วันนี้เจ้าหญิงต้องรีบตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพราะเธอมีนัดติวหนังสือกับเพื่อนๆที่โรงเรียนในตอนเช้า เพราะช่วงนี้ใกล้จะสอบจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กันแล้ว เจ้าหญิงรีบลุกขึ้นตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่ออาบน้ำชำระร่างกายก่อนที่เธอจะหยิบหนังสือและเอกสารต่างๆยัดใส่กระเป๋านักเรียนสีดำของเธอ" มาแล้วค่ะ " เจ้าหญิงวิ่งไปหาพี่อัคคีคนขับรถส่วนตัวของเธอ ซึ่งเธอได้บอกกับพี่อัคคีไปแล้วว่าวันนี้จะออกเช้ากว่าปกติ" ครับผม " อีคคีก้มหัวลงรับทราบพร้อมกับที่ทำท่าทางเลิ่กลั่ก เจ้าหญิงที่ยืนอยู่เลยมองเข้าไปในรถตู้ก็พบกับบุคคลที่สามที่เธอไม่อยากจะเจอหน้าค่าตาของเขาเลยด้วยซ้ำ" มาได้ไงคะ " เธอขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจนัก เมื่อเธอเห็นใบหน้าอันหล่อเหลานั่งไขว้ขายิ้มร่าอยู่บนรถตู้" ส่งหนูไปโรงเรียนยังไงคะ รีบขึ้นมาสิคะ เดี๋ยวสายเอานะ ^^ " บทร้ายส่งยิ้มให้เจ้าหญิง และเขาก็รู้ว่าเจ้าหญิงคงไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ได้เจอหน้าของเขา แต่จะทำยังไงได้ ตั้งแต่เขาได้รู้จักกับเด็กที่ชื่อเจ้าหญิง คำว่า...หน้าหนากว่าสิ่งใดๆ ก็อยู่บนใบหน้าของเขาแล้ว " สอบวันไหนคะ " หลังจากที่เจ้าหญิงขึ้นไปนั่งบนรถตู้ บทร้ายก็ส่งคำถาม
ณ บริษัทบทร้ายที่รู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้าหญิงทั้งหมด ทั้งเรื่องที่เจ้าหญิงสมัครเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยไหน หรือแม้กระทั่งการที่เธอเข้าเรียนที่คณะนิเทศศาสตร์ และเป็นคณะที่เขาไม่อยากจะให้เจ้าหญิงเรียนมันเลยด้วยซ้ำ แต่เจ้าหญิงก็ดันดื้อดึงยื่นสมัครเรียนที่คณะนี้อย่างไม่ปริปากบอกเขาเลยสักคำ !!" ไอ้กันต์!!!! " บทร้ายที่กำลังหัวเสียขั้นรุนแรงตะโกนเรียกลูกน้องเสียงดังลั่นห้องทำงานโถงใหญ่ขึ้นมาทันที" ครับนายท่าน " กันต์รีบเปิดประตูเข้ามาทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่ดูดุดันของนายท่านของเขา ซึ่งเขาดูออกว่าตอนนี้นายท่านของเขากำลังโมโหเป็นอย่างมาก! ปังงงงง!!!" บอกให้ไอ้อัคคีพาเจ้าหญิงมาหาฉันที่บริษัทเดี๋ยวนี้และตอนนี้!! " บทร้ายลุกขึ้นยืนและตบโต๊ะเสียงดังอย่างแรง แต่ดีที่ห้องทำงานของเขาอยู่ชั้นบนสุด และไม่มีพนักงานคนไหนสามารถเข้ามาเดินเพ่นพ่านอยู่แถวนี้ได้สักคนถ้าเขาไม่ได้รับอนุญาต!" รับทราบครับนายท่าน " กันต์ก้มหัวเล็กน้อยและรีบต่อสายหาอัคคีคนขับรถคนสนิทหรือบอดี้การ์ดส่วนตัวของเจ้าหญิงทันที พอได้รับคำสั่งจากนายท่าน กันต์ก็เอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงและกดเบอร์โทรหา อัคคี ทันทีอย่าง
