การกระทำของหมอหนุ่ม อยู่ภายใต้สายตาของเจ๊โรส ผู้ที่คอยจับผิดเขาอยู่เสมอ เธอเริ่มมั่นใจว่าหมอหนุ่ม ต้องปั้นใจให้กับมุขลินบ้างแล้ว ถึงได้แสดงอาการหึงหวง และเป็นห่วงเธอออกมาแบบนั้น
วันนี้หมอนัดมารดาของมุขลินเธอ จึงกระตือรือร้นตื่นแต่เช้า ทั้งที่เพิ่งนอนไปไม่กี่ชั่วโมง แต่เวลานี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ามารดา ต่อให้เธออดหลับอดนอน เพื่อบุพการีแล้วมุขลินก็ยินดีที่จะทำ โดยไร้เงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
"แม่ไปเองก็ได้ลูกนอนต่อเถอะลูก" ผู้เป็นมารดาเอ่ยขึ้น เมื่อรู้ว่าลูกสาวทำงานดึก และเพิ่งนอนไปไม่นานนี้เอง
"ลินไหวค่ะแม่เดี๋ยวค่อยกลับมานอนต่อก็ได้" มุขลินพูดพร้อมกับเดินเข้าไปในครัว เพื่อเตรียมอาหารเช้ารับประทานกับมารดา ก่อนเดินทางไปโรงพยาบาล ซึ่งวันนี้อาการของแม่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอมองออกจากใบหน้าของหญิงวัยห้าสิบกว่า ที่แลดูซีดเซียวกว่าทุกวัน เพราะเธอเฝ้าสังเกตอาการของมารดาทุกวัน
เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาล มุขลินยื่นเอกสารเสร็จเรียบร้อย เธอจึงพาแม่มานั่งรออยู่หน้าห้องตรวจของแพทย์ประจำ ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และชำนาญในการผ่าตัดปลูกถ่ายไต
"เชิญคุณไข่มุก ลูก้า ที่ห้องตรวจค่ะ" พยาบาลเรียกชื่อมารดาของมุขลิน เธอจึงค่อยๆ พยุงผู้เป็นมารดาเข้าไปด้านใน ก่อนจะยกมือไหว้หมอหนุ่ม ซึ่งเธอแน่ใจว่าภายใต้แมสที่ปิดบังใบหน้าเอาไว้นั้น เขาคงจะเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูหล่อเหลาคมคายเลยทีเดียว
หมอภาคินสตั้นไปสิบวิ เมื่อเขาเพิ่งรู้ว่ามุขลินคือลูกสาวของไข่มุก ผู้ป่วยที่เขาเป็นเจ้าของไข้เคสนี้อยู่หมอหนุ่มพยายามเก็บอาการด้วยการก้มดูจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งจากประวัติการรักษาแล้ว ทำให้เขาประเมินอาการของคนไข้วันนี้คงได้แอดมิดแน่นอน
"เชิญคุณไข่มุกนอนที่เตียงเลยครับ ผมขอตรวจดูอาการก่อน" มุขลินพยุงมารดาขึ้นไปนอนบนเตียงใบหน้าของมารดาของเธอนั้นเริ่มซีดขึ้นกว่าเดิม ทำให้เธอไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก
"วันนี้ต้องแอดมิดนะครับ" หมอหนุ่มพูดขึ้นหลังจากที่ตรวจดูอาการจนแน่ใจแล้ว ไม่นานไข่มุกมารดาของมุขลินก็ถูกนำตัวส่งไปยังห้องผู้ป่วยรวมของโรงพยาบาล
"เชิญญาติของคุณไข่มุกพบแพทย์ด้วยค่ะ" พยาบาลเดินมาบอก ในขณะที่มุขลินกำลังนั่งกุมมือมารดาอยู่ ด้วยความห่วงใย
"เดี๋ยวลินมานะคะแม่" พูดจบมุขลินก็เดินตามพยาบาลไปที่ห้องของหมอหนุ่ม
"เชิญนั่งครับ" มุขลินนั่งลงช้าๆ ก่อนจะตั้งใจฟังหมอบรรยายถึงอาการของมารดา ที่ดูแย่และน่าเป็นห่วงมากในเวลานี้
"ผู้ป่วยอาการแย่ลงต้องฟอกไตอย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้งนะครับ"
"แม่อาการแย่มากเลยเหรอคะหมอ" มุขลินถามออกมาด้วยแววตาที่เหนื่อยล้า
"ตอนนี้ผู้ป่วยอาจไตวายได้ ผมอยากแนะนำให้ใช้วิธีปลูกถ่ายไตจะเป็นผลดีกับผู้ป่วยมากกว่า" คำตอบของหมอทำให้มุขลินเข่าแทบทรุด เพราะเธอรู้ดีว่าจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ใบหน้าสวยคมของเธอดูเป็นกังวล ดวงตากลมเริ่มเศร้าหม่นลงในทันที ทำให้หมอหนุ่มรู้สึกสงสารอยากเข้าไปปลอบคนของใจ ที่นั่งอยู่ตรงหน้าแต่เขาก็ทำได้แค่เพียงแอบชำเลืองมองเธอ
มุขลินเดินเข้ามาภายในผับด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว แม้ว่าเธอจะคิดและตัดสินใจแน่วแน่แล้ว แต่ก็ยังอดที่จะกลัวกับสิ่งที่เพิ่งจะตัดสินใจลงไปหมาดๆ ไม่ได้ หญิงสาวเดินเข้าไปหาเจ๊โรส ที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ที่เคาน์เตอร์ในผับ
"เจ๊โรส!... "
"มีอะไรเหรอมุขลิน ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น" เจ๊โรสวางถ้วยชาในมือลง แล้วหันมามองมุขลิน ที่ในเวลานี้ใบหน้าสวยคมของเธอนั้น ดูมีความกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด ดวงตากลมโตกลับดูเศร้าหม่นอย่างบอกไม่ถูก
"หนูจะขาย เจ๊หาใครก็ได้ที่ให้ราคาดี รับประกันสินค้าได้ ลินไม่เคยมีตำหนิมาก่อน"
"ฮ๋า!" เจ๊โรสตกใจจนร้องอุทานออกมาเสียงดัง
"ทำไมถึงเปลี่ยนใจมาขาย" เจ๊โรสรู้สึกผิดหวังในตัวของมุขลิน เมื่อเธอไม่คิดมาก่อนว่าหญิงสาวแสนสวยจะตัดสินใจทำอะไรแบบนี้
"แม่ป่วยหนักลินต้องใช้เงินจำนวนมาก!" คำบอกเล่าของมุขลิน ทำให้เจ๊โรสเปลี่ยนสีหน้าจากผิดหวังในตัวเธอ กลายเป็นเห็นอกเห็นใจแทน หากมุขลินจำเป็นจะต้องขายความสาวให้กับใคร ในเวลานี้เจ๊โรสไม่คิดถึงใครนอกจากหมอภาคิน
"แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะทำมันคือชีวิตทั้งชีวิตเลยนะ"
"ค่ะเจ๊!" มุขลินตอบอย่างไม่ลังเล หากมันจะทำให้มารดาของเธอมีชีวิตอยู่ต่อบนโลกใบนี้ เธอก็ยินดีที่จะทำ แม้จะต้องแลกมันมาด้วยชีวิตก็ตาม
"ความจริงแล้วเจ๊ก็ไม่อยากให้มุขลินทำงานนี้เลย"
ถึงแม้ว่าเจ๊โรสจะรู้ดีว่าหมอหนุ่มต้องการหญิงสาวมากเพียงใด เธอก็ไม่อยากให้เด็กดีอย่างมุขลินต้องมีมลทินติดตัวไปจนตาย หากว่าหมอภาคินรัก หรือชอบเธอด้วยใจจริงมันก็ดีไป แต่หากว่าเขาเห็นเธอเหมือนดังกับผู้หญิงทั่วไป แค่วันไนท์สแตนด์ทุกอย่างก็คงจบลงแบบไม่สวยแน่
