Masukเธอเป็นแค่ตัวแทนของผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อผู้หญิงคนนั้นกลับมาก็หมดเวลาตัวสำรองอย่างเธอ เธอจึงจากไปแล้วเข้าร่วมทีมวิจัย เดินทางเข้าป่าตามหากล้วยไม้สีรุ้ง ที่เชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคร้ายได้ พอเธอจากไปเขาก็ตามหาเธออย่างบ้าคลั่ง " ผมขอโทษเรากลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม กลับไปกับผมนะ ผมจะจัดงานแต่งงานของเราให้ใหญ่โตประดับกุหลาบสีขาวอย่างที่คุณชอบให้ทั่วเลย ดีไหม" สัตว์ประหลาดก้มลงไปตรงหว่างขาทำจมูกฟุดฟิดสูดดมแล้วยิ้มโชว์ฟันแหลมคม อาชวีที่ถูกมัดติดกับต้นเสาได้แต่มองดูมัน เขาทั้งกลัวทั้งรังเกียจ " เฮ้ย เฮ้ย นั่นมันกำลังจะแดกนายแล้ว " เซโพพาทุกคนวิ่งออกมาลัดเลาะป่าหญ้าสูงท่วมหัว ล้มลุกคลุกคลานบ้างแต่ก็หยุดพักไม่ได้ อาชวีวิ่งตัวเปล่าล้อนจ้อนมีแต่กางเกงในตัวเดียว แถมตอนที่หกล้มเมื่อกี้ยังไปถูกกิ่งไม้เกี่ยวจนกางเกงในขาดตูดเป็นรูกว้าง
Lihat lebih banyakธารธาราหยิบที่ตรวจครรภ์ออกมาดูแล้วยิ้มกว้าง มองไปที่ประตูห้องน้ำอย่างใจจดใจจ่อ รอบอกข่าวดีกับเขา เขาจะดีใจเหมือนเธอไหมนะ
แกร็ก อาชวีเปิดประตูห้องน้ำเดินออกมาท่อนล่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว
" จ้องผมแบบนี้หรือว่าอยากได้อีก "
เขาเดินเข้ามารวบเอวเธอเข้ามากอด จมูกโด่งซุกไซร้ซอกคอ มือบีบขยำเต้าอวบ
" พะ พอแล้วค่ะ "
ธารธาราผลักเขาออก พึ่งจะร่วมรักกันไปสามครั้งติดๆ เธอไม่อยากทำบ่อยเกินไปกลัวจะกระทบกับลูกในท้อง
" วีคะ"
" หือ"
"ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ"
" เรื่องอะไร"
เธอกำลังเอาที่ตรวจครรภ์ออกมา แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เขาหยิบโทรศัพท์มาดูแล้วยิ้มก่อนจะรีบกดรับ
" ฮัลโหล อืม ได้สิ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย"
เขารีบสวมใส่เสื้อผ้าคว้ากุญแจรถหมุนตัวออกไปโดยไม่สนใจเธอเลย
" วีคะ"
" มีอะไรรีบพูดมาผมรีบ"
" คุณไม่ไปไม่ได้เหรอ ฉัน ฉันไม่ค่อยสบาย อยากให้คุณอยู่เป็นเพื่อน"
เธอเข้าไปกอดแขนเขาไว้ เขาปัดมือเธอออก
" ไม่สบายก็ไปหายากินไม่ก็ไปหาหมอ ผมผมไม่ใช่หมอนะ บอกแล้วจะช่วยอะไรได้"
เขาพูดเสียงแข็งกร้าว แล้วรีบเดินออกไป ปิดประประตูกระแทกเสียงดัง ปัง
