เธอคงทำได้แค่แหงนมองตึกสูงนี้เหมือนดังหมาเห่าเรือบิน แต่เวลานี้มุขลินกำลังจะได้เข้าไปด้านใน พร้อมกับเรือนกายพร้อมจะบำเรอเจ้าของห้องหรู ด้านในคอนโด มุขลินใช้นามบัตร และคีย์การ์ดในการผ่านผู้รักษาความปลอดภัย และพนักงานเฝ้าอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งทุกอย่างหมอหนุ่มได้เตรียมการเอาไว้หมดแล้ว ทุกคนรู้ดีว่าเธอจะมา มุขลินกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นที่เจ๊โรสได้บอกเอาไว้
ในขณะที่อยู่ในลิฟต์ หัวใจของมุขลินเริ่มเต้นโครมคราม ราวกับตึกกำลังจะถล่ม ผู้ชายคนนั้นหน้าตาจะเป็นอย่างไร การที่เธอต้องเสียเวอร์จิ้นนี้ให้กับเขาไป ผู้ชายคนนั้นเขาจะดีใจไหม ซึ่งเขาจะได้เป็นคนแรกของเธอ ประตูลิฟต์เปิดกว้างออก มุขลินเดินตรงไปยังห้องที่เจ๊โรสแจ้งเอาไว้ เธอใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไป แล้วต้องตกใจกับชายตรงหน้า
เขาหล่อยังกับเทพบุตรในนิยาย อย่างน้อยครั้งแรกของเธอ มันก็พอจะทำให้หัวใจดวงน้อยนี้ กระชุ่มกระชวยได้บ้าง เพราะรูปลักษณ์หน้าตาของหนุ่มดูดี มันคงจะทำให้ใจของเธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง สักสิบเปอร์เซ็นต์ก็ยังดี และที่สำคัญมุขลินจำได้ เขาคือผู้ชายที่เคยช่วยเธอให้พ้นจากพวกเสี่ยหัวงู
"เธอชื่ออะไร" หมอหนุ่มแกล้งถามออกไป ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเธอชื่ออะไรเป็นใครมาจากไหน
"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมุขลิน"
"โอเคฉันจะไม่อ้อมค้อม นี่คือสัญญาเซ็นลงไปซะ พร้อมกับเงินสิบล้าน หนึ่งปีกับการบำเรอฉัน เธอห้ามยุ่งกับชายไหนเด็ดขาด ถ้าเธอทำได้ก็เซ็นสัญญานั่นให้เรียบร้อย"
“ฮะ! สิบล้านเลยเหรอ” มุขลินตกใจจนอ้าปากค้าง เธอไม่ได้ตกใจเพราะสัญญา แต่ตกใจเพราะเงินสิบล้านนั่นต่างหาก ทำไมค่าตัวของเธอถึงได้แพงลิ่วขนาดนั้น แต่มันก็ดีไม่ใช่เหรอ เงินนั่นจะทำให้มารดาของเธอหายดี แถมชีวิตก็ไม่ต้องดิ้นรนอีก มุขลินไม่รีรอหยิบปากกามาเซ็นลงไปทันที โดยไม่ได้อ่านรายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น
"จะไม่อ่านมันหน่อยเหรอ"
"ฉันเซ็นเสร็จแล้ว จะให้ทำอะไรต่อ" มุขลินพูดขณะที่ยืนอยู่ต่อหน้าชายหนุ่ม หมอภาคินนั่งอยู่ที่โซฟาอย่างใจเย็น ความจริงวันนี้เขาต้องเข้าเวร แต่เพื่อแลกกับเธอแล้วเขายอมเปลี่ยนเวรกับเพื่อน เพื่อมาเช็กคุณภาพของสินค้า ที่พึ่งได้มาหมาดๆ อยู่ตรงหน้านี้
"ฉันต้องการเช็กสินค้า! "
