Home / โรแมนติก / นที (โปรด) รัก / บทที่ 7 หนังสือสองเล่ม

Share

บทที่ 7 หนังสือสองเล่ม

Author: 23.19น.
last update Last Updated: 2025-10-17 02:05:53

ดวงตาคู่สวยของอัจฉราเบิกกว้าง หัวใจเต้นระรัวจากการกระทำและคำพูดที่ไม่คาดคิดของนทีเมื่อครู่ มือบางกำผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่อีกฝ่ายพึ่งโยนให้เมื่อครู่แน่น ขณะที่แววตาฉายแววสับสนและตกใจออกมาอย่างซ่อนไม่มิด สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเรื่องที่หญิงสาวไม่คิดว่าชายหนุ่มจะทำ เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ยังคงยืนนิ่งงันทำตัวไม่ถูกราวกับรูปปั้น

นทีเลิกคิ้วเล็กน้อย เขามองร่างบางที่ยืนทำหน้าเป็นลูกกวางที่ตื่นภัย ตกใจแสงไฟจากหน้ารถตอนที่มันจะข้ามถนนอย่างไรอย่างนั้น แต่ก็ไม่คิดที่จะแก้ตัวอะไร มิหนำซ้ำยังยืนจ้องกดดันเธอต่อไปไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีกด้วย เขาคลายเนกไทรอบคอออกเล็กน้อย ก่อนจะถามเธออีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบเหมือนเก่า

“จะยืนอยู่แบบนั้นทั้งคืนเลยไหม?”

อัจฉราสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกทักติง นัยน์ตาสียางไม้ไหววูบราวกับคนที่พึ่งจะตื่นจากฝัน และความจริงทำให้เธอเพิ่งจะค้นพบว่ากำลังสบตากับนทีอยู่จะจะ อัจฉรารีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที ก่อนจะรีบก้มหน้าลงมองพื้นที่มีคราบน้ำเจิ่งนอง

เพราะเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มของเธอ กลีบปากอิ่มเม้มเข้าหากัน มือที่ถือผ้าขนหนูรีบดึงกลับเข้าหาตัวกอดรวมเอาไว้กับครุยของทนายหนุ่ม ที่ตอนนี้ทำเปียกไปหมดแล้ว

“เอ่อ... เปล่าค่ะ”

เสียงหวานเบาหวิวจนแทบจะต้องเงี่ยหูฟัง แต่ทุกถ้อยคำของเธอไม่อาจรอดพ้นไปจากโสตประสาทของนทีได้เลยสักคำ ชายหนุ่มมองปฏิกิริยานั้นของเธอ สายตาของเขาไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ มุมปากกระตุกเบา ๆ แต่ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว

“เปล่า... เปล่าแล้วจะยืนอยู่อีกทำไม”

นทีเอาคำตอบของเธอมาย้อนถาม ทว่าเพียงแค่ลมปากที่เปล่งออกมาเป็นคำพูดธรรมดา ๆ กลับทำให้อัจฉราสะดุ้งได้เสียอย่างนั้น คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยกับปฏิกิริยานั้นของหล่อน มันทำให้ใจเขากระตุกด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย โดยไม่รู้สาเหตุ... ขวัญอ่อนเสียจริงนะแม่คุณ

“เนย... เนยไม่กล้าเดินเข้าไปค่ะ กลัวทำพื้นเปียก”

อัจฉราที่ไม่ได้รับรู้ถึงสายตาและความคิดของนทีตอบกลับไป ราวกับกลัวว่าหากเว้นช่วงให้เงียบนานไปจะทำให้ต้องอึดอัดไปมากกว่านี้ สายตาที่เอาแต่มองพื้นแอบช้อนขึ้นมองคนตรงหน้าตา หัวใจที่เต้นระรัวพลันเต้นผิดจังหวะอย่างแรง ขนลุกเกรียวไปทั้งตัวเมื่อพบว่าเขายังคงมองเธออยู่ไม่วางตา

อัจฉรากลืนน้ำลายอย่างเหนียวคอ มือที่สั่นอยู่น้อย ๆ อย่างไม่รู้ตัวเผลอกำผ้าทั้งสองผืนแน่นขึ้นด้วยความประหม่า จนมันแทบจะจมหายเข้าไปในอกหากเกิดขึ้นได้จริง ๆ

“เปียกก็เช็ดทีหลังได้... ดีกว่ามายืนตัวสั่นอยู่แบบนั้น”

ดวงตาคู่คมหรี่ลงเล็กน้อยจนแทบสังเกตไม่ได้ ทันทีที่ดวงตาคู่สวยของอัจฉราบังเอิญสบสายตาเข้ากับเขา แต่นทีกลับไม่มีทีท่าว่าจะหลบสายตาหล่อนแม้แต่น้อย ยังคงจ้องเข้าไปราวกับกำลังค้นหาทุกอย่างที่เธอซ่อนเอาไว้หลังม่านตาสียางไม้คู่นั้น จนหล่อนต้องเป็นฝ่ายหลบตาไปเองอีกครั้ง

นทีถือเอาโอกาสนี้ใช้สายตากวาดมองอัจฉราอีกครั้งตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะเป็นผมแดงสีแสบสันต์ของเธอที่ชื้นน้ำ จนสีซึมเปื้อนคอเสื้อยืดสีอ่อนของหล่อน ที่ตอนนี้ก็เปียกแนบไปทุกสัดส่วนของเธอเช่นกัน

หล่อนมอมแมมเหมือนลูกนกตกน้ำไม่มีผิด เกินกว่าที่จะรู้สึกมีอารมณ์พิศวาสอะไรด้วยได้ ด้วยเสียงแค่นหัวเราะในลำคอเบา ๆ นทีก็ยอมละสายตาไปจากเธอในที่สุด

“ดึกแล้ว... ไปพักเถอะ อย่าให้ต้องพูดซ้ำ”

นทีฝากคำพูดทิ้งไว้ประโยคสุดท้าย พูดจบเขาก็ไม่สนใจลูกนกตัวสั่นอีกต่อไป เขาไม่รอให้หล่อนได้ตอบอะไรก็เดินออกมา ทิ้งให้หล่อนจมอยู่ภายใต้แรงกดดันที่ยังไม่อ่อนตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสร้างเอาไว้เอง อาจรวมไปถึงความสับสน และความหวั่นไหวด้วยก็ได้... ใครจะไปรู้ได้ถ้าไม่ใช่เจ้าตัว

อัจฉราเงยหน้าขึ้นมามอง กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความไม่เข้าใจ ความกะทันหันของนทีทำให้เธอตามเขาไม่ทัน จากที่ตามเขาไม่เคยจะทันอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้สับสนหนักกว่าเก่า ก่อนหน้าเขายังทำท่าเหมือนจะดุอยู่เลย แต่แล้วเขาก็กลับมาทำเหมือนไม่มีอะไร แต่มีทั้งสองอย่างที่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงในสายตาของอัจฉรา

นั่นก็คือความเย็นชาของเขา... ความรู้สึกเหมือนหนังสือสูงค่าเล่มหนาเกินกว่าที่จะทำความเข้าใจ และเกินกว่าที่จะเอื้อมมือไปคว้าเอามาครอบครองเป็นของตัวเอง เพื่อใช้เวลาอ่านทำความเข้าใจได้ง่าย ๆ นทีเป็นแบบนั้นเป็นคนที่น่าสนใจ มีแรงดึงดูด แต่ก็ดูเข้าถึงได้ยากในเวลาเดียวกัน

และเพราะแบบนี้ มันถึงได้ทำให้อัจฉราละสายตาไปจากเขาได้อยาก อยากรู้จัก แม้ว่าความรู้สึกจะถูกทำให้ฟุ้งซ่านมากแค่ไหนก็ตาม แต่เธอไม่เคยรู้สึกสนใจเขาน้อยลงเลย แต่ก็รู้จักเจียมตัวขึ้นมามากกว่าเมื่อก่อนเยอะ

โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ที่ปัญหาชีวิตมีเข้ามารุมเร้ามากมายไปหมด มากจนเธอตกต่ำลงเรื่อย ๆ ถอยห่างจากจุดที่เอื้อมไม่ถึงมากขึ้นทุกวัน ๆ

หญิงสาวมองตามร่างของชายหนุ่มไปจนลับสายตา ตลอดจนแผ่นหลังกว้างภายใต้เสื้อผ้าเนื้อดีนั้นหายเข้าไปในมุมมืดแล้ว ความอึดอัดระคนหวั่นไหวเมื่อครู่ก็คลายลงให้หล่อนพอจะผ่อนลมหายใจออกมาได้บ้าง

อัจฉราเม้มปาก ความรู้สึกแห้งผากทำให้เธอต้องกลืนน้ำลายอีกกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ แต่เมื่อก้มมองทั้งผ้าขนหนูและครุยเนติในกำมือ โดยที่ไม่รู้ตัวรอยยิ้มเล็ก ๆ ก็แต้มดวงหน้าอ่อนล้าให้เห็นบางเบา

เขาแค่เป็นคนดีคนหนึ่งเท่านั้น ใจดีไม่ได้ความว่าเขาจะสนใจเธอ กับคนอื่นเขาก็ทำแบบนี้เป็นปกติ... อัจฉราพยายามเตือนตัวเอง แต่รู้ทั้งรู้อยู่แล้วหัวใจเจ้ากรมมันก็ยังแอบหวังใฝ่สูงอยู่ร่ำไป

“คนละโลกกันขนาดนั้น...”

เสียงหวานพร่ามัวติดสั่นเล็กน้อยกระซิบกับตัวเอง รอยยิ้มบางเบาหายไปแม้ว่าใจจะยังเต้นไม่เป็นส่ำอยู่ก็ตาม เธอรีบจัดการตัวเองในครั้งนี้ ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำตามีตัวตามที่จำเป็น ก่อนที่จะก้มหยิบรองเท้าคู่เปียกขึ้นมา และหันไปหยิบปิ่นโตเถาน้อยที่วางอยู่บนคอนโซลมาถือเอาไว้

สองมือเต็มไปด้วยข้าวของซึ่งส่วนใหญ่ใช่ว่าจะเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ อัจฉราหอบทุกอย่างพะรุงพะรังเต็มมือเดินผ่านโถงใหญ่เพื่อที่จะไปยังห้องพักคนใช้ซึ่งอยู่หลังบ้าน ทุกอย่างก้าวของหญิงสาวเต็มไปด้วยความทุลักทุเล

กลัวว่าจะเผลอทำให้ของมีราคาในบ้านและพื้นต้องเปียกเพราะตัวเอง เสียงฟ้าร้องและฟ้าแลบก็ทำให้ตกใจบ้างบางครา จากพายุภายนอกที่ยังคงรุนแรง ชนิดที่ว่าคืนนี้เห็นทีคงจะไม่ยอมสงบลงง่าย ๆ พายุในใจหล่อนก็ด้วย

ทว่าอย่างน้อยคืนนี้ก็คงไม่ได้เป็นคืนที่แย่ที่สุดของอัจฉราเหมือนกันทุกคืนที่ผ่านมาแล้ว แม้อาจจะเป็นแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้นก็ได้... แต่ก็ดีแล้วที่ยังมี ดีกว่าไม่มีความสงบอะไรเลยจริง ๆ

ในเงามืดร่างสูงของนทียืนพิงกรอบประตูห้องครัวที่เปิดอ้าอยู่ แสงไฟสลัวที่อยู่คนละมุมกันทำให้คนที่พึ่งเดินผ่านไปเมื่อครู่ไม่ทันสังเกต แต่กับเขามันตรงกันข้าม ชายหนุ่มกำลังสังเกตและเฝ้ามองหล่อนอยู่ ในทุกการกระทำและวิธีที่หล่อนแสดงออกผ่านทางสีหน้า