" ว่ายังไงคะ " บทร้ายที่เห็นเด็กสาวยืนนิ่งเงียบไปไม่ยอมตอบอะไรกลับเขามาเลยสักคำ มันก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที " หนู... " เจ้าหญิงทำท่าทางอ้ำๆอึ้งๆ ด้วยความคิดหนัก จะให้เธอกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหมอย่างนั้นเหรอ แต่ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขามันเปลี่ยนไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่คืนนั้น คืนที่เธอไม่อยากจะจดจำมันมากที่สุด แต่แล้วจู่ๆจะให้เธอลืมเรื่องนี้ไปเลยมันจะทำได้ยังไงกัน " ได้ไหมคะ " บทร้ายขอร้องเด็กสาวด้วยแววตาที่เขาเองก็ไม่เคยจะทำแบบนั้นมาก่อน เขาแคร์และเอ็นดูเด็กน้อยคนนี้เป็นอย่างมาก " ก็ได้ค่ะ แต่คุณบทร้ายจะให้เจ้าหญิงเรียนคณะนี้ได้ใช่ไหมคะ " เจ้าหญิงที่คิดหนักอยู่นานก็ยอมตอบตกลงกับเขาไป เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดกับเธอในตอนนี้ก็คือเรื่องเรียน ถ้าเขาไม่เห็นด้วยขึ้นมา คนที่จะลำบากก็คงจะหนีไม่พ้นนั่นก็คือเธอนั่นเอง " มานี่สิ " บทร้ายตบหน้าตักของตัวเองทันที เมื่อเจ้าหญิงยอมเอ่ยปากว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม " หนูโตแล้วนะคะ จะให้หนูไปนั่งบนตักคุณแบบนั้นไม่ได้ค่ะ " เจ้าหญิงใช้เหตุผลในการอธิบายกับเขาไป แต่เหมือนคนที่ฟังจะไม่ได้เข้าใจอะไรเธอเลยสักนิด" แล้วยังไงคะ พี่ชอบแบบนี้ "
" ไปเรียกไอ้อัคคีมาหาฉัน " บทร้ายสั่งกันต์ที่ยืนเฝ้ายามอยู่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่เสียงเข้ม เมื่อเขาส่งเจ้าหญิงกลับไปที่บ้านหลังเล็กสีขาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" ครับนายท่าน " กันต์ก้มหัวรับทราบในคำสั่ง และเขาก็คิดอยู่ในใจว่าทำไมนายท่านของเขาถึงสั่งให้อัคคีไปพบเขาด้วยตัวเอง เพราะปกติเขาจะสั่งงานผ่านเขาเองให้ไปแจ้ง แต่รอบนี้นายท่านกลับเรียกอัคคีไปพบด้วยตัวเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน" ครับนายท่าน " อัคคีเดินเข้ามาหาผู้เป็นนายท่านตามคำสั่ง" ตามกูมา " บทร้ายเดินนำหน้าเขาไปยังห้องเชือด ทำให้อัคคีที่เดินตามหลังมาถึงกับใจหล่นวูบไปยังตาตุ่ม เขายังไม่ได้ทำงานอะไรผิดพลาดเลย ทำไมจู่ๆนายท่านถึงพาเขาไปยังห้องเชือดกัน " จับมันล่ามโซ่ " บทร้ายหันหน้าไปสั่งลูกน้องอีกสองคนที่ยืนรออยู่ก่อนแล้วด้วยน้ำเสียงที่ดูนิ่มนวล แต่ฟังยังไงกับน้ำเสียงนั้นมันก็ยังดูน่าขนลุกอยู่ดี กันต์ที่ยืนมองอยู่ข้างๆถึงกับงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่เขาก็ไม่กล้าปริปากเอ่ยถามออกไปแต่อย่างใด" นะ นายท่าน ผมทำอะไรผิดเหรอครับ " อัคคีที่โดนโซ่ตึงและล็อกแขนเอาไว้ทั้งสองข้างด้วยท่าทางยืนและยกมือขึ้นสองข้างด้วยโซ่ถามผู้เป็นนายท่านออกมาด้วยน้ำ
วันสอบเจ้าหญิงที่อยู่ในชุดนักศึกษาครั้งแรกวิ่งออกมาจากบ้านหลังเล็กสีขาว เพราะวันนี้เป็นวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเธอ " พี่อัคคี " เจ้าหญิงวิ่งไปหาอัคคีที่ยืนรออยู่ข้างรถตู้ทันที อัคคีที่เห็นเด็กสาวกำลังวิ่งเข้ามาหาเขาก็ฉีกยิ้มกว้างให้กับเด็กสาวเฉียดเช่นที่เคยทำในทุกๆครั้ง " คุณ... " เมื่อประตูรถตู้เปิดออกเด็กสาวก็เห็นบทร้ายนั่งรอเธออยู่บนรถก่อนแล้ว " เห็นว่าวันนี้คุณติดประชุมนี่คะ " เมื่อเด็กสาวขึ้นไปนั่งบนรถตู้เธอก็เอ่ยถามกับเขาในทันที เพราะเธอรู้ว่าวันนี้เขาติดประชุม เพราะเธอจะรู้ตารางงานของบทร้ายเป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นคนที่อนุญาตให้เธอดูตารางงานของเขาทั้งหมดด้วยตัวเอง" วันนี้พี่จะไปเป็นกำลังใจให้เด็กไงคะ ^^ " บทร้ายส่งยิ้มหวานให้กับเด็กสาวพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบผมของเธอเบาๆ อย่างหลงใหลวันนี้เจ้าหญิงแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาซึ่งแน่นอนว่าเขาเป็นคนพาเธอไปซื้อชุดนักศึกษาและเลือกให้เธอเองกับมือ เขาให้เธอซื้อแต่กระโปรงพลีทเลยเข่าให้กับเจ้าหญิงและเสื้อนักศึกษาตัวใหญ่กว่าตัวเจ้าหญิงเพิ่มอีก เพราะเขาไม่อยากให้ใครเห็นทรวดทรงองเอวของคนของเขามากนัก ส่วนเจ้าหญิงก็เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย เขาสั่งแ
พอถึงวันประกาศผลสอบแน่นอนว่าเจ้าหญิงและเพื่อนๆของเธอได้สอบติดและเข้ามหาวิทยาลัยและคณะเดียวกันครบทุกคนตามที่พวกเธอได้ตั้งใจกันเอาไว้" พวกเราจะไม่มีวันแยกจากกัน " เจ้าหญิงที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะหนังสือและเธอก็ได้วิดีโอคอลหาเพื่อนๆอีกสามคนของเธอในเครื่อง ipad พวกเธอคุยกันอย่างดีอกดีใจที่ทุกคนต่างพากันสอบผ่านและได้เรียนที่เดียวกันอีกครั้ง " จะตามติดฉันไปทุกที่เลยหรือไง " เมื่อหมวยพูดคำนั้นออกมา ต่อเพื่อนชายอีกคนก็พูดแกล้งเพื่อกวนประสาทหมวยขึ้นมาเล่นๆ ตลอดระยะเวลาที่พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันมันดูเหมือนเป็นคู่กัดกันมากกว่าเพื่อนแก็งค์เดียวกันแท้ๆเลย ฮ่าๆๆ :D" แล้วเจ้าหญิงทำอะไรอยู่ " เถวะที่อยู่ในสายวิดีโอคอลเหมือนกันถามเจ้าหญิงขึ้นมา เมื่อเขาเห็นเธอมีท่าทางกำลังหาของอะไรบางอย่างอยู่" หาของน่ะ แปปนึงนะ " เจ้าหญิงลุกขึ้นยืนและเดินไปหาของที่เธอต้องการ เธอจำได้ว่าเธอวางไว้ในบ้านนี่น๊า แต่เธอดันลืมไปซะได้ว่าวางไว้ตรงไหน" เอ๊ะ! หรือว่าอยู่กับคุณบทร้าย " เจ้าหญิงที่กำลังเดินหาเอกสารบางอย่างของเธออยู่พูดขึ้นมาเบาๆคนเดียว " แต่ยังไม่ได้บอกคุณบทร้ายเลยนี่น๊าว่าเราสอบติดแล้ว " เมื่อเจ้าหญิงค