น้ำตาของเธอไหลรินออกมา ใช้มือลูบท้องที่ยังแบนราบ ไม่รู้ว่าเธอนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน ฟุบหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ พอรู้สึกตัวขึ้นมาก็ปวดหัวมาก จะลุกก็ไม่มีแรง จึงโทรเรียกรถพยาบาล
ตื่นมาตอนเช้าเธอโทรไปลางานวันครึ่ง พรุ่งนี้ช่วงบ่ายถึงจะเข้าไปทำงาน วันต่อมาพอน้ำเกลือหมดขวดก็ช่วงเที่ยงพอดี หมอบอกว่าเธอตั้งครรภ์ได้5สัปดาห์แล้ว ให้ดูแลตัวเองให้ดีและอย่าลืมมาฝากท้อง หลังจากทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลก็เรียกแท็กซี่ไปส่งที่บริษัท
ระหว่างเดินผ่านพนักงานกลุ่มหนึ่งก็ได้ยินบทสนทนา
" ผู้หญิงคนนั้นในห้องบอสสวยมากเลยแกว่าไหม คนอะไรทั้งสวยทั้งขาวหุ่นก็ดี"
" หุ่นอย่างกับนางแบบ โอ๊ยฉันอิจฉาจัง คนอะไรโคตรเพอร์เฟคเลย"
" พวกแกไม่รู้อะไร เขาลือกันว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนรักของบอส เธอไปเรียนต่างประเทศพึ่งกลับมาเมื่อวาน บอสไปรับด้วยตัวเองที่สนามบินเลย นี่เห็นว่ากลับมาแล้วก็จะแต่งงงานกัน"
" จริงเหรอแก ตัวจริงกลับมาแล้วอย่างงี้ตัวสำรองก็หมดเวลาแล้วสิ"
ธารธาราหยุดชะงัก หันไปจ้องมองพนักงานสามคนที่พูด แล้วมองมาที่เธอด้วยสายตาเยาะเย้ยปนสมเพช
" น้ำมาแล้วเหรอ ไปเถอะ อย่าไปสนใจเสียงหมาเห่าหอนแถวนี้เลย"
พิชาภาเดินมารับธารธารา ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เข้าทำงานที่นี่วันแรก
" แกว่าใครเป็นหมา"
" ฉันพูดลอยๆ ใครอยากรับก็คนนั้นแหละ"
ธารธาราวางกระเป๋าลงบนโต๊ะทำงานสีหน้าไม่สู้ดี พิชาภารับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนกับอาชวี จึงได้แต่ปลอบใจ
" น้ำอย่าคิดมากนะ ไม่ต้องไปฟังที่พวกนั้นพูดกัน บางทีอาจไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้"
" ผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้อยู่กับเขาในห้องทำงานใช่ไหม"
พิชาภาพยักหน้า ธารธารากำมือแน่นพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่ให้ตัวเองเดินเข้าไปในห้องทำงานของเขาเพื่อดูหน้าผู้หญิงคนนั้น เมื่อวานที่เขารีบร้อนออกไปเพราะผู้หญิงคนนั้นกลับมาแล้วนี่เอง
เคยมีคนเตือนเธอว่าอาชวีเคยรักผู้หญิงคนหนึ่งมาก เป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยแต่ถูกปฏิเสธ แต่เขาก็ไม่ยอมตัดใจ จนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นไปเรียนต่อต่างประเทศ ผ่านไปหลายปีเขาก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน
จนกระทั่งเธอได้เจอเขาที่ผับแล้วมีวันไนต์กัน เขาบอกว่าติดใจเธออยากขอให้เธอเป็นของเขาเรื่อยไป จนกว่าเราจะเบื่อกัน เธอหลงรักเขาตั้งแต่แรกเห็นเลยตอบตกลงตอนนั้นเธออยู่ปี4 หลังเรียนจบก็ไปสมัครทำงานที่บริษัทของเขา แม้ไม่ตรงสาขาที่เรียนมาแต่ก็ไม่มีปัญหาในการทำงาน ตั้งแต่นั้นมาเธอกับเขาก็มีความสัมพันธ์กันมาตลอด ในเวลางานเขาเป็นเจ้านาย เลิกงานเขาเป็นสามีของเธอ แม้เป็นความสัมพันธ์แบบลับๆไม่อาจเปิดเผยได้ แม้จะรู้ว่าเป็นแค่คนคั่นเวลาแก้เหงาให้เขา แต่เธอก็หวังว่าสักวันจะทำให้เขารักเธอได้ แต่เธอคงหวังมากไป ตอนนี้ตัวจริงเขากลับมาแล้ว เธอต้องไปใช่ไหม ความรู้สึกน้อยใจตีตื้นขึ้นมาเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก ก้มมองท้องที่ยังแบนราบเผลอเอามือลูบเบาๆ
" น้ำ น้ำ"
" หือ"
" เป็นอะไรไม่สบายตรงไหนรึเปล่า"
" อะ อ๋อ เปล่าไม่ได้เป็นอะไร"
" แน่นะ เห็นเอามือลูบท้องปวดท้องรึเปล่า "
" เปล่าไม่ได้ปวด ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ"
"เออแล้วนี่แกกินข้าวมารึยัง "
"กินมาแล้ว"
" แน่นะ ถ้าไม่สบายรีบบอกฉันหล่ะ ว่าแต่แกลางานไปทำอะไรมา"
" อ๋อ จะย้ายห้องหน่ะเลยไปหาดูห้องใหม่มา"
เธอไม่อยากบอกเรื่องที่ไม่สบายจนต้องเข้าร.พ รวมทั้งเรื่องที่เธอท้องด้วย ไม่อยากให้ใครต้องมาสงสารเธอ
" เหรอ แล้วได้ไหมฉันว่าห้องเก่าแกก็ดีนะใกล้บริษัทดีด้วย สะดวกดีออก ห้องก็หรู หรือว่า"
พิชาภารู้ว่าคนรักของอาชวีกลับมาแล้ว ธารธาราคงต้องเตรียมตัวย้ายออก เพราะคอนโดนั่นเป็นของอาชวี เธอได้แต่สงสารเพื่อน
" อย่างที่แกเข้าใจนั่นแหละ"
" ทุกคนบอสเรียกประชุมจ๊ะ รีบไปรวมกันที่ห้องประชุมเร็ว"
นาลินหัวหน้าแผนกเดินเข้ามาบอกทุกคน
" พี่นารู้ไหมว่าบอสมีเรื่องอะไร"
" ไปที่ห้องประชุมเดี๋ยวก็รู้เอง แต่พี่คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับแฟนของบอสที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศนะ เห็นว่าจะมาทำงานที่นี่"
พิชาภาเข้าไปกุมมือธารธาราพากันเดินไปที่ห้องประชุม
ห้องประชุม
" ผมขอแนะนำให้ทุกคนรู้จัก นี่คือ อัญญาอร ต่อไปเธอจะมาทำงานที่นี่ในฐานะผู้จัดการแผนกการตลาด"
" บอสคะแต่แผนกการตลาดมีพี่สุธีร์เป็นผู้จัดการอยู่แล้วนะคะ แล้วอย่างนี้"
" สุธีร์ก็ยังเป็นผู้จัดการเหมือนเดิม แค่เพิ่มอัญญาอรเข้าไปอีกคน แผนกการตลาดก็จะมีหัวหน้าทั้งหญิงและชายอย่างละคนช่วยกันทำงาน "
ธารธารามองดูผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างอาชวี เธอสวยสง่าสมกับที่ทุกคนพูดกันจริงๆ สูงโปร่งผิวขาว หุ่นเหมือนนางแบบ หน้าตาสวยไม่มีที่ติ เห็นอาชวียิ้มให้อัญญาอรอย่างอ่อนโยน ในใจก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา แต่เธอจะทำอะไรได้ เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาแม้แต่สถานะก็ไม่มี ระหว่างเดินกลับไปโต๊ะทำงาน พนักงานคนอื่นๆพากันซุบซิบ
" พึ่งมาก็ได้เป็นหัวหน้าเลยแฮะ"
" ก็เธอเป็นแฟนบอส ตอนนี้เป็นแค่ผู้จัดการไปก่อน ต่อไปก็เป็นบอสอีกคน ทีนี้บริษัทเราก็มีบอสผู้ชายคน ผู้หญิงคนไง"
ธารธาราพยายามไม่สนใจในสิ่งที่ได้ยินกลับถึงโต๊ะทำงานก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเดียว
เลิกงานเธอเดินไปมุมหนึ่งของบริษัทอย่างเคยในทุกวัน เธอจะขึ้นรถคันเดียวกันกับอาชวีกลับห้องพักด้วยกัน แต่เดินเกือบถึงก็ต้องหยุดชะงัก เพราะคิดขึ้นมาได้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ขึ้นรถเขา ไม่มีสิทธิ์กลับพร้อมเขาอีกแล้ว ตัวจริงเขากลับมาแล้ว ตัวสำรองอย่างเธอก็หมดเวลา เธอหันหลังเดินออกไปรอรถเมล์ที่ป้ายรอรถหน้าบริษัท เดินยังไม่ทันถึงป้ายรอรถ ฝนก็เทลงมา
" คุณน้ำครับร่มครับ"
ธารธารามองดูร่มที่ดำรงคนขับรถของอาชวียื่นให้ ก่อนจะหันไปเห็นรถของอาชวีจอดอยู่ข้างทาง เขาคงอยู่ในรถและข้างๆเขาก็คงมีคนรักของเขาอยู่ด้วย เธอเมินเฉยแล้ววิ่งฝ่าสายฝนไปที่ป้ายรอรถเมล์ รถเบนซ์คันหนึ่งจอดตรงหน้าเธอ พิชาภาเปิดประตูรถถือร่มลงมา
" น้ำ กลับกับฉัน เดี๋ยวฉันให้พี่วิทย์ไปส่ง"
" ไม่เป็นไรเกรงใจพี่ชายแก ที่พักฉันกับแกอยู่คนละที่ ไปส่งแกแล้วยังต้องวนไปส่งฉันอีก พี่แกต้องรีบไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลนะเดี๋ยวจะช้า ฝนตกแบบนี้รถต้องติดแน่"
ชาญวิทย์เลื่อนกระจกรถลง
" ไปเถอะครับไม่ต้องเกรงใจ ฝนตกแบบนี้รถยิ่งติด กว่ารถเมล์จะมาก็อีกนานเลย "
พิชาภาจูงมือธารธาราขึ้นรถไป อาชวีมองดูเหตุการณ์ด้วยสีหน้าเย็นชาก่อนสั่งให้ดำรงออกรถ
แสงแดดสาดส่องมาทำให้ธารธาราค่อยๆลืมตาขึ้น ก็เห็นว่าตัวเองนั่งหลับไปข้างหินเจ้าแม่นางครวญ ไม่รู้ว่าตัวเองนั่งอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนแล้ว สายตาก็เหลือบไปเห็นอีกฝั่งมีน้ำแดงและขนมวางอยู่ เอ๋ ใครเอามาวางไว้ตรงนี้หว่า ท้องก็ร้องจ้อกๆขึ้นมา สงสัยมีคนเอามาเซ่นเจ้าแม่ตั้งแต่ก่อนเธอจะมา อือเจ้าแม่กินแล้วแหละ งั้นเธอนั่งกินขนมอย่างอร่อย อีกมือก็ยกขวดน้ำแดงขึ้นมาดูด ซู้ด" ขนมอะไรไม่รู้อร่อยดีเหมือนกันนะเนี่ย ง่ำง่ำ ง่ำ"มัวแต่กินเลยไม่รู้ว่ามีกลุ่มคนเดินเข้ามาใกล้" เจ้าแม่นางครวญขอบคุณนะเจ้าคะขนมอร่อยมากเลย ฉันขอรอผัวฉันตรงนี้เป็นเพื่อนเจ้าแม่นะ ฮือฮือ "" มารอผัวเหรอ"" ใช่ ไม่รู้เขาจะกลับมามั๊ย เขาถูกยิงตกน้ำ มีแต่คนบอกว่าเขาน่าจะตายห่าไปแล้ว ฮือฮือ แต่ แต่ฉันไม่เชื่อ ฉันจะรอเขาอยู่ที่นี่ ฮือฮือ ถึงเขาเป็นผีก็ต้องมาหาฉัน "" เอาขนมอีกไหม"" อือได้ก็ดี"ธารธารารับขนมจากมือใครไม่รู้มาแกะกิน " ง่ำ ง่ำ อื้ออร่อยหวานมันส์กรอบ "" ค่อยๆกินเดี๋ยวติดคอ กินน้ำด้วย"เธอรับขวดน้ำมาดูดแล้วหยุดชะงัก เธอพูดกับใคร ใครยื่นน้ำยื่นขนมให้เธอ แล้วก็ค่อยๆหันหลังไปมอง อาโบ ผีอาโบเหรอ นี่วิญญาณของเขามาหาเธอกลางวั
อาโบทำสัญลักษณ์ให้ทุกคนถอย เมื่อออกมาห่างพอสมควรก็พูดเป็นภาษาชนเผ่าที่อาชาฟังไม่ออกว่าพูดอะไรกัน โพโรโรกับลูกน้องอีกคนรับคำสั่งแล้วรีบออกไป ที่เหลือให้ตามอาโบมา เซโพพาอาชาไปซุ่มดูอยู่หลังพุ่มไม้เห็นอาโบ จ่อจ่อ มะทูจ่อและลูกน้องอีกคนค่อยๆแอบเข้าไปที่ตั้งของพวกมัน " พวกอาร์มี่"" ห๊ะ อาอะไรนะ"" อาร์มี่"" แล้วมันเหมือนกับพวกอียูพวกอาร์เคไหม"" อือก็เป็นชนเผ่าปกครองตัวเองเหมือนกันแต่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดมากกว่า"" ห๊า แล้ว แล้วนายวีของฉันกับไอ้ดำจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ โธ่นาย"" ไม่ต้องห่วง อาโบเขาเก่ง อย่าลืมเขาเป็นถึงหัวหน้าพวกอาร์เค"ปัง ปัง ปัง ปัง เสียงปืนดังสนั่นติดๆกัน จ่อจ่อพาอาชวีวิ่งออกมา ตามมาด้วยลูกน้องอีกคนที่พาดำรงตามมาติดๆ อาโบกับมะทูจ่อช่วยกันยิงสู้ไม่ให้พวกอาร์มี่ตามมา เซโพกับอาชาออกจากที่ซ่อนยิงสู้พวกมันที่ตามมาแล้วรีบไปรับอาชวีกับดำรงปัง ปัง ปัง ปัง อาโบให้ทุกคนไปก่อน ส่วนตัวเองคอยยิงระวังหลังให้จนข้ามฝั่งมาได้ ฝั่งคนรอก็ลุ้นใจจดใจจ่อโดยเฉพาะธารธาราที่นั่งไม่ติด ชะเง้อรออาโบกลับมาพั่บ พั่บ พั่บ พั่บ" เสียงฮ.นี่ฮ.มาจากไหน"ทุกคนแหงนมองบนฟ้าก็เจอเฮลิคอปเตอร์ โพโรโร
