“คิดถึง แต่พี่ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับเขาในตอนนี้ พี่ทำผิดต่อพ่อแม่ ทำให้ท่านเสียใจทั้งที่ท่านตามใจอนุญาตให้พี่ไปทำงานอย่างที่พี่ต้องการ ท่านอุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาว่าให้พี่ดูแลตัวเองให้ดีๆ แต่พี่กลับทำให้ทุกคนผิดหวัง” พลอยชมพูถอนหายใจ ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มสดใสกลับหมองเศร้า หยาดพิรุณไม่รู้ว่าจะปลอบพี่สาวอย่างไรดี เธออยากให้พี่กระติ๊บคนเดิมกลับมา แต่ก็รู้ว่าเรื่องอย่างนี้ต้องใช้เวลา เหมือนพี่สาวของเธอยังไม่เข้าใจความต้องการของตัวเอง ยังไม่รู้ตัวว่ารู้สึกเช่นไรกับพบรัก
“งั้นเอาไว้ให้พี่ติ๊บสบายใจก่อนค่อยโทรคุยกับพี่พบ แต่พี่พบบอกว่าโทรหาพี่ติ๊บไม่ได้เลย”
“พี่ปิดเครื่องเองแหละ ฝากไปบอกคุณพบด้วยว่า พี่ขอเวลาตัดสินใจเรื่องนี้อีกสักพัก แล้วพี่จะโทรไปบอกเขาเอง”
หยาดพิรุณพยักหน้า ยอมรับการตัดสินใจของพี่สาว
“ขอบใจน้ำฝนมากนะที่เข้ามาพูดคุยกับพี่ ฝากบอกพี่เพลิงด้วย ว่าพี่ไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอนพี่เพลิง พี่เข้าใจสิ่งที่พี่เพลิงทำ”
หยาดพิรุณยิ้มให้กำลังใจพี่สาว ก่อนโน้มตัวเข้าไปสวมกอดพี่สาวไว้แน่น
“น้ำฝนอยู่ข้างพี่ติ๊บนะคะ พี่ติ๊บอยากให้น้ำฝนช่วยอะไรก็โทรบอกน้ำฝน
“ทำไมต้องเป็นเต็นด้วยล่ะพี่ต่าย ให้คนอื่นไปไม่ได้เหรอ” “ไม่ได้!” เสียงเข้มดุของพี่ชายที่เกิดก่อนเกือบสี่ปีทำให้พลอยไพลินหน้าหงิกงอลงทันที หญิงสาวลุกจากเก้าอี้เดินอ้อมโต๊ะทำงานตัวใหญ่ไปหยุดยืนข้างพี่ชาย ผู้ซึ่งเอาแต่ก้มหน้าสนใจงานในมือ ไม่สนใจว่าน้องสาวจะพอใจหรือไม่พอใจกับงานที่เขามอบหมายให้ พลอยไพลินนั่งคุกเข่าลงบนพื้น สองมือเกาะพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ไว้แน่น หญิงสาวเงยหน้ากะพริบตาปริบๆมองพี่ชาย ดวงตาเป็นประกายวิ้งๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มยื่นน้อยๆ และปั้นหน้าเศร้าให้ดูน่าสงสาร “พี่กระต่ายขา...” เสียงอ้อนหวานเจี๊ยบจนน่าขนลุกทำให้เพชรนิลมองน้องสาวอย่างไม่ไว้วางใจ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขายกมือขึ้นกอดอก แล้วเอนกายพิงพนักเก้าอี้หลุบตามองคนลงทุนคุกเข่าอ้อนด้วยสายตาไม่เชื่อถือ “อย่ามาอ้อนเสียให้ยาก พี่ไม่ใจอ่อนหรอก” เพชรนิลบอกเสียงเข้ม แล้วขยับนั่งตัวตรงตามเดิม สายตาคมจ้องมองงานบนหน้าจอโน้ตบุ๊กตรงหน้า ไม่ชำเลืองแม้หางตาดูน้องสาวที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ที่เดิมไม่ยอมขยับไปไหน “พี่กระต่ายขา...” พลอยไพลินยังคงเกาะพนักเก้าอี้ไว้ไม่ยอมปล่อย ห
