ไป๋หลานตั้งใจรีดน้ำมังกรอย่างสุดฝีมือตามคำบอกของเหมยกุ้ย ทำให้มังกรของใต้เท้าฉีระเบิดน้ำออกมาเต็มปาก พร้อมกับเสียงครางดังลั่นห้อง
“โอ้วววววววววววววววววว อ๊าซ์”
สาวน้อยดูดกลืนน้ำหวานจนหมดลำมังกร แล้วค่อย ๆ ถอนเรียวปากออก
อกของใต้เท้าฉีกระเพื่อมไหวตามแรงหอบหายใจ
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก จะ เจ้าสุดยอดมากเหมยกุ้ย”
“สุดยอดแบบนี้ พอที่จะเข้าเฝ้าฮ่องเต้ด้วยได้ไหม”
เหมยกุ้ยตัวจริงที่อยู่หลังม่านออดอ้อนถาม
“ทำไมจะไม่ได้หล่ะจ๊ะ ข้าจะพาเจ้าไปทุกที่เลย”
ใต้เท้าฉีรับคำเพราะความเคลิบเคลิ้ม
“งั้น ต้องให้รางวัลใต้เท้าฉีหนัก ๆ สักหน่อยหล่ะ”
สิ้นเสียง เหมยกุ้ยพยักพยัดส่งสัญญาณให้ไป๋หลานจัดการเผด็จศึกมังกรเฒ่า
มือเรียวเล็กของไป๋หลานลูบไล้มังกรที่เหี่ยวลงไปเพราะถูกรีดพิษออกเมื่อสักครู่ สัมผัสเล้าโลมของสาวน้อยทำให้มังกรเฒ่าร้อนฉ่าพองโตขึ้นอย่างทันใจ จนผู้เป็นเจ้าของถึงกับครางกระเส่าถาม
“มะ เหมยกุ้ย เจ้าจะทำอะไร อ๊า อะ”
“ตอบแทนที่ใต้เท้าจะพาข้าเข้าเฝ้าฮ่องเต้ไง”
“เอ๊าะ อ้าววววววววว”
เมื่อมังกรเฒ่าผงาดจนตั้งขึ้น ไป๋หลานก็โขย่งตัวขึ้นคร่อม จนหัวมังกรอวบอ้วนมุดผ่านเข้ารูหอยอันคับแคบ จนนางถึงกับครางกระสันเมื่อมังกรร้อนฉ่ามุดเข้าไปจนสุดลำตามแรงกดของสะโพก
“อ๊ายยยยยยยยยยยยยย”
“อร้ากกกกกก อ่า”
ไป๋หลานขย่มมังกรเฒ่าร้อนฉ่า ขย่มขึ้นลง
ตับ!
ตับ!
ตับ!
ตับ! ตับ! ตับ! ตับ!
“โอ้วววววววว อ๊าซ์ ซี้ดดดดดดดดดดดด สุดยอดดดดดด มากกกกก”
ใต้เท้าฉีกระเด้งเอวรับแรงขย่มขึ้นลงที่ทวีความเร็วแรงขึ้น จนกลีบเนื้อหอยของนางฉ่ำเยิ้ม น้ำหวานไหลเป็นทางยิ่งทำให้มังกรเฒ่าร้อนฉ่าซอยเข้าออกรูหอยอย่างเมามัน
ตับ! ตับ! ตับ! ตับ!
ตับ! ตับ! ตับ! ตับ!
“ซี้ดดดดดด อ่าซ์ มะไหวววววว แล้ววววววว”
ใต้เท้าฉีระเบิดน้ำไหลทะลักออกมาจนเต็มรูหอย ร่างทั้งร่างบิดเกร็งเพราะความเสียวซ่านอย่างสุดชีวิต
ในขณะที่กลีบเนื้อหอยของสาวน้อยบีบรัดมังกรตอด ตึบ ตึบ ตึบ ร่างอรชรของไป๋หลานบิดเกร็งอย่างซ่านกระสันพอกัน
“อร้างงงงงงงงงงงงงง”
“โอ้ววววววววววววว อ๊ากซ์”
ทั้งคู่ตะโกนลั่นเมื่อล่องลอยไปจนถึงสรวงสวรรค์
แฮ่ก ๆ แฮ่ก ๆ แฮ่ก ๆ
เมื่อถึงฝั่งความสุข ใต้เท้าฉีก็ผล็อยหลับไปก่อนที่ไป๋หลานจะถอดมังกรออกจากรูหอยเสียด้วยซ้ำ
เมื่อถึงรุ่งสาง ตะวันสาดแสงส่องเข้ามาภายในห้องกุหลาบแดง
ร่างอรชรนอนเคียงข้างร่างอวบอ้วน พุงพลุ้ยกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจ แขนยาวเรียววางโอบร่างชายชราไว้ ดวงตาสุกใสของนางมองที่ใบหน้าเหี่ยวย่นที่ยังคงหลับสนิทไม่รู้ตัว ริมฝีปากเรียวบางชมพู่ยกขึ้นยิ้มน้อย ๆ เมื่อนึกถึงแผนการเมื่อคืนของนางที่สำเร็จลงอย่างงดงาม
เหมยกุ้ยกล่าวกับตนเองในใจ ต่อให้ยิ่งใหญ่มากแค่ไหน มีเงินทองมากเท่าใด หรือมีอิทธิพลมากสักเท่าใดหากนางไม่เต็มใจจะพลีกายให้ ชายผู้นั้นก็อย่าหวังว่าจะเชยชมนาง!
ฮึ ฮึ ฮึ
เหมยกุ้ยหัวเราะในลำคอเบา ๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่นางใช้ให้ไป๋หลานสวมรอยเป็นนางปรนนิบัติชายชราผู้นี้จนสิ้นฤทธิ์
ร่างอวบอ้วนเหี่ยวย่นของชายแก่ขยับพลิกตัว เสียงหัวเราะเมื่อสักครู่ของเหมยกุ้ยปลุกชายแก่ให้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล
ใต้เท้าฉีพลิกตัวสวมกอดร่างอรชรข้างกายเข้าแนบอก เมื่อคืนเขาฝันดีมากและมีความสุขเป็นล้นพ้น และเมื่อลืมตาตื่นขึ้นก็ยังพบนางฟ้ายังคงอยู่ข้างกาย จมูกอวบอ้วนจึงฝังลงแก้มนวลพร้อมกับสูดกลิ่นหอมของเนื้อสาวเข้าเต็มปอด
ซู้ดดดดดด ฟอด
เหมยกุ้ยแสร้งทำเป็นเอียงอายแล้วอุทานอย่างมีจริตขึ้นว่า
“อุ๊ย! ใต้เท้า เช้าแล้วนะคะ อิ อิ”
ใต้เท้าฉีหยุดชะงัก มองซ้ายขวา แล้วอุทานขึ้น
“ตาย ๆ นี่มันกี่โมง กี่ยามแล้ว !”
“สายมากแล้ว”
เหมยกุ้ยตอบขณะที่มองร่างอวบอ้วนถลาลงจากเตียงนอน แล้วคว้ากางเกงที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวม
“แย่แน่ ๆ อันเหว่ยต้องว่าข้าแน่ๆ”
“อันเหว่ย คือ ใครกัน ทำไมถึงทำให้ท่านร้อนรนเช่นนี้”
เหมยกุ้ยถามขณะเอื้อมมือไปหยิบเสื้อคลุมสวมให้เรียบเช่นกัน
“เขาเป็นบุตรชาย บุตรชายผู้เถรตรง เรานัดกันว่าจะรีบออกเดินทางตอนเช้าตรู่ นี่สายมากแล้ว”
“อิ อิ ใต้เท้าฉี ท่านเป็นพ่อเขา จะเกรงเขาไปไย”
“นางฟ้าจ๋า ถ้ารักจะลักสนุกแบบข้า ต้องทำตัวอยู่ในโอวาท ให้ผู้คุมที่บ้านตายใจ ข้าถึงได้มาสนุกกับเจ้าได้แบบนี้อย่างไรหล่ะ”
ใต้เท้าฉีหยิกไปที่แก้มนวลของหญิงสาว นางแสร้งเอามือปัดป้องอย่างเขินอายพองาม แล้วเอ่ยชมเพื่อเอาใจ
“ใต้เท้าช่างฉลาดเฉียบแหลมยิ่งนัก”
เหมยกุ้ยหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมให้ใต้เท้าฉีพร้อมกับเอ่ยทวงสัญญา
“เมื่อคืน ใต้เท้าบอกกับข้าว่าจะพาไปเมืองหลวงด้วย”
“ฮะ! อะไรนะ! ข้ารึบอกว่าจะพาเจ้าไปเมืองหลวง?”