“ ตกใจอะไรขนาดนั้นคะ หนูก็เคยเห็นของ...พี่หมดแล้วนี่คะ ” บทร้ายแสยะยิ้มร้ายออกมา ทั้งสีหน้าและแววตาบ่งบอกได้ชัดเจนเลยว่าเขาต้องการจะทำอะไรนอกจากนี้“ กะ ก็ หนูไม่ได้เห็นบ่อยๆนี่คะ -///- ” เจ้าหญิงยกมือขึ้นลูบผมตัวเองอย่างเขินอาย ตอนนี้เธอก็ไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเธอเองเลยว่าเธอคิดยังไงกับคนตรงหน้าของเธอกันแน่ แต่ความรู้สึกที่ชัดเจนที่สุดของเธอ ณ ตอนนี้ก็คือ..ใช้หนี้ และออกไปจากที่นี่ ที่เพนท์เฮ้าน์หลังใหญ่แห่งนี้ “ เข้ามาสิคะ ยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น ” บทร้ายเอื้อมมือใหญ่ยาวของเขาจับไปข้อมือเล็กของเจ้าหญิง พร้อมกับจูงคนตัวเล็กเดินเข้ามาที่ห้องนอนของตัวเองอย่างอ่อนโยนในใจของบทร้ายก็คิดถึงแต่เด็กหนุ่มหน้าตี๋ที่ชื่อเถวะ แต่จะทำอะไรได้ ตอนนี้เขายังไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรทั้งนั้น คนที่เจ้าหญิงสนิทด้วยทุกคนเขาไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องสักคน ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากทำ แต่เขากลัว กลัวเจ้าหญิงจะรู้ รู้ว่าเขาร้าย สมชื่อ..บทร้าย ขนาดไหน ! เขาเลยปล่อยเลยตามเลยไปก่อน ยอมๆไปก่อน แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ทำอะไรเลย “ อ๊ะ ” บทร้ายผลักเจ้าหญิงให้นั่งลงบนปลายเตียงขนาดใหญ่ พร้อมกับที่เขายืนอยู
ส่วนด้านหน้ารถตู้ คนขับรถจะเป็นอัคคีพี่ชายคนสนิทของเจ้าหญิง คนนั่งเบาะด้านซ้ายข้างคนขับก็จะเป็นพี่กันต์บอดี้การ์ดคนสนิทของคุณบทร้าย และจะมีรถบอดี้การ์ดอีก 3-4 คัน ที่ขับตามหลังมา มันทำให้เจ้าหญิงรู้สึกอึดอัด ไปเที่ยวไหนก็ต้องมีบอดี้การ์ดตามไปด้วย ปกติเธอจะมีแค่พี่อัคคีที่คอยขับรถรับส่งเธอไปโรงเรียน “ ทำไมคุณต้องเอาบอดี้การ์ดมาเยอะแยะล่ะคะ เจ้าหญิงอึดอัดจัง ” เธอหันหลังไปมองรถที่ขับตามหลังมา 3-4 คัน แล้วเอ่ยถามคุณบทร้ายขึ้นอย่างอยากรู้คำตอบ“ หนูแต่งตัวชิวๆแบบนี้ดูน่ารักไปอีกแบบนะคะ ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเลย ” บทร้ายเฉไฉนแกล้งพูดเรื่องอื่น เพราะเขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้กับเด็กน้อยคนนี้ยังไงดีถ้าเขาบอกเธอว่ามีบอดี้การ์ดเยอะๆ เพื่อป้องกันอันตรายจากศัตรูหรือคู่แข่งทางธุรกิจมันก็ดูจะน่ากลัวเกินไปสำหรับเจ้าหญิง ถ้าเธอรู้เช่นนั้น ต่อไปเธออาจจะไม่อยากไปไหนมาไหนกับเขาอีกแล้วก็ได้ สำเพ็ง“ ถึงแล้ววววว ” เจ้าหญิงกระโดดลงรถตู้โดยที่อัคคีเป็นคนเปิดประตูรถให้เฉียดเช่นทุกครั้งกึก กึก บทร้ายก้าวขาลงมาตามหลังเจ้าหญิงติดๆ เขามองไปรอบๆก็มีแต่สินค้าอะไรก็ไม่รู้ปัญญาอ่อนไปหมด กระเป๋าก็ของก็อปทั้งนั้น ค
1 สัปดาห์ผ่านไปวันนี้เป็นวันประกวดดาว-เดือน เจ้าหญิงอยู่หลังเวลาเพื่อเตรียมตัวในการแสดงและประกวด ส่วนเพื่อนๆของเจ้าหญิงนั่งรอชมความสวยของเจ้าหญิงติดหน้าเวทีเลย เพราะพวกเธอรีบมาจองที่ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะกลัวจะไม่ได้เห็นหน้าเจ้าหญิงชัดๆ หน้าเวทีจะมีเวทีที่อลังการอยู่ด้านหน้า มีจอใหญ่ขึ้นรูปดาวและเดือนของแต่ละคณะเพื่อโชว์ว่ามีใครเข้าประกวดดาวเดือนในครั้งนี้บ้าง