หลังจากหลายปีก่อนที่เขาปฏิเสธคำว่า "รัก" จากเธอในวันนั้น กลับต้องมาพบเจอกันอีกครั้งในวันที่หญิงสาวพยายามตัดใจ ทำให้เธอต้องขีดเส้นใต้คำว่า "เพื่อน" เอาไว้ให้กับทายาทมาเฟียผู้ที่เคยไร้หัวใจในวันนี้
View Moreตับ ตับ ตับ ตับ ตับ
“อ๊ะ อ่าส์ คุณเรียวตะ แรงๆ กว่านี้หน่อยได้ไหมคะ” สาวสุดเซ็กซี่ที่ถูกเรียกตัวมา ถูกเปลืองผ้าเปลือยเปล่า และกำลังโยกไปตามแรงกระแทกที่ชายหนุ่มเจ้าของห้องมอบให้
“เธอไม่มีสิทธิ์มาเรียกชื่อฉัน”
ตับ ตับ ตับ
“อ่าส์ อืมม ขอโทษค่ะ” สาวสุดเซ็กซี่พูดในขณะที่เขากำลังเร่งจังหวะและกำลังเข้าดายเข้าเข็มกับเธออยู่บนโต๊ะอาหารกลางเพ้นท์เฮ้าส์สุดหรูใจกลางเมือง และคล้องคอชายหนุ่มเพื่อต้องการสัมผัสริมฝีปากของเขา
“อ๊ะ หยุดทำไมเหรอคะ?” เธอถามออกมาด้วยความสงสัย เมื่อจู่ๆ ชายหนุ่มสุดหล่อลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นที่สาวหลายๆ คนหมายปอง นั้นหยุดชะงักกิจกรรมเข้าจังหวะกับเธอเสียดื้อๆ
“เธอไม่ได้ฟังบอดี้การ์ดของฉันพูดก่อนมาอย่างนั้นเหรอ ว่าฉันซื้อตัวเธอมาชั่วคราว มีสิทธิ์ทำอะไรได้บ้าง?”
“ขอโทษค่ะ พอดีอารมณ์ของลิลลี่มันพาไป” เธอพูดแก้ตัวออกมาอย่างตะกุกตะกัก จริงๆ แล้วเธอจำคำพูดของบอดี้การ์ดเขาได้เป็นอย่างดี แต่เธอก็อย่างจะมัดใจเขาให้อยู่มัด เพื่อที่อนาคตของเธอจะสบายไปทั้งชาติอย่างไงกันล่ะ
“อย่ามาล้ำเส้น ไสหัวออกไป”
“ลิลลี่ขอโทษค่ะ ทำต่อเถอะนะคะ” สาวสุดเซ็กซี่ที่โดนเรียกตัวมา
“ไสหัวออกไปซะ”
กรี๊ดดดดดดดดดดดด
เพล้ง!!