“มีเรื่องอะไรหนักใจ กระเต็นบอกพี่ได้นะครับ พี่ยินดีรับฟัง และเต็มใจเป็นที่ปรึกษาให้” ภาสกรยื่นมือออกไปกุมมือบางที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาบีบเบาๆ มองหญิงสาวด้วยสายตาหวานเชื่อม พลอยไพลินยิ้มแหยๆกับการถึงเนื้อถึงตัวเธอของเขา หญิงสาวชักมือกลับช้าๆ ไม่ให้เป็นการดูเสียมารยาท “ขอบคุณพี่กรนะคะ แต่ไม่เป็นไร เต็นทำได้แน่นอนค่ะ” พลอยไพลินค่อยๆเลื่อนสองมือลงจากโต๊ะวางไว้บนตัก ซุกซ่อนมันจากการฉวยโอกาสของเขาภาสกรมองตามอย่างแสนเสียดาย เพราะแม้ว่าพลอยไพลินจะยอมรับนัดเขาบ่อยๆ หรือกระทั่งเธอเป็นคนนัดเขาเอง แต่หญิงสาวก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้แตะเนื้อต้องตัวเลย แม้เธอจะดูเป็นปาร์ตี้เกิร์ลแต่เธอก็ไว้ตัวราวกับนางพญา“น้องกระเต็นของพี่เก่งอยู่แล้ว พี่เชื่อว่าทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดีแน่นอน”“ค่ะ” พลอยไพลินยิ้มแหยอีกครั้งกับคำว่า น้องกระเต็นของพี่ อยากจะถามเขาเหลือเกินว่า ฉันไปเป็นของคุณตั้งแต่เมื่อไรกันยะ เธอรู้สึกว่า คิดผิดเสียแล้วที่เลือกโทรหาอีตานี่ให้มาเป็นเพื่อนกินข้าวฟังเพลงตอนแรกๆที่ผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักกันก็เห็นเขาเป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติ ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเธอ เธอก็เลยไว้ใจ
“โกหกใช่ไหม” คิ้วเข้มเลิกสูงเป็นเชิงถาม พลอยไพลินส่ายหน้าเร็ว “โกหกอะไร เต็นไม่ได้โกหกนะคะ เรารีบออกไปดูที่ลานจอดรถกันเถอะค่ะ เผื่อโจรมันจับยัยติ๊บไปด้วย” วาโยส่ายหน้าน้อยๆ แล้วถอนหายใจ ชายหนุ่มใช้นิ้วชี้เคาะสองครั้งเบาๆที่ข้างใบหูตนเอง ขณะที่สายตาดุไม่ละไปจากใบหน้าของคนที่เริ่มมีเหงื่อซึมออกมาตามมือ พลอยไพลินเบิกตากว้างเมื่อเห็นหูฟังแบบไร้สายที่เชื่อมต่อกับวิทยุสื่อสารติดอยู่กับใบหูเขา หญิงสาวถอยหลังไปสองก้าว มองซ้ายขวาหาทางหนีทีไล่ “เอ่อ...ลูกน้องพี่โยว่าไงบ้างคะ จะ...จับโจรได้แล้วใช่ไหมคะ” วาโยส่งเสียงหึในลำคอ ก้าวเท้าเข้าหาร่างบอบบางในชุดราตรีเกาะอกยาวกรอมเท้าสีเข้ม ใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มให้ดูสวยเด่นกว่ายามปกติปกปิดความซีดเผือดของสีหน้าได้เป็นอย่างดี หากแต่แววตาหลุกหลิกของคนทำผิดกลับแสดงออกชัดเจนว่ามีเรื่องปิดบังอยู่ “พี่รู้ว่ากระเต็นโกหกตั้งแต่เดินยังไม่ถึงห้องนี้ด้วยซ้ำ ลูกน้องพี่รายงานมาแล้วว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี” วาโยบอกเสียงเข้ม ใบหน้าเรียบเฉยไร้การแสดงออกซึ่งอารมณ์ใดๆของเขาทำให้พลอยไพลินหายใจไม่ทั่วท้อง “เต็นไม่ได้โกหก” “หลอกพี่
กรี๊ด! ที่ไหนก็ไม่ได้ คนหน้ามึน คนเอาแต่ใจ ตัวไม่ใช่แฟนเค้านะ จะมาจูบเค้าเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้ พลอยไพลินกรีดร้องอยู่ในใจ เธอเป็นสาวมั่น ออกจะก๋ากั่นในสายตาคนอื่นด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงกลับกลายเป็นสาวน้อยไร้ความมั่นใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้เขา พี่โยทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาทำให้เธอหงอ จนพ่อแม่พี่น้องหรือใครๆต่างก็คิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่เก่งทำให้เธอเชื่อฟังได้ ขนาดพี่ชายแท้ๆของเธอยังยอมให้เขาจัดการเธอได้ตามแต่เห็นสมควรเลย ทุกคนเชื่อใจเขาจนเธอหมั่นไส้ เธออยากจะเปิดโปงความจริงว่าเขาไม่ใช่พี่ชายที่แสนดี เขาเป็นพี่ชายที่คิดไม่ซื่อกับน้องสาวอย่างเธอต่างหาก“พี่โยขยับไปนั่งดีๆสิคะ จะมานั่งเบียดเต็นทำไม” แม้ในใจจะเดือดปุดๆ แต่พลอยไพลินพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พูดกับเขาดีๆ“จุ๊บพี่ทีหนึ่งก่อน แล้วพี่จะยอมทำตามที่เต็นบอก”“พี่โย!” พลอยไพลินถอนหายใจออกมาสุดแรง อยากจะเลื่อนมือขึ้นไปบีบคอเขานักวาโยเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง เขายิ้มกรุ้มกริ่ม รอคอยด้วยความมั่นใจว่า หญิงสาวไม่มีทางปฏิเสธข้อเสนอของเขาแน่นอนพลอยไพลินถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าใกล้ แล้วจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากร้อนผ่าวของคนเอาแต่ใจห
“หลับตาสิคะ” พลอยไพลินบอกเสียงสั่นน้อยๆ คนรอจูบหลับตาลงอย่างว่าง่าย วาโยยิ้มเต็มใบหน้า เมื่อร่างอรชรขยับเข้าแนบชิด สองแขนเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาไว้ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าดื่มด่ำกำซาบกับกลิ่นหอมจากกายสาวจนชุ่มปอด และเมื่อริมฝีปากนุ่มๆอุ่นๆแนบประกบ เขาก็เผยอปากรับอย่างเต็มใจเป็นที่สุด“อื้อ!” พลอยไพลินประท้วงในลำคอ เพราะเพียงแค่เธอแตะแต้มริมฝีปากลงบนปากหยักได้รูป ก็ถูกเขาใช้มือแข็งแรงตรึงท้ายทอยไว้แน่น วงแขนอีกข้างเกี่ยวกระหวัดรวบเอวคอดเกี่ยวกอดเธอจนเกยขึ้นไปนั่งบนตักแกร่ง จูบของพี่โยเร่าร้อนราวจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้ลงตรงนี้ จูบของเขาเรียกร้องเอาแต่ใจ หวามหวานซาบซ่านราวกับจะหลอมเธอให้ละลายคาอก กระนั้นคนที่ถูกทำโทษด้วยการจูบมานับครั้งไม่ถ้วนก็ยังจูบตอบอย่างเท่าเทียม เสียงครางระงมในลำคออีกฝ่ายทำให้หญิงสาวฮึกเหิม เขาไม่ได้ทำให้เธอหัวหมุนอยู่ฝ่ายเดียว เธอก็ทำให้เขาหัวหมุนได้เหมือนกัน“กระเต็น!” วาโยถอนจูบออกอย่างแสนเสียดาย เขาดันบ่าบอบบางออก จ้องตาเธอในระยะใกล้ ชายหนุ่มหอบหายใจหนักหน่วง เขารู้ตัวเองดีว่าถ้าไม่หยุดตอนนี้ ทุกอย่างอาจเลยเถิดไปไกลสุดกู่ เขายังไม่อยากล่วงเกินน้องมากไปกว่านี้“เก่งเ
“ต่ายให้ใครไปดูพลอยที่เมืองกาญจน์เหรอลูก” แม้จะวางมือจากการงาน ส่งมอบอำนาจและหน้าที่ให้ลูกชายคนโตดูแลทั้งหมดแล้ว แต่เพชรเพทายก็ยังติดตาม ให้คำปรึกษา และคอยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงอยู่เสมอ“เต็นเองค่ะคุณพ่อ” พลอยไพลินชิงตอบก่อน หญิงสาวกำลังจะอ้อนขอไม่ไปแต่ทว่า“ดีแล้ว จะได้รู้จักทำการทำงาน