หัวใจของธารน้ำแตกละเอียดย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี แม้หัวใจของเธอจะรักและมั่นคงต่อพระเพลิงคนเดียวแต่มันก็ดูเหมือนว่ามันจะไร้ความหมายในสายตาของเขา ตลอดเวลาเกือบสี่ปีที่ผ่านมาชีวิตรอบกายของชายหนุ่มมักจะมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาวุ่นวายอยู่ตลอด เธอจับได้ว่าเขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นมาแล้วก็หลายครั้งให้โอกาสกันมาแล้วก็หลายหน หรือเพราะว่าการที่เธอให้อภัยเขาอย่างง่าย ๆ มันจึงทำให้พระเพลิงไม่เคยเห็นคุณค่าของเธอ
ปึก "ไปไหนครับ" "บ้าน สิวานนท์ค่ะ"ธารน้ำบอกกับคนขับแท็กซี่ก่อนที่เธอจะหันหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่าง น้ำตาบนใบหน้าสวยเหือดแห้งตั้งแต่ตอนนั้นและมันก็ไม่ได้ไหลออกมาอีกเลย แม้หัวใจในตอนนี้ของธารน้ำจะแตกย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี แต่เธอก็ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอให้ใครได้เห็นเป็นอันขาด บรืน ใช้เวลาในการเดินทางร่วมชั่วโมงธารน้ำก็เดินทางมาถึงบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า หญิงสาวก้าวขาลงจากรถแท็กซี่หลังจากจ่ายเงินเสร็จ หญิงสาวในชุดนักศึกษาเงยหน้ามองบ้านหลังใหญ่ที่เธอเคยอยู่มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กด้วยความรักและคิดถึง บ้านของแม่ที่ตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย นับตั้งแต่แม่ของเธอจากไปจากบ้านหลังใหญ่ที่ยังคงความสวยเอาไว้ตอนนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากบ้านร้างหลังหนึ่งที่ยังคงความใหญ่โตแต่ไร้ซึ่งความสวยเหมือนเมื่อก่อน หญิงสาวเปิดประตูรั้วเดินเข้าไปในบ้านอย่างไม่คิดจะเกรงกลัวสองแม่ลูกมหาภัยที่คงอยู่ด้านใน ถ้าหากบิดาไม่โทรเรียกเธอให้เข้ามาหาคนอย่างธารน้ำก็ไม่จำเป็นที่จะต้องก้าวขาเข้ามาในที่แห่งนี้ "กว่าจะเสนอหน้ามาได้นะคะพี่ธารน้ำ มัวไปอ่อยผู้ชายคนไหนอยู่เหรอคะคุณพ่อโทรเรียกตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ"เสียงจิกกัดจากลูกติดของแม่เลี้ยงดังขึ้นทันทีเมื่อธารน้ำก้าวขามาภายในบ้าน ก่อนร่างสวยในชุดนักศึกษาจากมหาลัยเดียวกันกับธารน้ำจะก้าวขาออกมาเผชิญหน้า "แล้วมันธุระกงการอะไรของเธอ ที่นี่มันก็เป็นบ้านของฉัน ฉันจะมาตอนไหนก็ได้"ธารน้ำตอบกลับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกัน "มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของขิมหรอกค่ะ เพียงแต่ขิมอยากให้พี่ธารน้ำดูเป็นลูกที่ดีในสายตาของคุณพ่อบ้างก็แค่นั้น แล้วนั่นทำไมไม่ขับรถที่พี่เพลิงซื้อให้เป็นของขวัญมาล่ะคะ นั่งแท็กซี่มาทำไม" "..." "หรือว่าคนที่ซื้อให้จะยึดกลับไปแล้ว คิ ๆ " "ฉันพึ่งรู้นะว่าเธอก็เป็นคนที่คอยให้ความสนใจกับเรื่องของชาวบ้านเหมือนกัน มิน่าถึงได้รู้เห็นเรื่องของฉันดีกว่าใคร ๆ " "นี่แกหาว่าฉันเสือกเรื่องของแกอย่างนั้นเหรอฮะ"เขมจิรา หรือ สายขิม โวยวายออกมาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดที่ถูกอีกฝ่ายสวนกลับอย่างไม่คิดจะไว้หน้า ใบหน้าสวยที่ตกแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงของเขมจิราแดงก่ำด้วยความโกรธดวงตากลมโตมองอีกฝ่ายอย่างคิดจะเอาเรื่อง "ที่ฉันมาที่นี่ไม่ได้เพื่อจะมาทะเลาะกับพวกคางคกขึ้นวอแบบแก คุณพ่ออยู่ไหน" "แล้วทำไมฉันต้องบอก หึ พวกคางคกขึ้นวออย่างนั้นเหรอ อย่างน้อยมันก็ดีกว่าพวกที่ไม่มีหัวนอนปลายเท่าอย่างแกตอนนี้แหละธารน้ำ" "..." "จากคุณหนูผู้สูงศักดิ์ กลายเป็นคนไม่มีที่ซุกหัวนอน ต้องไปเช่าห้องเท่ารูหนูอาศัยอยู่ ถ้าคนอย่างแกไม่ได้คบกับพี่พระเพลิงของฉันก็อย่าหวังว่าจะได้มีสภาพชีวิตที่ดีเหมือนอยู่ทุกวันนี้" "เฮอะ พี่พระเพลิงของฉันอย่างนั้นเหรอ"ธารน้ำส่งเสียงในลำคอพลางกวาดสายตามองอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท่า "ผัวฉันไปเอาเธอทำเมียตั้งแต่ตอนไหนเหรอสายขิม หรือว่าที่พูดออกมาคือทึกทักมโนเอาเองว่าเคยได้เสียกับผู้ชายของฉันจนเลื่อนขั้นเป็นผัวเมียกันแล้ว" "แก นังธารน้ำ" "หึ ถึงผู้ชายอย่างพระเพลิงจะเจ้าชู้ แต่ผู้ชายเจ้าอยู่อย่างพระเพลิงเขาเลือกกินนะ" "..." "ไม่นิยมกินอาหารจานด่วนหรือจำพวกอาหารข้างทางหรอกนะ เขากินไม่ได้หรอกมันสกปรกไม่ได้สะอาดหรือดูดีเหมือนกับป้ายที่ติดเอาไว้ที่หน้าร้าน" กรี๊ด เสียงกรีดร้องจากปากของสายขิมดังขึ้น ความโกรธแค้นตีขึ้นแสกหน้าทันทีที่ธารน้ำพูดจบ "นี่แกด่าว่าฉันเป็นกะหรี่อย่างนั้นเหรอฮะ" "ฉันเปล่านะ อุ๊บ หรือว่ามีคำพูดไหนของฉันที่ทำให้เธอคิดไปแบบนั้น"ริมฝีปากสวยระบายยิ้มออกมาซึ่งดูเหมือนการยิ้มเยาะเย้ยอีกฝ่าย ซึ่งมันกระตุ้นทำให้สายขิมสติแตกหมายจะพุ่งเข้าไปจัดการธารน้ำ "เสียงดังเอะอะโวยวายอะไรกัน"เสียงระฆังที่ดังขึ้นทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างหยุดชะงักเมื่อประมุขของบ้านอย่างคุณ เอกรินทร์ ก้าวขาลงบันไดโดยมีภรรยาคนใหม่อย่างคุณมธุรสคอยโอบแขนของสามีอยู่ไม่ห่างกาย สายขิมลดระดับฝ่ามือแนบลงกับลำตัวจากใบหน้าเกรี้ยวกราดในเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นสงบนิ่งทำราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจนชายหญิงวัยกลางคนเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวทั้งสองคนในชุดนักศึกษา "พ่อถามว่ามีอะไรเกิดขึ้น" "เปล่า" "ไม่ได้มีอะไรค่ะคุณพ่อ"สายขิมรีบวิ่งเข้าไปเกาะแขนอีกข้างของคุณเอกรินทร์ บทบาทของลูกเลี้ยงผู้แสนดีดูเรียบร้อยได้เริ่มขึ้นมาทันที "หนูแค่มายืนต้อนรับและทักทายพี่ธารน้ำ ไม่ได้มีอะไรหรอกค่ะ" "แต่พ่อได้ยินเสียงกรี๊ด" "หนูกรี๊ดเองแหละ"ธารน้ำโพล่งขึ้นทำให้สายตาของทั้งสามจับจ้องมาที่เธอ "พอดีเห็นแมลงสาบบินผ่านหน้า