ไม่ว่าจะเป็นการถอนหายใจเบา ๆ ด้วยความโล่งอก รอยยิ้มบาง ๆ ที่แต่งแต้มใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังคงสวยจัดของหล่อน กระทั่งแววตาที่เป็นประกายขึ้นมาชั่วครู่แล้วก็วูบหายไป คำพูดที่ฟังดูเหมือนจะตัดพ้อกับตัวเอง

‘คนละโลกงั้นเหรอ’ มันเหมือนเป็นสิ่งที่นทีเคยเห็นมาหมดแล้ว เล่นฉากเดิม ๆ เมื่อก่อนอัจฉราก็เป็นแบบนี้ เป็นมาตลอด แต่เขาไม่เคยคิดที่จะมาสนใจหรือว่าจับตามองมาก่อนเหมือนกับครั้งนี้ แต่เมื่อก่อนเธอสดใสกว่านี้เสีย อดที่จะเปรียบเทียบไม่ได้ว่าตอนนี้อัจฉราดูเหมือนคนที่มีอะไรในใจตลอดเวลา

ทั้งที่นทีคิดว่าเขารู้จักคนอย่างอัจฉราดีมากพอแล้ว แต่ดูเหมือนว่านิยายรักอย่างเธอที่เขามองว่าอ่านง่ายไม่ซับซ้อนคงจะไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้วนี่สิ หน้าปกสดสวยประกอบคำโปรยหวานฉ่ำของเธอ ดูเหมือนจะมีอะไรที่น่าสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว... น่าสนใจจนไม่แน่ใจอีกแล้วจะปล่อยทิ้งเอาไว้หรือหยิบขึ้นมาเปิดอ่านดี

“คนละโลก... พูดแบบนี้แสดงว่ารู้ตัวมาตลอดสินะ...”

นทีแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างไม่มีเหตุผล เขายืนมองจนกระทั่งอัจฉราหายไปจากสายตาเหมือนกัน มุมปากหนาหยักยิ้มพลางส่ายหัวเบา ๆ แต่เมื่อเขาผ่อนลมหายใจออกมา รอยยิ้มนั้นก็หายตามไปทันที

ชายหนุ่มหันตัวกลับเข้าไปห้องครัวที่เปิดไฟเอาไว้พอแค่ให้มองเห็น สายตาของเขามุ่งไปยังถ้วยข้าวต้มที่วางอยู่เดี่ยว ๆ บนเคาน์เตอร์หินอ่อนโดยไม่ต้องคาด เขาเดินเข้าไปใกล้เครื่องกระเบื้องที่หุ้มปากถ้วยเอาไว้อย่างดีด้วย บนแผ่นพลาสติกใสไม่พ้นโพสต์อิทสีหวาน ที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือเดิม ๆ

ปกติแล้วทั้งพลาสติกและโพสต์อิทจะถูกเขาขย้ำและทิ้งไปเลย ทว่าคืนนี้เขากลับเลือกที่จะดึงกระดาษสีหวานขึ้นมาอ่าน ‘เนยทำให้ใหม่ก่อนกลับบ้าน คุณนทีอุ่นก่อนทานนะคะ’ นทีอ่านออกเสียงในใจ แววตาสะท้อนตัวอักษรน้ำหมึกนั้นชัดเจน แต่ราบเรียบจนน่าใจหาย

เขาอ่านมันแล้วก็จริงแต่จุดจบยังคงทำเหมือนเดิม ขย้ำมันเป็นก้อนไปกับพลาสติกใสและโยนมันลงถังขยะไปอย่างไม่ไยดี ก่อนจะเอาข้าวต้มถ้วยดังกล่าวเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ ยืนพิงขอบเคาน์เตอร์เงียบ ๆ ฟังเสียงฝนตก ทุกอย่างกลับเข้าสู่ความปกติที่สงบอีกครั้ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 20 พังที่กายไม่ใช่หัวใจ [2/2]