จู่ๆ แก้วน้ำ ของคนที่เข้ามาใหม่อีกคนที่เข้ามาในเพนท์เฮ้าส์ก็ถูกเขวี้ยง เฉียดคิ้วของเรียวตะเจ้าของเพนท์เฮ้าส์ไปเพียงนิดเดียว และปลิวไปกระทบกับผนังจนแก้วนั้นแตกละเอียด
“เป็นบ้าอะไรของเธอ พลอยใส” เรียวตะ ที่กำลังหงุดหงิดอยู่ ก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอว อย่างไม่อายทั้งหญิงสาวทั้งสองคนที่อยู่ภายในห้อง และเดินไปสูบบุหรี่อย่างหน้าตาเฉยๆ โดนไม่รู้สึกใดๆ
“ฉันบอกนายแล้วใช่ไหม ว่าถ้าจะกินผู้หญิงอื่นให้ไปกินของนอก นายเอามาในห้องนี้ได้ยังไง พลอยใส” โมโหจนเลือดขึ้นหน้า และยืนชี้ด่าด่าชายหนุ่มอย่างเหลืออด
“คุณเรียวตะคะ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครเหรอคะ?” ลิลลี่ที่ได้สติก็รีบวิ่งหอบเสื้อผ้าของตนเข้าไปยังห้องน้ำและเดินมากอดแขนของชายหนุ่ม
“เธอกลับไปก่อน ส่วนค่าตัวเธอ ฉันจะให้คนของฉันจัดการให้” เรียวตะพูดออกมาอย่างใจเย็น
“แต่ว่า...ลิลลี่เป็นเมียคุณนะคะ” เธอพูดออกมาเพื่อประกาศภายในห้อง ให้ผู้หญิงที่เข้ามาใหม่นั้นได้รับรู้
“อย่ามาล้ำเส้น ฉันให้เงินเธอ และเธอก็ขายตัวให้ฉัน เรื่องมีแค่นั้น ไสหัวออกไปได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ได้อะไรจากฉันแม้แต่บาทเดียว” ชายหนุ่มพูดเสียงทุ้มต่ำใส่หญิงสาวสุดเซ็กซี่ ทำให้เธอนั้นหน้าเหวอ และรีบเดินกระทึบส้นเท้าออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว เงินหนาขนาดนี้ ถ้าเธอไม่รีบ มีหวังไม่ได้อะไรจากเขาแน่ๆ
ส่วนหญิงสาวอีกคนที่อยู่ภายในห้องก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงเดินกระทืบส้นเท้าเข้าไปยังห้องนอนของเธอ
ปัง!!!
เสียงปิดประตูห้องนั้นดังขึ้นมาจนไม่เกรงใจเจ้าของเพ้นท์เฮ้าส์หลังนี้แม้แต่น้อย
เรียวตะ ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เรียนอยู่วิศวะปีสามของมหาวิทยาลัยชื่อดังของกรุงเทพฯ พ่วงด้วยทายาทเจ้าของมหาวิทยาลัยแห่งนี้และยังเป็นผู้สืบทอดทายาทมาเฟียที่ญี่ปุ่นอีกด้วย ดีกรีของเขานั้นแรงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่เหมือนหลุดออกมาจากในนิยาย นัยตาสีเทา ผมสีเทาควันบุหรี่ และผิวขาวซีด สูงถึง 185 แถมยังเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวของบริษัทนำเข้าอัญมณีและรถสปอร์ตสุดหรูทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น รวมถึงไนท์คลับ คาสิโนอีกหลายแห่งที่เข้าลงทุนทำกับเพื่อนๆ ทำให้รายวันต่อวินาทีนั้นหลั่งไหลเข้ามาอย่างมหาศาล