ส่วนตรงกลางจะเป็นพรมสีแดงปูเอาไว้เพื่อให้ดาว-เดือน เดินโชว์ตัวและทำการแสดง ส่วนโซฟาสีแดงด้านหน้าซ้ายมือจะเป็นโซฟาที่นั่งของท่านผู้บริหารมหาวิทยาลัยหรือเจ้าของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งนี้นี่เอง แต่ท่านผู้บริหารไม่ได้มีสิทธิลงคะแนนเสียงแต่อย่างใด แต่มาเพื่อให้เกียรติเปิดงานในกิจกรรมในครั้งนี้ ส่วนถัดไปจะเป็นคณะกรรมการหรืออาจารย์เพื่อลงคะแนนการประกวดดาว-เดือน “ วันนี้เจ้าหญิงน่าจะสวยที่สุด ” หมวยพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น เพราะเพื่อนรักของเธอทั้งสวย น่ารัก มีเสน่ห์ มีความสามารถ เรียนก็เก่ง แถมนิสัยก็ดีมากๆ นางฟ้านางสวรรค์ลงมาเกิดบนโลกมนุษย์แท้ๆเลย ^^“ แล้วไอ้ต่อไปไหนแล้วเนี่ย!? ” หมวยหันหน้าไปถามเถวะที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าไม่ติดว่าต้องมาดูเจ
บทร้ายจับขึงตัวเจ้าหญิงให้แนบกับแผ่นกระจกใสบานใหญ่พร้อมกับที่เขาถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ของเขาออกด้วยมือเดียวอย่างชำนาญ เขาถอดเนคไทแล้วเสื้อเชิ้ตและเข็มขัดพร้อมกับกางเกงสแลคสีดำออกอย่างง่ายดาย“ อื้ออออ ” เสียงครวญครางในลำคอของบทร้ายครางออกมาด้วยความทรมานเพราะเขามีความต้องการมาก เขาอยาก...ในขณะที่เขากำลังรีบเร่งถอดเสื้อผ้าออกเปี๊ยะ!!!บทร้ายตีเข้าไปที่ก้นขาวงอนของเจ้าหญิงอย่างแรงจนแดงไปทั้งแก้มก้นทั้งสองข้าง บทร้ายเริ่มบรรเลงรักเร่าร้อนท่ามกลางผู้คนนับร้อยคนที่อยู่ด้านล่าง “ อื้ออออ อ๊าาาา ” เจ้าหญิงร้องครางออกมาด้วยความเสียวเมื่อบทร้ายคุกเข่าเลียไปที่ก้นงอนของเธอ เขาใช้ลิ้นเลียไปรอบๆแก้มก้นทั้งสองข้างพร้อมกับเลียไปที่รูเล็กตรงกลาง “ อ๊ะ อ๊าาา ” เจ้าหญิงที่พึ่งเคยโดนเลียตรงจุดนั้นถึงกับขมิบเบาๆ “ สะ เสียวค่ะ ” เจ้าหญิงพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าด้วยความเสียว บทร้ายที่ได้ยินคำว่าเสียวของเจ้าหญิงเขายิ่งใช้ลิ้นเลียวนและตวัดไปมาตรงกลางรูนั้นอย่างเพลิดเพลิน “ ร่างกายหนู ตรงส่วนไหนก็หอมหมดเลยนะคะ ” บทร้ายพูดพลางสูดดมบริเวณก้นงอนไปด้วยบทร้ายดันตัวของเจ้าหญิงให้แอ่นก้นมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อที่เขาจะเล
“ อ๊ะ ” เจ้าหญิงผลักหัวบทร้ายออกทันที เมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาจะซุกตรงหน้าอกนุ่มนิ่มของเธอ“ ไม่กลับไปทำที่บ้านเหรอคะ ” เจ้าหญิงถามด้วยน้ำเสียงตกใจ ตรงนี้คนเยอะแยะเลย มองออกไปผ่านกระจกใสก็เห็นคนนับร้อยคนยืนเต้นและดื่มกันอยู่ด้านนอก “ ตรงนี้แหล่ะค่ะ ” บทร้ายพูดพลางเอาหน้าซุกเข้าไปตรงหน้าอกนิ่มของเจ้าหญิงผ่านเสื้อยืดสีขาวของเธอพร้อมกับสูดดมกลิ่นเสื้อหอมๆจากน้ำยาปรับผ้านุ่มและกลิ่นกลายหอมละมุนจากผิวหนังของเธอ“ ตะ แต่ ” เจ้าหญิงหันซ้ายหันขวาอย่างหวาดระแวง “ ไม่มีใครเห็นและรบกวนเราหรอกค่ะ สบายใจได้ ” บทร้ายพูดพร้อมกับเอามือลูบต้นขาเรียวเล็กขาวเนียนไปด้วย “ หอมจังเลย ” บทร้ายสูดดมไปที่ซอกคอของเจ้าหญิงทั้งสองข้างพร้อมกับเอามือจับเสื้อยืดสีขาวของเจ้าหญิงถกขึ้นสูงให้พ้นเหนือหัวเล็กเพื่อจะถอดมันออก “ วันนี้ทำไมใส่ปิดจุกนมล่ะคะ ” บทร้ายเห็นเต้านมสองเต้าเด้งดึ๋งๆ เห็นแล้วหน้าบีบหน้าขย้ำยิ่งนัก“ นะ หนูรีบมาหาคุณค่ะ เลยหยิบจุกนมมาปิดเอาไว้สะดวกกว่าค่ะ ” เจ้าหญิงตอบน้ำเสียงสั่นเครือด้วยอาการเสียวซ่านไปทั้งตัว เพราะบทร้ายตอนนี้เขาได้ก้มลงใช้ลิ้นเลียไปรอบเต้านมทั้งสองข้างของเจ้าหญิง เลียวนไปรอบๆ ทั
“ หนูขอเวลาได้ไหมคะ ? ” “ ครับ ” บทร้ายทำหน้าหงอยอีกรอบเมื่อเขาได้ยินคำพูดนี้จากปากของคนที่เขารักและหวงแหนเป็นที่สุด“ หนูขอเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนค่ะ ขอเวลาให้หมดสัญญาขัดดอกก่อน ” บทร้ายอึ้งหนัก เขาจ้องหน้าเจ้าหญิงพร้อมกับแววตาที่เศร้าหมอง เธอต้องการจะสื่ออะไร หมดสัญญาแล้วเธอจะไปจากเขาอย่างนั้นเหรอ“ ทะ ทำไมคะ ” บทร้ายถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาพยายามกลั้นความรู้สึกที่อ่อนแอของเขาให้ถึงที่สุด เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ความรู้สึกที่จะต้องสูญเสียคนที่ตัวเองรักมากเป็นครั้งที่สาม“ ตอนนี้หนูอยู่กับคุณในฐานะเด็กขัดดอกใช้หนี้ให้พ่อเลี้ยง หนูไม่กล้าที่จะอาจเอื้อมคบกับคุณเป็นแฟนหรอกนะคะ ถ้าวันนึงเกิดมีคนรู้เรื่องนี้ขึ้นมาเยอะขึ้นหนูว่าหนูจะต้องเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงแน่ๆเลยค่ะ อ่ะ อีกอย่างหนูเรียนคณะนิเทศศาสตร์เพื่อที่อยากจะเป็นนักแสดง ตะ แต่ถ้าวันไหนมีคนเกิดรู้เรื่องหนี้เข้าล่ะก็... ” เจ้าหญิงอธิบายเหตุผลของเธอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเช่นเดียวกัน เห็นเธอสดใส ร่าเริง ยิ้มแย้มตลอดเวลา เธอก็แอบคิดถึงเรื่องนี้เป็นประจำ ถ้ามีคนรู้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม แบบนี้เธอจะสามารถทำอาชีพที่เธออยากทำแ
“ คิดถึงจัง ” บทร้ายพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเจ้าหญิงอย่างน่ารักพร้อมกับที่เขาเอนหัวพิงไหล่เล็กของเจ้้าหญิงเบาๆ“ อะ อะไรนะคะ 0.0 ” เจ้าหญิงเบิกตาโพลงโตกับคำพูดที่เธอได้ยินเมื่อครู่นี้ ในส่วนของธันวาก็ยังตกใจกับคำพูดของเพื่อนสนิทของเขา เพราะเขาไม่คิดว่าการแสดงของบทร้ายจะเนียนมากขนาดนี้ และการแกล้งเมาทำให้เขาใจกล้าเพื่อที่จะพูดสิ่งที่อยู่ภายในใจของเขาออกมาจนหมด“ คิดถึงครับ ตั้งแต่หนูเริ่มโตเป็นสาว เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว มีเพื่อนฝูง คนรู้จักหนูเพิ่มขึ้นเยอะแยะ หนูก็ลืมพี่ไปแล้ว ” บทร้ายที่ยังเอนหัวพิงไหล่เล็กของเจ้าหญิงเขาได้พูดออกมาหมดในสิ่งที่เขาอัดอั้นในใจมานาน จนเจ้าหญิงกับธันวามองหน้ากันด้วยความตกอกตกใจจริงๆ “ เอ่อ..