"หมายความว่ายังไง" มุขลินงงกับคำพูดของเขา ใช่สิเธอเป็นเพียงแค่สินค้าเท่านั้น ที่เขาใช้เงินตราซื้อเธอมา
"ถอดออกให้หมด" หมอหนุ่มพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
“ฮ๋า! คุณว่าอะไรนะ” มุขลินร้องอุทานออกมาเสียงหลงอยู่ๆ เขาจะให้เธอแก้ผ้า ชายตรงหน้านี้พิลึกคน
"ถ้าไม่ถอดก็ออกจากห้องนี้ไป ถือว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ สัญญานั่นฉันจะฉีกทิ้งเดี๋ยวนี้” หมอภาคินพูดพร้อมกับหยิบสัญญานั่นขึ้นมา เขาแกล้งทำเป็นว่าจะจะฉีกมัน แล้วทิ้งลงถังขยะ
“ก็ได้!” มุขลินพูดพร้อมกับถอดเสื้อยืดที่สวมมาออก ให้พ้นจากเรือนร่างของเธอ เวลานี้เหลือแค่บราสีแดงสด ห่อหุ้มเต้าตูมกลมโตเอาไว้ จากนั้นเธอค่อยๆ รูดซิปกางเกง ถลกออกจากขาเรียวทั้งสองข้าง เรือนกายท่อนล่างของเธอในเวลานี้ มันมีแค่กางเกงในตัวจิ๋ว ซึ่งปกปิดของสงวนแทบจะไม่มิด
ทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอมีเพียงแค่ชุดชั้นในเท่านั้น หมอหนุ่มกวาดสายตาจับจ้อง มองมาที่ร่างกายของเธออย่างไม่วางตา เขายอมรับว่ามุขลินสวยสดใสปนเซ็กซี่ เอวคอดเข้ารูป นมตูดรับกันไปหมด สมแล้วที่เขารอคอยมาเนิ่นนาน
"ถอดออกให้หมด แบบนี้เช็กไม่ได้"
"เอ่อ... คือว่าฉัน" มุขลินไม่รู้จะพูดยังไง เพราะเธอนั้นอายชายตรงหน้าแทบจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว เขายังจะให้เธอถอดออกให้หมด นั่นหมายถึงว่าเธอต้องมายืนโชว์หรา ร่างกายเปลือยเปล่าให้เขาชม ก่อนจะเด็ดมาดมอย่างนั้นเหรอ
"ทำไม่ได้ก็ออกไป"
คำพูดของหมอหนุ่มช่างเอาแต่ใจ จนทำให้มุขลินค่อยๆ ปลดตะขอบราชั้นในออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะปล่อยมันลงไปกองกับพื้น สองเต้าตั้งตระหง่านชูชันขึ้นกลมแน่นเปรี๊ยะ ชวนให้น่ามอง อกตูมของเธออวบกลมขาวผ่องเป็นยองใย หมอหนุ่มจ้องมองออกไปอย่างพอใจ กับสิ่งที่ได้เห็น
จากนั้นมุขลินค่อยๆ ถอดชุดชั้นในตัวจิ๋วออก ทำให้มองเห็นกลีบกุหลาบงาม ที่มันบานเบ่งสวยโดดเด่น จนหมอหนุ่มแทบจะคลั่ง เขาต้องอดกลั้น เพื่อรอให้ท่อนเอ็นนั่นมันพองขึ้น ร่างเปลือยเปล่าหญิงสาวอยู่ตรงหน้า ช่างเป็นภาพที่เจิดจ้า ดูแล้วไม่รู้เบื่อ หมอหนุ่มลุกขึ้นไปเดินสำรวจรอบๆ ราวกับว่าเธอนั้นเป็นหุ่น มีให้เขาไว้ทดลองในห้องแล็บ เพื่อใช้ในการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาโดยตรง
มุขลินยืนตัวแข็งทื่อเกร็งไปหมด เมื่อสายตาของหมอหนุ่มจับจ้องมองมาที่ร่างของเธออย่างไม่วางตา เวลานี้เขามายืนอยู่ตรงหน้า จับจ้องมองมาที่อกนูนของเธอ ก่อนจะแตะลิ้นร้อนลงไปตวัดเลียที่เม็ดเล็กอมชมพูของปลายยอดปทุมถัน หญิงสาวรู้สึกวาบหวามไปทั้งตัว กับสัมผัสจากชายตรงหน้า