เหมยกุ้ยยิ้มอย่างใจเย็น เบียดอกอวบเข้าหาร่างอวบอ้วนพร้อมกระซิบข้างหูราวกับจะร่ายมนตร์ว่า
“เมื่อคืนท่านชมข้าทั้งคืน ชมว่าข้าสวยมาก มากจนกินอยากจะกินซ้ำแล้วซ้ำอีก หากพาข้าไปด้วยระหว่างการเดินทางข้าก็จะช่วยให้ท่านได้คลายเหงาได้”
เหมยกุ้ยขยับตัวขึ้นลงให้หน้าอกอวบ ๆ นุ่มนิ่มบดเบียดลำแขนของใต้เท้าฉี จนชายชรารู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับคำพูดออดอ้อนของนาง
“และหากท่านพาข้าไปถวายตัวให้กับองค์เหนือหัว ในนามบุตรสาวบุญธรรมของท่าน และเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ ท่านลองคิดดูสิว่า ผลที่ได้รับตอบแทนกลับมามันจะมากมายมหาศาลสักแค่ไหน จากขุนนางหัวเมืองเหนือตำแหน่งเล็กๆ อาจจะได้เลื่อนขั้นเป็นถึงผู้ตรวจการแผ่นดินเชียวนะ”
เหมยกุ้ยกระซิบข้อเสนอแนบหู ใต้เท้าฉีหลับตาพริ้มคิดตามสิ่งที่นางเอื้อนเอ่ย
-จริงสินะ ถ้าข้าพานางไปถวายตัวแก่ฮ่องเต้ แล้วเป็นที่โปรดปราน เมื่อนั้นหากข้าต้องการสิ่งใด ข้าย่อมต้องได้อย่าว่าแต่เพียงตำแหน่งเลย แม้แต่บุตรชายของข้าเองก็จะสามารถได้ตำแหน่งจองหงวนมาอย่างง่ายดาย-
ดวงตาเล็กหยีเฉียงขึ้น เมื่อสิ่งที่คิดอยู่ในใจทำให้เบิกบาน
เมื่อใต้เท้าฉีคิดได้เช่นนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะขึ้นอย่างถูกใจ ก่อนกล่าวกับเหมยกุ้ยว่า
“เจ้าช่างเป็นผู้หญิงที่ฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก เอาละข้าจะลองคุยกับรื่อหงดู หากนางยอม ข้าก็จะพาเจ้าไปด้วย”
เหมยกุ้ยย่อตัวลงพร้อมกับกล่าวขอบคุณใต้เท้าฉี
“ใต้เท้า ช่างเมตตาต่อข้ายิ่งนัก ข้าจะไม่ลืมบุญคุณท่านเป็นอันขาด”
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
“อะ อะ อ่าซ์ อร้ายยยยยยยยยยยย”สิ้นเสียงครวญคราง เรือนร่างโชกเหงื่อของทั้งคู่ก็สั่นสะท้านราวกับถูกไฟฟ้าซ็อต ทั้งสองนิ่งค้างซึมซาบความซาบซ่านให้เต็มทรวง ก่อนจะจบบทสวาททะลวงหอยของแม่ทัพด้วยการจูบบดลึกวาบหวามฝากความหวานให้ตราตรึงใจและแล้ววันแต่งตั้งองค์จักรพรรดินีอย่างเป็นทางการพื้นที่ท้องพระโรงลามไปจนถึงประตูวังด้านหน้าเต็มไปด้วยบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ เข้าร่วมถวายพระพรและเป็นสักขีพยานในการรับตำแหน่งอันสูงส่งเมื่อเสียงแตรเสียงประทัดดังสนั่นขึ้นเป็นสัญญาณการเริ่มพิธี เสียงแซ่เซ็งพูดคุยของเหล่าขุนนางทั้งหลายต่างสงบลง