    คำพูดรู้ทันของนทีตัดผ่านความเงียบขึ้นมา ทำให้อัจฉราใจหายวาบ สะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจผสมอาย เพราะลืมไปเสียสนิทว่าคนปากร้าย ตาดี หูไว สมกับที่ประกอบวิชาชีพทนายความอันลือชื่อของเขาจริง ๆกระนั้นอัจฉราก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรอีกแล้ว เธอสะกดกลั้นความเจ็บใจเอาไว้ ความอดทนประเภทนั้นทำให้นทีต้องหัวเราะ ‘หึ’ ออกมา มองร่างเล็กกลับเข้าไปในครัว เทข้าวต้มที่เหลืออยู่แทบเต็มชามลงถังขยะตามคำสั่งอย่างน่าพึงพอใจคนร่างบางเดินวนรอบราวกับหนูติดจั่น แต่เป็นหนูที่ยังละทิ้งหน้าที่ของตนเองไปไม่ได้เสียที กลีบปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากัน หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ทั้งยังปวดหัวตุบ ๆ อย่างไม่สบายตัวจนต้องสะบัดหัวเบา ๆ เดินไปที่อ่างล้างจานทุกอย่างอยู่ในสายตาของนที ซึ่งกำลังจิบน้ำเปล่าเงียบ ๆ อยู่ที่เดิม ความอ่อนแอของอัจฉราเริ่มชัดเจนมากขึ้น เธอฝืนร่างกายทำงานหนักตลอดทั้งวันและคืนจนเห็นผล ทว่านทีไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อยที่ใช้เธอขนาดนี้ ทั้งที่เห็นอยู่ว่าสภาพของหญิงสาวเกินจะรับไหวแล้วกระทั่งชามเซรามิกลื่นฟองสบู่ในมือของหล่อนร่วงลงพื้นเสียงดัง ‘เพล้ง!’ กระเบื้องสีขาวแตกเป็นชิ้นเ

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 20 พังที่กายไม่ใช่หัวใจ [1/2]

    อัจฉรายกหม้อข้าวต้มลงจากเตาด้วยมือที่สั่นนิด ๆ ผ่อนลมหายใจออกมา สุดท้ายก็ทำเสร็จเสียที เธอตักข้าวต้มใส่ชาม โรยต้นหอมและกระเทียมเจียว แล้วนำไปวางลงบนโต๊ะอาหาร ดวงตาที่อ่อนล้าอย่างชัดเจนกวาดมองห้องโล่งหรูที่เงียบผิดปกติ ทีวีจอใหญ่ยังคงเปิดค้างเอาไว้ ฉายรายการข่าวรอบดึก แต่คนที่เคยนั่งดูอยู่ตรงนั้น ตอนนี้ไร้วี่แววของตัวตน หญิงสาวไม่รู้ว่าเขาหายไปเมื่อไหร่ ทว่าการไม่เห็นก็ใช่ว่าความหนักอึ้งในอากาศจะหายไป อัจฉราเผลอเม้มปากเล็กน้อย ยังคงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกร้อนผ่าวเหนือริมฝีปากจากเหตุการณ์ก่อนหน้า ตรึงตราอย่างยากที่จะลืมเลือน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็พยายามปฏิเสธที่จะรู้สึกถึงมันอยู่ดี หล่อนส่ายหัวเบา ๆ สูดหายใจเข้าลึก เรียกสติให้หยุดเพ้อเสียที “ก็แค่จูบ... จะไปคิดมากทำไม ขนาดจูบกับหมายังไม่เห็นต้องคิดอะไรเลย” แม้ว่าความรู้สึกปวดหนึบผสมกับความขุ่นเคืองมันยังคงกัดเซาะหัวใจของเธออยู่ก็ตาม... “.....” ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มหยัน คำพูดของอัจฉรากระทบเข้าสู่โสตประสาทชัดเจนเลยทีเดียว นทียืนอยู่ที่ตีนบันไดทางลงจากช

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 19 รอเห็นเธอพัง [2/2]

    แกร๊ก “เข้ามา” เจ้าของห้องออกคำสั่งอย่างราบเรียบ ร่างสูงเข้าไปในห้องขนาดกว้างครอบคลุมทั้งชั้นก่อน ประตูที่เปิดกว้างเผยให้เห็นด้านในที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำ เทาเข้ม และสีขาว พื้นหินอ่อนวาววับสะท้อนแสงไฟสีนวลจากทั่วทุกมุมห้อง สอดคล้องกับตัวตนของผู้เป็นเจ้าของเพนท์เฮาส์แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี ‘ทำไมต้องพามาที่นี่ด้วย... ในเมื่อทุกทีก็เห็นกลับบ้านตลอด’ อัจฉรามองเข้าไปข้างในห้องของนที ก็อดคิดคิดในใจไม่ได้ เธอไม่ได้ตื่นเต้นกับความหรูหราของสถานที่เลยแม้แต่น้อย ทั้งที่เป็นเมื่อก่อนคงจะดีใจมากที่ได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่เปรียบเสมือนโลกอีกใบของเขา แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม... ก็เหมือนที่เธอมองนทีไม่เหมือนก่อนเช่นกัน สายตาจ้องมองแผ่นหลังกว้างตรงหน้าด้วยความขุ่นเคืองผสมกับความหวาดหวั่นเล็กน้อย จนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างแผ่วเบาเรียกสติ ทำใจดีสู้เสือ ก่อนจะยอมเดินตามหลังอีกฝ่ายเข้าไปในห้อง เสียงประตูปิดลงอย่างแผ่วเบาเบื้องหลัง แต่อัจฉราก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ภาพสะท้อนของคนตัวเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ข้างหลังบนกระจกหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน ทำให้เผลอกระตุกยิ้มออกมาเล็กน้อย เพราะนทีคาดหวังว่าจะได้เห็นอ

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 19 รอเห็นเธอพัง [1/2]

    “คุณนที... พูดบ้าอะไรออกมา... รู้ตัวบ้างไหม” น้ำเสียงของอัจฉราแผ่วเบา หัวของเธอรู้สึกตื้อไปหมดจนเกือบจะประมวลผลไม่ทัน แววตาที่สั่นระริกและชุ่มชื้นไปด้วยน้ำตา บัดนี้จ้องลึกลงไปที่ดวงตาคู่คม ราวกับจะหาคำตอบว่าใครกันที่พ่นข้อเสนออันแสนจะหยาบคายนั้นออกมา นทีหัวเราะ ‘หึ’ ในลำคอ เขาไม่ละสายตาไปจากแววตาฉ่ำน้ำที่มองมายังเขา เหมือนเป็นการตอบคำถามที่เธออยากรู้โดยที่ไม่ต้องอธิบาย ว่าคน ‘หยาบคาย’ คนนั้น มันก็คือตัวตนของเขาเอง... ด้านที่ไม่เคยเผยให้ใครได้รู้จักมาก่อน “รู้สิ... แต่ถ้าอยากได้ยินอีกครั้งก็จะย้ำให้... ฉันอยากให้เธอ ‘มอง’ แค่ฉัน ‘คนเดียว’ เท่านั้น... เหมือนที่เธอเป็นมาตลอด... อย่าลืมตัวสิ เนย” เสียงทุ้มพร่าว่าพลางเลื่อนมือที่กุมอยู่หลังคอที่ร้อนระอุของหญิงสาว เคลื่อนมาช้า ๆ จนถึงปลายคางเชิด แล้วเชยคางหล่อนให้สบตากับเขาชัด ๆ ก่อนจะไล่สายตามองริมฝีปากอิ่มที่ตอนนี้บวมเจ่ออย่างน่าพึงพอใจ “แต่นั่นมันไม่เกี่ยวกัน! นั่นมันเรื่องของเนย เนยรับผิดชอบเองได้ คุณนทีมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง” น้ำเสียงของอัจฉราเจือไปด้วยความสั่นเครือ แม้ว่าจะพยายามเป็นเข้มแข็ง แต่หัวใจของเธอกลับเต้นไม่หยุด ยังคง

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 18 จูบสั่งสอน [2/2]