แต่สิ่งที่เขาหงุดหงิดและไม่พอใจที่สุดก็คือผู้หญิงที่ปิดประตูเสียงดังใส่เขาเมื่อสักครู่นี้นี่เอง เพราะเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเพื่อนสนิทมารดาของเขา แต่ไม่ได้รวยเท่าเขา เพราะครอบครัวของเธอนั่นมีกิจการแค่ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพและโรงแรมใจกลางเมืองอีกหนึ่งแห่งเพียงแค่นั้น และสิ่งที่เขานั้นไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ ก็เพราะว่าครอบครัวหญิงสาวนั้นฝากครอบครัวของเขาที่เห็นดีเห็นงามกับการที่ให้เธอและเขาดูแลกันและกันในฐานะเพื่อน และตอนนี้เขากับเธอต้องมาอาศัยอยู่ภายในเพ้นท์เฮ้าส์เดียวกัน เพราะเป็นความต้องการของทั้งสองครอบครัว ให้คอยดูแลกันและกันตั้งแต่เริ่มเข้ามหาลัยชั้นปีที่สอง
ผมอยู่คณะวิศกรรมศาสตร์ส่วนเธอนั้นอยู่คณะบริหารธุรกิจ แต่ยังอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ทำให้ผมและเธอต้องเจอหน้ากันแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยก็ว่าได้
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
“พลอยใส เปิดประตูเดี๋ยวนี้”
ปัง!! ปัง!! ปัง!! เสียงทุบประตูดังต่อเนื่อง เนื่องจากเขาไม่พอใจที่พลอยใส ลูกของเพื่อนแม่ทำพฤติกรรมใส่เขาเช่นนี้ หากเป็นคนอื่น เขาอาจจะใช้ปืนยิงทิ้งไปแล้วก็ได้
“ฉันไม่เปิด จะไปไหนก็ไป” เสียงตะโกนออกมาจากในห้องนอน ที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวล้วน และภายในห้องนอนมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีหญิงสาวร่างบาง ผมลอนสีน้ำตาล สูง 160 ใบหน้าเรียวสวย ดวงตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อย ที่ถูกเลี้ยงเป็นลูกคุณหนูมาเป็นอย่างดี อยู่ในชุดนักศึกษาเสื้อรัดรูป กระโปรงยาว เหนือเข่าเล็กน้อย กำลังนั่งร้องไห้ด้วยความโกรธอยู่บนเตียงนอนของตัวเอง
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้ อย่าให้ฉันต้องโมโหนะพลอยใส” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ทำให้หญิงสาวที่ได้ยินไม่พอใจเป็นอย่างมาก และได้แต่ลุกขึ้นไปเปิดประตูอย่างไม่เต็มใจ
แอ๊ดดดด!!
“นายมีอะไร”
“จะมาทำไมไม่บอก?”
“ถ้าฉันบอก จะรู้เหรอว่าเธอกำลังลากผู้หญิงหน้าไหนก็ไม่รู้มากินถึงในห้องอ่ะ”
“ก็คนมันอยาก จะให้ทำยังไง?”
“ส่ำส่อน อยากมากก็ไปเอากันที่อื่นสิ”
“เธอเป็นแค่คนอาศัย ไม่มีสิทธิ์มาต่อว่าฉัน”
“ขอโทษที่ฉันล้ำเส้น..และเข้ามาวุ่นวายชีวิตของนาย”