"มันจำเป็นค่ะเจ๊ ชีวิตแม่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดในเวลานี้ เจ๊โรสช่วยลินด้วยนะคะ" หญิงสาวพูดอ้อนวอนขอความช่วยเหลืออย่างคนที่สิ้นไร้หนทาง ที่เจ๊โรสนั้นไม่อยากช่วยเลยสักนิด เพราะสิ่งที่กำลังจะช่วยนั้นอาจนำพาไปซึ่งความหายนะมาสู่ชีวิตของมุขลิน
แต่เมื่อมันจำเป็นเธอก็ต้องช่วย เพราะไม่อย่างนั้นมุขลินอาจจะหนีเตลิดไปหาแขกเอง คนที่จะเดือดร้อนมากที่สุดก็คือตัวของเจ๊โรส เพราะหมอภาคินเล่นงานยับแน่
"รออยู่นี่แป๊บหนึ่งนะ!” เจ๊โรสะกดโทรศัพท์แล้วเดินออกไปคุยด้านนอก ปลายสายของเธอคงไม่ต้องเดาว่าเป็นใคร เพราะคนของใจเจ้านายหนุ่มนั้นกำลังจะยอมจำนน
มุขลินนั่งแท็กซี่ตรงไปตามนามบัตรที่เจ๊โรสให้มา พร้อมกับคีย์การ์ดของห้องครั้งแรก กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตของเธอ ยิ่งรถแท็กซี่แล่นเข้ามาใกล้คอนโดนั่นเท่าไหร่ ใจของมุขลินก็เต้นแรงขึ้นเท่านั้น
หญิงสาวลงจากรถแท็กซี่แหงนมองขึ้นไปยังคอนโดหรู ผู้ชายที่ซื้อเขาคงมีฐานะดีมาก ถึงขั้นเศรษฐีเลยทีเดียว ถึงมีเงินซื้อคอนโดหรูใจกลางเมืองแบบนี้ได้ ชาตินี้ทั้งชาติมุขลินคงไม่มีปัญญาที่จะได้มาเหยียบที่แบบนี้ หากชีวิตไม่ผกผัน ทำให้หันมาทำในสิ่งที่ใจไม่ปรารถนา
หลายเดือนผ่านไปหลังจากที่เลย์พาเกี๊ยวน้ำเดินทางกลับเมืองไทย เขาได้จัดการให้มารดาไปสู่ขอเกี๊ยวน้ำตามประเพณี ส่วนเรื่องแต่งงานนั้นรอให้เกี๊ยวน้ำคลอดลูกก่อน เธออยากให้ลูกได้ร่วมพิธีด้วย ตอนนี้ท้องของเกี๊ยวน้ำกลมโตมากขึ้น เพราะเธอตั้งท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ปัจจุบันนี้รู้สึกว่าเลย์จะเห่อเป็นพิเศษเพราะอุลตร้าซาวด์ดูแล้วเขาได้ลูกสาว แทบจะไม่ให้ภรรยาหยิบจับอะไรเลย “เลย์ เสร็จหรือยัง” เสียงของเกี๊ยวน้ำดังออกมาจากห้องอาหาร เมื่อเธอนั่งรอผู้เป็นสามีทำอาหารให้รับประทานเป็นเวลานานกว่าทุกครั้ง “เลย์มัวทำอะไรอยู่ชักช้าจัง เมียกับลูกแกหิวจะแย่แล้ว อย่าให้คนท้องรอนาน” นั่นคือเสียงของมารดาของเขา คุณไข่มุกที่นางดูเห่อลูกสะใภ้ และหลานในท้องไม่น้อยไปกว่าเลย์ “ครับแม่จะเสร็จแล้วรอแป๊บหนึ่ง! ผู้หญิงบ้านนี้เอาแต่ใจทั้งนั้น” เลย์ตะโกนออกไป ก่อนจะบ่นพึมพำเบาๆ คนเดียวในครัว เมื่อแม่กับเมียเร่งมา ตอนนี้เกี๊ยวน้ำย้ายมาอยู่บ้านของเลย์เรียบร้อยแล้ว เพราะมุขลินไปอยู่บ้านหลังโน้นกับหมอภาคิน เลย์เลยขออนุญาตพ่อเตชินกับหมอพ
ผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอไว้ใจจะเดินร่วมทางไปด้วยกัน มือเรียวแตะสัมผัสลงไปที่ใบหน้าของเลย์ ที่มันเต็มไปด้วยหนวดเครา เธอลูบเบาๆ อย่างกล้าๆ กลัวๆ “แค่หนวดจะกลัวอะไร ขนาดมังกรยักษ์ของผมคุณยังจัดการจนมันสิ้นฤทธิ์ลงได้” คำพูดคำจาของเลย์นั้นถึงกับทำให้เกี๊ยวน้ำไปไม่เป็น นอกจากเขาจะเถื่อนแล้วก็มักจะพูดจาให้เธอได้อายเสมอ “เวลาคุณเขินผมชอบจัง ถอดมันออกนะ” “แล้วถ้าเกี๊ยวบอกว่าไม่ คุณจะยอมหยุดไหมล่ะ” “ขอเถอะจะทำเบาๆ นะครับ ผมมาเพื่อง้อเมียเลยนะเนี่ย” คำพูดที่ออดอ้อนช่างไม่เข้ากับหน้าตาเขาเสียเลย แต่เวลาเลย์ทำออกมาแล้วมันกลับน่ารักจนเกี๊ยวน้ำรู้สึกหมั่นไส้ “ใครเมียคุณ” “หึหึ!...” เสียงหัวเราะดังมาจากลำคอนั้น เกี๊ยวน้ำถึงกับขนลุกซู่ เธอไม่รู้ว่าเลย์กำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อเขาจับลงไปที่ปลายเท้าของเธอแล้วนวดคลึงเบาๆ
“คุณชอบไหม" ดูเหมือนว่าคำถามจากเลย์นั้น เธอจะไม่ได้ยินด้วยซ้ำไป เมื่อเกี๊ยวน้ำกำลังตกตะลึงในความงามของดอกไม้นานาพันธุ์ “มานี่ ผมจะพาไปดูอะไร” เลย์โอบสาวร่างเล็กเดินตรงไปในสวนหย่อม คราวนี้หญิงสาวกลับไม่ปฏิเสธใดๆ ยอมตามใจเลย์ไม่ว่าเขาจะพาไปไหน เธอก็จะไปเมื่อหัวใจมันไม่สามารถที่จะปิดกั้นเอาไว้ได้ “คุณช่วยอ่านตัวอักษรพวกนั้นเป็นประโยคให้ผมฟังหน่อยซิ” เลย์ชี้ไปที่ตัวอักษรในสวนหย่อมซึ่งมันถูกจัดทำขึ้นด้วยดอกกุหลาบหลากหลายสี แต่สวยงาม เกี๊ยวน้ำยอมรับว่าผู้ชายคนนี้ เขาได้ทุ่มทุนสร้างมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ เมื่อประโยคที่เห็นนั้นมันคือสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนต้องการไม่เว้นแม้แต่เธอเอง “เลย์!” “อ่านครับคุณเกี๊ยวน้ำ!” เกี๊ยวน้ำรู้สึกว่าหัวใจของเธอจะเต้นแรงเป็นพิเศษ เมื่อชายหน้าตาเถื่อนๆ อย่างเลย์มีมุมหวานๆ มุ้งมิ้งแบบนี้ “ใครเป็นคนคิดขึ้นมา คนนั้นก็อ่านเองสิ” เกี๊ยวน้ำแกล้งทำเป็นฟอร์ม แต่ความเป็นจริงแล้วเธออยากได้ยินจากปากของเลย์มากกว่า“แต่งงานกันนะ
พูดจบเลย์ก็เดินออกไปจากบ้านแ สตาร์ตรถขับพุ่งออกไปทันที ปล่อยให้พ่ออย่างเตชินทำหน้าไม่ค่อยพอใจ กับการตัดสินใจของภรรยาเท่าไหร่นัก “คุณเตชิน คุณยังจำวันที่ตาลหอบท้องเกี๊ยวน้ำหนีคุณไปได้ไหม คุณรู้สึกยังไง และตอนนี้เลย์เองก็กำลังรู้สึกไม่ต่างไปจากคุณ” คำพูดของผู้เป็นภรรยาทำให้เตชินนึกถึงวันที่เขาเฝ้ารอ การกลับมาของหมอพุฒตาลอย่างทรมานใจ ยิ่งคิดว่าเธอแท้งลูกเขาก็ยิ่งปวดใจ ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด นั่นคืออีกหนึ่งเหตุผลที่เขาพยายามชดเชยให้เกี๊ยวน้ำเป็นพิเศษมากกว่าลูกชายฝาแฝดทั้งสอง เขาพอจะเข้าใจความรู้สึกของเลย์ แต่ก็ยังเคืองๆ เรื่องที่ชายหนุ่มนั้นทำให้ลูกสาวของเขาเสียน้ำตาพอขับรถมาถึงคอนโดเขารีบขึ้นไปบนห้อง เพื่อเตรียมกระเป๋าเดินทาง ส่วนเรื่องตั๋วไม่ต้องห่วงหมอภาคินได้จัดการให้เรียบร้อยแล้ว เขาช่างได้น้องเขยที่ดีเหลือเกินรู้ใจไปหมดซะทุกเรื่อง เลย์มองไปรอบๆ ห้องนึกถึงวันแรกที่เจอกับเกี๊ยวน้ำ มันทำให้เขาฉีกยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกที่เป็นสุข ผู้หญิงเชยๆ ที่สามารถดึงดูดหัวใจของเขาอยากเข้าใกล้เธอทุ
“พี่เกี๊ยวหยุดร้องก่อน ใครทำอะไรอีกแล้วพี่ร้องไห้ทำไม พูดมาสิพวกเราจะได้ช่วยพี่ได้ สาเหตุที่ทำให้พี่ร้องไห้มาจากเรื่องอะไร” อคิณพูดออกมาอย่างช้าและใจเย็น ส่วนหมอภาคินมุขลินและโยกิต่างก็จับจ้องรอฟังคำตอบจากเกี๊ยวน้ำ “ฮึกฮื้อ! เกี๊ยวน้ำต้องขอโทษพ่อกับแม่ด้วยนะคะ คือว่าเกี๊ยวท้องค่ะ” “เรื่องแค่นี้เอง” หมอภาคินพูดออกมา เพราะเขาเป็นเพียงคนเดียวที่รู้สึกถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ เพราะเลย์ไม่อยากปิดบังจึงเล่าให้น้องเขยอย่างหมอภาคินฟังตลอด “ฮ๋า!! อะไรนะ” ส่วนคนที่เหลือได้อุทานออกมาพร้อมกันอย่างตกใจ “ลูกท้องกับใครเกี๊ยวน้ำ! ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใครบอกพ่อมาซิ!” เตชินกำมือแน่นแล้วพูดออกมาด้วยความโกรธ จนหมอพุฒตาลต้องปรามเอาไว้ “ใจเย็นๆ ค่ะคุณพ่อ ลูกโตแล้วไม่ใช่เด็กๆ หากผู้ชายคนนั้นมันไม่รับผิดชอบแค่หลานคนเดียวเ
“ฮึก... ฮื้ออ!” อยู่ๆ เกี๊ยวน้ำก็ร้องไห้ออกมา ไม่รู้ว่าเพราะความดีใจ หรือว่ากำลังเสียใจกันแน่ ภายในใจของเธอที่มีในเวลานี้ หญิงสาวกลัวไปหมดกลัวว่าบิดาจะรู้ และเสียใจผิดหวังในตัวเธอ “ลูกจ๋าแม่ควรทำยังไงดี” ความรักมักจะทำให้คนตาบอดเหมือนกับที่เธอเป็น อายุไม่ใช่กฎเกณฑ์เมื่อเธอนั้นมัวเมาเผลอตัวเผลอใจไปกับการยั่วยุของเลย์ หากตบมือข้างเดียวมันคงดังไม่ได้หากเธอไม่ร่วมด้วยกับเขา เรื่องนี้เลย์ควรรับรู้ เมื่อทั้งสองเป็นคนก่อร่วมกัน ก็ควรจะแก้ปัญหาไปด้วยกัน คิดได้ดังนั้นเกี๊ยวน้ำจึงรีบขับรถตรงไปที่คอนโดของเลย์ทันที พอขับมาถึง เธอรีบขึ้นแล้วไปยืนอยู่หน้าห้องด้วยความลังเล เธอกลับไม่กล้ากดรหัสเข้าไป ไม่รู้ว่าเลย์จะว่ายังไงที่เธอนั้นไม่ได้ป้องกัน เธอเป็นผู้หญิงควรจะป้องกันตัวเอง เกี๊ยวน้ำตัดสินใจกดรหัสเปิดประตูเข้าไป ภาพตรงหน้าหญิงชายกำลังจูบกันนัวเนี