ครืน!!
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” มีนรับสายโฮปที่โทรเข้ามา
“วันนี้เฮียติดงานไม่น่าจะกลับไปกินข้าวเย็นกับมีนทันนะ มีนกินได้เลยนะครับ ไม่ต้องรอ”
"ครับเฮีย"มีนพยักหน้าอย่างเข้าใจกับตัวเอง
“มีนไม่โกรธเฮียนะ” โฮปถามย้ำ
“ไม่ครับ”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะครับคนดี” หลังจากนั้นสายก็ถูกตัดไป
"เป็นไงไม่ว่างอีกตามเคย" โซนพูดขึ้นทันทีหลังจากที่มีนวางสายจากเฮียโฮป
"อืม ติดงาน"มีนพยักหน้าอย่างเหนื่อยใจ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ไอ้โซนถึงได้รู้ทัน
"งานอะไร ทำมาเป็นเดือนๆ ไม่เสร็จสักที"อะไรมันจะยุ่งขนาดนั้นวะขนาดเฮียคิงทำบริษัทอสังหาฯยังไม่ยุ่งขนาดนี้ โซนนึกคิด
"เขาต้องดูแลลูกน้องดูแลผับ"
"ไอ้มีน!!"โซนเรียกเสียงแข็ง คำโต้เถียงของมีนคล้ายจะไม่มีน้ำหนักเอาซะเลย
"เออยอมรับก็ได้ ว่ากูก็ไม่รู้"มีนเอาสายตาที่วูบไหวนั้นหลบเฉไปทางอื่น
"พูดแบบนี้แปลว่ามึงเองก็เริ่มจะลังเลแล้วเหมือนกันใช่ไหม"โซนย้อนถามอีกครั้งทั้งหรี่ตามองอย่างจับผิด
"กูไม่ได้ลังเลเรื่องที่มึงสงสัยว่าเขามีคนอื่น แต่กูแค่อยากรู้ว่าเขากำลังทำอะไรกันแน่"ถ้าออกจะมีคนอื่นจริงๆ ทำไมไม่เลิกกับเขาไปเลย ทำไมยังทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ อยู่แบบนี้ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง
"มึงคิดว่าคนเราจะทุ่มเทตัวเองให้กับเรื่องอะไรได้อีก ถ้านอกเหนือจากเรื่องงาน"
"ก็เรื่อง..." มีนนิ่งเงียบไปชั่วขณะหนึ่งที่เขาพูดไม่ออก
"เห็นไหมมึงเองก็ตอบไม่ได้"โซนสรุปเอาเองจากท่าทีอึกอักของเพื่อน
"กูตอบไม่ถูก"
"ไอ้มีนมึงฟังกูนะ กูไม่ได้มาเพื่อยุยงให้มึงกับเฮียโฮปผิดใจกันแต่กูมาเพื่อบอกให้มึงลองสังเกตรอบตัวบ้าง ไม่ใช่มองโลกแคบๆ ที่มีแค่มึงกับแฟน"
"กูรู้"
"รู้ก็ทำด้วย ก่อนที่มันจะสายเกินไป" โซนเตือนก่อนจะลุกออกไปปล่อยให้มีนได้มีเวลาทบทวนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นบางครั้งมันก็อาจจะมีอะไรมากกว่าที่เขาคิด
.
.
