คณินที่เกิดลังเลว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกต้องจริงๆหรือเปล่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกผิดแบบนี้ล่ะ สายตาที่เธอมองเขาก่อนหน้านี้มันดูบริสุทธิ์จนเขาเองเกิดหวั่นใจ
" มึงแน่ใจนะไอ้เสือว่ามึงจะเอาแบบนี้จริงๆ "
พยัคฆ์ถึงกับหันหน้ามามองเพื่อนสนิทของตนเพราะไม่คิดว่ามันจะพูดคำนี้ออกมาก่อนหน้านี้เขาวางแผนมาเกือบเดือนและสืบมาอย่างดีว่าเรื่องราวมันเป็นมาแบบไหนแล้วที่สำคัญเรื่องนี้ออกจากปากของเจ้าตัวไม่มีทางที่เขาจะไม่แก้แค้นให้แน่
" กูไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อน "
เมื่อได้ฟังแบบนั้นคณินจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้ายอมรับแล้วก็ปล่อยให้พยัคฆ์อุ้มร่างบอบบางขึ้นพาดไหล่กว้าง แล้วเดินขึ้นรถตู้สีดำสนิทคันหรูไป
" มึงลังเลหรอวะคณิน ไม่ว่าไอ้เสือมันจะตัดสินใจยังไงพวกเรามีหน้าที่สนับสนุนมันก็พอ มึงก็รู้ว่าคนแบบมันห้ามได้ที่ไหน กูรู้นะว่าสิ่งที่มันทำอยู่มันไม่ถูกเพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแป แต่ตลอดมาเราก็ใช้กฎหมู่ไม่ใช่กฎหมายมึงไม่ควรอ่อนไหวกับเรื่องนี้ "
คิมหันต์เอ่ยขึ้นเมื่อรถตู้ของพยัคฆ์ลับตาไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนได้กลิ่นไม่ค่อยดีหรือว่าไอ้พี่ชายตัวดีของเขามันจะมีใจให้กับศัตรูของเพื่อน
" กูรู้ กูแค่รู้สึกว่าเธออาจจะไม่ได้เป็นเหมือนที่พวกเราคิดก็ได้ "
" แค่ความรู้สึกของมึงมันเปลี่ยนแปลงความจริงไม่ได้หรอกนะคณิน มึงก็รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไงแล้วไอ้เสือมันโกรธผู้หญิงคนนั้นมากแค่ไหน มันไม่มีทางปล่อยผู้หญิงคนนั้นไปหรอกเพราะฉะนั้นมึงทำใจเถอะ "
คิมหันต์พูดเพื่อให้คณินตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ด้วยความที่เป็นฝาแฝดกันจึงเดาใจกันได้ไม่ยาก และคณินเองก็รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสาวน้อยอย่างเธอ
" อืม "
พยัคฆ์พาคนที่หลับปุ๋ยมายังสถานที่ที่เขาจัดเตรียมเอาไว้เป็นพิเศษสำหรับเธอ ของขวัญที่เขาตั้งใจมอบให้ผู้หญิงที่ทำให้คนที่เขารักที่สุดต้องเป็นแบบนั้น เธอจะต้องชดใช้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวของเธอเอง เขาจะไม่มีวันให้เธอได้มีความสุขนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป
เมื่อมาถึงในป่าลึกก็เจอเข้ากับกระท่อมเก่าๆหลังหนึ่งที่เตรียมไว้ ซึ่งเขาก็อุ้มเธอพาดบ่าลงมาจากรถโดยไม่ให้ลูกน้องช่วยเลยสักคน และเดินเข้าไปยังกระท่อมด้วยแรงกระแทกระหว่างเดินทำให้คนที่หลับไหลอยู่ตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาก็ตกใจสุดขีด เพราะไม่รู้ว่าคนที่จับเธอพาดบ่าอยู่ตอนนี้เป็นโจรมาจากไหน
" กรี๊ด!!! ปล่อยนะ นี่แกเป็นใครทำแบบนี้กับฉันทำไม ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยที ช่วยด้วย! "
หญิงสาวที่เริ่มสติแตกด้วยความกลัวรีบเอ่ยขอความช่วยเหลือแต่เหมือนว่าบริเวณรอบๆนี้จะน่ากลัวเกินไปมันมืดไปหมดจนเธอมองแทบไม่เห็นอะไรเลย เธอร้องขอความช่วยเหลือไปเรื่อยๆจนสุดท้ายก็โดนโยนลงมาอย่างไม่ใยดี
ตุ๊บ!
