“จริงเหรอแก” อัยย์ญาดาตาโตตื้นเต้น รู้สึกมีความหวัง เห็นหนทางสว่างมารำไร “แล้วโรงงานของ SKONE อยู่ที่ไหน”
“อยู่ระยองโน่น”
“โอว ไกลไปอ่ะแก” เจ้าหล่อนโอดครวญกระเง้ากระงอด “ทำไมไม่อยู่แถวนครปฐมหรือสมุทรปราการวะ ไปอยู่ทำไมตั้งไกลถึงระยอง”
“ฉันนึกแล้วว่าแกต้องไม่โอ เพราะแกเป็นห่วงคุณป้าข้างบ้านแกใช่มั้ยล่ะ ญาติโกโหติกาก็ไม่ใช่”
“เพราะคุณป้าน่ะส่วนหนึ่ง แต่ส่วนตัวฉันเองก็ไม่อยากไปด้วย ฉันอยากอยู่บ้านของฉันอ่ะ ทาวเฮ้าส์แสนรักที่ฉันผ่อนอยู่ทุกวันนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของฉัน ถ้าฉันต้องไปทำงานอยู่ระยอง ฉันกลับไปอยู่เชียงรายกับพ่อไม่ดีกว่าเหรอ ไปช่วยพ่อเก็บยอดชาเก็บผักขาย”
“โอเค งั้นแกจะเอาไง?”
“แกไม่รู้จักบริษัทอื่น ๆ แถว ๆ นี้บ้างเหรอ ตึกที่แกทำงานมีตั้งเจ็ดสิบชั้น ไม่มีสักบริษัทที่เปิดรับพนักงานเลยเหรอ สักชั้นก็ยังดี”
“อืม ก็มีนะ บริษัทขายกระทะที่อยู่ชั้นสิบหกน่ะ เห็นมีป้ายประกาศรับเซลล์อยู่นะ ถ้าแกสนใจแกลองไปสมัครดูสิ”
“แต่เขารับเฉพาะคนสวยรึเปล่า”
“แกก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี่เหร่สักหน่อย อาบน้ำขัดถูอีกนิด แต่งหน้าทำผม เปลี่ยนการแต่งตัวซะหน่อย ฉันว่าแกก็ไม่ใช่เล่น ๆ อยู่นะ ลงทุนซะหน่อยก็ไม่เสียหลายหรอก แกได้เงินชดเชยมาพอสมควรนี่”
“นิดหน่อย พออยู่ได้สามเดือน แต่อยู่แบบพอเพียงหน่อยนะ เพราะต้องผ่อนทาวเฮ้าส์ด้วย งั้นฉันขึ้นไปสมัครงานที่บริษัทกระทะเลยดีกว่า มาวันนี้จะได้ไม่เสียเที่ยว”
“เติมลิปสติกสักหน่อยก็ดี”
“แหม จะอะไรนักหนา วันนี้แค่ขึ้นไปเขียนใบสมัครเอง เอาไว้ตอนที่เขาเรียกสัมภาษณ์ ก็ค่อยจัดเต็ม”
“อืม ตามใจ งั้นกินข้าวเที่ยงเสร็จก็แยกกันที่ร้านนี้เลยนะ เพราะฉันมีนัดลูกค้าช่วงบ่ายสองที่ห้างใกล้ ๆ นี่แหละ แกขึ้นไปสมัครคนเดียวได้นะ”
“ได้อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ขอบใจสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะคุณเพื่อนสุดสวยและรวยมาก ดีใจจังเลยที่ได้เป็นเพื่อนกับคุณหทัยรัตน์ ยังไงถ้าฉันได้งานนี้ ฉันจะเลี้ยงแกบ้างนะ”
เธอไม่รู้หรอกว่าจะได้งานทำใหม่เมื่อไหร่ แต่การที่เธอมีเพื่อนดีอย่างหทัยรัตน์ ก็ไม่ทำให้เธออดตายแน่นอน
ระหว่างรอลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นสิบหก ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายกระทะนำเข้า...