2 วันต่อมา
"วันนี้ไม่ไปร้านเหรอครับ"โฮปที่กำลังแต่งตัวอยู่เห็นคนรักยังนอนอยู่บนเตียง ปกติอีกฝ่ายจะลุกอาบน้ำแต่งตัวไปร้านแล้ว
"มีนปวดหัวเหมือนจะไม่สบายเลยว่าจะพักวันหนึ่ง โทรบอกน้องๆ ที่ร้านแล้วครับ"มีนพูดเสียงอ้อมแอ้มเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง
"เป็นอะไรมากหรือเปล่า ให้เฮียพาไปหาหมอไหม"โฮปถามด้วยความเป็นห่วง
"เดี๋ยวมีนลองกินยาแล้วนอนพักก่อนดีกว่าครับ"มีนพูดเสียงเบาๆ ยกแขนก่ายหัวตนเอง
"เอางั้นเหรอ"เขาถามอย่างลังเล
"ครับ"
"ถ้าอย่างนั้นมีอะไรด่วน มีนรีบโทรหาเฮียเลยนะ"โฮปเดินมานั่งลงที่ขอบเตียงลูบผมคนที่นอนอยู่อย่างเบามือ
"ได้ครับ ว่าแต่วันนี้เฮียจะไปไหนเหรอครับทำไมออกแต่เช้าเลย"
"ร้านต้นไม้ที่สั่งเอาไว้เขาจะมาส่งวันนี้เฮียเลยว่าจะไปดูสักหน่อย"
"เฮียรีบไปเถอะครับ มีนขอนอนพักต่อสักหน่อย"
"ดูแลตัวเองดีๆ นะ อย่าลืมมีอะไรโทรหาเฮีย จะรีบกลับมาครับ" โฮปก็รีบร้อนออกจากห้องไป ปล่อยให้มีนนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องตามลำพัง ด้วยความอ่อนเพลียเพราะฤทธิ์ไข้ มีนที่กินยาเข้าไปก็หลับยาวจนเกือบบ่ายเลยตั้งใจว่าจะลุกออกมาหาอะไรกิน
ก๊อกๆๆ
"ใครมาวะ" มีนค่อยๆ เดินเตาะแตะไปเปิดประตู
"อ้าวไอ้ฟาร์"
"กูโทรหามึงก็ไม่รับสาย ไปหามึงที่ร้านเขาบอกว่ามึงป่วยกูเลยแวะมาดู"เขานึกแล้วว่ามันต้องอยู่คอนโดเฮียโฮป ดีนะที่เคยมาแล้วทางพนักงานจำได้เลยให้ขึ้นมา
"จู่ๆ ป่วยเฉย"มีนเอามือกุมหัวตัวเองเพราะรู้สึกปวดหนึบขึ้นมากะทันหัน
"เป็นไงบ้าง หน้าซีดเลยมึง"
"ไหวอยู่..ฟึบ!!"มีนตอบทั้งที่กุมหัว หลับตาปี๋ร่างกายที่อ่อนแรงทำให้ยืนไม่ได้ไม่มั่นคงมีนเหมือนจะล้มลงไปกองกับพื้นข้างล่าง
"เห้ยยย!!ไอ้มีน" โชคดีที่ฟาร์เข้าไปรับตัวไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นมีนคงจะล้มหัวฟาดพื้นไปแล้ว ฟาร์จึงรีบพามีนไปโรงพยาบาลทันที
"เป็นไงบ้างมึง กูตกใจหมด"มีนที่นั่งวิวแชร์ถูกเข็นออกมาจากห้องตรวจ ฟาร์ย่อตัวลงไปนั่งลงตรงหน้าเลยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
"อ่อนเพลีย พักผ่อนน้อย แล้วตอนเช้ากูก็นอนเพลินเลยไม่ได้กินข้าวก็เลยหน้ามืด"มีนพูดเสียงแผ่วเบา
"สภาพ ทำงานหนักจะอยู่ถึงได้ใช้เงินไหมเนี่ยมึง"ฟาร์ส่ายหัวอย่างเหนื่อยล้าบอกให้พักบ้างก็ไม่เชื่อ
"เออน่า แค่ป่วยเอง"
"กลับเลยไหมเดี๋ยวกูไปส่ง"
"ไปรับยาแล้วก็คงกลับเลย ว่าแต่มึงโทรบอกเฮียโฮปให้ยัง กูกลัวเขาเป็นห่วง"ป่านนี้ไม่รู้เฮียกลับมาที่ห้องหรือยัง ถ้าเกิดไม่เจอเขาเฮียจะกังวลหรือตกใจหรือเปล่า
"ทั้งโทร ทั้งส่งข้อความแต่ยังไม่เห็นตอบรับอะไรกลับมา"
"จริงเหรอวะ"มีนขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น
"กูโทรตั้งแต่มาถึงโรงพยาบาลจนมึงออกมานี่เขายังไม่รับสายเลย ข้อความก็ไม่อ่าน"ฟาร์เริ่มใส่อารมณ์อีกครั้ง เขาไม่ชอบใจกับแฟนเพื่อนเลยพักหลังๆ มานี่
"คงติดงานมั้ง" มีนยังคงคิดในทางที่ดีแม้ในใจจะเริ่มหวั่นไหวมากแล้วก็ตาม
"ไอ้มีน จะทำงานหนักหนาแค่ไหนโทรศัพท์เข้าไปเป็นสิบสายก็ควรจะคิดได้บ้างไหมวะว่าคนโทรเขามีเหตุด่วน"
"เวลาติดงานเฮียโฮปชอบปิดเสียงมือถือ"
"แต่มึงเป็นคนบอกกูเองว่าช่วงนี้เฮียโฮปของมึงเขาติดมือถือ กดดู กดอ่านข้อความตลอด นี่ช่วงเวลาเกือบสามชั่วโมง เขาจะไม่ดูอะไรเลยหรือไง"ฟาร์พูดเป็นเหตุเป็นผลตามที่เพื่อนเคยบอกไว้
"ก็เฮียเขา..."มีนหลุบตามองต่ำ
"มึงหยุดหาข้อแก้ตัว แล้วเอาเวลาไปดูแฟนมึงดีกว่าว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ถึงไม่มาสนใจมึง"จากนั้นฟาร์ก็พามีนมาส่งที่คอนโด
ระหว่างทางมีนเองก็พยายามโทรหาโฮปแต่ก็ไม่ยอมรับสาย มันแปลกและผิดปกติอย่างที่ฟาร์ว่าจริงๆ ซึ่งมีนมาทบทวนดูก็ถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้วเหตุการณ์พวกนี้มันเกิดขึ้นมาเป็นเดือนแล้วเพียงแต่มีนไม่ได้ใส่ใจเพราะมัวแต่เป็นห่วงโฮปที่บ่นตลอดว่าทำงานหนัก
"ให้กูอยู่เป็นเพื่อนก่อนไหม"
"จะดีเหรอมึงกูเกรงใจ"
"จากอาการของมึงกูอยู่เป็นเพื่อนก่อนดีกว่า" ฟาร์ตัดสินใจขึ้นคอนโดมาพร้อมกับมีน
"กินข้าวหน่อยนะมึงจะได้กินยา ดีนะที่กูซื้อข้าวจากหน้าโรงพยาบาลติดมา ตู้เย็นมึงแม่งไม่มีอะไรเลย"ฟาร์ที่สำรวจของในตู้เย็นและห้องครัวไม่มีอะไรที่สามารถประกอบเป็นอาหารได้เลย
"ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ทำกับข้าวเลยไม่มีของสดติดตู้"
"ช่างมัน อะกินซะ จะได้นอนพัก หน้ามึงยังซีดๆ อยู่เลยน่าจะนอนโรงพยาบาลสักคืน"ฟาร์วางถ้วยเข้าต้มกุ้งที่ตนซื้อมาวางลงตรงหน้าของคนป่วย
"ขอบใจมากมึง"มีนหันไปพูดกับเพื่อน ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมา "ฟาร์ถ้าเกิดเฮียโฮปเขานอกใจกูขึ้นมาจริงๆ กูจะทำยังไงวะ" น้ำเสียงดูเศร้าลงและหวั่นใจอย่างเห็นได้ชัดทำเอาฟาร์ได้แต่พ่นลมหายใจออกมาแผ่วเบา