" ไม่ใช่ ผมไม่เคยเห็นคุณเป็นของเล่น แต่ผมยังไม่รู้ใจตัวเองเลยเย็นชากับคุณ เรื่องอัญผมไม่เคยจริงจังกับเธอเลย ที่จริงผมรักคุณมาตลอด รักมานานแล้ว แต่พึ่งรู้ตัวตอนที่คุณจากไป ให้โอกาสผมอีกสักครั้งผมจะรักคุณให้ดีๆ ไม่ทำให้คุณเสียใจอีก"" ฉันให้โอกาสคุณหลายครั้งแล้วแต่คุณไม่เอาเอง โอกาสครั้งสุดท้ายคือวันที่คุณทิ้งฉันไปหาอัญญาอร ฉันขอร้องคุณแล้วแต่คุณไม่เลือกฉัน"อาชวีเข่าอ่อนแทบทรุดวันนั้นอัญญาอรโทรหาเขา บอกว่ามีคนสะกดรอยเดินตามเธอมาเธอกลัวมาก ให้เขาออกไปหาเขาเลยรีบร้อนออกไป ตอนนั้นธารธาราบอกว่าให้เขาอยู่กับเธอเธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย อยากให้เขาอยู่เป็นเพื่อนแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ ยังตะคอกใส่เธอว่าให้เธอไปหายากินเอง ไม่ก็ไปหาหมอ เขาไม่ใช่หมอจะไปช่วยอะไรได้พูดจบก็สะบัดเธอออก เดินไปไม่หันหลังกลับมามอง แล้วเขาก็ไปหาอัญญาอรตอนเช้าอาชาโทรมาบอกว่าธารธาราป่วยเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน เขาเลยไปเยี่ยมเธอเห็นเธอนอนนิ่งให้น้ำเกลืออยู่ก็รู้สึกผิดนิดหน่อย แต่นั่นแหละเขาไม่ใช่หมอบอกไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ป่วยก็มาหาหมอก็ถูกแล้ว เธอเห็นหน้าเขาก็พูดคุยถามไถ่ปกติบอกว่าไม่เป็นอะไรให้เขากลับไปทำงานเถอะ เขาก็คิดว่าเธอ
ผีตัวหนึ่งแว่บมากอดภาสกรจากข้างหลัง " ช่วยด้วยไอ้ด้วงช่วยกูด้วย"ดุษฎีจะเข้าไปช่วย แต่ไม่รู้จะช่วยยังไงเขาก็ถูกมันดึงขาอยู่เหมือนกัน" อาโบ พวกเรามารวมพลังกันน่าจะช่วยไล่พวกมันไปได้ "มูเล่ร้องบอกอาโบ อาโบบอกให้ธารธาราอยู่ใกล้ๆเขา แล้วเดินไปนั่งหันหลังชนกันสามคนกับเซโพและมูเล่ จากนั้นก็ช่วยกันร่ายคาถาอาคม ตอนนี้ทุกคนต้องช่วยตัวเองไปก่อน ธารธารานั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากอาโบ ที่จริงเธออยากจะกอดเขาไว้แน่นๆแต่ไม่อยากรบกวนสมาธิเขา มีผีโผล่มาพยายามดึงเธอแต่มีแสงสีเขียวพุ่งออกมา มันก็ต้องรีบหดมือกลับอย่างไวแล้วหายแว่บไป ผีอีกหลายตัวที่พยายามจะเข้ามาทำร้ายเธอก็เป็นแบบเดียวกัน เธอหยิบสร้อยเขี้ยวเสือไฟที่สวมอยู่ขึ้นมาดูอย่างแปลกใจแสงสีทองพวยพุ่งขึ้นมาเหนือหัวของอาโบเซโพและมูเล่ ก่อนจะแผ่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณ สาดส่องทะลุพวกผีห่าทุกตัว พวกมันส่งเสียงร้อนโหยหวนก่อนจะพากันสลายหายไปอาโบรีบลุกขึ้นวิ่งเข้าไปหาธารธาราดึงเธอเข้ามากอดไว้แน่น" ไม่เป็นอะไรใช่ไหม"" ไม่เป็นไร สร้อยที่นายให้ช่วยฉันไว้ "อาโบจับมือธารธาราเดินเข้าไปรวมกับทุกคนก่อนจะพูดขึ้น" ทุกคนเก็บของ พวกเราต้องไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย"