มือหนาจับลงที่ไหล่มนสองข้าง ก่อนจะดันร่างของเธอแนบชิดติดกับผนังของห้อง จากนั้นหมอหนุ่มได้ทำการปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของตัวเองออก ทำให้มองเห็นท่อนเอ็นหัวแดงบานเบ่งลำเขื่องแข็งขึง จนมุขลินใจเต้นแรง ไม่รู้ว่าเธอกลัวหรือว่าต้องการมันกันแน่ เพราะนี่คือครั้งแรก กับการได้เห็นมังกรยักษ์ของผู้ชา
หมอหนุ่มโน้มตัวเข้าไปกอดคลอเคลีย มือแกร่งลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังนุ่ม เรียวปากของเขาประกบจูบลงไปงับกับริมฝีปากล่างสีนู้ดอวบอิ่ม เขาหยุดอ้อยอิ่งสักพัก ก่อนจะตวัดลิ้นอุ่นเข้าไปสำรวจในโพรงปากของเธอทั่วทุกอณู เขาใช้ปลายลิ้นพัวพันกับลิ้นเล็กเรียวนั่นอีกครั้ง
เพื่อถ่ายทอดสัมผัสสวาทให้มันเสียวซ่านระอุขึ้นภายในกาย เวลานี้เปลวไฟพร้อมจะระอุขึ้น หล่อหลอมสองร่างให้กลายเป็นหนึ่งเดียว หมอหนุ่มผละออกจากจูบ ก่อนจะสั่งให้หญิงสาวตรงหน้า ก้มลงไปจัดการกับท่อนเอ็นของเขา ที่มันแข็งขึงตั้งลำใหญ่ตื่น
"จัดการกับมันซะ"
"ยังไง" มุขลินทำหน้างง ๆ กับท่อนเอ็น ที่มันตั้งลำหัวหยักแดงอยู่ตรงหว่างขาของหมอหนุ่ม
"ย่อตัวลงไป แล้วใช้ปากจัดการกับมัน"
หลายเดือนผ่านไปหลังจากที่เลย์พาเกี๊ยวน้ำเดินทางกลับเมืองไทย เขาได้จัดการให้มารดาไปสู่ขอเกี๊ยวน้ำตามประเพณี ส่วนเรื่องแต่งงานนั้นรอให้เกี๊ยวน้ำคลอดลูกก่อน เธออยากให้ลูกได้ร่วมพิธีด้วย ตอนนี้ท้องของเกี๊ยวน้ำกลมโตมากขึ้น เพราะเธอตั้งท้องได้เจ็ดเดือนแล้ว ปัจจุบันนี้รู้สึกว่าเลย์จะเห่อเป็นพิเศษเพราะอุลตร้าซาวด์ดูแล้วเขาได้ลูกสาว แทบจะไม่ให้ภรรยาหยิบจับอะไรเลย “เลย์ เสร็จหรือยัง” เสียงของเกี๊ยวน้ำดังออกมาจากห้องอาหาร เมื่อเธอนั่งรอผู้เป็นสามีทำอาหารให้รับประทานเป็นเวลานานกว่าทุกครั้ง “เลย์มัวทำอะไรอยู่ชักช้าจัง เมียกับลูกแกหิวจะแย่แล้ว อย่าให้คนท้องรอนาน” นั่นคือเสียงของมารดาของเขา คุณไข่มุกที่นางดูเห่อลูกสะใภ้ และหลานในท้องไม่น้อยไปกว่าเลย์ “ครับแม่จะเสร็จแล้วรอแป๊บหนึ่ง! ผู้หญิงบ้านนี้เอาแต่ใจทั้งนั้น” เลย์ตะโกนออกไป ก่อนจะบ่นพึมพำเบาๆ คนเดียวในครัว เมื่อแม่กับเมียเร่งมา ตอนนี้เกี๊ยวน้ำย้ายมาอยู่บ้านของเลย์เรียบร้อยแล้ว เพราะมุขลินไปอยู่บ้านหลังโน้นกับหมอภาคิน เลย์เลยขออนุญาตพ่อเตชินกับหมอพ
ผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอไว้ใจจะเดินร่วมทางไปด้วยกัน มือเรียวแตะสัมผัสลงไปที่ใบหน้าของเลย์ ที่มันเต็มไปด้วยหนวดเครา เธอลูบเบาๆ อย่างกล้าๆ กลัวๆ “แค่หนวดจะกลัวอะไร ขนาดมังกรยักษ์ของผมคุณยังจัดการจนมันสิ้นฤทธิ์ลงได้” คำพูดคำจาของเลย์นั้นถึงกับทำให้เกี๊ยวน้ำไปไม่เป็น นอกจากเขาจะเถื่อนแล้วก็มักจะพูดจาให้เธอได้อายเสมอ “เวลาคุณเขินผมชอบจัง ถอดมันออกนะ” “แล้วถ้าเกี๊ยวบอกว่าไม่ คุณจะยอมหยุดไหมล่ะ” “ขอเถอะจะทำเบาๆ นะครับ ผมมาเพื่อง้อเมียเลยนะเนี่ย” คำพูดที่ออดอ้อนช่างไม่เข้ากับหน้าตาเขาเสียเลย แต่เวลาเลย์ทำออกมาแล้วมันกลับน่ารักจนเกี๊ยวน้ำรู้สึกหมั่นไส้ “ใครเมียคุณ” “หึหึ!...” เสียงหัวเราะดังมาจากลำคอนั้น เกี๊ยวน้ำถึงกับขนลุกซู่ เธอไม่รู้ว่าเลย์กำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อเขาจับลงไปที่ปลายเท้าของเธอแล้วนวดคลึงเบาๆ
“คุณชอบไหม" ดูเหมือนว่าคำถามจากเลย์นั้น เธอจะไม่ได้ยินด้วยซ้ำไป เมื่อเกี๊ยวน้ำกำลังตกตะลึงในความงามของดอกไม้นานาพันธุ์ “มานี่ ผมจะพาไปดูอะไร” เลย์โอบสาวร่างเล็กเดินตรงไปในสวนหย่อม คราวนี้หญิงสาวกลับไม่ปฏิเสธใดๆ ยอมตามใจเลย์ไม่ว่าเขาจะพาไปไหน เธอก็จะไปเมื่อหัวใจมันไม่สามารถที่จะปิดกั้นเอาไว้ได้ “คุณช่วยอ่านตัวอักษรพวกนั้นเป็นประโยคให้ผมฟังหน่อยซิ” เลย์ชี้ไปที่ตัวอักษรในสวนหย่อมซึ่งมันถูกจัดทำขึ้นด้วยดอกกุหลาบหลากหลายสี แต่สวยงาม เกี๊ยวน้ำยอมรับว่าผู้ชายคนนี้ เขาได้ทุ่มทุนสร้างมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ เมื่อประโยคที่เห็นนั้นมันคือสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนต้องการไม่เว้นแม้แต่เธอเอง “เลย์!” “อ่านครับคุณเกี๊ยวน้ำ!” เกี๊ยวน้ำรู้สึกว่าหัวใจของเธอจะเต้นแรงเป็นพิเศษ เมื่อชายหน้าตาเถื่อนๆ อย่างเลย์มีมุมหวานๆ มุ้งมิ้งแบบนี้ “ใครเป็นคนคิดขึ้นมา คนนั้นก็อ่านเองสิ” เกี๊ยวน้ำแกล้งทำเป็นฟอร์ม แต่ความเป็นจริงแล้วเธออยากได้ยินจากปากของเลย์มากกว่า“แต่งงานกันนะ
พูดจบเลย์ก็เดินออกไปจากบ้านแ สตาร์ตรถขับพุ่งออกไปทันที ปล่อยให้พ่ออย่างเตชินทำหน้าไม่ค่อยพอใจ กับการตัดสินใจของภรรยาเท่าไหร่นัก “คุณเตชิน คุณยังจำวันที่ตาลหอบท้องเกี๊ยวน้ำหนีคุณไปได้ไหม คุณรู้สึกยังไง และตอนนี้เลย์เองก็กำลังรู้สึกไม่ต่างไปจากคุณ” คำพูดของผู้เป็นภรรยาทำให้เตชินนึกถึงวันที่เขาเฝ้ารอ การกลับมาของหมอพุฒตาลอย่างทรมานใจ ยิ่งคิดว่าเธอแท้งลูกเขาก็ยิ่งปวดใจ ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด นั่นคืออีกหนึ่งเหตุผลที่เขาพยายามชดเชยให้เกี๊ยวน้ำเป็นพิเศษมากกว่าลูกชายฝาแฝดทั้งสอง เขาพอจะเข้าใจความรู้สึกของเลย์ แต่ก็ยังเคืองๆ เรื่องที่ชายหนุ่มนั้นทำให้ลูกสาวของเขาเสียน้ำตาพอขับรถมาถึงคอนโดเขารีบขึ้นไปบนห้อง เพื่อเตรียมกระเป๋าเดินทาง ส่วนเรื่องตั๋วไม่ต้องห่วงหมอภาคินได้จัดการให้เรียบร้อยแล้ว เขาช่างได้น้องเขยที่ดีเหลือเกินรู้ใจไปหมดซะทุกเรื่อง เลย์มองไปรอบๆ ห้องนึกถึงวันแรกที่เจอกับเกี๊ยวน้ำ มันทำให้เขาฉีกยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกที่เป็นสุข ผู้หญิงเชยๆ ที่สามารถดึงดูดหัวใจของเขาอยากเข้าใกล้เธอทุ
“พี่เกี๊ยวหยุดร้องก่อน ใครทำอะไรอีกแล้วพี่ร้องไห้ทำไม พูดมาสิพวกเราจะได้ช่วยพี่ได้ สาเหตุที่ทำให้พี่ร้องไห้มาจากเรื่องอะไร” อคิณพูดออกมาอย่างช้าและใจเย็น ส่วนหมอภาคินมุขลินและโยกิต่างก็จับจ้องรอฟังคำตอบจากเกี๊ยวน้ำ “ฮึกฮื้อ! เกี๊ยวน้ำต้องขอโทษพ่อกับแม่ด้วยนะคะ คือว่าเกี๊ยวท้องค่ะ” “เรื่องแค่นี้เอง” หมอภาคินพูดออกมา เพราะเขาเป็นเพียงคนเดียวที่รู้สึกถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ เพราะเลย์ไม่อยากปิดบังจึงเล่าให้น้องเขยอย่างหมอภาคินฟังตลอด “ฮ๋า!! อะไรนะ” ส่วนคนที่เหลือได้อุทานออกมาพร้อมกันอย่างตกใจ “ลูกท้องกับใครเกี๊ยวน้ำ! ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใครบอกพ่อมาซิ!” เตชินกำมือแน่นแล้วพูดออกมาด้วยความโกรธ จนหมอพุฒตาลต้องปรามเอาไว้ “ใจเย็นๆ ค่ะคุณพ่อ ลูกโตแล้วไม่ใช่เด็กๆ หากผู้ชายคนนั้นมันไม่รับผิดชอบแค่หลานคนเดียวเ
“ฮึก... ฮื้ออ!” อยู่ๆ เกี๊ยวน้ำก็ร้องไห้ออกมา ไม่รู้ว่าเพราะความดีใจ หรือว่ากำลังเสียใจกันแน่ ภายในใจของเธอที่มีในเวลานี้ หญิงสาวกลัวไปหมดกลัวว่าบิดาจะรู้ และเสียใจผิดหวังในตัวเธอ “ลูกจ๋าแม่ควรทำยังไงดี” ความรักมักจะทำให้คนตาบอดเหมือนกับที่เธอเป็น อายุไม่ใช่กฎเกณฑ์เมื่อเธอนั้นมัวเมาเผลอตัวเผลอใจไปกับการยั่วยุของเลย์ หากตบมือข้างเดียวมันคงดังไม่ได้หากเธอไม่ร่วมด้วยกับเขา เรื่องนี้เลย์ควรรับรู้ เมื่อทั้งสองเป็นคนก่อร่วมกัน ก็ควรจะแก้ปัญหาไปด้วยกัน คิดได้ดังนั้นเกี๊ยวน้ำจึงรีบขับรถตรงไปที่คอนโดของเลย์ทันที พอขับมาถึง เธอรีบขึ้นแล้วไปยืนอยู่หน้าห้องด้วยความลังเล เธอกลับไม่กล้ากดรหัสเข้าไป ไม่รู้ว่าเลย์จะว่ายังไงที่เธอนั้นไม่ได้ป้องกัน เธอเป็นผู้หญิงควรจะป้องกันตัวเอง เกี๊ยวน้ำตัดสินใจกดรหัสเปิดประตูเข้าไป ภาพตรงหน้าหญิงชายกำลังจูบกันนัวเนี