"มันก็ขึ้นอยู่กับมึง กูตัดสินใจแทนไม่ได้ หรือมึงอาจจะเลิกไปเลย"เรื่องแบบนี้มันตัดสินใจแทนกันได้ที่ไหน สภาพจิตใจไม่เหมือนกัน และความผูกพันฉันคนรักมากขนาดไหนของแต่ละคู่ก็ไม่เหมือนกัน เขาก็ได้แต่แนะนำและมองดูอยู่ข้างๆ แบบนี้
"มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ"
"อะไรที่มันยากไหนมึงลองว่ามาซิ"ฟาร์ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ
"ก็รักไง คนรักกันจะเลิกกันง่ายๆ แบบนั้นจริงๆ เหรอ"ในชีวิตมีนแทบไม่เคยมีแฟนและส่วนใหญ่มักจะอยู่ในช่วงวัยเรียนเขาเลยไม่ได้เสียใจอะไรนัก ทุกๆ ครั้งที่เลิกกันก็เพราะว่าเข้ากันไม่ได้หรืออยู่ไปนานๆ แล้วมันเดิมๆ แต่โฮปไม่ใช่แบบนั้นเขาและเฮียโฮปมาเจอกันในช่วงเวลาที่เราทั้งสองต่างเป็นผู้ใหญ่ไม่มีอารมณ์เหมือนเด็กๆ แล้ว เพราะอย่างนั้นทุกอย่างเลยเกิดจากความตั้งใจที่จะใช้ชีวิตไปด้วยกันเขายอมย้ายเข้ามาที่นี่ เพราะอยากทดลองใช้ชีวิตด้วยกันก่อนจะแต่งเป็นฝั่งเป็นฝา
"การที่เขานอกใจเรา ทำไมเขาไม่เห็นสนใจเลยว่าเรารักเขามากแค่ไหน"ฟาร์สวนกลับ
"เขาอาจจะมีเหตุผล"
"เหตุผลคนนอกใจเหรอมึง มันไม่มีหรอกมันมีแต่ข้ออ้าง ถ้าเขารักเราจริงเขาจะไม่ทำแบบนี้"ตอนนี้มีนเอาแต่หาข้ออ้างให้โฮปมันอดทำฟาร์รู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ เขาเองก็ไม่ใช่พวกละเอียดอ่อนเลิกคือเลิก ทำผิดคือทำผิด
"ก็จริงของมึง"
"แต่มึงอย่าพึ่งคิดมากอะไรขนาดนั้นเขาอาจจะมีเหตุผลอื่น มึงก็แค่ต้องสืบมาว่าเหตุผลที่เฮียโฮปมันเป็นแบบนี้คืออะไร"ฟาร์พูดเพราะอยากให้กำลังใจรู้ว่ามีนคงยังรับไม่ได้หรอกตอนนี้
"เออ กูจะพยายาม"
"กินข้าวได้แล้ว หยุดคิดเรื่องอื่นก่อนแล้วไปนอนพัก" มีนยอมกินข้าวกินยาแล้วเข้าไปนอนพักส่วนฟาร์ก็ตั้งใจว่าจะอยู่ดูแลจนกว่าเฮียโฮปจะกลับมา
3 เดือนต่อมา"อรุณสวัสดิ์ครับมีน"โฮปที่มารออยู่หน้าร้านที่เดิมเหมือนเป็นที่ประจำไปแล้ว"มาแต่เช้าอีกแล้วนะครับ"มีนส่ายหน้าให้กับความตื๊อในครั้งนี้กับอีกฝ่าย"อยากมาเจอมีน ว่าแต่วันนี้ไม่ไล่เฮียเหรอ"ปกติเห็นเขาประโยคแรกที่มักจะได้ยินประจำคือมาทำอะไร กลับไปได้แล้ว อย่ามาก่อกวน (แต่วันนี้มาแปลก) หรืออาจจะขี้เกียจไล่เขาแล้ว"เหนื่อยจะไล่แล้วครับ ถึงผมไล่คุณก็ไม่ยอมไปอยู่ดี""มีน"โฮปเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่วเบา"ครับ""มีนรู้ใช่ไหมว่าทำไมเฮียถึงทำแบบนี้"หวังว่ามีนจะให้โอกาสยอมให้เขาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง"ทำอะไรเหรอครับ แล้วผมจะไปรู้กับคุณได้ไง"มีนแสร้งไม่เข้าใจเขาอยากให้โฮปพูดออกมาตรงๆ ว่าต้องการอะไรกันแน่ตนจะได้ไม่เผลอคิดไปเองคนเดียว"ที่เฮียมาป้วนเปี้ยน แวะเวียนมาหามีนอยู่ทุกวันนี่ไง""คุณก็คงแค่ว่างไม่มีอะไรทำ ใช่ไหมครับ"มีนทำทีเป็นไม่รู้ไม่ชี้อะไรต่อ“คิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ"ไม่รู้อะไรเลยสินะ (ใจร้ายสุดๆ) ทั้งๆ ที่เขาคิดว่าชัดเจนมากแล้วแท้ๆ ไหนไอ้คิงบอกว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูดไง"คุณมีอะไรอีกหรือเปล่าครับผมจะไปทำงานแล้ว"มีนเอ่ยอย่างเร่งเร้า"มีนให้โอกาสเฮียได้ไหม เรากลับมาคบกันได้ไหมมีน"
5 วันต่อมาหลังจบทริปโฮปก็ตั้งใจเอาไว้ว่าเขาจะลองเดินหน้าง้อขอคืนดีกับมีนดูอีกสักครั้ง เพราะตอนนี้เขาเองก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว อย่างน้อยมีนเองก็โสดและเขาก็ยังเชื่อว่าลึกๆ มีนก็คงมีความรู้สึกดีๆ หลงเหลือให้เขาอยู่บ้าง (หรือเขาคิดไปเอง) ขอเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนแล้วกันเพื่อเรียกความมั่นใจ"ร้านนี้มีเมนูแนะนำไหมครับ"โฮปเอ่ยขึ้นมาลอยเมื่อเจ้าของร้านเดินก้มหน้าก้มตาดูออเดอร์ในมือและกำลังจะเดินผ่านหน้าเขาไป"คุณ.."มีนเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อได้ยินเสียงลูกค้า แต่เจ้าของเสียงนั้นเป็นคนที่เขารู้จักดี"สั่งอาหารหน่อยครับ"โฮปพูดพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม"ได้ครับเดี๋ยวผมให้เด็กเอาเมนูมาให้""ขอบคุณครับ มีนนั่งกินด้วยกันไหม"เขาเอ่ยชวนถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลายุ่งๆ แบบนี้อีกฝ่ายมักจะไม่ได้ทานทั้งข้าว ถึงทานก็ไม่ค่อยได้กินเป็นเวลา"ไม่เป็นไรครับ ผมทำงานอยู่ เชิญตามสบายเลย"พูดเสร็จมีนก็เดินหนีเข้ามาหลังร้าน"ช่วงนี้คุณโฮปเขามาบ่อยนะครับ"พนักงานรับกระดาษเมนูอาหารของลูกค้าจากมีนมาถือไว้"ถ้าไม่ได้มาสร้างความวุ่นวายอะไรก็ปล่อยเขาไป เหมือนเป็นลูกค้า" มีนหันไปบอกพนักงาน"ครับ""ผมฝากด้วยแล้วกันนะ""ไม่มีปั