อาโบนำทางทุกคนออกมาด้านหลังหุบเขาที่มีทางเชื่อมต่อกับเทือกเขาอีกลูก ไม่ต้องไต่เชือกข้ามฝั่งเหมือนขามา เดินลัดเลาะตามสายน้ำไปเรื่อยๆ" สายน้ำนี้ใช่ธารน้ำที่อยู่ตรงกล้วยไม้สีรุ้งใช่ไหม"ธารธาราถามขึ้นมา อาโบพยักหน้า ครั้งหนึ่งเขาหนีการไล่ล่าของฝ่ายศัตรูเข้ามาซ่อนตัวอยู่แถวกล้วยไม้สีรุ้ง ทีแรกเขาคิดว่าเป็นทางตันไม่มีทางออก ตอนนั้นเขาบาดเจ็บหนัก ถึงหนีพ้นจากพวกมันแต่ที่นี่อากาศมีน้อยหายใจลำบาก เขาคิดว่าจะตายอยู่ที่นี่เสียแล้ว แต่ก็สังเกตุเห็นว่าธารน้ำไหลมีน้ำไหลออกไปข้างนอก จึงเดินตามน้ำไหลออกไป จากทางน้ำเล็กๆค่อยๆกว้างขึ้นกลายเป็นแม่น้ำ และเขาก็รอดมาได้อาโบพาทุกคนเดินตามธารน้ำเล็กๆออกมาจนกลายเป็นแม่น้ำกว้าง น้ำใสไหลเย็นมองเห็นก้อนหินและปลาตัวเล็กแหวกว่ายไปมาทุกคนพักเหนื่อยกินน้ำล้างหน้าล้างตาเย็นๆหายเหนื่อยก็เดินทางต่อ เช้าจรดเย็นเย็นจรดเช้าของอีกวัน ผ่านแดดร้อนบ้างฝนตกบ้าง จนพากันเดินมาถึงที่แห่งหนึ่งก็พลบค่ำพอดีจึงหยุดพักพวกลูกน้องของอาโบช่วยกันหากิ่งไม้มาก่อกองไฟ หลังกินอาหารเสร็จ อาโบก็เตรียมที่นอน เขาเอาผ้าผืนหนึ่งออกมาปูรองนอน หยิบเอาผ้าห่มลายแมวที่ธารธาราใช้ห่มประจำออกมาเตรียมใ
" น้ำ น้ำหมายความว่ายังไง น้ำจะไม่กลับไปทำงานที่สถาบันกับพวกเราแล้วเหรอ"กิตติศักดิ์รีบถามขึ้นมาด้วยความตกใจ" หากล้วยไม้เจอก็เป็นอันจบภารกิจ ฉันจะกลับไปกับอาโบ"ทุกคนตกใจที่ได้ยิน ดารินรีบเข้ามาจับแขนธารธารา" น้ำเธอคิดดีแล้วเหรอ ถึงจะเธอจะคบกับอาโบแต่ก็ไม่ต้องออกจากสถาบันก็ได้นี่"ธารธาราส่ายหน้า" ฉันตัดสินใจแล้ว ที่กรุงเทพไม่มีอะไรให้ฉันผูกพันธ์ ไม่มีอะไรให้เป็นห่วง ฉันเหลือตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน พ่อแม่ก็ตายหมดแล้ว ชีวิตนี้ฉันมีแต่อาโบ"เธอกอดแขนอาโบแน่น เขาลูบหัวเธอเบาๆปลอบโยน " เธอยังมีฉันไงเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ""ก็ใช่ แต่ "" แต่อะไร"" เพื่อนไม่เหมือนผัวนี่"" _ "เธอไม่มีเพื่อนก็ได้ แต่ไม่มีผัวไม่ได้ เธอขาดอาโบไม่ได้" ที่เราหาเป็นส่วนนอกสังเกตุไหม เมื่อมองจากที่ไกลๆเราจะเห็นมันเป็นรูปหัวกะโหลกมีตาสองตา"เมื่ออาโบพูดขึ้นมาทุกคนก็คิดตาม" เราหาบริเวณรอบนอกมาหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าไปข้างใน"" ข้างในที่ว่านี่ใช่ตรงที่ดูคล้ายกับลูกตาโบ๋ๆเวลามองมาจากที่ไกลๆไหม"" นั่นแหละใจกลางหุบเขาแห่งนี้"มูเล่เซโพและพวกลูกน้องของอาโบ ใช้มีดฟันเครือไม้ที่ขึ้นแน่นขนัด ก่อนจะพาก
Komen