" โอ้ย! "
ร่างเล็กร้องอุทานออกมาหลังจากที่จะโดนจับโยนลงมายังแคร่ไม้เก่าๆ ด้วยความแรงทำเอาเธอเจ็บไปทั้งร่างกาย
" เลิกแหกปากสักทีน่ารำคาญ "
เสียงที่ได้ยินทำเอาร่างบอบบางถึงกับเงยหน้ามองเขาในทันที เขาคือผู้ชายที่อยู่ในงานคนที่หักหน้าเธอแล้วเขาจับตัวเธอมาทำไม แล้วที่นี่ที่ไหนคำถามที่เต็มไปหมดภายในหัวของเธอ
" คุณพยัคฆ์คุณจับฉันมาที่นี่ทำไม คุณต้องการอะไรกันแน่ "
อลิสาเลือกที่จะถามความต้องการของเขาไปตรงๆถ้าหากว่าจับเธอมาเรียกค่าไถ่ไม่น่าเป็นไปได้เพราะเขาออกจะรวยล้นฟ้าขนาดนั้นแล้วมีเหตุผลอะไรล่ะที่เขาจะจับเธอมาที่นี่
" หึ! ก็จับมึงมาทรมานไงล่ะ ผู้หญิงแพศยาน่ารังเกียจ คนแบบมึงไม่ควรมีความสุขลอยหน้าลอยตาบนความทุกข์ของคนอื่นหรอกนะ แม้ว่าคนอื่นจะทำอะไรมึงไม่ได้แต่กูเนี่ยแหละจะเป็นคนลงโทษมึงเอง "
ร่างเล็กได้แต่ขมวดคิ้วอย่างสงสัยในสิ่งที่เขาพูด เขาหมายถึงอะไรกันแน่ เธอมั่นใจว่าไม่เคยทำอะไรให้ใครเสียหายตั้งแต่เกิดมาเธอก็เป็นเด็กดีมาโดยตลอดแล้วทำไมเขาถึงมากล่าวหาเธอแบบนี้ต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ
" หยาบคาย นี่มันเรื่องอะไรกันนายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฉันไปทำอะไรให้นายเจ็บช้ำน้ำใจนักหนาถึงทำขนาดนี้หรือว่าพาฉันมาที่นี่จะฆ่าฉันเลยหรอ "
ในตอนนี้เธอก็ไม่เรียกเขาว่าคุณแล้วเหมือนกัน
" มึงได้ตายแน่แต่ฆ่ามึงตอนนี้มันง่ายเกินไป คนหน้าเนื้อใจเสืออย่างมึงต้องทรมานอย่างถึงที่สุดก่อนจะตาย กูจะทำให้มึงอยากตายแต่ตายไม่ได้ ทรมานทั้งกายทั้งใจ "
" บ้า! นายมันบ้าไปแล้ว ฉันไม่เคยทำอะไรให้นายสักหน่อยแล้วเราก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกันด้วยอย่ามาทำแบบนี้กับฉัน "
" อย่ามาทำเป็นใสซื่อ มึงบอกกูซิมึงชื่ออะไร "
พยัคฆ์ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และต้องการทบทวนเพื่อให้เธอได้คิดถึงเรื่องอะไรบางอย่างแต่นั่นเขาก็คงคิดผิดเพราะเธอทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
" อลิน ทัตเทพกาญ "
ร่างเล็กตอบออกไปเสียงเบาเพราะจะให้เธอบอกว่าเธอชื่ออลิสาก็คงไม่ได้ เพราะมันอาจกระทบไปถึงธุรกิจของคุณพ่อและเธอก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ตลอดเวลาเธอไม่เคยเป็นลูกรักเลยแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยนึกเกลียดพี่สาวในไส้ของตัวเองเลยสักนิด ตรงกันข้ามเธอหวังดีกับพี่สาวมาโดยตลอดซึ่งก็รู้ดีว่าพี่สาวของเธอไม่ได้คิดเช่นเดียวกันกับเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ร่างเล็กเริ่มฉุดคิดอะไรบางอย่าง หรือว่าพี่อลินพี่สาวฝาแฝดของเธอไปทำอะไรให้ผู้ชายคนนี้ไม่พอใจอย่างนั้นหรือ