เรียนรู้ให้รอบด้าน” แทนที่พ่อเพชรของเธอจะเป็นห่วงเป็นใยลูกสาวที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ท่านกลับสนับสนุนแนวความคิดพี่กระต่ายน้อย เห็นดีเห็นงามไปด้วยเสียนี่ ทำให้คนที่คิดจะหาพวกต่อต้านคำสั่งพี่ชายหน้าตูมทันที“ให้น้องไปคนเดียวหรือกระต่าย” แม่กระแตถามด้วยความเป็นห่วงลูกสาว“ผมมีทีมบอดี้การ์ดไปคอยคุ้มกันน้องด้วยครับคุณแม่” เพชรนิลบอกให้มารดาคลายกังวล“แต่น้องเป็นผู้หญิง” แม่กระแตยังไม่วายแย้ง“ผมให้คุณนิตยาผู้จัดการแผนกจัดซื้อไปเป็นเพื่อนน้องครับ น้องโตแล้วนะครับคุณแม่ น้องต้องเรียนรู้งานให้รอบด้านเหมือนกับที่คุณพ่อบอกนะครับ” เพชรนิลบอกเหตุผลแก่มารดา เขาเข้าใจว่าท่านเป็นห่วงลูกสาว แต่สมควรแก่เวลาแล้วที่น้องสาวของเขาต้องเรียนรู้งานอย่างจริงจังเสียที“คุณแ
พลอยไพลินกำลังสับสนว่า เธอต้องการให้เขารับผิดชอบรอยจูบบนปากเธอก็จริง แต่เธอไม่ทันได้คิดว่าจะให้เขารับผิดชอบยังไง“กระเต็น...” วาโยเรียกปลายสายเสียงนุ่มทุ้ม“เอ่อ...กะ...ก็......”“พี่รอฟังอยู่” เมื่ออีกฝ่ายอึกอัก และเงียบไปดื้อๆ วาโยจึงเอ่ยปากเร่งเร้า เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าน้องอยากให้เขารับผิดชอบอย่างไร“เอ่อ...ครั้งต่อไป พี่โยต้องจูบเบาๆ แล้วก็ห้ามทำให้เป็นรอยอีก” วาโยเงยหน้าขึ้น ยิ้มกว้างกว่าเดิม ชายหนุ่มส่ายหน้า ก่อนจะตอบรับข้อเรียกร้องของแม่นกกระเต็นน้อย“ครับ...พี่สัญญาว่า ครั้งต่อไปจะจูบเต็นเบาๆ จะไม่ดูดให้ช้ำ จะไม่เม้มให้เจ็บ จะไม่กัดให้เป็นรอย”“พี่โย!” พลอยไพลินแหวเสียงสูง ใบหน้าสาวร้อนผ่าว เธอคิดผิดแล้วที่โทรมาเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขา และเธอพลาดที่พูดถึงการจูบครั้งต่อไป นั่นหมายถึงเธอยอมรับว่ามันจะต้องมีครั้งต่อไปอีกแน่ๆ ตอนนี้เขาคงกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มกับสิ่งที่เธอพูดไป อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก ไปพูดถึงจูบครั้งต่อไปได้ยังไงกัน“เสียงสูงเชียว ไม่ชอบจูบแบบที่พี่บอกเหรอครับ งั้นก็...จูบครั้งต่อไปของเรา ก็คงดุดันเหมือนเ
“ถ้างานนี้สำเร็จ เต็นขอโบนัสหนักๆสักก้อนนะคะ”“ยัยเต็นขี้งก!” เพชรนิลว่าเสียงดัง ยังไม่ทันออกจากบ้านไปทำงาน ยัยนกกระเต็นก็ร้องขอโบนัสซะแล้ว“งกอะไรกัน โบนัสเป็นสิ่งที่ควรได้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานนะคะ”“เหรอ” เพชรนิลส่ายหน้ากับการแถของน้องสาว สองพี่น้องคงจะลับฝีปากกันต่ออีกหลายประโยคเป็นแน่ หากรถแลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่สีขาวรุ่นใหม่ล่าสุดไม่แล่นผ่านประตูรั้วเข้ามาเสียก่อน“รถมารับแล้ว” เพชรนิลบอกยิ้มๆ“แล้วเต็นต้องบอกให้เขาไปรับคุณนิดที่ไหนคะ”“คุณนิดไปรอที่รีสอร์ตตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” พลอยไพลินพยักหน้ารับทราบ หญิงสาวยืนมองรถคันงามแล่นเข้ามาใกล้ด้วยความรู้สึกแปลกๆเมื่อรถยนต์แล่นมาจอดเทียบประตูหน้าบ้าน