จุ๊บ!! “น่ารักมาก จำชื่อผัวตัวเองได้ด้วย” มาร์คอฟยิ้มและจูบไปที่ริมฝีปากเธอเบาๆ ทำให้เธอนั้นตกใจและมองเขาตาปริบๆ สายตาเธอจ้องมองเขาเหมือนตกอยู่ภวังค์‘ทำไมเขาหล่อและดูดีขนาดนี้กันนะ ไม่!! น้ำแข็ง มันไม่ใช่เวลาที่เธอต้องมาปลื้มเขา เธอต้องออกห่างเขาให้มากที่สุด เขาเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้’“คุณไม่ใช่สามีหนู ปล่อยนะ” หญิงสาวที่ได้สติก็ดิ้นไปมาอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม ทำให้ชายหนุ่มนั้นสามารถยกตัวเธอขึ้นมานั่งบนตักแกร่งภายในรถอย่างง่ายดาย“คุณจะทำอะไร คุณปล่อยหนูนะ” พรึ่บ!!! จู่ๆ ชายหนุ่มก็กอดรัดตัวเธอเอาไว้เบาๆ และเอาคางเกยไหล่ของเธอ“หืม อยู่นิ่งๆ ฉันกำลังชาร์จพลัง” เมื่อหญิงสาวได้ยินดังนั้นก็หยุดดิ้นทันทีคุณ“คุณ…”“ถ้าเธอยังพูดอีกฉันจะไม่หยุดแค่กอดแล้วนะ” เธอได้ยินดังนั้นก็ปิดปากของตัวเองไว้อย่างดี แล้วก้มหน้าลงมุดไปที่ไหลของชายหนุ่ม ทำให้เขาถึงกับคิ้วขมวดออกมาทันที“เป็นอะไร??”“..” หญิงสาวที่ได้ยินคำถามก็เงียบไม่ยอมตอบ“ฉันถามว่าเป็นอะไร??”“...”“ถ้าเธอไม่พูดฉันจะจับเธอมาจูบนะ” “หนูอาย”“อาย??”“อือ อายพี่ๆ เขาที่อยู่ในรถ” หญิงสาวตอบเบาๆ และก้มหน้าซบลงไหล่เขาอีกครั้ง เพราะตอนนี้
สามเดือนผ่านไป...มาร์คอฟใช้เวลาเคลียร์ปัญหาจากเหตุระเบิดโกดังในวันนั้นค่อนข้างนาน เขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากเมื่อสิ่งที่เขาต้องการจัดการไม่สามารถจัดการได้ภายในทีเดียวทั้งหมดในระยะเวลาอันสั้นเขาคิดว่าอาจจะใช้เวลาแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้นในการจัดการ แต่กลับยืดยาวมาถึงสามเดือน"นายท่านครับ อีกสองวันเรามีนัดกับคุณเรียวตะ หุ้นส่วนของเราในการเจรจาผลกำไรไตรมาสแรกครับ" วูฟรายงานมาร์คอฟที่กำลังนั่งหลับตาอยู่เก้าอี้ทำงานภายในห้องทำงานขนาดใหญ่"อืม ช่วยเตรียมของให้ฉันด้วย ฉันต้องการเดินทางไปประเทศไทยล่วงหน้าก่อนหนึ่งวัน""รับทราบครับนายท่าน" วูฟรับคำสั่งก็เดินออกจากห้องเพื่อเตรียมการให้มาร์คอฟทันทีเมื่อวูฟเดินออกไปจากห้องทำงาน มาร์คอฟก็ยกมือเลื่อนดูโทรศัพท์ทันที เขาใช้สายตามองดูหน้าจออย่างหลงใหล เมื่อพบกับรูปหญิงสาวที่ส่วมใส่ชุดนักศึกษายิ้มแป้นอย่างสดใสสมวัย'ใช่' เขาสั่งให้ลูกน้องของเขาที่เมืองไทย คอยจับตาดูเธอเอาไว้ ตั้งแต่วันที่เขาบินกลับมาที่เมืองมอสโก"เธอต้องเป็นของฉันคนเดียว พนิดา"พนิดาคือชื่อจริงของหญิงสาว และในตอนนี้น้ำแข็งก็ทำงานอย่างขะมักเขม้นจนแทบไม่มีวันหยุด เพื่อส่งเสียตัวเอง