หน้าตาของมันดูน่ากลัวดูน่าขยะแขยงขอโทษนะคะถ้าหนูส่งเสียงรบกวน"อีกฝ่ายพูดออกมาราวกับว่าไม่สะทกสะท้านอะไรแต่สายตาคู่สวยเหลือบหันไปมองหน้าลูกเลี้ยงของบิดาซึ่งกำลังมองมาที่เธอด้วยความไม่พึงพอใจ "ว่าแต่คุณพ่อเรียกหนูมามีธุระอะไรเหรอคะ"ธารน้ำถามเข้าประเด็นสำคัญเพราะเธอไม่อยากอยู่ที่นี่เป็นเวลานานเพราะดูจากสายตาของสองแม่ลูกคู่นี่แล้วคงอยากให้เธออยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว "ตามพ่อมา"ทั้งสี่ก้าวขาเข้าไปในห้องรับแขก แม่บ้านที่มาใหม่สองคนรีบเอาน้ำมาเสิร์ฟให้กับผู้เป็นนายก่อนจะเดินออกไป "เดินทางมาเหนื่อย ๆ ดื่มน้ำก่อนสิ" "พ่อมีธุระอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ หนูรีบจะกลับไปอ่านหนังสือสอบต่อ" "พ่ออยากให้แกแต่งงาน"คำพูดของบิดาทำให้ธารน้ำเบิกตากว้างมองหน้าท่านอย่างไม่เชื่อสายตา "พ่อว่าอะไรนะ" "เรียนจบแล้วพ่อจะให้แกแต่งงานกับผู้ชายที่พ่อเลือกให้"ธารน้ำลุกขึ้นยืนจ้องหน้าบิดาผู้ให้กำเนิดด้วยความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า "นี่มันไม่ใช่เรื่องตลกนะคะ หนูไม่แต่ง" "แต่แกต้องแต่ง"คุณเอกรินทร์ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับลูกสาวของตัวเองอย่างไม่คิดจะยินยอม "ทำไมหนูต้องทำตามคำสั่งของพ่อด้วย การแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะคะ"ยิ่งเธอจะต้องแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้าแล้วด้วยใครจะไปยอมทำตามกัน "ที่พ่อเรียกแกมาในวันนี้ไม่ได้เรียกให้แกมายืนเถียงพ่อแบบนี้ พ่อสั่งให้แกทำอะไรแกก็ต้องทำ เข้าใจไหม" "หนูไม่เข้าใจ หนูไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นหนูทำไมถึงไม่เป็นลูกรักของพ่อล่ะ" "หนูไม่แต่งนะคะคุณพ่อ หนูยังเรียนไม่จบ"สายขิมรีบส่ายหน้าปฏิเสธด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทันที "พ่อคิดดีแล้วธารน้ำ แกจะต้องแต่งงานกับคุณอัคนีทันทีเมื่อแกเรียนจบ" "ไม่"ธารน้ำหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไหล่เตรียมจะเดินออกไป แต่คำพูดของผู้เป็นพ่อในประโยคถัดไปทำให้เรียวขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาทันที "ถ้าแกอยากให้บริษัทกับบ้านที่แม่ของแกรักนักรักหนาถูกยึดไปก็เอาสิ เดินออกจากบ้านหลังนี้ไปเลยนังลูกไม่รักดี" "พะ...พ่อว่าอะไรนะ"ธารน้ำหมุนตัวหันกลับมามองหน้าบิดาพลางเปล่งเสียงสั่นเครือถามท่านออกไป "บริษัทกับบ้านหลังนี้กำลังจะถูกยึดถ้าแกไม่ยอมทำตามคำสั่งของฉัน" "..." "แต่งงานกับคุณอัคนีซะธารน้ำ ใช้ร่างกายของแกเพื่อแลกบริษัทและบ้านของแม่แกกลับคืนมา"น้ำเสียงเยียบเย็นถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากของบิดา แต่ทว่ามันกลับเย็นเฉียบไปถึงขั้วหัวใจของคนฟังอย่างเธอ แม้แต่เรี่ยวแรงที่จะยืนแทบจะไม่เหลือริมฝีปากสวยแห่งผากยากจะกลับมาชุ่มชื้นเหมือนเก่า "ถ้าแกยังเห็นแก่แม่ของแกที่ตายไป ก็แต่งงานตามที่ฉันสั่งเข้าใจไหม" "หนูขอเวลาคิด..." "ไม่มี" "..." "เวลาสำหรับแกมันไม่มีอีกต่อไป เตรียมตัวเอาไว้ให้ดีวันมะรืนฉันจะพาแกไปพบกับคุณอัคนี""ธารต้องกราบขอโทษคุณพ่อด้วยนะคะสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น"เจ้าสัวหิรัญมองหญิงสาวเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงกลางโดยมีลูกชายของตัวเองนั่งขนาบข้างไม่ห่างไปไหนวันนี้คือวันที่ทั้งสามคนก้าวขาเข้ามาพบพร้อมกับอธิบายต้นสายปลายเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นซึ่งมันตรงกับสิ่งที่เขาได้สืบหามาตั้งแต่วันที่เขาได้เห็นภาพถ่ายซึ่งได้ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของลูกชายคนเล็กในวันนั้น"พ่อไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรหนูธารเลยสักนิดหนูไม่ต้องคิดมากนะลูก"เจ้าสัวผู้ใจดียังคงมองหน้าลูกสะใภ้คนดีด้วยแววตาโทนอบอุ่นธารน้ำเป็นผู้หญิงที่เก่งและมีความสามารถการเรียนก็ไม่เป็นสองรองใคร งานบ้านก็เรียกว่าใช้ได้ทั้งซักผ้ารีดผ้าและการทำอาหารคาวหวานที่เขาได้ชิมอยู่บ่อยครั้ง"พ่อดีใจนะที่ลูกชายของพ่อทั้งสองคนได้มีหนูมาช่วยดูแล"คำพูดของท่านเจ้าสัวเรียกรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของหญิงสาวได้"ส่วนน้องเล็ก""ครับ""เรื่องหนูลิลลี่ พ่อจัดการเคลียร์กับทางนั้นให้เรียบร้อยแล้วนะลูกทางนั้นเขาไม่ว่าอะไรอีกทั้งยังเข้าใจดี"เป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับธารน้ำและพระเพลิง เด็กหนุ่มซึ่งกำลังใกล้จะจบการศึกษายิ้มออกมาได้ด้วยความดีใจก่อนจะหันไปคว้าร่างสวยของหญ
หัวใจของธารน้ำในตอนนี้นั้นสั่นเต้นรัวเร็ว แม้เธอจะเคยสัมผัสของทั้งสองคนมาแล้ว แต่มันก็ครั้งละคนไม่ใช่พร้อมกันทั้งสองแท่งแบบนี้ เธอพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตื่นตระหนกมากเกินไป มันก็เหมือนครั้งก่อนเพียงแค่ตอนนี้เธอต้องควบสองเท่านั้นเองพรึ่บเมื่อคิดได้แล้วเธอก็คุกเข่านั่งลงบนพรมผืนหนานั่งอยู่ระหว่างกลางของชายทั้งสอง ฝ่ามือเล็ก ๆ ของเธอยื่นไปกอบกุมลำกายยาวใหญ่สีหวานของทั้งคู่ สายตาของเธอตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่กำลังอยากรู้อยากลิ้มลองกับของเล่นชิ้นใหม่ตรงหน้า"เต็มที่เลยนะครับธาร เพราะเฮียเองก็จะเต็มที่กับธารเหมือนกัน อ๊าส์""อย่างนั้นแหละธารน้ำ อืม แบบนั้นแหละคนดี"เสียงกระเส่าอย่างมีความสุขของทั้งสองถูกเปล่งออกมาด้วยสีหน้าเคลิ้มฝันมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำให้"อืม ดี แบบนั้น""เร็วอีก เมียจ๋า"ยิ่งพวกเขาเอ่ยชมด้วยสีหน้ามีความสุข เธอก็ยิ่งขยับฝ่ามือเร็วขึ้นจนพวกเขารู้สึกเกร็งแขม่วท้องเป็นลอนสวยของตัวเองยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเล็ก ๆ ขยับมัน ร่างของเขาทั้งสองก็สั่นสะท้าน ความทรมานกำลังเข้าครอบงำ"อืม ธารครับ""อ๊าส์ ธารน้ำ"หญิงสาวเงยหน้าเรียวเล็กมองหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างกล้าหาญ และยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเ
ธารน้ำหอบหายใจหนักเมื่อเห็นร่างกำยำของคนรักทั้งสองค่อย ๆ ใช้มือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างเชื่องช้า สายตาราวกับสัตว์ป่าหิวกระหายจ้องมองมายังเธอไม่วางตา พรึ่บซิกแพคอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวเป็นลอนสวยแสดงชัดอยู่ตรงหน้า ไหลหนาผายผึ่ง ท่อนแขนกำยำ กล้ามเนื้อเรียงตัวสวยงามทำเอาหญิงสาวต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก"อึก"ชะตาสวาทของเธอกำลังจะขาด ขนาดไซซ์บ้องข้าวหลามของทั้งสองเธอได้สัมผัสมันมาหมดแล้ว ของคนแรกทั้งยาวและใหญ่ ส่วนของอีกคนก็ไม่คิดจะน้อยหน้า คนน้องลีลาเด็ด เอวถี่พลิ้วไหวทำเอาเธอแทบขาดใจตายคาเตียงมาตั้งหลายครั้ง ความดุดันเร่าร้อนอย่างไม่บันยะบันยังทำเอสเธอสลบเหมือดคาเตียงมาตั้งหลายคนส่วนอีกคนแม้ภายนอกดูสุขุมนุ่มลึกของคุณหมอแต่แอบซ่อนลูกเล่นความเผ็ดร้อนเอาไว้ด้วยเม็ดมุกรอบลำกายทำเอาเธอขาสั่นจนเดินไม่ไหวนอนซมอยู่บนเตียงตั้งหลายหนถ้าหากพวกเขาสองคนเข้ามาพร้อมกันเธอจะรับมันได้ไหม จะไหวหรือเปล่า"ธะ...ธารว่าพวกเราสามคนอาบน้ำนอนกันดีกว่านะคะ"เธอยังคงพยายามหาทางเอาตัวรอดแม้เปอร์เซ็นต์ในการรอดจะมีน้อยนิดก็ตามเมื่อเทียบกับความต้องการที่พุ่งสูงเฉียบร้อยเปอร์เซ็นต์ของชายหนุ่มทั้งสอง
"อยากออกไปหาอะไรทานไหม หรืออยากจะไปเที่ยวที่ไหนไหม""ไม่อะ อยากนอนอยู่ห้องมากกว่า"ธารน้ำเงยหน้าตอบเจ้าของห้องซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่กับการแต่งตัวเพื่อเตรียมจะไปทำงาน "อยู่แต่ในห้องมาสองวันติดแล้วนะ ไม่เบื่อหรือไง"กอหญ้าถามเพื่อนรักในขณะที่หยิบแป้งฝุ่นเทลงบนฝ่ามือ ดวงตากลมโตจ้องมองเพื่อนสาวในชุดอยู่บ้านสบาย ๆ ผ่านเงากระจกซึ่งกำลังนั่งหน้าหงอยอยู่บนเตียงนอนขนาดห้าฟุตของเธอ"เบื่อสิ แต่ไม่รู้จะออกไปเที่ยวที่ไหน"ไม่อยากออกไปเดินเพ่นพ่านกลัวว่าอัคนีจะรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ เธอยังไม่พร้อมจะกลับไปเจอหน้าใครในตอนนี้ มันยังไม่พร้อมที่จะเจอใครโชคยังดีที่สองวันนี้ไม่มีเรียน เธอไม่จำเป็นต้องพาร่างออกไปเดินเที่ยวเตร่ที่ไหน แต่ใจก็ย่อมรู้ดีว่าตัวเธอจะเอาแต่หลบซ่อนอยู่แต่ภายในห้องแบบนี้ไม่ได้ วันหนึ่งวันใดอัคนีก็ต้องตามหาเธอเจออยู่ดี และไม่แน่ก็อาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้ ใครจะไปรู้"ฉันไม่อยู่ก็ล็อกประตูดี ๆ ด้วยล่ะ วันนี้เด็กเสิร์ฟที่ร้านลาสองคนฉันคงต้องทำงานหนักเพิ่มเป็นสองเท่า และคงต้องอยู่ช่วยเขาปิดร้านด้วย"กอหญ้าบอกธารน้ำก่อนจะหยิบกระเป๋าใบเก่าขึ้นมาสะพาย แต่สิ่งที่ธารน้ำหยิบยื่นมาทำให้กอหญ้าชะงักไป"อ