หนูไม่ค่อยมีเวลาก็จริงค่ะ แต่หนูก็ไม่เคยลืมคุณเลยนะคะ ” เจ้าหญิงพยายามอธิบายและเอามือน้อยๆของเธอลูบไปที่ไหล่กว้างเบาๆเพื่อปลอบโยนคนเมาแล้วมีอาการงอแงณ ตอนนี้เจ้าหญิงคิดว่าคุณเขาเมาหนักมากๆแล้วอาจจะพูดอะไรเรื่อยเปื่อยเพราะอาการเมา อาจจะมีบางคำพูดที่เขาพูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ“ พี่พูดความจริงนะ ถึงพี่จะเมาพี่ก็มีสติ ” บทร้ายพูดออกมาอีกครั้งเหมือนเขาได้ยินความในใจของเจ้าหญิง
เพนท์เฮ้าสน์ตอนนี้เป็นเวลา 4 ทุ่มเกือบจะ 5 ทุ่มแล้ว เจ้าหญิงพึ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จด้วยชุดนอนผ้าลื่นสายเดี่ยวสีแดงสดขับกับสีผิวที่ขาวของเธอพร้อมกับปล่อยผมยาวสีทองที่พึ่งไปย้อมมาใหม่จนถึงก้นงอน เพื่อใช้ประกวดดาว-เดือนโดยเฉพาะ เพราะช่วงนี้เธอซ้อมประกวดดาว-เดือน อย่างหนักเพราะสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มแข่งขันแล้ว เพราะการประกวดดาว-เดือน จะซ้อมได้แค่หลังเลิกเรียนและวันหยุดเพียงเท่านั้น เพราะเวลาปกติ 08.30 - 16.30 น. เป็นในเวลาการเรียน “ คุณนอนหรือยังนะ ทักไลน์ไปถามดีกว่า ” เจ้าหญิงเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะหนังสือเข้าแอพไลน์และทักหาเขาในทันทีBR ชื่อไลน์เมื่อเจ้าหญิงเลื่อนเจอชื่อไลน์ของบุคคลที่เธอจะทักหาเธอก็เข้าแชทเขาอย่างไม่รีรอ แต่ทว่า...ไลน์ เสียงข้อความไลน์ของเธอดันดังมาซะก่อน พอเธออ่านรายชื่อบุคคลที่ทักหาเธอ มันก็คือบุคคลเดียวกันที่เธอกำลังจะทักหาอยู่พอดี BR ส่งรูปภาพเจ้าหญิงกดเข้าไปดูรูปภาพที่บุคคลดังกล่าวส่งมาเธอถึงกับตกใจตาโพลงโต 0.0“ คุณ เป็นอะไรคะเนี่ย! ” เจ้าหญิงพูดพึมพำคนเดียวก่อนจะพิมพ์แชทถามกลับไป“ ใครเป็นคนเล่นโทรศัพท์มือถือคุณคะ คุณอยู่ที่ไหนเหรอคะ ” เจ้าห
ซ่าาาาาาาาา เสียงฝนตก บนรถ ในขณะที่หมวยและกันต์ก้าวขาขึ้นรถเก๋งคันสีขาว ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ภายในรถยนต์ที่ขับฝ่าสายฝนไปตามถนนเงียบสงบ เสียงปัดน้ำฝนดังเป็นจังหวะเนิบๆ ” อุ้ยฝนตก ขอบคุณมากนะคะพี่กันต์ ” หมวยพูดขึ้นในที่สุดเพื่อไม่ให้บรรยากาศในรถเงียบตึงกันเกินไป เพราะจะทำให้คนสองคนภายในรถพลอยอึดอัดกันไปด้วย หมวยยกมือไหว้กันต์ เพราะตอนนี้เธอได้นั่งอยู่เบาะข้างๆคนขับ ดีนะที่มีพี่กันต์ไปส่งที่หอพัก ไม่อย่างงั้นเธอคงเปียกปอนแน่นอนเลย เพราะเวลาเธอเรียกรถให้มารับบนแอพในโทรศัพท์มือถือเธอจะเรียกพี่คนขับเป็นมอเตอร์ไซค์ตลอด “ ครับ ” กันต์บุคคลที่ไม่ค่อยพูดค่อยจา ยกเว้นกับนายท่านของเขา ตอบได้แค่ ครับ คำเดียว เพราะเขาไม่ค่อยได้คุยกับใครเลย ยกเว้นกับนายท่าน และบรรดาเหล่าลูกน้อง พนักงาน บอดี้การ์ด ในเครือของบทร้าย และส่วนมากก็มีแต่การพูดคุย เจรจากันในเรื่องงานเท่านั้น เขาจึงไม่รู้ว่าการสนทนาแบบคนปกติมันเป็นแบบไหน “ เอ่อ เลี้ยวซ้ายซอยด้านหน้านี้เลยค่ะ ” หมวยชี้นิ้วบอกทางไปหอพักเธอกับกันต์ ส่วนกันต์ไม่พูดไม่จาอะไรเลย เขาเพียงแต่ใช้ความเงียบแทนคำตอบ ( แก๊งค์มาเฟียขี้เก๊กทุกคนห
