Masukฉันที่กำลังเลิกเรียนและยืนรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์ที่หน้าโรงเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน แต่จู่ๆ ก็มีกลุ่มผู้ชายชุดดำฉุดฉันขึ้นไปบนรถตู้ทันที " กรี๊ด! " ฉันกรี๊ดร้องเสียงดัง ซึ่งตอนนี้ที่ป้ายรถเมล์ไม่มีคนอยู่สักคนเลย เพราะทุกคนทำกิจกรรมกีฬาสีอยู่ในโรงเรียนกันหมด เลยยังไม่มีใครออกมานอกโรงเรียน ฉันโดนฉุดกระชากลากถูให้ขึ้นไปบนรถตู้คันสีดำ ฉันดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด เพราะผู้ชาย 2 คนล็อกแขนทั้งสองข้างของฉันเอาไว้แน่น ฉันที่มีแรงเท่ามดตะนอยจะไปสู้แรงพวกเขาได้ยังไง " พวกคุณเป็นใคร ปล่อยหนูนะ ปล่อยหนู " ฉันที่ตอนนี้ตื่นตะหนกเป็นอย่างมาก และร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว " เรียบร้อยครับท่าน " ผู้ชายอีก 1 คนพูดกับใครก็ไม่รู้และเขาก็ปิดประตูรถตู้ทันที " หึ " ฉันที่ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเลยหันหลังไปดูต้นเสียงที่เบาะด้านหลังของฉันทันที " ขะ คุณเป็นใครคะจับหนูมาทำไม ปล่อยหนูเถอะนะคะ หนูอยากกลับบ้าน " ฉันที่ตอนนี้ตัวสั่นเทา น้ำตาไหลอาบแก้ม หันไปยกมือไหว้ขอร้องอ้อนวอนผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะหลัง
Lihat lebih banyakฉันที่กำลังเลิกเรียนและยืนรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์ที่หน้าโรงเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน แต่จู่ๆ ก็มีกลุ่มผู้ชายชุดดำฉุดฉันขึ้นไปบนรถตู้ทันที
" กรี๊ด! " ฉันกรี๊ดร้องเสียงดัง ซึ่งตอนนี้ที่ป้ายรถเมล์ไม่มีคนอยู่สักคนเลย เพราะทุกคนทำกิจกรรมกีฬาสีอยู่ในโรงเรียนกันหมด เลยยังไม่มีใครออกมานอกโรงเรียน นอกจากฉันที่แม่โทรหาฉันเมื่อกี้แล้วบอกกับฉันว่าให้รีบกลับบ้านทันที ฉันเลยขอตัวกับเพื่อนๆเพื่อกลับบ้านก่อน ฉันโดนฉุดกระชากลากถูให้ขึ้นไปบนรถตู้คันสีดำ ฉันดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด เพราะผู้ชาย 2 คนล็อกแขนทั้งสองข้างของฉันเอาไว้แน่น ฉันที่มีแรงเท่ามดตะนอยจะไปสู้แรงพวกเขาได้ยังไง TT " พวกคุณเป็นใคร ปล่อยหนูนะ ปล่อยหนู " ฉันที่ตอนนี้ตื่นตะหนกเป็นอย่างมาก และร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว ฉันโดนผู้ชายทั้ง 4 คนยัดเข้าไปในรถตู้คันสีดำนั้นทันที " เรียบร้อยครับท่าน " ผู้ชายอีก 1 คนพูดกับใครก็ไม่รู้และเขาก็ปิดประตูรถตู้ทันที " หึ " ฉันที่ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเลยหันหลังไปดูต้นเสียงที่เบาะด้านหลังของฉันทันที เป็นผู้ชายผิวสองสี รูปร่างสูงน่าจะราวๆ 185 cm. มีหนวดเคราเล็กน้อย ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมออกมาประมาณ 4 เม็ด โชว์ให้เห็นซิกแพคเป็นก้อนๆ พร้อมกับสวมแว่นตาสีดำเพื่อปกปิดดวงตาของเขา " ขะ คุณเป็นใครคะจับหนูมาทำไม ปล่อยหนูเถอะนะคะ หนูอยากกลับบ้าน " ฉันที่ตอนนี้ตัวสั่นเทา น้ำตาไหลอาบแก้ม หันไปยกมือไหว้ขอร้องอ้อนวอนผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะหลัง ผู้ชายคนนั้นก็คงจะเป็นท่าน ท่านหรือเจ้านายใหญ่ของคนที่จับฉันขึ้นมาบนรถแน่ๆ " หึ " ผู้ชายคนนั้นหัวเราะออกมาเบาๆในลำคออีกครั้งโดยไม่ได้สนใจคำพูดของฉันเลยสักนิด " ที่บ้านหนูไม่มีเงินหรอกนะคะ แม่ก็แค่ขายอาหารตามสั่งร้านเล็กๆเอง ถ้าคุณจะจับหนูไปเรียกค่าไถ่หนูบอกเลยว่าบ้านหนูไม่มีเงินนะคะ แถมพ่อเลี้ยงของหนูก็ติดหนี้ด้วยค่ะ " ฉันที่ตอนนี้พูดพร่ำไม่หยุดเพื่อหาเหตุผลให้ผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะหลังปล่อยตัวฉันไป " ฉลาดพูดนี่ " เป็นคำแรกของผู้ชายคนนั้นที่ฉันได้ยินออกจากปากเขา น้ำเสียงของเขาฟังแล้วมันน่ากลัวมากเลย จนฉันที่ได้ยินเสียงของเขาครั้งแรกถึงกับต้องสะอึกด้วยความหวาดกลัวทันที " จริงๆนะคะ บ้านหนูไม่มีเงินหรอกค่ะ " ฉันยกมือไหว้บอกผู้ชายคนนั้นไปอีกรอบทันที " ได้ยินว่าพ่อเลี้ยงเธอติดหนี้ " ผู้ชายคนนั้นเขาพูดขึ้นทวนคำพูดของฉัน " ใช่ค่ะ " ฉันพยักหน้าตอบเขาไป แต่มือก็ยังยกมือไหว้เขาอยู่อย่างนั้น " ติดหนี้ใคร " เขาถามฉันขึ้นมาทันที " หนูก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมากค่ะ เห็นว่าพ่อเลี้ยงไปกู้เงินนอกระบบมา 2 ล้านบาทค่ะ เห็นว่าเจ้าหนี้เขาดุมากเลย เขาส่งคนมารุมตีพ่อเลี้ยงที่บ้านทุกวันเลยค่ะ " ฉันตอบกลับเขาไปตามที่เห็นเพื่อให้เขาสงสารฉันและปล่อยฉันไป " งั้นเหรอ แล้วรู้จักชื่อเจ้าหนี้พ่อเลี้ยงเธอไหมล่ะ " เขาถามฉันอีกครั้ง " เห็นพ่อกับแม่เคยบอกว่าชื่อ คุณบทร้ายค่ะ " ฉันตอบกลับคนที่ถามทันที . . . " หึ ฉันนี้แหล่ะบทร้าย!! "โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังถูกจัดไว้สำหรับการคลอดโดยเฉพาะ บทร้ายไม่ยอมห่างจากห้องคลอดแม้แต่ก้าวเดียวเขานั่งกุมมือเจ้าหญิงแน่นตลอดทุกวินาทีของความเจ็บปวด“พี่…มันเจ็บ หนูไม่ไหวแล้ว…” เจ้าหญิงเหงื่อซึม หน้าซีด“ไหวสิเมียพี่ต้องไหว หนูเก่งที่สุดแล้วนะครับ…” บทร้ายแนบริมฝีปากกับหน้าผากเมียน้ำตาคลอ“แค่คลอดลูกของเราออกมา พี่ขอร้อง…”เสียงร้องไห้ของทารกตัวน้อยดังขึ้นในห้อง บทร้ายถึงกับทรุดนั่งร้องไห้เงียบๆข้างเตียงราวกับหัวใจถูกปลดปล่อยจากความกลัวทั้งปวง“ได้ลูกสาวค่ะ แข็งแรงมากเลย”“ลูกพ่อ… หนูของพ่อ… ขอบคุณที่มาเกิดเป็นลูกพ่อแม่นะครับ”...ลูกสาวของบทร้ายและเจ้าหญิงถูกตั้งชื่อว่า “น้องเจ้าขา”เด็กหญิงผิวขาวอมชมพู ดวงตากลมโตเหมือนแม่ รอยยิ้มอบอุ่นเหมือนพ่อเมื่ออายุครบ 1 ขวบเธอเริ่มหัดเดิน เริ่มพูดคำว่า “ปะป๊า” และ “หม่ามี๊” ได้บทร้ายนั่งคุกเข่ารอรับลูกที่กำลังเกาะโซฟาแล้วค่อยๆยืนขึ้นเจ้าขาก้าวขาเล็กๆเดินมาหาพ่อก่อนจะโผเข้ากอดอกบึ้กๆของบทร้ายแน่น“เก่งมากลูก… ลูกของพ่อเดินได้แล้ว!” บทร้าย หัวเราะแล้วร้องไห้ในเวลาเดียวกัน“เจ้าขาเก่งที่สุดเลยลูก หนูเก่งเหมือนแม่เลยใช่ไห
มหาวิทยาลัยเจ้าหญิงกำลังนั่งเรียนทุกคนตกใจเมื่อเห็น “เจ้าของมหาวิทยาลัย” เดินตรงมาที่หน้าห้องเรียน ใส่สูทสีดำ ขรึมเยือกเย็น ดวงตาแดงก่ำอาจารย์ถึงกับชะงักบทร้ายเปิดประตูโดยไม่พูดอะไร ก่อนพูดเพียงคำเดียว“ออกมาเดี๋ยวนี้” บทร้ายพูดเสียงเข้มเจ้าหญิงหน้าเสียหยิบของแล้วรีบลุกเสียงซุบซิบในห้องดังกระหึ่ม “บทร้ายดุโหดมาก” “โอ้ย เมียโดนแน่”ในรถพอขึ้นรถเท่านั้นแหละประตูปิดเสียงดัง “ปัง!” ก่อนที่บทร้ายจะพูดด้วยน้ำเสียงกดอารมณ์“ทำไมไม่บอกพี่?” บทร้ายเสียงสั่น“หนูแค่อยากเรียน… หนูไม่อยากเป็นภาระ” เจ้าหญิงก้มหน้าตอบน้ำเสียงเบาๆ“ไม่อยากเป็นภาระจนไม่รักตัวเองรึไง!?! หนูเพิ่งฟื้น รู้ไหมว่าถ้าเป็นอะไรขึ้นมา พี่จะ…” บทร้ายเผลอตะคอกใส่เจ้าหญิงด้วยความโกรธเขากำมือแน่นจนเส้นเลือดปูด ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธปนเสียใจ เจ้าหญิงน้ำตาซึมพยายามยื่นมือไปแตะแขนบทร้าย“พี่… หนูขอโทษ…”“อย่าทำแบบนี้อีกนะครับหนู พี่ขอโทษที่ดุ แต่พี่กลัว… พี่กลัวจะเสียหนูไปอีก…” บทร้ายเสียงแผ่วลงเมื่อรู้ตัวว่าเผลอตะคอกเมียเพนท์เฮ้าส์บทร้ายอุ้มเมียขึ้นห้องไม่พูดไม่จาแต่พอวางเมียบนเตียงเท่านั้นก็ซบหน้าลงที่หน้าท้องเธอน้ำตาหยด