อัยย์ญาดาแอบตื่นเต้นไม่น้อย แม้จะเป็นเพียงการขึ้นไปกรอกใบสมัครงานก็ตาม
“ใจเย็น ๆ เราต้องทำได้ ว๊าว...ตึกนี้โคตรหรูเลย มีแต่คนสวย ๆ หล่อ ๆทั้งนั้นเลย”
ขาดคำนั้น ประตูลิฟต์เปิดออก หญิงสาวแสนสวยกับชายหนุ่มรุ่นใหญ่ซึ่งมีท่วงท่าเหมือนผู้หญิงก้าวออกจากลิฟต์มาอย่างอารมณ์ดีระรี้ระริก
“หะ...” อัยย์ญาดาตกใจตาโตเมื่อได้เจอกับนางเอกสาวขวัญใจคนทั้งประเทศในเวลานี้ ซึ่งก็เป็นไอดอลสุดที่รักของเธอด้วยเหมือนกัน
“อะ...คุณ...คุณนนนี่!!!” เธอพูดพลางหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าจากในกระเป๋าสะพายออกมาเตรียมพร้อม หากได้โพสภาพคู่คนดังพร้อมเช็คอินตึกหรูก็คงเลิศไปสามวันเจ็ดวัน “คุณนนนี่คะ ขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ยคะ คือหนูชอบพี่มากเลยค่ะ หนูเป็นแฟนคลับพี่ค่ะ”
นนนี่หยุดเดิน แล้วหันมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาสงสัย และติดจะดูถูกนิด ๆ
“เรียกพี่เลยเหรอคะ อายุเท่าไหร่คะเนี่ย”
“อะ...” อัยย์ญาดาถึงกับยิ้มไม่ออก ใช่แล้ว การแต่งตัวและสภาพของเธอคงดูป้ากว่าอายุมาก แต่เท่าที่ติดตามดาราคนนี้มาตั้งแต่เข้าวงการ เธอมั่นใจว่าเธออายุน้อยกว่าเจ้าหล่อนอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็สามปีเลยล่ะ
“จะมัวถามอะไรนักหนา รีบถ่าย ๆ ไปเถอะย่ะ” ผู้จัดการตุ้งติ้งพูดด้วยความรำคาญ พลางขยับกระเป๋าแอร์เมสที่ควงอวดตามสไตล์ “อย่าลืมว่ามีงานอีเว้นต์ต่ออีกนะ แถวนี้รถติดจะตาย”
“รู้แล้วน่า!!” ดาราสาวชักเสียงใส่ผู้จัดการราวกับเป็นนางร้าย ก่อนหันมาทางน้องแฟนคลับสุดเชยที่ยังยืนอึ้งและทึ่งในความสวยของดาราสาวอยู่ “ขอโทษด้วยนะคะ แต่นนนี่มีงานต่อน่ะค่ะพี่ คงถ่ายรูปด้วยไม่ได้!”
พูดเสร็จเจ้าหล่อนกับผู้จัดการก็เดินเฉิดฉายออกไปเลย ทิ้งให้อัยย์ญาดายืนเอ๋อรับประทานไปหลายวินาที ก่อนจะรู้สึกตัวว่าเพิ่งโดนดาราสาวเหวี่ยงใส่ไปหมาดๆ
“ในละครดูหว๊านหวาน แต่ตัวจริง...เฮ่อ...”