พร้อมกับยืนในแถวรอรับการเสด็จขึ้นบัลลังก์ไม่ช้าร่างงดงามในชุดจักรพรรดิเต็มยศก็ปรากฏบนพรมสีแดงที่ทอดยาวสู่ราชบัลลังก์ท่อนล่างเป็นกระโปรงยาวสีแดงปักมังกรที่ฐานด้านล่าง ชายกระโปรงยาวระพื้น ยามก้าวเดินสะบัดไหวดูราวกับมังกรโลดแล่นในสายน้ำแยงชี ผ้าคล้องไหล่สีทองอร่ามคลุมเป็นสายยาวที่แขนทั้ง 2 ข้าง เสื้อชั้นนอกแขนกว้างปักลายกุหลาบดิ้นทอง แขนเสื้อที่ยาวลงมาถึงสะโพกพลิ้วไหวตามจังหวะย่างก้าว เนื้อแพรพรรณล้วนทักทอจากช่างฝีมือดีที่สุดในแผ่นดิน !!“แม่ทัพใหญ่จางหย่งขอเข้าเฝ้า!!!”
ตับ ตับ ตับ ตับๆๆๆๆๆๆ“อะ อ่า อ๊า อร้ายยยยยยยย”ซ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบพรวดดดดดดดดดดดดดดดด“อร้ากกกกกกกกกก”มังกรยักษ์พ่นพิษอุ่นซ่านเข้าเต็มโพรงหอยพร้อมกับเสียงครางระงมจนถึงสวรรค์ของทั้งคู่ ร่างอรชรกระตุกงึกๆ เกร็งเสียวสุดขีด สะโพกแกร่งของแม่ทัพหนุ่มผู้หิวกระหายตอกตรึงรูหอยบดแน่น ปล่อยให้จิตวิญญาณของตนล่องลอยไปแสนไกล ในไม่ช้าเรือนร่างกำยำก็ค่อยๆ เอนซบลงอกอวบๆ ทั้งคู่หอบหายใจกระเส่า“อ่า ข้าไม่เคยกินสุราอร่อยขนาดนี้มาก่อน”แม่ทัพรำพันกระซิบแนบเนื้อนวล บนโต๊ะกลมใหญ่กลางกระโจม เขาไม่คิดว่าการเดินทางกลับวังหลวงครั้งนี้จะได้พบเทพธิดาที่นำพาเข้าสู่สรวงสวรรค์อย่างไม่คาดฝัน“ข้าก็ไม่เคยถูกมังกรยักษ์จ้วงกระหน่ำได้ถึงใจขนาดนี้เช่นกัน โอ้แม่ทัพสมแล้วที่ท่านเป็นยอดชาตรี”เหมยกุ้ยพลิกตัวขึ้น ดุ้นมังกรยักษ์จึงหลุดออกจากร่องหอย“อ่า”ร่างอรชรค่อยๆ เลื้อยกายลงมาที่หว่างกำยำ จนสบเข้ากับลำตัวของมันเยิ้มไปด้วยน้ำทิพย์สีขาวขุ่น“มังกรท่านใหญ่น่ากินเหลือเกิน”เหมยกุ้ยถึงกับอุทานกระเส่าเมื่อเจอหัวดุ้นสีน้ำตาลไหม้อาบช่ำด้วยน้ำทิพย์ เส้นเลือดปูดโปนยังเต้นตุบๆ ลิ้นเรียวเล็กแลบเลียริมฝีปากตนอย่างห
ยิ่งลิ้นสากสอดแทง... น้ำหวานยิ่งทะลักจนฉ่ำปาก เขาดูดดื่มตักตวงความหวานฉ่ำที่ทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสายแผล็บๆ แผล็บ ๆ “อะ.... อือ... อะ อ่า จะแตกแล้ว อ่อยยยยยย”ปากใหญ่ร้อนฉ่ายังคงขบเม้มกลีบเนื้อหอยเต็มปากเต็มคำ ลิ้นร้อนฉ่าแทงเข้าแทงออกรัวๆ เร่งจังหวะตามเสียงกระเส่าของนาง ยิ่งดูด ยิ่งเลียน้ำหอยฉ่ำ ๆ ยิ่งไหลทะลัก ร่างอรชรบิดส่ายบ่งบอกว่าเจ้าของร่างกำลังเสียวซ่านมากแค่ไหนจ๊วบบบบบบ จ๊วบบบบบบจ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ แฮ่กๆ แฮ่กๆ“โอ้วววววววว ท่านแม่ทัพ ไม่ไหวววว แล้ววววว อร้ายยยย”เหมยกุ้ยแอ่นสะโพกหยัด มือเรียวขยุ้มผมดกดำของเขาให้แนบชิดร่องสาว ร่างอรชรกระตุกเกร็งงึก ๆ ริมฝีปากสีแดงสดเผยอค้างครางออกมาผะแผ่วด้วยความเสียวซ่านที่แผ่ซ่านไปทั้งกายสาว“อร้ายยยยยยยยยยย”พรวดดดดดดดดดดดด น้ำหอยแตกพรวดทะลักง่ามขา รูหอยขมิบตอดอากาศอย่างหิวโหย ซ่านกระสันอยากให้มังกรจ้วงแทงแทบขาดใจ เหมยกุ้ยครางกระเส่าขมิบตอดความว่างเปล่าไม่ยอมหยุด นางลอยขึ้นสวรรค์ชั้นหนึ่งไปแล้ว“อะ อ่า อือ อ่อยยยยยย”“อู้ววว.. อ่า... เหมยกุ้ย... เงี่ยนมากแล้วสินะ นำทะลักเลยนะ โอ้ววววว”แม่ทัพหยัดกายขึ้นแลบล
“เชิญชิมสุราชั้นเลิศจากข้า... เหมยกุ้ย มอบเป็นของขวัญแด่ท่านแม่ทัพ”มือใหญ่ยึดข้อมือเล็กกางออก แล้วร่างใหญ่ก็ถาโถมเข้าใส่ร่างเล็กที่นอนแผ่หลาบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว“เหมยกุ้ยยยยยยย ฮ่า ๆ เหมยกุ้ย”จ๊วบ!ซู้ดดดด จ๊วบ“อะ อ่า หือ อ่า”ลิ้นสากร้อนระอุแทรกเข้าไปในโพรงปากอุ่น มันตวัดลิ้นเล็กให้ตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อนเลือดในกายนางร้อนระอุ เผยอเรียวปากขึ้น ตอบรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามา และหยัดร่างเข้าเบียดกายแข็งแกร่งทันทีซู้ดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ“อืม อ่า จ๊วบ”ร่างอรชรใต้ร่างใหญ่กำยำบิดส่าย อย่างซ่านกระสันเมื่อแม่ทัพหนุ่มบรรจงจูบด้วยลิ้นร้ายอย่างหื่นกระหาย ลิ้นร้อนควาญรีดน้ำหวานในโพรงนางจนหมดสิ้น แล้วลามเลียมาถึงติงหูเกิดความสยิวแผ่ซ่านจนขนอ่อนของนางลุกซู่ทั้งกายจนครางกระเส่าออกมา“อร้ายยยย อ่า หือ”แผล็บ! จ๊วบ!ปากร้อนระอุของแม่ทัพใหญ่ลามเลียเลื้อยลากมาถึงซอกคอขาวผ่อง ลิ้นร้อนตวัดเลียกลืนกินสุราในเนื้อนวลมาเรื่อยๆ มือใหญ่ร้อนฉ่าดึงทึ้งอาภรณ์นางออกจนเกิดรอยแยกของเสื้อคลุม หน้าอกอวบอิ่มเผยชูชันอวดเต้าสล้างกลมกลึงเฉิดฉายอยู่ตรงหน้าแม่ทัพหนุ่มจับจ้องอกอวบๆ ของนางอย่างหลงใหล
แม่ทัพใหญ่ยืนนิ่งราวกับถูกสาป เขาคาดว่าจะได้กลิ่นคาวเลือดและการสู้รบซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัด แต่สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ คือ สาวงาม งามที่สุดที่เขาเคยพบยิ่งยามที่ร่างอรชรเยื้องย้ายขยับกายเข้าใกล้ กลิ่นหอมฟุ้งลอยอบอวลไปทั่วทั้งกระโจม ใจของแม่ทัพใหญ่เต้นตึกตักระส่ำ เต้นแรงยิ่งกว่าการเห็นกองทัพศัตรูนับแสนอยู่ตรงหน้าสติของแม่ทัพใหญ่หลุดลอยลืมสิ้นว่าตนมาที่กระโจมน้อยนี้เพื่อสิ่งใด หัวใจของเขามันวาบหวามเคลิบเคลิ้ม แม้มือเรียวของนางเอื้อมเข้าสัมผัสมือใหญ่ เขาก็ยอมให้นางนำพาแต่โดยดี“ท่านแม่ทัพเชิญทางนี้เถิด”เหมยกุ้ยจูงร่างสูงใหญ่ให้นั่งลงที่โต๊ะกลมกลางกระโจม ที่มีสำหรับอาหารและเหล้าชั้นดีไว้เพียบพร้อม หากแม่ทัพใหญ่มีสติมากพอเขาจะประเมินสถานการณ์ตรงหน้าว่าคือ กลลวง แต่เหตุไฉนร่างกายของเขากลับวูบไหวยอมนั่งลงตามคำสั่งนางแต่โดยดี“ขออภัยท่านแม่ทัพที่ข้าน้อยบังอาจมารบกวนท่าน”เหมยกุ้ยชวนคุยระหว่างรินสุราเลิศรสลงในจอก“อะ เอ่อ ไม่เป็นไร เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นแม่ทัพ?”แม่ทัพใหญ่จางหย่งตอบอย่างเงอะงะ หลายเดือนที่ผ่านมาเขากรำศึกทั้งวันทั้งคืนเจอแต่บรรดาทหารหนุ่มๆ นี่เป็นคืนแรกที่เขา
“หากผู้ใดแพร่งพรายเรื่องในพระตำหนักนี้ออกไป มันผู้นั้นจะมีสภาพเป็นเหมือนนายทหารผู้นี้!”ปากสีแดงสดเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น“หากผู้ใดสวามิภักดิ์ต่อข้า มันผู้นั้นจะยังคงนอนหลับกินอิ่มอยู่ในตำหนักแห่งนี้เหมือนเช่นเคย!”องค์จักพรรดินี จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!บรรดาข้าทาสบริวารต่างคุกเข่าหมอบลงถวายความจงรักภักดี ไม่มีใครไม่รักชีวิต!เมื่อผู้เป็นนายเก่าสิ้นวาสนา นกน้อยที่ไร้ผู้ปกครองย่อมบินหาคอนเกาะที่มั่นคงกว่ามันคือสัจธรรมของชีวิต“ฮ่าๆ ทุกคนจงฟัง!”เสียงประกาศก้อง ร่างอรชรในชุดสีทองกรุยกรายยืดกายขึ้นองครักษ์ทั้งสองยืนเคียงข้าง“ขอให้พวกเจ้าทุกคนจงปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเหมือนเช่นเคยปฏิบัติมา อีกไม่เกิน 1 ชั่วยาม พระชายาก็จะฟื้น แต่จะกลายเป็นคนไร้สติ ให้พวกเจ้าทุกคนบอกกล่าวต่อๆ กันออกไปว่า -พระชายาโศกเศร้าเพราะสูญเสียพระสวามีจนเสียสติ-”น้อมรับพระบัญชา!“ระหว่างที่เจ้าเฝ้าพระตำหนักพระชายามีผู้ใดเล็ดลอดคาบข่าวไปบอกแม่ทัพใหญ่หรือไม่?”เหมยกุ้ยเอ่ยถามหลี่เจี๋ยขณะเสด็จกลับตำหนักของตน“ไม่มีแม้แต่เงาเส้นหนึ่ง”องครักษ์หนุ่มตอบ“ดีมาก ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้ดูแลพระตำหนักของพระชายาเพราะข้ายังไม่ไว