มหาวิทยาลัยเช้าวันรุ่งขึ้น: วันพรีเซนต์เจ้าหญิงสวมชุดนักศึกษาสะอาดเรียบ ผูกผม เรียบร้อย แต่หน้าซีดมาก เธอยืนหน้าห้องประชุมพร้อมทีม หัวใจเต้นแรงเพราะความเครียด ตอนที่เดินขึ้นเวที…เธอกลั้นหายใจและเริ่มพูด30 นาทีผ่านไป…...พรีเซนต์เสร็จ...ภาพเริ่มเบลอ เสียงในห้องเบาๆลง มือสั่น หน้าเย็นเฉียบ เจ้าหญิงเซ ทรงตัวไม่อยู่ ร่างบางล้มลงต่อหน้าอาจารย์และเพื่อนทั้งห้อง“เจ้าหญิง!!”🚑 โรงพยาบาลบทร้ายได้ยินข่าวจากพยาบาลที่ติดต่อมา บทร้ายมาถึงด้วยความเร็วสูงสุดที่รถของเขาจะพาไปได้ เขาเปิดประตูห้องฉุกเฉินด้วยหัวใจที่แทบหลุดออกมามองเห็นเมียนอนบนเตียง ให้น้ำเกลือ ขอบตาแดงเพราะน้ำตา“พี่ขอโทษ…พี่ไม่น่าปล่อยให้หนูทำทุกอย่างคนเดียวแบบนั้นเลย”“พี่ควรอยู่ตรงนั้น พี่ควรกอดหนู พี่ควรห้ามหนูตั้งแต่แรก…”เขาคุกเข่าข้างเตียง จับมือเมียไว้แน่น ริมฝีปากสั่น น้ำตาไหลเงียบๆ ในห้องเงียบสงัดมีแค่เสียงเครื่องวัดชีพจรและเสียงใจเขาเต้นระรัว...เจ้าหญิงลืมตาช้าๆเห็นหน้าผัวฟุบอยู่ข้างเตียงมืออุ่นๆของเขาจับมือเธอไว้ตลอดไม่ปล่อยเลยแม้แต่วินาทีเดียว“พี่…” เจ้าหญิงเรียกบทร้ายเสียงเบาและแหบพร่า“หนู…หนูตื่นแล้วใช่ไหมคะ
ฮันนีมูนสุดหรูหนึ่งวันหลังแต่งงานบทร้ายจองเกาะส่วนตัวที่มัลดีฟส์ มีแค่เขาและเธอ…ในรีสอร์ทกลางทะเลเสียงคลื่นเบาๆ บรรยากาศโรแมนติกจนต้องรักกันทุกเช้า เย็น และกลางคืน“บนเตียงก็ผัว บนเรือก็ผัว ในน้ำก็ผัว…หนูหนีผัวไม่พ้นหรอกเมียพี่”ปี 4เช้าวันเปิดเรียนเช้านั้น…เสียงนาฬิกาปลุกยังไม่ทันดัง บทร้ายก็ตื่นขึ้นมามองใบหน้าหวานของภรรยาสุดที่รัก เจ้าหญิงนอนกอดแขนเขาแน่นเสื้อยืดตัวใหญ่ที่ใส่นอนเมื่อคืนเลิกขึ้นมานิดๆเผยให้เห็นผิวขาวนวลจนคนเป็นผัวอยากจะให้เมียโดดเรียน…เอ้ย ไม่ใช่บทร้ายก้มจูบหน้าผากเจ้าหญิงเบาๆ“เมียพี่จะเป็นนักศึกษาปี 4 ที่สวยที่สุดในโลก”พอเจ้าหญิงอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ บทร้ายยืนยันจะขับรถไปส่งเมียเอง ไม่ยอมให้อัคคีขับเหมือนทุกครั้ง“ขอโทษนะคะ ผัวขับรถไปรอหน้าคณะทุกวันแบบนี้ เพื่อนจะไม่สงสัยเหรอคะ?” เจ้าหญิงพูดแซว“ก็ไม่ต้องสนใจสิคะคุณเมีย เขารู้ก็ดี จะได้รู้ว่าเมียใครอย่าแตะ” บทร้ายตอบยียวนกวนประสาทกลับมหาวิทยาลัยคณะนิเทศศาสตร์ทุกสายตาหันมามอง…เจ้าหญิงเปิดประตูลงจากรถสุดหรูพร้อมเสียงกระซิบของเพื่อนๆในคณะ“นั่นผัวเจ้าหญิงเหรอ?”“โอ๊ย ทำไมหล่อโหดขนาดนี้”“มีผัวดีชีวิตดีจริงๆ…”“แล
Ulasan-ulasan