    เสียงหัวเราะ ‘หึ’ ดังออกมาจากลำคอ ยอมรับว่าเขาถูกใจไม่น้อยเลยที่ทำให้อัจฉราหางโผล่จนได้ แววตาที่เยือกเย็นหันกลับมามองเธอช้า ๆ เป็นแววตาของนักล่าอย่างไม่ปิดบังเช่นกัน “บ้าเหรอ... หึ... กล้า... กล้าดีนักนะ เนย” สิ้นประโยคฝ่ามือใหญ่ก็กระแทกลงบนแผงควบคุมลิฟต์อย่างจัง เสียงดังจนคนร่างบางสะดุ้งโหยง ถอยหลังไปประชิดกับผนังที่เย็นเฉียบโดยสัญชาตญาณ พร้อมกันนั้นลิฟต์ก็ค้างทันที ชายหนุ่มกดปุ่มหยุดการทำงานเอาไว้ โดยที่สายตาไม่ละไปจากอัจฉราเลย รอยยิ้มร้ายกาจแบบที่น้อยคนจะได้เห็นนักปรากฏขึ้น ขณะที่ร่างสูงใหญ่ค่อย ๆ ก้าวเข้าไปใกล้คนตัวเล็กกว่าที่พยายามชูคอหวังจะฉก แต่มันไม่น่ากลัวเลยแม้แต่น้อยเหมือนลูกแมวที่พยายามข่วนกลับมากกว่า “คุณนที... จะทำอะไร... ถอยออกไปนะ!” อัจฉราส่งเสียงขู่อีกฝ่าย แต่กลับสั่นและไร้น้ำหนักอย่างน่าเจ็บใจ ผู้ชายที่รักและเทิดทูนในใจมาตลอดตอนนี้กลับแยกเขี้ยวใส่ น่ากลัวและพร้อมที่จะกัด หญิงสาวขยับหนีเขาไปเรื่อย ๆ ทั้งที่ไม่มีพื้นที่ให้ไป ก่อนจะต้องตกใจเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาประชิดกะทันหัน ปึง! เสียงฝ่ามือหนากระแทกเข้ากับกำแพงข้างศีรษะ แรงพอที่จะทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวและลิฟต

  • นที (โปรด) รัก   บทที่ 18 จูบสั่งสอน [1/2]

    “คุณนที” “.....” “เจ็บไหม... เนยขอโทษนะ” น้ำเสียงหวานแผ่วดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบของรถยนต์ที่ยังคงขับฝ่าฝนไปด้วยความเร็วคงที่ สายตาของหญิงสาวฉายแวววูบไหวเล็กน้อย เมื่อเอ่ยประโยคที่ทั้งถามและขอโทษ ทว่านทีกลับยังคงนิ่งเฉย เขาไม่ตอบคำถามของเธอหรือว่าแสดงปฏิกิริยาอะไรนอกเหนือไปจากความเงียบที่มีเท่านั้น ใบหน้าหล่อยังคงเรียบเฉย แววตาอ่านไม่ออกภายใต้แสงไฟที่สะท้อนผ่านมาเป็นระยะ เผยให้เห็นมุมปากที่มีรอยแผลสด อัจฉรามองเสี้ยวหน้านั้นด้วยความรู้สึกผิดที่ล้นหัวใจ แม้ว่าเมื่อกลางวันจะรู้สึกเคืองเขามากแค่ไหนก็ตาม ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ เธอไม่รู้ว่านทีเขาแค่ผ่านมาเพราะความบังเอิญหรือเปล่า แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเขาต้องมาเจ็บตัวเพราะเธอ ดวงตาสียางไม้สั่นไหวเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงไม่ยอมตอบคำถามของเธอ แทนที่จะเร่งเร้าเขาต่อไป หญิงสาวเลือกที่จะละสายตามองออกข้างทางแทน เธอไม่กล้าแล้ว... แม้จะทั้งความกังวลและห่วงแค่ไหน แต่ก็รู้ตัวดีว่าไม่ได้มีสิทธิ์ไปก้าวก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status