เพชรนิลสั่งให้คนรับใช้ยกกระเป๋าของน้องสาวขึ้นรถ เขาเดินไปเปิดประตูข้างคนขับให้ ส่งน้องสาวขึ้นไปนั่ง แล้วกำชับคนขับรถด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ฝากดูแลน้องสาวผมด้วยนะครับ”พลอยไพลินโบกมือให้พี่ชาย ก่อนเขาจะปิดประตูรถให้เธอ หญิงสาวขยับตัวนั่งตรง และกำลังจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดเพื่อความปลอดภัย แต่คนขับรถกลับไวกว่า เขาโน้มต
“คิดถึง แต่พี่ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับเขาในตอนนี้ พี่ทำผิดต่อพ่อแม่ ทำให้ท่านเสียใจทั้งที่ท่านตามใจอนุญาตให้พี่ไปทำงานอย่างที่พี่ต้องการ ท่านอุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาว่าให้พี่ดูแลตัวเองให้ดีๆ แต่พี่กลับทำให้ทุกคนผิดหวัง” พลอยชมพูถอนหายใจ ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มสดใสกลับหมองเศร้า หยาดพิรุณไม่รู้ว่าจะปลอบพี่สาวอย่างไรดี เธออยากให้พี่กระติ๊บคนเดิมกลับมา แต่ก็รู้ว่าเรื่องอย่างนี้ต้องใช้เวลา เหมือนพี่สาวของเธอยังไม่เข้าใจความต้องการของตัวเอง ยังไม่รู้ตัวว่ารู้สึกเช่นไรกับพบรัก“งั้นเอาไว้ให้พี่ติ๊บสบายใจก่อนค่อยโทรคุยกับพี่พบ แต่พี่พบบอกว่าโทรหาพี่ติ๊บไม่ได้เลย”“พี่ปิดเครื่องเองแหละ ฝากไปบอกคุณพบด้วยว่า พี่ขอเวลาตัดสินใจเรื่องนี้อีกสักพัก แล้วพี่จะโทรไปบอกเขาเอง”หยาดพิรุณพยักหน้า ยอมรับการตัดสินใจของพี่สาว“ขอบใจน้ำฝนมากนะที่เข้ามาพูดคุยกับพี่ ฝากบอกพี่เพลิงด้วย ว่าพี่ไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอนพี่เพลิง พี่เข้าใจสิ่งที่พี่เพลิงทำ”หยาดพิรุณยิ้มให้กำลังใจพี่สาว ก่อนโน้มตัวเข้าไปสวมกอดพี่สาวไว้แน่น“น้ำฝนอยู่ข้างพี่ติ๊บนะคะ พี่ติ๊บอยากให้น้ำฝนช่วยอะไรก็โทรบอกน้ำฝน
“ว่าไม่ได้นะครับลุงเพชร ไม่แน่นะ วันดีคืนดีมันอาจจะหาลูกสะใภ้มาให้โดยไม่ทันตั้งตัวก็ได้” คนปากเสียก็ปากเสียอยู่วันยังค่ำเพลิงตะวันพูดยิ้มๆ หวังจะให้ลุงคลายเครียด ทว่าสิ่งที่เขาพูดออกมานั้นกลับตอกย้ำให้คนเป็นลุงหัวร้อนหงุดหงิดเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า “ไม่มีทางเว้ย! ไอ้กระต่ายมันไม่ไปทำอะไรแบบนั้นแน่ คนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้บ้านนี้จะต้องเพียบพร้อมทุกอย่าง ผู้หญิงพวกนั้นก็แค่ทางผ่านเท่านั้นแหละ ไอ้ต่ายมันไม่เอาผู้หญิงพวกนั้นมาทำพันธุ์หรอก” พ่อเพชรมั่นใจในตัวลูกชายว่า ไม่มีทางทำพลาดเรื่องแบบนี้แน่ แต่พ่อเพชรอาจลืมคำโบราณที่ว่าไว้ สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้งกระต่ายน้อยของพ่อเพชรอาจจะพลาดพลั้งให้ใครบางคนโดยตั้งใจก็ได้ “ง่ะ…ลุงเพชรรู้เรื่องนี้ด้วยหรอ” เพลิงตะวันหน้าเหวอ ความลับของน้องชายที่คิดว่าตัวเองเป็นคนกุมไว้ในมือคนเดียว ใครจะไปรู้ล่ะว่า ลุงเพชรอดีตเสือก็รู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน “นี่แกคิดว่าลุงหูหนวกตาบอดเหรอไอ้เพลิง อย่างพวกแกนะ แค่อ้าปาก ลุงก็เห็นลิ้นไก่แล้ว กร