มหาวิทยาลัย หลังจากที่เจ้าหญิงฝึกซ้อมดาว-เดือน เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ปาเข้าไปเป็นเวลาเกือบจะ 4 ทุ่มอยู่แล้ว ส่วนด้านต่อในตอนนี้เขาก็ได้กลับบ้านไปก่อนเพื่อนแล้ว เพราะต่อต้องมีเอกสารกิจกรรมที่จะต้องทำเยอะแยะไปหมด ก็คนเขาได้เป็นประธานรุ่นอ่ะเนาะ ทำไงได้ ฮ่าๆๆๆๆ “ เหนื่อยไหม ” เถวะรีบลุกขึ้นยืนจากอัศจรรย์อีกด้านทันทีเมื่อเขาเห็นเจ้าหญิงเดินมาทางนี้ เจ้าหญิงในชุดนักศึกษา แต่ครั้งนี้เจ้าหญิงใส่กระโปรงนักศึกษาสั้นแต่พอเข่าจึงทำให้แปลกหูแปลกตาไปบ้าง “ หวานซ่อนเปรี้ยวจริงๆ เพื่อนสาวคนสวยของหมวย ” หมวยเอ่ยชมเพื่อนสาวคนสนิททันทีเมื่อเธอเดินมาถึง “ ชมกันเกินไปน๊าาาา ” เจ้าหญิงตอบด้วยรอยยิ้มอย่างเขินๆ “ แล้วกลับยังไง ” เถวะที่เก็บสัมภาระของเจ้าหญิงใส่ลงในกระเป๋าเป้ให้เธอถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าปล่อยให้กลับเองคนเดียวมีหวังคงเป็นอันตรายเป็นแน่ “ ก็ต้องคุณบทร้ายให้เอารถมารับ มาส่ง เหมือนเดิมสิ ” หมวยตอบแทน แต่ตอนนี้พวกเธอยังไม่เห็นรถตู้คันสีดำคันเดิมที่มารอรับเจ้าหญิงเลยสักคัน “ เอ๋ แล้วพี่อัคคีไปไหนนะ ทำไมไม่มารอเจ้าหญิง ” เจ้าหญิงพึมพำเบาๆ แต่เพื่อนสนิททั
เพนท์เฮ้าส์“ เป็นยังไงบ้างคะ ไปมหาวิทยาลัยครั้งแรก ” บทร้ายที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารสีทองอร่ามถามเจ้าหญิงขึ้นพร้อมกับหั่นสเต๊กเนื้อราคาแพงในมือ“ ก็โอเคดีนะคะ เพื่อนๆพี่ๆ ใจดีกันทุกคนเลยค่ะ ” เจ้าหญิงตอบพร้อมกับหั่นสเต๊กในมือเช่นเดียวกัน หลังจากเลิกเรียนในวันแรก อัคคีก็ขับรถตู้คันสีดำมาจอดรอเจ้าหญิงหน้าตึกคณะนิเทศศาสตร์เพื่อที่จะไปรับเจ้าหญิงเหมือนที่เคยขับรถไปรับไปส่งเจ้าหญิงที่โรงเรียนเช่นเคย พอถึงเพนท์เฮ้าส์เจ้าหญิงก็ไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านหลังเล็ก หลังจากนั้นเจ้าหญิงก็ไปทานข้าวที่บ้านหลังใหญ่กับคุณบทร้าย“ ดีแล้วค่ะ ” บทร้ายหั่นสเต๊กเข้าปาก“ คุณดูเครียดๆนะคะ เป็นอะไรหรือเปล่า? ” เจ้าหญิงมองเขาออกตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่แล้ว สีหน้าและแววตาของเขาดูเครียดๆ ไม่สดใสเอาเสียเลย“ เครียดเรื่องธุรกิจนิดหน่อยค่ะ ไม่ต้องห่วงนะ ” บทร้ายตอบเจ้าหญิงอย่างไม่ปิดบังและเขาก็ส่งยิ้มกลับไปให้เธอ เพราะกลัวเธอจะเป็นกังวล “ อย่าเครียดเลยนะคะ บนโลกใบนี้เจ้าหญิงเชื่อว่าประตูมี 2 ด้านค่ะ ก็เหมือนกับมนุษย์เราที่มีนิสัย 2 ด้าน ” เจ้าหญิงพยายามที่จะพูดให้กำลังใจคุณบทร้าย “ หึๆ ” บทร้ายหัวเราะออกมาในลำ