" ถ้ามึงชื่ออลิน ทัตเทพกาญ งั้นก็ไม่ผิดแน่ ลองนึกดูดีๆว่าไปทำอะไรกับใครไว้ถึงต้องมารับผลกรรมแบบนี้ "
" แล้วฉันไปทำอะไรให้นายเจ็บช้ำน้ำใจนักหนาหรอ "
คราวนี้เป็นคนตัวเล็กที่เกรี้ยวกราดใส่เขาบ้างเพราะเธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอเจอมันคืออะไรแล้วพี่อลินไปทำอะไรให้เขาเขาถึงได้ถึงขั้นมาเอาชีวิตแบบนี้
" มึงรู้ดีอยู่แก่ใจทบทวนตัวเองดูซะหรือว่าทำมันจนเป็นนิสัยจนจำไม่ได้แล้วว่าทำนิสัยแย่ๆกับใครไว้บ้าง "
" ฉันไม่เคยทำอะไรแบบที่นายว่าทั้งนั้นน่ะ ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจถ้าฉันหายไปคุณพ่อต้องตามหาฉันแน่ "
ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปากคนแบบเขาน่ะหรือจะกลัวพ่อของเธอพ่อของเธอต่างหากที่ต้องกลัวเขา
" ในงานเลี้ยงมึงก็เห็นแล้วนี่ว่ากูจะต้องกลัวพ่อมึงหรือว่าพ่อมึงจะต้องกลัวกูกันแน่ นับจากวันนี้เป็นต้นไปมึงจะต้องชดใช้ให้คนของกู เริ่มจากอะไรดีล่ะ "
พยัคฆ์ไม่พูดเปล่าแต่ยังใช้สายตาโลมเลียคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างเปิดเผย เขาเพิ่งสังเกตว่าหุ่นเธอมันเซ็กซี่แค่ไหน เธอตัวเล็กมากสูงไม่น่าจะเกิน 160 เซ็นติเมตร ต่างจากเขาที่สูงไปถึง 185 เซ็นติเมตร เอวคอดกิ่วได้รูปบวกกับหน้าอกหน้าใจของเธอที่มันใหญ่จนล้นทะลักออกมานอกเดรสสายเดี่ยวที่เธอใส่อยู่ตอนนี้ เธอคงยังไม่รู้ตัวว่าเธอนั่งอยู่ตอนนี้มันล่อตาล่อใจขนาดไหน และเมื่อเขามองไม่หยุดร่างบางเองจึงมองตามเขาแล้วก็ต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดดอกบัวคู่งามที่มันล้นทะลักออกมาเอาไว้
" อย่ามองนะ ทะลึ่ง!! "
2 ปีผ่านไป ตอนนี้พยัคฆ์ได้กำเนิดทายาทเป็นลูกชายเพียงคนเดียวชื่อ คอปเปอร์ ซึ่งก็มีความหมายเหมือนกับชื่อของเขานั่นแหละ จริงๆเขามีแพลนจะมีลูกผู้หญิงอีกสักหนึ่งคน แต่ตอนนี้อัญชันดูเหมือนจะยังไม่อยากมีสักเท่าไหร่เพราะอยากดูแลเจ้าคอปเปอร์ให้ดีที่สุด ถ้าถามว่าตอนนี้เขาอยู่ในสถานะไหนก็บอกได้เลยว่า“ พ่อบ้านใจกล้า” หลังจากที่ง้อเธอสำเร็จในวันนั้นเขาก็กลายเป็นพ่อบ้านทันที