เธอเก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าเหมือนเดิม ขณะเดินกลับมายืนรอหน้าลิฟต์ ด้วยอาการเซ็งเล็ก ๆ
กระทั่งใครบางคนก้าวเข้าลิฟต์มาพร้อมกับเธอ ความตื่นเต้นจึงกลับมาอีกครั้ง
“หยุดโวยวายได้แล้วนนนี่ ผมเป็นคนเลือกพราวนภาเอง เพราะเธอเหมาะสมที่สุด” เขาชี้แจงเธอด้วยน้ำเสียงปกติและน่าเชื่อถือ “ทั้งภาพลักษณ์และวิสัยทัศน์”“ทำไมคะ หรือว่ายัยนั่นแซ่บจนคุณธีอยากเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัว”คำพูดของนนนี่ทำให้เขาแอบเกรงใจอัยย์ญาดา ถึงแม้ช่วงหลังมานี้เขาจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใครเลยก็ตาม แต่ที่ผ่านมา วีรกรรมความซ่าของเขาก็ไม่ใช่ย่อยเลย“คุณเข้าใจผิดแล้วนนนี่ ผมไม่เคยนอนกับพราวนภา เราทำงานกันอย่างมืออาชีพ ดูกันที่ผลงานจริงๆ”ความจริง เขาอยากบอกเลขาของเขาต่างหาก ไม่ได้แคร์เลยว่านนทิยาจะเข้าใจผิดหรือถูก“งั้นดาขอตัวออกไปทำงานก่อนนะคะบอส”“ก็ไปสิยะ”“โชคดีนะคะบอส”อัยย์ญาดาไม่ได้รู้สึกฉุนหรือรู้สึกหวงอะไรทั้งนั้นล่ะ เธอรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ที่ผ่านมาเขาอาจเลือกเซ็กส์เพื่อผ่อนคลายความเครียด ซึ่งมันก็เป็นรสนิยมส่วนตัวของเขา แต่หลังจากนี้ ถ้าเขาจะเลือกเซ็กส์เพื่อบำบัดตัวเองอีกล่ะก็ เขาได้เจ็บตัวหัวแตกแน่เมื่อเธอก้าวออกจากห้อง CEO ปั๊บ...ปัญหาใหม่ก็เข้ามาประชิดหน้าด่านทันที“คุณธีอยู่มั้ย?” ไอลดานางแบบสุดสวยตรงเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่ต่างจากนางเอกสาวเลยสักนิด พวกเธอคงม
ตอนเช้าที่คาเฟ่ร้านเดิม...“สรุปก็คือ...แกได้ทำงานแทนคุณชานนท์ต่องั้นเหรอ แกจะได้เป็นเลขาของบอสจริง ๆ แล้วใช่มั้ย”“ใช่ บอสเลื่อนให้คุณชานนท์เป็นรอง CEO แทน ส่วนฉันก็เป็นเลขาสวยๆ หน้าห้องบอสต่อไป ด้วยเงินเดือน...”หทัยรัตน์รอฟังด้วยใจลุ้นระทึก...“เท่าไหร่”“หนึ่งแสน!!”หทัยรัตน์อ้าปากหวอ “เฮ๊ย! นี่แกไปทำของที่เจ้าพ่อสำนักไหนมา หรือไปบนไว้ที่วัดไหนบอกมาสิ แกถึงกล่อมบอสให้หลงจนหน้ามืดขนาดนี้”“ไม่ได้เล่นของ แต่เล่นอย่างอื่น”อัยย์ญาดายิ้มกริ่ม ดูดกาแฟดังจ๊วบ ๆ ทำให้เพื่อนยิ่งสงสัยและอยากรู้ไปกันใหญ่“แกทำอะไร บอกมาว่าแกทำอะไร!”“ถ้าฉันบอกแก แกห้ามไปบอกใครนะ”“เออ! ฉันจะไปบอกใครได้ล่ะ”อัยย์ญาดาขยับตัวเข้าใกล้หทัยรัตน์แล้วกระซิบกระซาบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เรากำลังคบกันอยู่”“ห๊า!!” หหัยรัตน์อุทานลั่นอย่างลืมตัว เพราะตกใจและช็อคกับสิ่งที่เพิ่งผ่านหู เธอไม่อยากจะเชื่อ มันจะเป็นไปได้ยังไง บอสที่มีดาราดังระดับซุปเปอร์สตาร์ล้อมหน้าล้อมหลังให้เลือกเฟ้น แต่กลับมาจิ้มยัยซุ่มซ่ามหน้าห้องไปทำแฟนเนี่ยนะ“อย่าดังสิแก ดูสิ คนมองใหญ่แล้ว”“แกพูดจริงป๊ะเนี่ย?”“จริงสิ”“กับบอสเนี่ยนะ???”“อืม เขาสาร