ในช่วงสายๆ อีกวัน…หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมา และมองไปรอบๆ ก็พบว่าตัวเองอยู่ภายในห้องของชายหนุ่มที่เธอและเขาเพิ่งจะพบเจอกันเมื่อวานตอนนี้เธอปวดระบมตามตัวเป็นอย่างมาก แต่ทว่าพิษไข้ของเธอกลับหายเป็นปลิดทิ้ง และตอนนี้เธอก็รู้สีกว่าบริเวณช่วงท้องหนักอึ้งเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเธอมองสำรวจดูตัวเองก็พบว่ามีแขนของชายหนุ่มกอดเธอเอาไว้ และเธอมองดูใต้ผ้าห่มก็พบว่าตัวเธอนั้นเปลือยเปล่าเธออยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ แต่ทว่าก็กลัวว่าผู้ชายตรงหน้าจะตื่นขึ้นมาเธอจึงใช้มือทั้งสองข้างของเธอยกแขนชายหนุ่มออกอย่างเบามือ และค่อยๆ ย่องลงจากเตียงและรีบเก็บเสื้อผ้าที่กองอยู่ตามพื้นมาส่วมใส่แล้วรีบวิ่งออกจากห้องทันทีเมื่อออกมาจากห้องเธอก็พบว่าบริเวณที่อยู่นั้นมันไม่ใช่บ้านเลยสักนิด แต่ทว่ามันคือคฤหาสน์ที่ใหญ่มากๆ เธอรีบก้าวเท้าลงจากชั้นสองของตัวคฤหาสน์รีบวิ่งออกไปให้เร็วที่สุด แต่ทว่ามันกลับรู้สึกใช้เวลานานเป็นอย่างมาก เมื่อเดินมาถึงประตูด้านหน้าตัวคฤหาสน์ก็พบกับชายหนุ่มชุดดำหลายสิบคนยืนอยู่ด้วยสายตาที่เรียบนิ่ง เว้นแต่คนที่ขับรถเหยียบน้ำใส่เธอเมื่อวานนั้นกับยิ้มออกมาเบาๆ“อรุณสวัสดิ์ครับ” วูฟกล่าวทักทายออกไป“ค่ะ ส
หลังจากที่ชายหนุ่มพูดออกมาเธอก็อ้าปากค้างทันที ไม่คิดว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่บ้าระห่ำขนาดนี้เขาจะรวยมาจากไหนกัน ทำไมถึงพูดเงิน แค่หนึ่งล้าน ออกจากปากมาอย่างไม่เสียดาย แต่นั่นก็ทำให้เธอนั้นสงสัยอยู่ได้ไม่นาน เพราะสิ้นเสียงพูดของชายหนุ่ม เขาก็ยัดแก่นกายที่เหลือเข้ามาในร่องรักของเธอทันที ทำนั้นรู้สึกเจ็บกลีบกุหลาบของเธอเป็นอย่างมาก“คุณ กรี๊ดดดดด หนูเจ็บ อึก เอามันออกไปนะ” เธอที่ร่างกายระบบไปด้วยพิษไข้ที่กำลังเล่นงาน แถมยังต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก มันทำให้เธอนั้นรู้สึกเจ็บมากขึ้นเป็นเท่าตัว มือของเธอที่ดันหน้าอกแกร่งของเขาก็กลายเป็นกอดรัดชายหนุ่มและใช้เล็บมือจิกเข้าไปที่แผ่นหลังของชายหนุ่มเพื่อระบายความเจ็บปวดออกมา เพราะเธอพยายามดิ้นหนี เขาก็ยิ่งใช้มือหนารั้งเอวบางของเธอเอาไว้ไม่ให้ขยับ“เจ็บ คุณ หนูเจ็บมาก ฮืออออ” ตุบตับ!! ตุบตับ!! เธอใช้กำปั้นเล็กๆ ของเธอทุบตีแผ่นหลังเขาอย่างรุนแรง แต่ก็เหมือนว่าชายหนุ่มนั้นจะไม่รู้สึกระคายเคืองผิวเลยแม้แต่น้อย“อย่าดิ้น ถ้าเธอยิ่งดิ้นมันจะยิ่งเจ็บ”“ฮึก แล้วหนูต้องทำยังไง คุณมันบ้าที่สุด” เธอร้องไห้ออกมา น้ำตาเอ่อล้นดวงตาและไล่รินลงมายังแก้มขาวๆ ขอ