ทำทุกอย่างแทนเธอเหมือนกับที่เคยทำกับเธอเมื่อก่อนหน้านี้นั่นแหละเพียงแต่ว่าตอนนี้เขาทำมันด้วยความรักไม่ได้โดนบังคับแต่อย่างใด อลิสาแทบจะเป็นเจ้าหญิงสำหรับเขา เขาสัญญากับพ่อเธอว่าจะดูแลเธออย่างดีเขาก็ทำมันจริงๆ ตอนนี้แทบไม่เหลือคราบของมาเฟียเลยด้วยซ้ำ มีแต่คำว่าพ่อของลูกและสามีที่ดีของอัญชัน ส่วนทางด้านอลินและสิงหราช 2 ปีที่ผ่านมาสิงหราชเริ่มจะกลับมาเดินได้อาจจะยังไม่ปกติสักเท่าไหร่ เพราะว่ามันไม่ยอมทำกายภาพบำบัดตั้งแต่ทีแรก เลยกลายเป็นเรื่องยากที่จะกลับมาเดินได้ให้เหมือนคนปกติ แต่พอเวลาผ่านไปความตั้งใจของไอ้สิงห์มันก็เกิดผลเมื่อตอนนี้มันกำลังจะกลับมาเดินได้เป็นปกติแล้วเพียงแต่ต้องรอเวลาอีกสักหน่อยเท่านั้น และ
พยัคฆ์ใช้ลิ้นดุนดันช่องทางรักของคนตัวเล็กอย่างเอาเป็นเอาตายพร้อมกันนั้นมือหนาอีกข้างก็ยกขึ้นมาใช้นิ้วถึงสามนิ้วสอดเข้าไปในช่องทางรักของเธอพร้อมกับชักเข้าชักออกตามแรงอารมณ์ดิบเถื่อนที่ทั้งสองคนมีด้วยกัน ความรู้สึกเดียวกันมันก็คุยกันง่ายแจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ! เสียงนิ้วมือร้ายที่ชักเข้าชักออกในช่องทางรักของอลิสา ร่างเล็กครางระงม พยัคฆ์ได้ไปปรึกษาหมอมาแล้วว่าในช่วงนี้เขาไม่ควรมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเพราะอยู่ในระยะที่ค่อนข้างอันตราย แต่ก็ยังสามารถมีได้เพียงแต่ว่ายังทำแรงไม่ได้นัก เขาจึงพยายามเบามือที่สุด" แรงกว่านี้ได้ไหมเสือขา อัญจะเสร็จแล้ว " พยัคฆ์เร่งมือจนสุดท้ายแล้วก็ส่งเธอไปจนถึงปลายทางสีรุ้ง คนตัวเล็กหลับตาพริ้มด้วยความสุขใจ การทำรักด้วยกันก็เหมือนเป็นการผ่อนคลายชนิดหนึ่งนั่นแหละ เมื่อเธอได้รับความสุขสมมันก็เลยแสดงออกมาทางสีหน้าได้อย่างชัดเจน คนตัวโตจับขาเรียวของเธอแยกออกจากกันกว้าง จากนั้นตัวเขาก็เข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างขาเธอ พร้อมกับชักแก่นกายออกมาชักรูดเพียงแค่สองสามครั้งแล้วก็ค่อยๆยัดมันเข้าไปจนสุดลำ" อืม...อ่าส์ เสียวชะมัด " พยัคฆ์ครางออกมาอย่างสุขสม ช่องทางรัก