“ขอบคุณนะที่ดูแลแม่ให้”เธอถึงยอมลง...“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะฉันเองก็รักป้าจี๊ดเหมือนกัน”“ต่อไปนี้ผมจะดูแลคุณแม่ให้ดีที่สุด...”“ดีแล้วค่ะ คุณโชคดีที่ยังมีโอกาสได้ทำ เพราะฉะนั้น จงทำให้เต็มที่ เอาให้คุ้ม รู้มั้ยคะ”“รู้แล้วครับเจ้านาย”“หืม?”“ดีใจจัง”“ดีใจเรื่องอะไรคะ”“ที่เราได้เจอกันไง”เขากำลังจะทำให้เธอหลอมละลายกลายเป็นขี้ผึ้งอีกแล้วสินะ เพียงคำพูดไม่กี่คำของเขาก็ทำให้เธอใจอ่อนระทดระทวยแล้วเหรอ เธอนี่ใจง่ายชะมัด“ปล่อยได้แล้วค่ะบอส”“ไม่ปล่อย เรื่องอะไรจะปล่อย กว่าจะจับตัวได้ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ เพราะคุณมันกะล่อนลื่นไหลชะมัด”“ใครกันแน่กะล่อนลื่นไหล”“ผมชอบคุณนะ”“คิดว่าพูดแบบนี้แล้วฉันจะยอมคุณเหรอ”เขายิ้มเย้า “เราคบกันมั้ย”“บอส...อย่าล้อเล่นน่า ลืมไปแล้วรึไงว่าบอสมีคู่หมั้นอยู่แล้ว”“ผมจะยกเลิกการหมั้นซะ เพราะถึงยังไงมันก็ไม่ได้เกิดจากความรักตั้งแต่แรก”“แต่ดูเหมือนคุณระวีวรรณเธอจะรักบอสนะคะ”“ระวีวรรณควรจะได้อยู่กับคนที่รักเธอ ผมคิดอยู่นานแล้วล่ะว่าจะปล่อยเธอไป แล้ววันนี้ก็มาถึงจนได้”“เพราะฉันหรือคะ”“ไม่ใช่เพราะคุณหรอก อย่ารู้สึกผิดนะ ผมตั้งใจไว้นานแล้ว ผมเองก็ไม่อยากเอาเปรียบระ
“อยู่ด้วยกันก่อนสิหนูดา จะรีบไปไหน ป้ายังไม่ได้คุยกับหนูดาเลย มีอะไรจะคุยตั้งเยอะแยะ” คนเป็นแม่พยายามรั้งเธอไว้ด้วยสารพัดเหตุผล ขณะลูกชายตัวแสบแอบส่งสายตาอ้อนวอนมาด้วย “อยู่ด้วยกันก่อนนะ”“แต่ป้ากับลูกชายคงมีเรื่องต้องคุยกันเยอะแยะ หนูกลับก่อนดีกว่าค่ะ”“แต่หนูก็เป็นเหมือนลูกของป้าเหมือนกัน เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ”ธีรุตจ์แอบยิ้ม อัยย์ญาดาเห็นแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้ แต่จะด่าเขาต่อหน้าป้าวราภรณ์ก็ใช่เรื่อง “ตาธีเองก็มีเรื่องอยากคุยกับหนูเหมือนกัน ใช่มั้ยตาธี”“คุยอะไรคะ เราไม่มีอะไรจะคุยกันแล้วค่ะ เราคุยกันหมดแล้วค่ะ ไม่มีอะไรคาใจกันอีก คืนนี้ คุณป้าอยู่กับลูกชายนะคะ ให้เขาทำหน้าที่ซะบ้าง...เอาไว้พรุ่งนี้หนูจะมาเยี่ยมแต่เช้า จะทำโจ๊กอร่อย ๆ มาฝากด้วยค่ะ”อัยย์ญาดาพูดจบก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ แล้วเดินออกจากห้องพักฟื้นพิเศษไปโดยไม่ฟังคำทัดทานของธีรุตจ์“เดี๋ยวสิคุณ”“ตามไปสิ”“ตามไปให้เธอด่าหรือครับ ตามไปตอนนี้ก็โดนไล่ตะเพิดเปล่า ๆ เอาไว้ให้อารมณ์เย็นลงหน่อยแล้วกัน”“หนูดาเป็นคนดีและเป็นคนน่ารักมาก” เธอเอ่ยกับลูกชาย เพื่อเปิดทางให้ “ธีว่ายังไง”“ผมก็คิดเหมือนคุณแม่ครับ แต่ตอนนี้ผมมีคู่หมั้นแ
