้านหลังหุบเขาที่มีทางเชื่อมต่อกับเทือกเขาอีกลูก ไม่ต้องไต่เชือกข้ามฝั่งเหมือนขามา เดินลัดเลาะตามสายน้ำไปเรื่อยๆ" สายน้ำนี้ใช่ธารน้ำที่อยู่ตรงกล้วยไม้สีรุ้งใช่ไหม"ธารธาราถามขึ้นมา อาโบพยักหน้า ครั้งหนึ่งเขาหนีการไล่ล่าของฝ่ายศัตรูเข้ามาซ่อนตัวอยู่แถวกล้วยไม้สีรุ้ง ทีแรกเขาคิดว่าเป็นทางตันไม่มีทางออก ตอนนั้นเขาบาดเจ็บหนัก ถึงหนีพ้นจากพวกมันแต่ที่นี่อากาศมีน้อยหายใจลำบาก เขาคิดว่าจะตายอยู่ที่นี่เสียแล้ว แต่ก็สังเกตุเห็นว่าธารน้ำไหลมีน้ำไหลออกไปข้างนอก จึงเดินตามน้ำไหลออกไป จากทางน้ำเล็กๆค่อยๆกว้างขึ้นกลายเป็นแม่น้ำ และเขาก็รอดมาได้อาโบพาทุกคนเดินตามธารน้ำเล็กๆออกมาจนกลายเป็นแม่น้ำกว้าง น้ำใสไหลเย็นมองเห็นก้อนหินและปลาตัวเล็กแหวกว่ายไปมาทุกคนพักเหนื่อยกินน้ำล้างหน้าล้างตาเย็นๆหายเหนื่อยก็เดินทางต่อ เช้าจรดเย็นเย็นจรดเช้าของอีกวัน ผ่านแดดร้อนบ้างฝนตกบ้าง จนพากันเดินมาถึงที่แห่งหนึ่งก็พลบค่ำพอดีจึงหยุดพักพวกลูกน้องของอาโบช่วยกันหากิ่งไม้มาก่อกองไฟ หลังกินอาหารเสร็จ อาโบก็เตรียมที่นอน เขาเอาผ้าผืนหนึ่งออกมาปูรองนอน หยิบเอาผ้าห่มลายแมวที่ธารธาราใช้ห่มประจำออกมาเตรียมใ

  • ธารนางครวญ   ตอนที่50

    " น้ำ น้ำหมายความว่ายังไง น้ำจะไม่กลับไปทำงานที่สถาบันกับพวกเราแล้วเหรอ"กิตติศักดิ์รีบถามขึ้นมาด้วยความตกใจ" หากล้วยไม้เจอก็เป็นอันจบภารกิจ ฉันจะกลับไปกับอาโบ"ทุกคนตกใจที่ได้ยิน ดารินรีบเข้ามาจับแขนธารธารา" น้ำเธอคิดดีแล้วเหรอ ถึงจะเธอจะคบกับอาโบแต่ก็ไม่ต้องออกจากสถาบันก็ได้นี่"ธารธาราส่ายหน้า" ฉันตัดสินใจแล้ว ที่กรุงเทพไม่มีอะไรให้ฉันผูกพันธ์ ไม่มีอะไรให้เป็นห่วง ฉันเหลือตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน พ่อแม่ก็ตายหมดแล้ว ชีวิตนี้ฉันมีแต่อาโบ"เธอกอดแขนอาโบแน่น เขาลูบหัวเธอเบาๆปลอบโยน " เธอยังมีฉันไงเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ""ก็ใช่ แต่ "" แต่อะไร"" เพื่อนไม่เหมือนผัวนี่"" _ "เธอไม่มีเพื่อนก็ได้ แต่ไม่มีผัวไม่ได้ เธอขาดอาโบไม่ได้" ที่เราหาเป็นส่วนนอกสังเกตุไหม เมื่อมองจากที่ไกลๆเราจะเห็นมันเป็นรูปหัวกะโหลกมีตาสองตา"เมื่ออาโบพูดขึ้นมาทุกคนก็คิดตาม" เราหาบริเวณรอบนอกมาหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าไปข้างใน"" ข้างในที่ว่านี่ใช่ตรงที่ดูคล้ายกับลูกตาโบ๋ๆเวลามองมาจากที่ไกลๆไหม"" นั่นแหละใจกลางหุบเขาแห่งนี้"มูเล่เซโพและพวกลูกน้องของอาโบ ใช้มีดฟันเครือไม้ที่ขึ้นแน่นขนัด ก่อนจะพาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status