"ไงมึง คืบหน้าบ้างไหม" ปราบกับคิง ถือเครื่องดื่มออกมาจากด้านในแล้วจัดวางจนเต็มโต๊ะ"นี่กะเมากันแต่หัววันเลยหรือไง ไหนมึงบอกกูทริปทำบุญ"โฮปไม่ได้สนใจประโยคคำถามจากพวกมัน แต่แซะเพื่อนทั้งสองกลับแทน บอกจะมาทำบุญเขาก็คิดว่าจะเพลาๆ เรื่องแบบนี้ที่ไหนได้มาทำบุญแต่ยังคงสันดานเดิม"ทำบุญก็ส่วนทำบุญ ทำจบแล้วก็เป็นเรื่องของการพักผ่อนแล้วไหมวะ"ปราบเหลือบตามองเพื่อนพร้อมหยักไหล่ให้ไปทีหนึ่ง"กูว่าจุดประสงค์หลักของมึงสองคนไม่ได้กะจะมาวัดแน่ๆ"โฮปเบ้ปากส่ายหน้า"ใครบอกมึงว่ากูสองคนอยากมาไหว้พระ""นั่นดิ นู้นเรื่องไหว้พระความคิดฟาร์มัน"คิงบุ้ยปากไปหาแฟนตัวเองที่นั่งอยู่กลับกลุ่มเพื่อน อยู่ๆ แฟนเขาก็ชวนมาทำบุญ"ใช่พวกกูก็แค่มาเป็นเพื่อน แล้วก็มาเปลี่ยนบรรยากาศหาที่กินเหล้าแค่นั้นเอง เบื่อจะไปผับมึงแล้ว เสียงดัง หูจะแตก""กูกะไว้แล้วแหละว่าหน้าอย่างพวกมึงเนี่ยนะจะคิดเข้าวัดทำบุญ โลกแตกพอดี""ว่าแต่พวกกู ที่มึงตกลงมาเที่ยวรอบนี้ก็ไม่ได้อยากจะไหว้พระเหมือนกันนั่นแหละ" ปราบบอกอย่างรู้ทัน แต่ก็เอาเถอะปล่อยให้มันจัดการชีวิตมันเองที่ผ่านเขาก็เห็นมันโทษตัวเองมาตลอดและไม่ยอมมีใครเลยตั้งแต่เลิกกับมีนไป (คงรู้สึ
3 วันต่อมาโฮปเข้ามาดูแลผับเหมือนปกติแต่ที่ไม่ปกติคิดจิตใจของเขานี่แหละที่พอได้ยินเรื่องราวของมีนกับผู้ชายคนนั้น อยากไปหาอยากไปดูว่าเป็นยังไงบ้างแต่ต้องข่มใจไว้เพราะไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของทั้งสอง ตอนนี้เขาก็กลายเป็นคนอื่นสำหรับมีนไปแล้ว แต่สำหรับเขามีนก็ยังเป็นคนที่เขารักเสมอมาครืน!!!“ไอ้โฮปมึงสะดวกคุยไหม” คิงเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบนิ่ง“อืม ว่ามา”"ฟาร์กับโซนจะชวนไปทำบุญเสาร์ อาทิตย์นี้ค้างคืนหนึ่งเหมารถตู้ไป""พวกมึงไปกันเลย ช่วงนี้งานกูเยอะ ไหนจะผับ ไหนจะร้านชาบูอีก ไม่ว่างไปวะ""แต่มีนไปด้วยนะ" เมื่อได้ยินว่าใครคนนั้นไปด้วย โฮปถึงกับตาเบิกกว้างใจมันเต้นแรงจนเหมือนจะกระเด็นออกมา มีเหรอว่าเขาจะพลาดทริปนี้.."กูนึกขึ้นได้ว่าเคลียร์งานเสร็จแล้ว ไปวันไหน กี่โมง"โฮปตอบอย่างร้อนรน ไม่ว่างก็ต้องว่างแล้วแหละ เดี๋ยวกลับมาเคลียร์ทีหลัง"ว่างทันทีเลยนะ"เสียงหัวเราะเล็ดลอดเข้ามาในสาย"แค่คิดว่าไปทำบุญบ้างน่าจะดี"แก้ตัวน้ำขุ่นๆ นี่แหละกู ถึงจะพูดยังไงมันก็รู้ทันอยู่แล้ว"ไม่เนียนค้าบบเพื่อน""เออน่า เอาเป็นว่ากูไปด้วย วันเสาร์นี้ใช่ไหม""ใช่ แต่กูบอกมึงไว้ก่อนนะ ถึงมีนจะเลิกกับแฟนแล้ว แต่