‘แล้วทำไมเขาจะต้องมาสนใจเด็กคนนี้ด้วยนะ’ ชายหนุ่มครุ่นคิดอย่างหนักและไม่นานรถหรูของเขาก็เคลื่อนตัวเข้ามายังบ้านที่ประเทศไทยของเขามาร์คอฟค่อยๆ อุ้มเธอเดินเข้าไปในตัวบ้าน ท่ามกลางความแปลกใจของเหล่าบอดี้การ์ดหลายสิบคนที่ยืนรอต้อนรับเขากลับบ้าน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เจ้านายของเขาพาผู้หญิงเข้าบ้าน แถมยังอุ้มอยู่ในอ้อมแขนเอาไว้ไม่ห่างด้วย“ให้ผมเปิดห้องรับรองแขกให้เธอไหมครับ” วูฟถามออกไป“ไม่ต้อง ให้เธอนอนกับฉันนี่แหละ ส่วนนายช่วยจัดการเอาน้ำใส่กะละมังและผ้าเช็ดตัวผืนเล็กขึ้นไปบนห้องให้ฉันด้วย”“รับทราบครับนาย”หลังจากมาร์คอฟออกคำสั่งออกไป เขาก็อุ้มเธอเดินตรงเข้าไปยังห้องของเขาทันทีเขาวางเธอลงบนเตียงนอนสีขาวอย่างเบามือ“ฮือ แม่คะ น้ำแข็งคิดถึงแม่จังเลยค่ะ” หญิงสาวละเมอพูดมาออกมาไม่ขาดสาย ตั้งแต่ที่ยังอยู่ในรถ และตอนนี้ไข้ของเธอก็รู้สึกว่าจะเริ่มสูงขึ้นด้วย แต่เมื่อเขากำลังจะสั่งให้คนไปเรียกหมอมาที่บ้าน ก็พันนึกถึงคำพูดของเธอขึ้นมาว่าเธอนั้นไม่ชอบหาหมอและกลัวเข็มฉีดยาดังนั้นเขาจึงได้มองกะละมังที่วูฟเพิ่งเอาขึ้นมาให้ และเดินไปหยิบผ้าชุบน้ำและเช็ดตัวให้เธอแต่ทว่า ชุดของเธอก็ดูเหมือนจะเกะ
“คุณทำอะไรของคุณ บ้าที่สุดเลย” หญิงสาวด่าทอเขาออกไป และรีบเอามือเช็ดริมฝีปากของตัวเอง แล้วคว้าแก้วเตกีล่าที่วางอยู่บนโต๊ะ ขึ้นมาดื่มทันที“เห้ย!!!” มาร์คอฟตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าเธอนั้นยกแก้วเหล้าของตนดื่มเข้าไปแล้วและเมื่อเธอสัมผัสรสชาติที่ขมของเหล่าเข้าไปปากก็เบ้หน้าออกมาเหมือนคนจะร้องไห้ทันที“ฮือออ ทำไมมันขมอย่างนี้คะ??” น้ำแข็งที่ก่อนหน้านี้รู้สึกว่าน้ำลายของตัวเองขมจากที่ชายหนุ่มป้อนยาเธอ เธอก็คิดว่าการดื่มน้ำตามจะทำให้หายขม แต่ทว่าเหล้าแก้วนี้มันกลับขมกว่าเดิมเป็นอีกเท่าตัว แถมเมื่อกลืนลงไปในลำคอก็รู้สึกเหมือนโดนแผดเผ่าเข้าไปในท้องของเธอ“ใครบอกให้เธอดื่มเหล้ากับยา ห๊ะ!!!” มาร์คอฟหัวเสียเป็นอย่างมาก ‘ยัยเด็กนี่ไม่รู้เรื่องขนาดนี้เลยเหรอ’ เขากุมขมับและคิดอยู่ในใจ“ขะ ขอโทษค่ะ แก้วเหล้าแก้วนี้ หนูจะจ่ายเองนะคะ ฮือออ” เธอร้องไห้ออกมาต่อหน้าชายหนุ่มอย่างไม่อาย เมื่อมาร์คอฟเห็นก็งงเป็นไก่ตาแตกทันที“เธอร้องไห้ทำไม??” เขาที่ไม่เคยปลอบใจใครเลยก็ตกใจ เมื่อเด็กสาวที่เขาเพิ่งป้อนยาไปร้องไห้อย่างหนักออกมา“ฮือ หนูปวดตัว หนูปวดหัว ยาก็ขม เหล้าก็ขม ฮือออ หนูไม่ชอบเลย” “หยุดร้อง เดี๋
Comments