" มึงจะเอาจริงหรอวะ " ลมเหนือถามเขาแค่พูดเล่นๆไม่ได้คิดว่ามันจะเอาจริง ถึงเขาจะทำแบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่นแต่ก็ใช่ว่าอัญชันจะชอบนะ บางทีเธออาจจะเกลียดมันตลอดไปเลยก็ได้" อือ คืนนี้เลย กูใจร้อน " พยัคฆ์พูดอย่างหมายมั่น วิธีนี้แหละดีที่สุดสำหรับเราแล้ว ง้อแบบบ้าๆแบบที่เขาเคยทำบ้าๆกับเธอนั่นแหละ" ไอ้นี่มันบ้าระห่ำดีจริงๆเว้ย.. " คราวนี้เป็นคิมหันต์ที่พูดขึ้นมา แบบนี้สิถึงจะสมเป็นไอ้เสือที่พวกเขารู้จัก กล้าได้กล้าเสียบ้าให้สุด" หึ แล้วแต่มึง " คณินที่ตอนนี้ก็เห็นด้วย ถ้ามัวแต่มาตามง้อกันอยู่แบบนี้ก็คงไม่ไปไหน คงง้อไปถึงชาติหน้าเลย ดูท่าทางอัญชันใจแข็งขนาดนั้น " งั้นพวกมึงก็กลับไปได้แล้ว กูจะอยู่กับเมีย " พยัคฆ์เอ่ยปากไล่เพื่อนในทันที ตอนนี้ไม่ได้สนใจแล้วเขาต้องการแค่ไปหาเมียตัวน้อยของเขาอย่างเดียว " เอ้าไอ้นี่...พวกกูยังไม่ได้เริ่มกินกันเลยนะเว้ย มึงจะไล่แล้วหรอ มึงจะชวนมาก็ชวนนึกจะไล่ก็ไล่มึงนี่มันยังไงกันนะ " คราวนี้เป็นลมเหนือที่พูดขึ้นมา เขาเพิ่งจะมายังไม่ทันได้นั่งด้วยซ้ำมันก็จะไล่เขากลับเสียแล้ว เขาอุตส่าห์แคนเซิลนัดสาวสวยเพื่อมากินเหล้ากับมัน นึกว่ามันจะต
พยัคฆ์หลังจากที่คุยกับเกรียงไกรเสร็จแล้วเขาก็รีบมาหาเธอที่บ้านตากอากาศของไอ้คณินทันทีเพื่อมาง้อเธอ ในตอนนี้เขาทำได้เพียงอย่างเดียวคือทำใจเท่านั้น เพราะคงโดนเธอเกลียดหนักแน่ๆ เมื่อมาถึงหน้าบ้านก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ซื้อไม่ถูกแค่หวย“ นายมาทำไมอีก ” อัญชันถาม เธอไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว ปากพร่ำบอกแบบนั้นแต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกเหมือนที่พูดเลยสักนิด ทำไมถึงได้ดีใจที่เขาให้ความสำคัญมาง้อถึงที่นี่ อาจด้วยเพราะเธอไม่เคยสำคัญกับใครตั้งแต่เกิดมา พอเห็นเขามาง้อเข้าหน่อยใจเจ้ากรรมกลับโอนอ่อนไปกับเขา“ พี่มาง้ออัญ จะให้พี่ทำยังก็ได้เพื่อให้อัญยกโทษให้พี่ พี่ขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นนะครับ ” พยัคฆ์บอกผ่านรั้วหน้าบ้าน เขาอยากเข้าไปแต่เธอมองเขาตาเขียวเลยใครจะกล้า“ไม่มีทางหรอกค่ะ กลับไปเถอะ”“โถ่อัญ อัญครับ....” ไม่ทันที่พยัคฆ์จะได้เอ่ยอะไรออกไปอีก อัญชันก็เดินเข้าบ้านไปเลย พยัคฆ์ถึงกับก้มหน้าอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก แต่เขาไม่สิ้นหวังแค่นี้หรอกนะ ทักข้อความหาเพื่อนทันที“ ให้พวกนั้นช่วยดีกว่ามั๊ง ขืนง้อเธอแบบนี้ง้อจนแก่เธอก็ไม่ให้อภัยหรอก ”Tiger : พวกมึง กูอยากมาปาร์ตี้บ้านไอ้คณิน บ้าน