เขาห่วงตัวเองนี่แหละ ดูเมียเขาสิ ขนาดนั่งรถมาด้วยกันแท้ๆ พอมาถึงนี่เธอก็ย้ายฝั่งไปนั่งข้างพี่ชายทันที แล้วดูสายตาเธอสิ คงโกรธเขาที่ร่วมมือกับเพื่อนเรื่องน้องสาว ก็ใครมันจะไปรู้เล่า ว่าไอ้เพื่อนบ้านี่มันจะทำการลัดขั้นตอนอย่างนี้ ก็นึกว่าจะจีบกันไปเรื่อยๆ จนตกลงปลงใจกันด้วยดี แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด มีเพื่อนผิดคิดจนตัวตายจริงๆ“ตอนนี้ลุงเพชรกำลังโกรธมาก และคงฆ่าทุกคนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ได้โดยไม่กลัวติดคุก สวนไอ้กระต่ายน้อย มันขอให้พี่โยจัดหาคนเข้ามาดูแลกระติ๊บเรียบร้อยแล้ว”“เรื่องนั้นกูรู้แล้ว แต่กูอยากรู้ว่าจะทำยังไงถึงจะให้ไอ้พบมันเข้าไปพูดคุยกับกระติ๊บได้ หรือไม่ก็ทำยังไงให้ลุงเพชรกับน้ากระแตยอมให้พ่อกับแม่กูเข้าไปสู่ขอกระติ๊บให้ไอ้พบมัน”“คุยกับลุงเพชรกับน้ากระแตตอนนี้คงยังไม่ได้ ต้องรอให้เรื่องเย็นก่อน”“แล้วต้องรอนานแค่ไหน” พบรักรีบถามสวนขึ้นมาทันที เพลิงตะวันทำหน้าเบื่อหน่าย เบื่อพวกใจร้อนทีตอนทำล่ะไม่คิด เพิ่งมาคิดได้ตอนนี้ วุ่นวายมาก แก่แต่ตัว สมองไม่ได้เรื่อง“ก็ไม่รู้” คนเล่นตัวตอบแบบไม่ใส่ใจ“นี่มึงเต็มใจช่วยหรือเปล่าไอ้เพลิง
“ไอ้วีมึงต้องช่วยกู”ยังไม่ทันกล่าวทักทายอะไร คนโทรเข้ามาก็บอกด้วยน้ำเสียงร้อนรน“ช่วยอะไร มึงมีอะไรให้กูต้องช่วย กูเห็นช่วงนี้โลกทั้งใบเป็นสีชมพูไม่ใช่เหรอ กูก็นึกว่าลืมกูไปแล้ว แหม...พอมีหญิงอยู่ใกล้ทำเป็นลืมเพื่อน พอมีอะไรให้ช่วยโทรหากูเชียวนะมึง เห็นกูเป็นเมียน้อยมึงเหรอ”“มึงฟังกูให้ดีนะไอ้วี” พบรักพูดเสียงเข้ม“พ่อกับพี่ชายของกระติ๊บมาเอาตัวกระติ๊บกลับกรุงเทพไปแล้ว กูโดนซ้อม ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล”กวีผุดลุกจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ เปล่าเลย เขาไม่ได้ห่วงเพื่อนเลย แต่เขาห่วงชะตาชีวิตเขาในตำแหน่งน้องเขยไอ้เพลิงต่างหาก การที่ไอ้กระต่ายน้อยพาคนมารุมซ้อมเพื่อนเขาถึงรีสอร์ต นั่นหมายความว่าจะต้องมีคนโทรไปบอกมัน คนคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากไอ้เชี่ยเพลิง“ไอ้วีมึงฟังกูอยู่หรือเปล่า”“เวรแน่ๆมึงเอ๊ย! ไอ้เพลิงรู้เรื่องแล้วแน่ๆ มึงไปทำยังไงให้มันจับได้วะ แล้วนี่มึงได้โทรคุยกับกระติ๊บหรือยัง น้องเขาว่าไงบ้าง”“กระติ๊บกลับบ้านไปพร้อมกับพ่อแล้ว กูติดต่อไม่ได้เลยน่าจะถูกยึดโทรศัพท์ มึงต้องช่วยกูนะไอ้วี นั่นเมียกูทั้งคนนะเว้ย!”“ช