หมัดหนัก ๆ ของน้องชายซัดเข้าใส่ใบหน้าของพี่ชายอันเป็นที่รักอย่างหนักหน่วงจนอัคนีได้เลือดไหล และเมื่อพี่ชายตั้งตัวได้เขาเองก็ไม่คิดจะยอมให้น้องชายอย่างพระเพลิงกระทำต่อเขาแค่เพียงฝ่ายเดียว อัคนีปล่อยหมัดหนัก ๆ กลับไปให้น้องชายจนพระเพลิงเองก็ได้ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาของสองพี่น้องมีเลือดไหล ก่อนทั้งคู่จะพุ่งเข้าใส่กอดรัดฟัดเหวี่ยงปล่อยหมัดใส่ให้แก่กันผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ"เป็นผัวภาษาเหี้ยอะไรวะ เมียคนเดียวยังไม่มีปัญญาดูแลได้""นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอเพลิง""ใช่ ผมกำลังบ้า และผมจะบ้าได้มากกว่านี้อีกถ้าหากวันนี้ผมยังไม่เห็นธารกลับมาที่บ้าน"สองพี่น้องยื้อยุดฉุดดึงกันไปมา "อย่าทำอะไรให้มันเกินหน้าที่ของตัวเองเพลิง นายเป็นน้องชายของเฮียควรอยู่ในส่วนไหนหันเจียมตัวเอาไว้ซะ""แล้วเฮียแหละเป็นผัวภาษาอะไรวะ เมียคนเดียวยังดูแลไม่ได้ทำไมปล่อยให้ธารหนีไป"พระเพลิงพ่นวาจาหยาบคายใส่พี่ชายหลังจะได้รับหมัดหนัก ๆ ดวงตาของไฟทั้งสองดวงลุกโชนจนแทบจะเผาไหม้คฤหาสน์หลังใหญ่ให้วอดวายเพล้ง ผลัวะเสียงข้าวของหล่นแตกกระจาย เสียงดังเอะอะโวยวายทำให้สาวใช้ที่กำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่ต่างพากันกรีดร้องด้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้งติดกันทำให้เจ้าของห้องต้องลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปเปิดประตูให้กับผู้มาใหม่ปังร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีขาวโทนสะอาดตาปรากฏอยู่ตรงหน้าของกอหญ้า และทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใครเธอจึงเปล่งเสียงแผ่วเรียกชื่อของเขาออกมา"คุณหมออัคนี""ผมมาหาธารน้ำ เธออยู่ที่นี่ไหมครับ"เสียงที่แผ่วเบาดังราวกับกระซิบของเขาดังขึ้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุดท้ายหลังออกตามหาภรรยาตัวน้อยไปทั่วทุกพื้นที่ ที่ที่เขาคิดว่าเธอจะไปแต่กลับไม่พบ"ธารไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะ"กอหญ้าตอบเขาด้วยท่าทีสงบนิ่งแววตาของเธอเหลือบมองเข้าไปในห้องพักของตัวเองอัคนีมองตามสายตาของเธอ กรอบดวงตาของเขาแดงก่ำของเขาทำเอาคนพบรู้สึกเห็นใจ แววตาของเขาในตอนนี้แม้จะมีแว่นตาหนาเตอะบดบังอยู่แต่ก็ไม่อาจปกปิดความเจ็บปวดนั้นได้"ถ้าคุณเจอธาร ฝากบอกเธอด้วยนะครับว่าผมรักเขามาก"อัคนีบอกเพื่อนรักของภรรยาสาว เขาก้มหน้าล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมา ธนบัตรสีเทาหลายสิบใบพร้อมกับบัตรสีดำวงเงินไม่จำกัดถูกส่งไปตรงหน้าของกอหญ้า เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความสงสารจับใจ'ฝากให้ธารด้วยครับ เผื่อเธอหิวอยากจะออกไปซื้ออะไร"กอหญ้าอ่านริมฝีป