"พี่ไทเลอร์ รอนานไหมครับ"มีนที่มาถึงร้านเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน เขากังวลมาหลายวันเป็นห่วงความรู้สึกของอีกฝ่าย"ไม่นานครับ นั่งก่อนสิ เหงื่อเต็มเลย"ไทเลอร์มองหน้าคนอายุน้อยกว่าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อไหล่ซึมเต็มกรอบหน้า"มีนรีบมา กลัวพี่จะรอ"มีนเดินอ้อมไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม"ไม่เห็นต้องรีบขนาดนั้น มีนอยากกินอะไรไหม สั่งได้เลยนะ แต่พี่สั่งให้ไปบางอย่างแล้ว อาหารที่มีนชอบ"ไทเลอร์มีท่าทีปกติสบายๆ แตกต่างจากอีกคนที่ดูร้อนรนและกังวลเอามากๆ"พี่ไทเลอร์ครับ..เรื่องรูป""เดี๋ยวค่อยคุยกัน กินข้าวก่อนครับ""ครับ"มีนจำใจต้องหยุดเรื่องนั้นไปก่อน เหมือนไทเลอร์ยังไม่ต้องการที่จะพูดถึงตอนนี้ทั้งสองคนนั่งรับประทานอาหารกันไปเงียบๆ โดยที่ไม่ได้มีการชวนพูดคุยเหมือนเมื่อก่อน จนกระทั่งพนักงานในร้านมาเก็บจานอาหารบนโต๊ะออกไปพร้อมกับนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ"พี่ไทเลอร์ครับ..เรื่องรูปถ่ายขอโทษจริงๆ นะครับ มีนไม่ได้ตั้งใจที่จะเก็บมันเอาไว้""แต่มีนก็ไม่ได้อยากทำลายมันใช่ไหมครับ"เขาถามกลับพร้อมมองตาคนตรงหน้า คิดแล้วก็แปลกพอเขาตัดสินใจที่จะยอมแพ้ ใจเขากับโล่งสบายๆ กว่าที่เขาคิด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นพยายามยื้อความสั
"อารมณ์แบบนี้มึงยังชวนพวกกูมานั่งกินชาบูได้อีกเหรอวะไอ้มีน"ฟาร์ที่คีบหมูเข้าปากเคี้ยวแก้มตุ่ยทั้งเอ่ยถามเพื่อนไปด้วย"กูเครียดไม่รู้จะทำไง ชาบูมันเยียวยาได้นิหว่า""ข้ออ้างสุดๆ แล้วเป็นไงติดต่อพี่เขาได้หรือยัง" โซนเอ่ยถาม"ยังเลย ที่กูมานั่งเครียดไม่ใช่แค่เรื่องพี่ไทเลอร์อย่างเดียวหรอกนะ"มีนที่เริ่มเผยออกมาทีละนิด"มึงเครียดเรื่องอะไรอีก"แค่เรื่องเดียวยังเคลียร์ไม่ได้ มีเรื่องอื่นมาแทรกอีกเหรอวะ กูซักจะปวดหัวแทนมึงแล้วไอ้มีน"วันนี้กูไปเจอเฮียโฮปมา""ไอ้มีน!!ไอ้เวร!!มึงพึ่งทะเลาะกับพี่ไทเลอร์เรื่องรูปเฮียโฮปไป วันนี้มึงยังมีน่าไปนัดเจอเขาอีกเหรอ ไหนว่าไม่ได้ติดต่อกันแล้วไง" โซนโวยวายขึ้นมาทันที"มึงใจเย็นๆ ก่อนไอ้โซนกูไม่ได้ไปนัดเจอ เราแค่บังเอิญเจอกันเฉยๆ" คนหันมามองกันหมดแล้วเนี่ย (จะพูดเสียงดังเพื่อ)"บังเอิญ? กูจะเชื่อดีไหม""จริงๆ ไม่ได้โกหก กูไปหาพี่ไทเลอร์ปกตินั่นแหละไม่รู้จะไปตามหาเขาที่ไหนเลยแวะไปนั่งพักริมแม่น้ำใต้สะพานแล้วเขาก็อยู่ที่นั่นพอดี""ยังไงต่อ"ฟาร์กอดอกถาม"ก็ไม่ยังไง เราแค่คุยกันนิดหน่อย""ถ้าแค่คุยกันนิดหน่อยทำไมมึงถึงต้องเครียด"ฟาร์ถามต่อ ไม่กงไม่กินมันแล้วชาบู