“ค่ะคุณแม่” พลอยชมพูตอบแล้วยิ้มให้มารดา หญิงสาวซุกหน้ากับอกอุ่น กอดร่างอิ่มมีน้ำมีนวลของมารดาไว้แน่นหลังจากพูดคุยไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกันสักพัก พลอยชมพูก็ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง แม่กระแตจึงเดินเข้าไปหาสามีในห้องนั่งเล่น พ่อเพชรยืนเหม่อมองออกไปด้านนอก ด้านที่เป็นกระจกใสบานใหญ่ ตรงหน้าเป็นวิวสวนหลังบ้าน ท่าทางยืนนิ่งเอามือไขว้หลัง ของสามีทำให้แม่กระแตถอนหายใจ ก่อนเดินเข้าไปยืนใกล้ๆ“คุณเพชรมีอะไรจะบอกหนูไหมคะ”แม่กระแตวางมือลงบนต้นแขนสามี เงยหน้าขึ้นสบตาเขา พ่อเพชรถอนหายใจยาว สายตายังคงจับจ้องอยู่เบื้องหน้า แววตาเป็นกังวล สีหน้าดูเคร่งขรึมไม่สู้ดีนัก แม่กระแตไม่เร่งเร้าเอาคำตอบ เพราะดูจากอาการสามีแล้ว คงเป็นเรื่องที่หนักหนาเอาการอยู่ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะเกี่ยวกับลูกสาวคนเล็กหรือเปล่า เมื่อสองวันที่แล้ว เพลิงตะวันโทรมาหาสามีของเธอ หลังจากนั้นเขาก็ดูเคร่งเครียดและเป็นกังวล ดูผิดไปจากสามีเป็นคนเดิมของเธอ“กระแต” พ่อเพชรหันมามองหน้าภรรยา โอบกอดเรือนร่างอิ่มเอิบขึ้นเล็กน้อยของเธอมาแนบอก แม่กระแตโอนอ่อนกอดเอวสามี และซบหน้าพิงอกกว้าง มือบางลูบแผ่นอกสามีราวกับต้องก
“แล้วพี่ต่ายล่ะคะคุณพ่อ ไม่กลับพร้อมเราหรือคะ”พลอยชมพูมองหาพี่ชาย เพราะเธอเห็นเขามากับคุณพ่อแต่พอจะกลับก็ไม่เห็นเขาเสียแล้ว“พี่ต่ายมีบางอย่างต้องจัดการ เรากลับกันก่อน”“ค่ะคุณพ่อ”ไม่บ่อยนักที่คุณพ่อจะใช้น้ำเสียงราบเรียบและสายตาดุแบบนี้กับเธอ คนที่มีชนักติดหลังอย่างพลอยชมพูก็เลยไม่กล้าเถียง ท่านบอกให้ทำอะไร เธอก็ทำตามทั้งหมด เธออยากจะโทรบอกพบรักว่ากำลังจะกลับบ้านแต่ก็กลัวว่าบิดาจะไม่พอใจ หญิงสาวจึงเดินตามบิดาไปขึ้นรถตู้ที่จอดอยู่หน้าบ้านเงียบๆ กะว่าพอถึงบ้านแล้วเธอจะรีบโทรบอกเขาเพราะกลัวว่าเขาจะเป็นห่วงหลังจากขึ้นรถและรถเคลื่อนตัวออกมาจากรีสอร์ตได้ครู่หนึ่ง พ่อเพชรเอื้อมมือมาโอบกอดเธอไว้แนบอก ลูบศีรษะและแผ่นหลังเบาๆ“กลับไปอยู่บ้านเรา ต่อไปนี้พ่อจะไม่ให้ติ๊บไปไหนอีกแล้ว”พลอยชมพูรับรู้ถึงวงแขนที่กอดเธอแน่น หญิงสาวกอดบิดาตอบ ซุกหน้ากับอกอบอุ่นที่คุ้นเคย ความรู้สึกผิดแล่นพล่านอยู่ในหัวใจ เธอสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง แต่ไม่กล้าเอ่ยถาม ความผิด ที่ไม่รักษาตัวเองให้ดี ทำให้เธอยิ่งรู้สึกว่า ต่อไปนี้ไม่ว่าท่านจะบอกให้ทำอะไร เธอก็จะทำตาม ไม่มีเ
พบรักยืนนิ่ง ปล่อยให้หญิงสาวดื่มด่ำกับความเสียวสุดยอด แก่นกายแข็งคึกที่สอดลึกในร่องรักสาวถูกตอดรัดรีดเค้นจนเสียวไปทั้งลำ พบรักรับรู้ถึงอาการสั่นน้อยๆของร่างสาวอีกหลายครั้ง เขารอจนจังหวะหายใจเธอกลับมาเป็นปกติ“เข้าบ้านกันเถอะ”พลอยชมพูพยักหน้ารับน้อยๆ เธอควรได้พักผ่อน เพราะตอนนี้เธออ่อนเพลียกะปลกกะเปลี้ยไปทั้งตัว หญิงสาวคิดว่าพบรักจะพาเธอขึ้นไปส่งที่ห้องเลย แต่เธอคิดผิด พบรักไม่ได้พาเธอไปส่งที่ห้อง เขาพาเธอตรงไปยังห้องเขา เมื่อเดินถึงเตียงเขาค่อยๆผ่อนร่างเธอลงตรงขอบเตียง ส่วนเขายืนอยู่บนพื้น เขาเปลื้องอาภรณ์ทุกชิ้นออกจากร่างหญิงสาว ก่อนยกสองขาเรียวขึ้นสูงแล้วถ่างออกกว้าง เปิดเปลือยเนื้อนวลบานฉ่ำต่อสายตาคมวาววับ ชายหนุ่มครางลึกในลำคอ เขามองความสวยงามตรงหน้าด้วยความลุ่มหลง อดใจไม่ไหวที่จะซุกหน้าเข้าหา สูดดมและปาดเลียอย่างหื่นกระหาย ทั้งฟัดทั้งกัดขย้ำจนน้ำหวานสาวกระเซ็นซ่าน หญิงสาวครางสะอื้น สะโพกหนั่นแน่นสั่นสะบัดเพราะเสียวซ่านรุนแรง“คุณพบ” พลอยชมพูครางเรียกเสียงแผ่วพร่า การแตะจุดสุดยอดรุนแรงถึงสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกันทำให้เธอไร้เรี่ยวแรงกระดิกตัว“กระติ๊บ
“กระติ๊บ” พบรักกระซิบเรียกชิดใบหูขาว เขาตวัดลิ้นเลียติ่งหูนุ่มเบาๆ“อุ๊ย!” พลอยชมพูขนลุกเกรียวไปทั้งตัว หญิงสาวหดคอเอนศีรษะหนี“คุณไม่ได้กลัวผมใช่ไหม”“ไม่กลัวค่ะ” พลอยชมพูตอบแล้วพยายามพาตัวเองลงจากตักแกร่ง เพราะท่าทางและน้ำเสียงของเขาไม่น่าไว้ใจเท่าไรนัก“ไม่กลัวแล้วทำไมตัวสั่น”พบรักว่าแล้วหัวเราะในลำคอ เขาเลื่อนมือลงไปยังโค้งสะโพกมนลูบไล้แล้วบีบขยำเบาๆ“กะ...ก็มันหนาวนี่คะ” เรื่องอะไรจะยอมรับว่าตัวสั่นเพราะสัมผัสจากเขา เดี๋ยวเขาก็ได้ใจกันพอดี“หนาวเนื้อห่มเนื้อจะหายหนาว”“คารมหนุ่มใหญ่” พลอยชมพูเงยหน้ามองเขายิ้มๆ คนถูกเรียกว่าหนุ่มใหญ่ยิ้มมุมปาก“วันที่ครบกำหนดหกเดือนผมจะกลับบ้านไปพร้อมกับกระติ๊บ ผมจะให้พ่อแม่ของกวีไปพูดคุยกับพ่อแม่ของกระติ๊บนะ”“ค่ะ”“หวังว่าอีกไม่กี่เดือนที่เราอยู่ด้วยกัน กระติ๊บจะปรานีมอบความรักมาให้ผมบ้าง สักน้อยก็ยังดี”พลอยชมพูหัวเราะออกมาทันทีที่พบรักพูดจบ หญิงสาวหัวเราะจนตัวสั่น ก็ดูเขาสิ พูดจาเป็นลิเกจีบสาวไปได้“ผมจริงจัง” พบรักว่ายิ้มๆพลอยชมพูรีบเม้มปากปิ
“คุณพบเป็นคนอุ้มติ๊บในวันนั้นหรือคะ”พลอยชมพูยอมรับว่าสกิลการจดจำใบหน้าคนของเธอต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ยิ่งถ้าไม่ใช่คนรู้จักมักคุ้น แล้วได้เจอหน้ากันเพียงไม่กี่ครั้ง เธอจำไม่ได้หรอกว่าใครเป็นใคร นี่ขนาดเขาเป็นคนอุ้มเธอในวันนั้นแท้ๆ เป็นผู้ชายคนที่สองนอกจากพี่กระต่ายที่อุ้มเธอตอนโตเป็นสาวแล้ว เธอยังจำเขาไม่ได้“แล้ว...เรื่องวันนั้น มาเกี่ยวอะไรกับวันนี้ล่ะคะ” เมื่อจดจำเหตุการณ์ที่เจอกันครั้งแรกได้แล้ว พลอยชมพูก็ถามเขาด้วยความไม่เข้าใจ“หลังจากวันนั้นผมก็ติดตามกระติ๊บมาตลอด กวีรู้เรื่องนี้ดี ที่กระติ๊บได้มาทำงานที่นี่ก็เพราะว่าผมเป็นคนขอร้องให้กวีช่วย รู้ไหมว่าพี่ชายกระติ๊บเขี้ยวมาก ไอ้วีต้องเอาคอเป็นประกันว่าผมนิสัยดี และกระติ๊บจะปลอดภัยแน่นอนถ้ามาทำงานกับผม”“แล้วพี่วีก็จะคอขาดเพราะคุณ”“มันก็ว่างั้นแหละ”พบรักหัวเราะในลำคอ คนที่ไม่ปลอดภัยเสียแล้วค้อนวงน้อยๆให้เขา พบรักถอนหายใจยาว ก่อนพูดต่อว่า“คุณเคยได้ยินนักร้องคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ไหม เรื่องที่ว่าเขาสร้างโลกขึ้นมาสองใบ สำหรับผู้หญิงสองคน”“นี่คุณพบติดตามกอสซิปดารานักร้องด้วยหรือคะ