ธีรุตจ์พาวราภรณ์ไปส่งถึงมือแพทย์ได้ในเวลาอันรวดเร็ว จึงทำให้อาการของเธอได้รับการดูแลจากทีมแพทย์อย่างทันท่วงที “ขอบคุณบอสมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ”เธอขอบคุณเขายกใหญ่ ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ญาติโกโหติกาอะไรของเธอเลย เขาเสียอีกที่เป็นลูกที่แท้จริง แต่ไม่เคยได้ดูดำดูดีกัน“ไม่เป็นไร”“เอาไว้ ฉันจะเลี้ยงข้าวนะ”“แค่ข้าวไข่เจียวก็พอ”เธอยิ้มเขิน “ค่ะ”“คุณวราภรณ์เป็นไงบ้างคุณดา” ชานนท์เดินหน้าตาตื่นเข้ามา โดยไม่ทันมองว่ามีใครยืนอยู่ด้วย เพราะตอนที่อัยย์ญาดาโทรไปส่งข่าว เธอไม่ได้บอกว่าเจ้านายอยู่ที่นี่ เขาจึงช็อคตาตั้งเมื่อเห็นธีรุตจ์แบบเต็มตา“ไม่เป็นไรแล้วค่ะคุณนนท์ ได้บอสช่วยไว้ ก็เลยพามาส่งโรงพยาบาลทันค่ะ”“ขอคุยด้วยหน่อย” ธีรุตจ์บอกชานนท์เท่านั้นก่อนจะเดินห่างออกไป ชานนท์หน้าจ๋อยเจื่อนเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามเจ้านายไปอย่างเร็ว “มีอะไรกัน ทำไมท่าทางเหมือนมีลับลมคมนัยน์”อัยย์ญาดาระงับความอยากรู้ไม่ไหว จึงย่องตามไปแอบฟังอย่างเสียมารยาท “อธิบายมา”ธีรุตจ์ให้โอกาสชานนท์เต็มที่...“คือ...ใช่ครับ ผมแอบติดต่อกับคุณวราภรณ์มาโดยตลอด และที่ผมพาคุณอัยย์ญาดาไปทำงานกับบอสก็เพราะคุณวราภรณ์ฝากฝัง ผ
“อย่ามาพูดเลย ผมรู้มาตั้งนานแล้วว่ายัยนั่นไม่ได้เป็นทอม ไม่ได้จะไปเรียนต่อปริญญาโท หรือเป็นสุดยอดเลขามาจากไหนหรอก ยัยนั่นถูกไล่ออกจากโรงงานเพราะทำงานไม่ได้เรื่องต่างหากเล่า คิดว่าผมไม่สืบเลยรึไง”ชานนท์หน้าเสีย “ผมขอโทษครับ ผมก็แค่เห็นว่าเธอเป็นคนดี เป็นคนขยันและเป็น...”“พอ ๆ พอได้แล้ว เอาเป็นว่า บอกที่อยู่บ้านเธอมา”“จะเอาไปทำไรครับ”“เอามาเถอะน่า”คืนวันนั้นเอง ที่เสียงกริ่งประตูหน้าบ้านของเธอดังขึ้นในช่วงสามทุ่ม ซึ่งเป็นคนที่เธอไม่คาดคิดว่าจะมาถึงหน้าบ้านของเธอได้“มาส่งพิชซ่าครับ”“ไม่ได้สั่งนะคะ”“มีนะครับ นี่ครับบิล จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วด้วยครับ รับของสิครับคุณลูกค้า”เธอรับถุงใบใหญ่ที่ใส่กล่องพิซซ่าถาดใหญ่และไก่ทอดมาอย่างงง ๆ จังหวะนั้นเองที่ชายหนุ่มคนหนึ่งแทรกตัวเข้ามาในรั้วบ้านของเธอแล้วจัดการปิดประตูรั้วทันที“บอส!”“ใช่ ผมเอง คุยกันหน่อย” เขาคว้าข้อมือเธอแล้วลากเธอเข้าไปในบ้านทันที“บอส ปล่อยนะ!”“นี่ อย่าทำตัวเป็นนางเอกนักเลยน่า”“นางเอกอะไรของบอส ฉันมันก็แค่ตัวประกอบ ที่คอยเดินตามพระเอกไปวัน ๆ”“ทำไมไม่ไปทำงาน!” เขาจ้องหน้าเธอ จนทำให้เธอแอบไม่กล้าสู้สายตาเขา เพราะตอนนี้เ