พยัคฆ์มาหาเกรียงไกรถึงที่บริษัทเครือทัตเทพกาญเพื่อที่จะมาคุยเรื่องของอัญชันให้มันถูกต้อง ตอนนี้เขาเรียกชื่ออัญได้อย่างคล่องปากแล้ว " สวัสดีค่ะคุณพยัคฆ์มาพบท่านประธานหรอคะ " พนักงานต้อนรับพูดจาไพเราะพร้อมกับทำท่าทางยั่วยวนคนตรงหน้า แต่พยัคฆ์ก็ไม่ได้จะสนใจตอนนี้เขาต้องการทำบางอย่างให้เรียบร้อย เพื่อจะได้กลับไปง้อเมียของเขา" ครับ " " ไม่ทราบว่าได้นัดเอาไว้หรือเปล่าคะ พอดีวันนี้ท่านประธานมีประชุมในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้าค่ะ ไม่แน่ใจว่าท่านจะให้เข้าพบหรือเปล่า " พนักงานต้อนรับพูดออกไปด้วยไม่รู้ว่าพยัคฆ์คนนี้มีอิทธิพลมากแค่ไหนกับท่านประธานของเธอ เธอรู้แค่ว่าคนคนนี้เป็นคนกว้างขวางของเมืองนี้ก็แค่นั้น " บอกคุณเกรียงไกรไปว่าพยัคฆ์มาขอพบก็พอ ถ้าเขาไม่ให้เข้าพบฉันก็จะกลับ " พยัคฆ์บอกกับพนักงานออกไปทำให้พนักงานรีบต่อสายไปหาเกรียงไกรแล้วก็ได้รับคำตอบว่าให้รีบพาตัวเขาขึ้นไปหาทันที เมื่อขึ้นมาบนห้องของผู้บริหารแล้วเกรียงไกรต้อนรับเป็นอย่างดี เพราะหวังว่าจะได้ร่วมงานด้วย เกรียงไกรนั้นหวังเพียงแค่ผลประโยชน์ที่จะได้รับเพียงเท่านั้น เขาเกิดมาเป็นคนเห็นแก่ตัวเขาก็พอรู้ดี แต่นั่น
คณินพาพยัคฆ์มานั่งตรงม้านั่งหน้าบ้าน เขาไม่แม้แต่จะให้มันเข้าไปในตัวบ้านเลยเพราะในนั้นอลิสาคงไม่สะดวกใจที่จะเจอกับมันอีก " กูจะไม่ขอโทษมึงนะที่พาอลิสาออกมาโดยที่ไม่ได้บอก เพราะตอนที่กูเจอเธอ เธอเกือบไม่มีชีวิตรอดกลับมาแล้ว กูเห็นแล้วกูสงสาร ถ้ามึงจะไม่เป็นเพื่อนกับกูเพราะเหตุผลนี้กูก็เข้าใจ " " หมายความว่ายังไง เอาเรื่องมินตราก่อน เรื่องมึงกับกูไม่เคยเปลี่ยนแปลงกูทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ กูขอโทษ " พยัคฆ์ถามเพราะเขารู้ว่ามินตราคือต้นเหตุ แต่เหตุการณ์ที่แน่นอนนั้นยังไม่รู้ดีเพราะมัวแต่ตามหาอลิสาจนไม่ได้สนใจใคร ส่วนคณินเมื่อได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้นก็โล่งใจ เขาคิดหนักมาตลอดว่าแก๊งค์มันจะแตกจริงๆหรือ ไอ้คิมหันต์กับลมเหนือก็ไม่รู้จะช่วยยังไง บอกแค่ว่าจะไปคุยกับไอ้เสือให้ พอมาฟังวันนี้ก็รู้เลยว่ามันก็รักเพื่อนมากเหมือนกัน อย่างน้อยๆมันก็ตัดกันกับเขาไม่ขาด ต่อไปนี้เรื่องผู้หญิงจะไม่ทำให้เราทะเลาะกันอีก" มินตราลวงเธอไปฆ่ากลางทะเล หลอกว่าจะพาเธอหนี เธอไม่ได้เชื่อมินตราหรอกนะอัญชันเธอแค่ไม่มีทางเลือก เธอเลือกไปตายเอาดาบหน้ามึงคิดว่าไง กูไปเห็นเข้าพอดีเลยตามไปช่วยได้ทัน กูไม่อยากคิดเลยนะไอ้