LOGINในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ
View Moreในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ
ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา
“เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป
“กี่เดือน”
“หกสัปดาห์แล้วค่ะ”
“เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร”
“คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ
“เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน”
“คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ”
“ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด”
คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
***********
ในเวลานี้เขมมิกาแทบกลายเป็นอากาศธาตุ ความรักความซื่อสัตย์ ความไว้ใจที่เธอมีให้ปรเมศกลับสูญเปล่า ตลอดระยะเวลาห้าปีกับสี่เดือน ชีวิตการแต่งงานที่เคยวาดฝันเอาไว้อย่างสวยหรูกลับไม่ราบรื่น สำหรับเธอแล้วไม่ต่างจากการตกอยู่ในนรกขุมอเวจี
ตั้งแต่แต่งเข้าบ้านศิระเมฆา ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี ก่อนหน้านั้นรักกันปานจะกลืนกิน เขาค่อย ๆ ทำตัวเย็นชาห่างเหิน ละเลยต่อหน้าที่ของสามีที่ดี จนกลายเป็นช่องว่างในหัวใจ ต่างคนต่างหมางเมินใส่กัน
“เขาทำแบบนี้กับแกได้ไงอ่ะ!” เนเน่เริ่มเดือดแทนเพื่อน เมื่อเห็นเขมมิกานอนซมอยู่บนเตียงเพราะพิษไข้ เธอไม่สบายขนาดนี้ปรเมศกลับเพิกเฉย
“ช่างเถอะ”
“เขม! สามีของแกเห็นงานสำคัญกว่าเมีย นี่เขากำลังหาเงินไว้เผาแกรึไง”
“เขาหาไว้เผาตัวเองต่างหาก” เขมมิกาตอบออกไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ผู้ชายอย่างอาจารย์ปรเมศ แม้แต่แม่ของเขายังไม่รักเขาเลยด้วยซ้ำ ท่านถึงได้ด่วนจากไปแบบนั้น”
“เนเน่!”
“แกก็เป็นซะแบบนี้ไง เขาถึงทำอะไรตามอำเภอใจ ความผิดทั้งหมดเกิดจากพี่สาวนอกไส้ของแก ทำไมไม่บอกความจริงเขาไป” ใบหน้าและแววตาของเนเน่พร้อมบวกแทนเพื่อนรัก เมื่อได้รู้ความจริงจากแม่บ้าน
“ตั้งแต่แม่เขาเสีย เขมกับคุณปรเมศก็แทบไม่เจอหน้ากันด้วยซ้ำ”
“ทั้งที่อยู่บ้านเดียวกันเนี่ยนะ”
“เขมกับเขา เราอยู่กันคนละโลกต่างหาก” น้ำเสียงแผ่วเบา ดวงตาที่เคยเป็นประกายแฝงไปด้วยความสิ้นหวัง หลังจากปรเมศประกาศตัดขาดความสัมพันธ์ ซึ่งเขายืนกรานที่จะไม่หย่า เพราะอยากทรมานเธอให้อยู่อย่างตายทั้งเป็น
“ความรักมันสวยงามนะเขม แต่ความรักของแกกับเขา มันทำให้ฉันรู้สึกไม่อยากมีความรัก หมดรักก็บอกกันตรง ๆ ไม่เห็นต้องทรมานอีกฝ่ายเลยนี่นา”
“ความรักมันละเอียดอ่อนเกินกว่าจะอธิบายได้ เขมเองก็มีส่วนผิดที่เป็นคนพาพี่มิ้น เข้ามาสร้างความร้าวฉานให้กับครอบครัวของคุณปรเมศ” หยดน้ำใส ๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยอย่างไม่รู้ตัว ทั้งที่หญิงสาวพยายามกลั้นเอาไว้สุดกำลัง เป็นใครก็คงทนไม่ไหว เมื่อความเจ็บปวดโหมกระหน่ำเข้ามาในชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า
“ฟังนะเขม! คนที่ผิดคือผู้ชายไม่รู้จักพอกับผู้หญิงหน้าเงินคนนั้นต่างหาก ชายโฉดหญิงชั่วสมกันดี” มินดาหรือมิ้นคือพี่สาวซึ่งเป็นลูกติดของแม่เลี้ยง แต่ทุกคนต่างคิดว่ามินดาคือลูกสาวคนโตของบิดาเขมมิกา
“เนเน่! นั่นพ่อสามีฉันนะ”
“พ่อสามีเหรอ... ชิ! แกจะรับบทนางเอกเจ้าน้ำตาไปทำไม ร้องไปก็เท่านั้น ฉันจะบอกให้ยังไงแกก็ไม่ได้ตุ๊กตาทองหรอกนะ สิ่งที่แกจะได้รับมีแต่ความเจ็บปวดและพ่ายแพ้ แกลุกขึ้นมาเป็นคนใหม่ได้แล้วเขม!”
เนเน่พยายามดึงสติเขมมิกากลับมา หลังจากเห็นเพื่อนรักเอาแต่จมปรักอยู่กับความผิด ทั้งที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อ
“เขมขอเวลาอีกสักพักนะเนเน่ เขมสัญญาว่าจะกลับมารักตัวเองให้มากกว่าเดิม”
“แกรู้ไหมอะไรที่ทำให้คุณค่าในตัวเราหมดลง”
“รู้สิ ทำไมเขมจะไม่รู้”
“ไหนลองบอกฉันมาซิ”
“ถ้าเราไม่ให้คุณค่าตัวเอง แล้วจะหวังเอาจากใคร เขมรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร ขอเวลาให้เขมได้ทำใจหน่อยนะเนเน่”
“ฉันรู้ว่าแกรักเขามากแค่ไหน แต่อย่าลืมรักตัวเองก็แล้วกัน”
“ขอบใจแกมากนะ ที่ผ่านมาทุกช่วงเวลาไม่ว่าสุขหรือเศร้า เขมก็มีเนเน่อยู่ข่าง ๆ เสมอ” คนทั้งสองโผเข้ากอดกันไว้แน่น ประหนึ่งจะไม่มีวันทอดทิ้งอีกฝ่ายให้เดียวดาย
“ฉันโตมาพร้อมกับแก ท่ามกลางผู้คนมากมายรายล้อม แต่ชีวิตของฉันกลับมีเพียงแก ฉันก็แค่เด็กกำพร้าที่บ้านผู้ดีเขาเก็บมาเลี้ยง พอมีลูกเป็นของตัวเองฉันก็กลายเป็นหมาหัวเน่า” ชีวิตของเนเน่ไม่ไดโรยด้วยกลีบกุหลาบ ทว่าทุกย่างก้าวนั้นกลับเต็มไปด้วยขวากหนาม
“เราสองคนก็ไม่ต่างกัน พ่อพาผู้หญิงอีกคนเข้าบ้าน ส่วนแม่ทิ้งฉันไปตั้งแต่แบเบาะ สุดท้ายชีวิตของเราสองคนก็ไม่เหลือใคร ฉันเหนื่อยเหลือเกินเนเน่”
“เขม... เขม! แกเป็นอะไรไป” เนเน่รีบรั้งเพื่อนรักนอนราบกับเตียง ก่อนที่เธอจะรีบหยิบสมาร์ตโฟนเครื่องแพงของเพื่อนรักโทรหาปรเมศ แต่เขากลับไม่รับสายทั้งที่ใช้โทรศัพท์มือถือของเขมมิกา
“หึ! เมียจะตายอยู่แล้วยังบ้างานได้อีกนะ บ้าเอ๊ย!” หญิงสาวกำมือแน่นด้วยความโกรธ ก่อนจะโทรหามาลิค ซึ่งชายหนุ่มรีบบึ่งรถมาที่บ้านปรเมศทันที สาเหตุที่เนเน่ไม่โทรเรียกรถพยาบาล เพราะเธอคิดว่ามันคงนานกว่าจะมาถึง
ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเรียกเขมมิกาไปพบเขาที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปทำกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ทว่าในปีนั้นต้องขึ้นดอย เพื่อนำอุปกรณ์กีฬารวมทั้งเครื่องเขียนต่าง ๆ ไปมอบให้กับทางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ “ที่ผมเรียกคุณมาพบ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเดี๋ยวผมจะขับรถไปรับที่บ้าน” “บุคลากรในมหาลัยมีตั้งมากมายทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ” หญิงสาวชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“มันเป็นระเบียบของทางมหาลัย อาจารย์คนใหม่ต้องไปช่วยสังคมกับผม” “ใช้ตรรกะอะไรคะเนี่ย บ้าชัดๆ” เขมมิการู้ดีว่าเธอกำลังถูกมัดมือชก ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับแสยะยิ้มร้าย เมื่อเขากำลังต้อนให้เธอจนมุมได้ “คุณกลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า” “ใครบอกว่าฉันจะไปกับคุณ” ความพยศของเขมมิกายังคงแสดงทีท่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่าย ๆ“ที่นี่ผมคือผู้บริหารสูงสุด ถ้าคุณกล้าปฏิเสธจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได
เวลาผ่านไปคนทั้งคู่ได้กลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู พอเดินเข้ามาในห้องนอนเนเน่ตัดสินใจถามมาลิคเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นั้นอีกครั้ง ซึ่งพ่อบุญธรรมของเธอคงกำลังกลัดกลุ้มใจ ส่วนมาลิคเองก็เสียผลประโยชน์อยู่เช่นกัน “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ” “พวกเขาเคยทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ผมจะเป็นคนตามคิดบัญชีให้คุณเองเนเน่” ครานี้ดวงตาของมาลิคแฝงไปด้วยร่องรอยเย็นเยียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีคุกคามอำมหิตออกมา เมื่อเขาโกรธแค้นคนในบ้านหลังนั้นแทนภรรยา “คุณคือสามีแห่งชาติชัด ๆ” หญิงสาวพูดพลางเขย่งปลายเท้า ก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้าไปกดจูบชายหนุ่มด้วยความดูดดื่ม เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับรสจูบแสนหวาน มาลิคไม่รอช้าเขาตอบสนองเธอด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ “อืม... อื้อ
ณ ห้องอาหารสุดหรู เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่ พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว “คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด “พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย
เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง “คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที “คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ” “มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้ เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง