[ตามง้อภรรยาสุดชีวิต + ทายาทหนุ่มแห่งแวดวงเมืองหลวงขึ้นสู่อำนาจ] ในขณะที่เซ่าเยว่กำลังแท้งลูก เจียงเฉินหานก็กำลังฉลองการกลับมาของคนในดวงใจ สามปีที่ทุ่มเทและอยู่เคียงข้าง สำหรับเขา ก็เป็นแค่แม่บ้านและแม่ครัวในบ้านเท่านั้น เซ่าเยว่หมดใจ ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะหย่า เพื่อนในแวดวงต่างรู้กันดีว่า เซ่าเยว่ขึ้นชื่อเรื่องติดหนึบเหมือนกาวที่สลัดไม่ออก “ฉันพนันว่าวันเดียว เซ่าเยว่จะกลับมาแต่โดยดี” เจียงเฉินหาน “วันเดียวเหรอ? เยอะไปแล้ว มากสุดครึ่งวัน” ในวินาทีนั้นที่เซ่าเยว่หย่า ก็ตัดสินใจไม่หันหลังกลับ เริ่มต้นยุ่งกับชีวิตใหม่ ยุ่งกับธุรกิจที่เคยทอดทิ้ง และยุ่งกับการทำความรู้จักคนใหม่ ๆ วันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เจียงเฉินหานก็ไม่เคยเห็นเงาของเซ่าเยว่ที่บ้านอีกเลย เจียงเฉินหานตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ในงานประชุมธุรกิจระดับสูงครั้งหนึ่ง ในที่สุดก็ได้เจอเธอที่ถูกล้อมรอบด้วยฝูงชน เขาพุ่งเข้าไปอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น “เซ่าเยว่ เธอยังงี่เง่าไม่พออีกหรือไง?!” ซางจื้อเหนียนก้าวขึ้นมาขวางหน้าเซ่าเยว่ทันใด มือหนึ่งผลักเขาออกไป กลิ่นอายเย็นยะเยือกทำให้คนเกรงขาม “อย่ามาแตะต้องพี่สะใภ้ใหญ่ของนาย” เจียงเฉินหานไม่เคยรักเซ่าเยว่เลย แต่หลังจากที่เขาตกหลุมรักเธอ ข้างกายเธอก็ไม่มีที่ให้เขายืนนานแล้ว
View Moreลุงของเซ่าเยว่เก็บเพนท์เฮาส์ที่หมู่บ้านเฟอรี่เลขที่ 1ไว้ให้เธอ ซึ่งเซ่าสวินไม่เคยมาที่นี่เลยสักครั้งเพื่อที่กระชับความสัมพันธ์และความเข้าใจระหว่างพี่น้องให้แน่นแฟ้นมากขึ้น เซ่าเยว่จึงพาเขามาบ้าน เซ่าสวินไม่เต็มใจดังคาด แต่ยังดีที่เขาให้ความสำคัญเรื่องเซี่ยหมิงเมื่อจอดรถเสร็จแล้ว เซ่าเยว่ก็ลงจากรถเพื่อไปหยิบเอกสารที่อยู่บนเบาะหลัง เธอเปิดประตูรถและก็หิ้วมันออกมาเซ่าสวินยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ เขามองอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็ฉวยกระเป๋าทำงานของเธอไปโดยไม่ทันให้เธอได้พูดอะไร เขายกกระเป๋าเพื่อประเมินน้ำหนักแล้วถามว่า “หนักขนาดนี้ ข้างในมีอะไร?”เซ่าเย่วคิดว่าการที่น้องชายช่วยหิ้วกระเป๋าเป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้ว จึงไม่ต้องพูดขอบคุณอะไรเธอเดินนำหน้าออกไป เซ่าสวินเดินตามหลังเธอ“เอกสารอ้างอิงที่ต้องใช้เขียนวิจัย”เซ่าสวินฉลาดสู้เซ่าเยว่ไม่ได้มาตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ เพราะความสามารถด้านกีฬาของเขาเหนือกว่าเธอมากนัก แต่ตอนเด็ก ๆ เขาก็ยังถูกเซ่าเยว่ทุบตีอยู่บ่อย ๆขณะที่เขาเดินตามหลังเธอ เซ่าสวินพลันพบว่า พี่สาวปีศาจที่เคยทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวในวัยเด็ก ตอนนี้ดูตัวเล็กกว่าเขาไปมากแล
ซางจื้อเหนียน “...”ซางจื้อเหนียนเหลือบมองเขา สายตาของเขาแฝงไปด้วยแรงกดดัน ทำให้อวี๋หลินโจวรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกประธานซางอารมณ์เสีย?อวี๋หลินโจวมองไปอีกครั้ง แต่ประธานซางก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆคิดมากไปเองเหรอ?อวี๋หลินโจวคิดมาโดยตลอดว่าซางจื้อเหนียนไม่ได้ชอบเซ่าเยว่ เพราะเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเซ่าเยว่อะไรมากนักเหมือนกับที่เขาทำกับคนอื่นๆและประธานซางมีนิสัยที่ว่าหากหมายตาสิ่งใด จะต้องทุ่มเทแรงกายแรงเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาหากเขาชอบเซ่าเยว่ ตอนนี้เซ่าเยว่ก็หย่าแล้ว ทำไมไม่ยอมลงมือจะปล่อยให้เซ่าเยว่ถูกชายอื่นแย่งไปหรือไง เซ่าเยว่งดงามทั้งหน้าตาและอากัปกิริยา เป็นคนสวยที่ใคร ๆ ก็ยอมรับ มีคนเข้ามาจีบตลอด แม้แต่เจี่ยงจวินเซิ่งยังมีคู่ดูตัวที่กำหนดไว้แล้วดังนั้นประธานซางไม่มีทางอยู่เฉยได้หรอกอวี๋หลินโจวจึงไม่ได้คิดอะไรอีกซางจื้อเหนียนก็ทำตัวเหมือนปกติ ไม่ได้พูดอะไร ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปอวี๋หลินโจวรู้สึกว่าคงไม่มีอะไร จึงเลิกครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ไปในที่สุด……เซ่าสวินยืนรอที่ทางออกเอหนึ่งในช่วงเวลาเร่งด่วนหลังเลิกงาน เหล่าพนักงานออฟฟิศเดินสวนกันไปมา สีหน้าของพวกเขาส่วนใหญ่ล้วนเฉย
เฉิงเหยียนโย่ว “...”เธอจดบันทึกความแค้นของลู่เจี้ยนเฉินเพิ่มอีกหนึ่งเรื่อง“เมื่อคืนนี้ดื่มหนักไปหน่อยน่ะ” เฉิงเหยียนโย่วตอบปัด“เลยเจ็บคอนิดหน่อย”เซ่าเยว่ “งั้นเธอระวังหน่อยนะ”เฉิงเหยียนโย่ว “เงินจากไต้อวิ๋นหานเข้าบัญชีแล้วนะ เราแบ่งกันคนละครึ่ง”เซ่าเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนอยู่แล้วสิ พวกเธอทุ่มเททดสอบกันมาตั้งครึ่งเดือน ก็ต้องได้รับค่าตอบแทนอยู่แล้ว”แม้เธอจะให้การสนับสนุนด้านเทคนิคที่สำคัญ แต่ขั้นตอนการทดสอบต่อจากนั้นและการประสานงานในทุกรายละเอียด เฉิงเหยียนโย่วเป็นคนลงมือจัดการด้วยตัวเองทั้งหมดเฉิงเหยียนโย่ว “ไต้อวิ๋นหานค่อนข้างสนใจในตัวเธอนะ เขาอยากเจอเธอ”เซ่าเยว่ “เขามีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”เฉิงเหยียนโย่วเอ่ยชมอย่างหยอกเย้าว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่ชื่นชมในตัวสุดยอดอัจฉริยะเท่านั้นเอง เธอควรไปดูด้วยตัวเองสักครั้งนะ จะได้เห็นสีหน้าตกตะลึงของคนพวกนั้น”เซ่าเยว่เข้าใจแล้ว “ฉันไม่มีเวลามาทิ้งขว้างกับการเข้าสังคมที่ไร้สาระหรอกนะ เธอบอกปฏิเสธไปเถอะ”“ฉันปฏิเสธแทนเธอไปเรียบร้อยแล้ว พวกเราเป็นคนที่มีความสามารถ ก็ต้องวางตัวให้สมศักดิ์ศรีหน่อย ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเจอ ก็จะเจอได
ในทันใดนั้น เซี่ยอวิ๋นซูรู้สึกผูกใจเจ็บขึ้นมา เพราะจวบจนตอนนี้ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ยังคงไม่เข้าใจว่าไปทำอะไรให้เฉิง เหยียนโย่วไม่พอใจหากว่าสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับเฉิงเหยียนโย่วได้สำเร็จ เธอย่อมสามารถเข้าถึงผู้ที่เป็นไพ่ตายใบนั้นได้ แล้วบรรดานักวิจัยที่มองคนแต่เปลือกนอกพวกนี้ จะมีใครกล้าชักสีหน้าใส่เธอได้อีก?เซี่ยอวิ๋นซูรู้สึกคับข้องใจแต่ไพ่ตายของเฉิงเหยียนโย่วมีความสามารถที่น่าทึ่งเกินไป เพราะความสามารถที่ห่างชั้นจนทุกคนไม่อาจเทียบได้ จึงกลับกลายเป็นการเลิกอิจฉาไปในที่สุดถึงแม้ความสามารถจะห่างกันมาก แต่เซี่ยอวิ๋นซูก็ยังเป็นหัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาของโปรเจกต์นี้อยู่ดี ดังนั้นเพื่อนร่วมงานที่ไม่ถูกชะตากับเธอ ก็ยังคงต้องทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวต่อหน้าเธอแค่นี้ก็เพียงพอแล้วแน่นอนว่าเซี่ยอวิ๋นซูก็ยังคงต้องหาทางทำความรู้จักผู้เชี่ยวชาญระดับเทพคนนี้ให้ได้เมื่อเซี่ยอวิ๋นซูคิดทุกอย่างเสร็จสรรพ จึงได้รับสายจากเซี่ยหมิงเซี่ยหมิงเล่าเรื่องเซ่าเยว่ให้เธอฟังเซี่ยอวิ๋นซูหัวเราะให้กับความโง่ของเซ่าเยว่ “เธอแข็งกร้าวขนาดนั้นเลยเหรอ?”“ก็แน่ล่ะ ไม่มีใครอวดเก่งได้เท่าเธออีกแล้ว”“ตอนนี้เ
เซ่าเยว่กล่าวจบก็วางสายอย่างไม่ลังเล การทำร้ายคนต้องลงลึกถึงจิตใจ ทำแค่พอให้บรรลุเป้าหมายก็เพียงพอแล้วอย่างไรเสียเซ่าเยว่ก็คงจะทำเหมือนเจียงเฉินหานไม่มีตัวตนไม่ได้ ไม่งั้นทุกครั้งที่เจอเขา เธอจะหงุดหงิดว่าทำไมเขาถึงตามตอแยไม่เลิก ซึ่งเป็นการบั่นทอนจิตใจตัวเองเปล่า ๆ ดังนั้น สู้ยอมรับความจริงเสียยังจะดีกว่าอีกอย่างในเมื่อมี ‘เครื่องมือ’ อย่างซางจื้อเหนียนอยู่ ต่อให้เจียงเฉินหานจะมาทำตัวน่ารังเกียจ เธอก็ไม่กลัว อีกทั้งยังสามารถทำให้เขาไม่มีทางที่จะได้รับประโยชน์อะไรจากเธอได้แม้แต่น้อยเมื่อเจียงเฉินหานเจอทางตันบ่อยครั้งเข้า เขาก็จะเริ่มลังเลว่าจะยังทำตัวน่ารังเกียจต่อไปดีหรือไม่ แล้วในที่สุดก็จะยอมสงบเสงี่ยมเจียมตัวไปเองดังนั้นการตัดขาดกันไปจนตาย ยังไม่สู้การที่ทำให้เขารู้สึกทรมานเมื่อเซ่าเยว่คิดทุกอย่างเสร็จสรรพแล้ว ก็สลัดเขาออกไปจากห้วงความคิดทันทีนั่งแท็กซี่ไปที่ผับเมื่อคืน จากนั้นก็ขับรถแลนด์โรเวอร์ไปที่บริษัทเจียงเฉินหานยังคงนั่งอยู่ในไมบัคในช่วงสองวันนี้ เขาได้ทำความเข้าใจเซ่าเยว่ในมุมมองใหม่ ๆ จนสามารถเดาปฏิกิริยาของเธอได้บ้างแล้วผลปรากฏว่าการคาดเดาของเขาก็ยังคง
หลังจากกดโทรออกไปแล้ว เจียงเฉินหานก็คิดไว้หมดแล้วว่าจะพูดอะไรบ้างแต่เขากลับได้ยินเสียงตอบรับอัตโนมัติว่า หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาลองใหม่อีกครั้งในภายหลังเจียงเฉินหานรู้สึกหนาวสั่นสะท้านไปถึงขั้วหัวใจราวกับถูกน้ำแข็งราดใส่ตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาตัวแข็งทื่ออยู่พักใหญ่จึงได้สติกลับมา เขาถูกเซ่าเยว่บล็อกไปแล้วไม่น่าเชื่อว่าเซ่าเยว่จะบล็อกเขา?เธอจะกล้าบล็อกเขาได้ยังไง!เจียงเฉินหานยากที่จะควบคุมไฟโทสะที่กำลังปะทุในอกตนเขานึกถึงเรื่องเจียงอวี่เสียนเจียงอวี่เสียนเคยโมโหเรื่องที่เซ่าเยว่บล็อกเธอและยังเอาเรื่องนี้มาฟ้องเขาอีก ตอนนั้นเขาไม่เข้าใจความรู้สึกเจียงอวี่เสียนแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วล่ะไม่สิ นี่เป็นความรู้สึกแบบเดียวกันต่างหาก!คนขับรถแทบจะถูกเจียงเฉินหานทำให้ตกใจจนสติแตกกระเจิง เขาเดาว่าคงจะเกี่ยวกับเซ่าเยว่อย่างแน่นอน ครั้งก่อนที่สนามบินก็เหมือนกัน เขาตกใจจนแทบหัวใจจะวาย ตอนนั้นเขาแทบอยากจะลาออกให้รู้แล้วรู้รอดเสียงเย็นยะเยือกดังขึ้น “ส่งโทรศัพท์มาให้ฉัน!”คนขับตื่นตระหนกจนหัวใจเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมา“เร็วสิ!”คนขับรถรีบยื่นโทรศัพท
Comments