ใต้เท้าฉีหัวเราะชอบใจ แม้แต่เขายังลุ่มหลงในตัวนาง มีหรือฮ่องเต้จะไม่ทรงโปรด
ขณะที่รื่อหงกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่กลางห้องโถงพร้อมกับบรรดาสาวสาวทั้งหลาย เหมยกุ้ยก็โอบประคองใต้เท้าฉีเดินลงมาถึงชั้นล่าง
“ใต้เท้าฉี แหม แหมเมื่อคืนคงจะจัดจนฟ้าเหลืองสิท่า กว่าจะลุกจากห้องได้ก็ปาเอาตะวันสายโด่งเลยนะท่าน”
รื่อหงส์จีบปากจีบคอแซวตามประสา เหมยกุ้ยยิ้มรับน้อย ๆ รับสมอ้างว่าปรนนิบัติใต้เท้าผู้นี้ทั้งคืนยันรุ่ง
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ใต้เท้าฉีหัวเราะต้องชอบใจ ก่อนเอ่ยว่า
“ขอบใจเจ้ามาก ที่เจ้าสามารถอบรมสั่งสอนให้เหมยกุ้ยเป็นสาวงามที่ชาญฉลาด เพียบพร้อมและปรนนิบัติข้าได้ถึงใจจริงๆ”
“แหมะ ใต้เท้า ท่านก็ชมเกินไป”
รื่อหงยิ้มหน้าระรื่น
ใต้เท้าฉีจึงเอ่ยต่อไปว่า
“ข้าจึงอยากจะขอตัวนาง เพื่อนำไปถวายแด่ฮ่องเต้ เจ้าขัดข้องหรือไม่”
รื่อหงหันขวับ ตาลุกวาว แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน
“เมื่อกี้ท่านล้อข้าเล่นแน่ แน่”
รื่อหงส่ายหน้าแสร้งหัวเราะแกน ๆ
“ข้าไม่ได้ล้อเล่น”
ใต้เท้าฉีเอ่ยขณะนั่งลงบนเก้าอี้ลงข้างรื่อหง เขาต้องคุยกับนางอย่างจริงจัง
แม่เล้าผู้มากประสบการณ์มองดูขุนนางผู้นี้ก็เข้าใจในท่าทีจึงพยักหน้าให้บรรดาเด็กเด็กกลับขึ้นห้อง เหลือเพียงนาง ใต้เท้าฉี และเหมยกุ้ยเท่านั้น
“ใต้เท้าฉี เหมยกุ้ยเป็นดาวประจำหอมู่ตาน ข้าขอพูดตรง ๆ นะ นางทำรายได้ให้แก่หอมู่ตานมหาศาล หากข้ามอบนางให้แก่ท่าน ก็เท่ากับว่ารายได้ที่มากมายนั้นก็จะสูญสิ้นไปด้วยน่ะสิ”
“ฮ่า ๆ เจ้าลองคิดดูดี ๆ นะรื่อหง นางอยู่ที่นี่สร้างรายได้ให้เจ้ามหาศาลก็จริง แต่เมื่อนางถวายตัวแล้วได้เป็นที่ชื่นชอบของฮ่องเต้ และข้าก็คิดว่านางต้องทำได้แน่ ๆ เจ้าคิดดูสิว่าเมื่อถึงวันนั้น ไม่เพียงแต่เจ้าจะได้เงินทองมหาศาล มีกินมีใช้ไปจนตายก็ไม่หมด แต่เจ้าจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าอยากได้ รวมถึงเจ้าอาจจะขอเข้าไปอยู่ในวังด้วยก็ยังได้ เจ้าก็ไม่ต้องมานั่งหลังคดหลังแข็งดูแลหอแห่งนี้ให้คนอื่นเขาดูแคลนอีกต่อไป”
คิ้วเรียวงามของรื่อหงขมวดเข้าหากันคิดตามคำพูดของใต้เท้าฉี นางพยายามบวกลบคูณหารว่าทางใดจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบเปรียบกันมากกว่า
ในขณะที่รื่อหงกำลังลังเลใจอยู่นั้นเหมยกุ้ยจึงเอ่ยขึ้นว่า
“ท่านแม่ ข้ารับใช้ท่านมาตั้งแต่อายุ 16 จนบัดนี้ อายุล่วงเลยเข้าสู่วัย 20 กว่า ต่อให้ข้ายังอยู่ที่นี่ก็คงจะรับใช้ท่านอีกได้แค่สี่ห้าปีเท่านั้น เพราะร่างกายของข้าก็จะร่วงโรยตามกาลเวลา เงินทองหาก็คงจะได้ไม่มากเหมือนเคย แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากข้าได้ถวายตัวรับใช้ฮ่องเต้จนเป็นที่โปรดปรานเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะสามารถได้เงินทองและอำนาจ มาครอบครองไว้ได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น ถ้าเป็นเช่นนี้จะไม่ดีกว่าหรือ”
รื่อหงพยักหน้าน้อย ๆ แม้ว่าเห็นด้วยแต่นางก็ยังคงแสนเสียดายสาวงามผู้ทำรายได้ให้กับนางเป็นเงินมหาศาล
“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านกำลังลังเลใจ แต่ท่านไม่ต้องห่วงนะ ระหว่างที่ข้าไม่อยู่ ท่านแม่สามารถปั้นไป๋หลานและหวงหลานให้เป็นยอดสาวงามประจำหอมู่ตานแทนข้าได้ เพราะทั้งคู่ล้วนเป็นเด็กสาววัยแรกแย้ม นางคงจะสามารถทำเงินให้กับหอมู่ตานได้อีกนาน”
เหมยกุ้ยพยายามวานล้อมรื่อหง เพราะนางต้องการออกไปจากที่นี่อย่างสงบ อยากหลุดพ้นจากการเป็นทาสกามารมณ์ ที่ต้องใช้เรือนร่างแลกกับเศษเงิน!
“เจ้าคิดเช่นนั้นรึ”
รื่อหงถามย้ำ
เหมยกุ้ยพยักหน้ายืนยันก่อนเอ่ยว่า
“เมื่อคืน ข้าลองสอนไป๋หลานบ้างแล้วบางบทเรียน นางเป็นคนเรียนรู้เร็ว ขอแค่ท่านช่วยสั่งสอนนางต่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่นานหอมู่ตาน ก็จะมีสาวงามอันดับหนึ่งมาแทนข้าได้อย่างแน่นอน”
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน หากเจ้าเกรงว่า จะสูญเสียรายได้ งั้นข้าจะให้เงินเจ้าจำนวนหนึ่ง ถือซะว่าเป็นค่าตัวของนางก็แล้วกันพ่อบ้าน! พ่อบ้าน!”
ประโยคสุดท้ายใต้เท้าฉีร้องเรียกพ่อบ้านประจำตระกูลอัน ไม่นานนักเสียงฝีเท้าวิ่งก็ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของชายชราในชุดสีน้ำเงินเข้มเรียบร้อย ชายผู้นี้ยืนรอผู้เป็นนายอยู่ที่ประตูหอมู่ตานจนกระทั่งรุ่งเช้า เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเจ้านายจึงรีบวิ่งเข้ามาทันที
“ขอรับใต้เท้า!”
“เอาเงินให้รื่อหงหนึ่งหมื่นตำลึงทอง เพื่อแลกกับตัวเหมยกุ้ยไปเป็นของบรรณาการถวายแด่องค์ฮ่องเต้”
สิ้นเสียงสั่งของผู้เป็นนาย พ่อบ้านลมแทบจับ นี่ถ้าฮูหยินรู้เข้าว่าใต้เท้าฉีใช้เงินซื้อผู้หญิงถึงหมื่นตำลึงทองมีหวังทั้งเขาและผู้เป็นนายต้องเดือดร้อนแน่ ๆ
“อะ เอ่อ คือ”
พ่อบ้านพยายามจะห้ามปราม ในขณะที่รื่อหงตาวาวหนึ่งหมื่นตำลึงทอง! เพียงแค่หล่อนตอบตกลงเงินมหาศาลจำนวนนี้จะตกเป็นของนางทันที
“ตกลง!”
รื่อหงรีบบอก ก่อนที่พ่อบ้านจะเอ่ยขัดลาภ เพราะเมื่อคิดดูดี ๆ ก็จริงอย่างที่เหมยกุ้ยว่าทุกคำ ดาวเด่นนางจะปั้นใครขึ้นมาแทนนางก็ได้ มิหนำซ้ำหากเหมยกุ้ยเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ขึ้นมาเมื่อใด เมื่อนั้นนางก็จะได้ไปเสพสุขอยู่ในวังหลวงเช่นกัน ไม่ว่าจะคิดอย่างไรรื่อหงก็มีแต่ได้กับได้ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะปฏิเสธใต้เท้าฉี ดังนั้น รื่อหงจึงยิ้มน้อยๆ พร้อมกับเอ่ยว่า
“ใต้เท้าช่างฉลาดยิ่งนัก ข้าก็คิดเช่นท่าน หากเหมยกุ้ยได้เป็นที่เป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ เมื่อนั้นเราทั้งคู่ก็จะได้เสพสุขร่วมกัน”
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ทั้งคู่หัวเราะร่วมกัน ต่างวาดภาพฝันไว้อย่างสวยหรู
ไม่ว่าทั้งคู่จะฝันถึงสิ่งใดก็ตาม แต่สิ่งที่เหมยกุ้ยต้องการก็สำเร็จผล นั่นคือ การเป็นอิสระจากหอนางโลมแห่งนี้!!!
พ่อบ้านเดินนำหน้าพลทหารแบกเกี้ยวใต้เท้าฉีกลับไปยังที่พักอย่างกระวนกระวายใจ เขาบ่นพึมพำไปตลอดทางว่า
“ใต้เท้า นะใต้เท้า ลำพังแค่แอบหนีเที่ยวตอนกลางคืนก็แย่พอแล้ว นี่ยังจะพานางกลับมาด้วยอีก แล้วข้าจะทำอย่างไรดีละเนี่ย เรื่องนี้อย่าให้ถึงหูฮูหยินก็แล้วกัน มิฉะนั้นมีหวังบ้านแตกแน่ ๆ ไอ้ย๊ะ! !”
พ่อบ้านอุทานเสียงหลงเมื่อเงยหน้ามองขึ้นมาแล้วแลสบเข้ากับดวงตาคมดุของคุณชายอันเหว่ยเข้า
ชายหนุ่มรูปร่างสง่างามยืนปักหลักเด่นอยู่หน้าที่พัก มือสองข้างไพล่หลัง หน้าตาบึ้งตึงจ้องมาที่กระบวนเกี้ยวของใต้เท้าฉี
ทันทีที่เกี้ยวหยุดลง พ่อบ้านรีบวิ่งเข้าไปกระซิบข้างเกี้ยวเตือนผู้เป็นนาย เพื่อให้เตรียมรับมือกับบุตรชาย เพราะเขารู้ดีว่านอกจากฮูหยินแล้วใต้เท้าฉีก็เกรงใจบุตรชายเป็นที่สุด
“อะ อะ อ่าซ์ อร้ายยยยยยยยยยยย”สิ้นเสียงครวญคราง เรือนร่างโชกเหงื่อของทั้งคู่ก็สั่นสะท้านราวกับถูกไฟฟ้าซ็อต ทั้งสองนิ่งค้างซึมซาบความซาบซ่านให้เต็มทรวง ก่อนจะจบบทสวาททะลวงหอยของแม่ทัพด้วยการจูบบดลึกวาบหวามฝากความหวานให้ตราตรึงใจและแล้ววันแต่งตั้งองค์จักรพรรดินีอย่างเป็นทางการพื้นที่ท้องพระโรงลามไปจนถึงประตูวังด้านหน้าเต็มไปด้วยบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ เข้าร่วมถวายพระพรและเป็นสักขีพยานในการรับตำแหน่งอันสูงส่งเมื่อเสียงแตรเสียงประทัดดังสนั่นขึ้นเป็นสัญญาณการเริ่มพิธี เสียงแซ่เซ็งพูดคุยของเหล่าขุนนางทั้งหลายต่างสงบลง พร้อมกับยืนในแถวรอรับการเสด็จขึ้นบัลลังก์ไม่ช้าร่างงดงามในชุดจักรพรรดิเต็มยศก็ปรากฏบนพรมสีแดงที่ทอดยาวสู่ราชบัลลังก์ท่อนล่างเป็นกระโปรงยาวสีแดงปักมังกรที่ฐานด้านล่าง ชายกระโปรงยาวระพื้น ยามก้าวเดินสะบัดไหวดูราวกับมังกรโลดแล่นในสายน้ำแยงชี ผ้าคล้องไหล่สีทองอร่ามคลุมเป็นสายยาวที่แขนทั้ง 2 ข้าง เสื้อชั้นนอกแขนกว้างปักลายกุหลาบดิ้นทอง แขนเสื้อที่ยาวลงมาถึงสะโพกพลิ้วไหวตามจังหวะย่างก้าว เนื้อแพรพรรณล้วนทักทอจากช่างฝีมือดีที่สุดในแผ่นดิน !!“แม่ทัพใหญ่จางหย่งขอเข้าเฝ้า!!!”
ตับ ตับ ตับ ตับๆๆๆๆๆๆ“อะ อ่า อ๊า อร้ายยยยยยยย”ซ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบพรวดดดดดดดดดดดดดดดด“อร้ากกกกกกกกกก”มังกรยักษ์พ่นพิษอุ่นซ่านเข้าเต็มโพรงหอยพร้อมกับเสียงครางระงมจนถึงสวรรค์ของทั้งคู่ ร่างอรชรกระตุกงึกๆ เกร็งเสียวสุดขีด สะโพกแกร่งของแม่ทัพหนุ่มผู้หิวกระหายตอกตรึงรูหอยบดแน่น ปล่อยให้จิตวิญญาณของตนล่องลอยไปแสนไกล ในไม่ช้าเรือนร่างกำยำก็ค่อยๆ เอนซบลงอกอวบๆ ทั้งคู่หอบหายใจกระเส่า“อ่า ข้าไม่เคยกินสุราอร่อยขนาดนี้มาก่อน”แม่ทัพรำพันกระซิบแนบเนื้อนวล บนโต๊ะกลมใหญ่กลางกระโจม เขาไม่คิดว่าการเดินทางกลับวังหลวงครั้งนี้จะได้พบเทพธิดาที่นำพาเข้าสู่สรวงสวรรค์อย่างไม่คาดฝัน“ข้าก็ไม่เคยถูกมังกรยักษ์จ้วงกระหน่ำได้ถึงใจขนาดนี้เช่นกัน โอ้แม่ทัพสมแล้วที่ท่านเป็นยอดชาตรี”เหมยกุ้ยพลิกตัวขึ้น ดุ้นมังกรยักษ์จึงหลุดออกจากร่องหอย“อ่า”ร่างอรชรค่อยๆ เลื้อยกายลงมาที่หว่างกำยำ จนสบเข้ากับลำตัวของมันเยิ้มไปด้วยน้ำทิพย์สีขาวขุ่น“มังกรท่านใหญ่น่ากินเหลือเกิน”เหมยกุ้ยถึงกับอุทานกระเส่าเมื่อเจอหัวดุ้นสีน้ำตาลไหม้อาบช่ำด้วยน้ำทิพย์ เส้นเลือดปูดโปนยังเต้นตุบๆ ลิ้นเรียวเล็กแลบเลียริมฝีปากตนอย่างห
ยิ่งลิ้นสากสอดแทง... น้ำหวานยิ่งทะลักจนฉ่ำปาก เขาดูดดื่มตักตวงความหวานฉ่ำที่ทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสายแผล็บๆ แผล็บ ๆ “อะ.... อือ... อะ อ่า จะแตกแล้ว อ่อยยยยยย”ปากใหญ่ร้อนฉ่ายังคงขบเม้มกลีบเนื้อหอยเต็มปากเต็มคำ ลิ้นร้อนฉ่าแทงเข้าแทงออกรัวๆ เร่งจังหวะตามเสียงกระเส่าของนาง ยิ่งดูด ยิ่งเลียน้ำหอยฉ่ำ ๆ ยิ่งไหลทะลัก ร่างอรชรบิดส่ายบ่งบอกว่าเจ้าของร่างกำลังเสียวซ่านมากแค่ไหนจ๊วบบบบบบ จ๊วบบบบบบจ๊วบบบบบบแผล็บๆ แผล็บ ๆ แฮ่กๆ แฮ่กๆ“โอ้วววววววว ท่านแม่ทัพ ไม่ไหวววว แล้ววววว อร้ายยยย”เหมยกุ้ยแอ่นสะโพกหยัด มือเรียวขยุ้มผมดกดำของเขาให้แนบชิดร่องสาว ร่างอรชรกระตุกเกร็งงึก ๆ ริมฝีปากสีแดงสดเผยอค้างครางออกมาผะแผ่วด้วยความเสียวซ่านที่แผ่ซ่านไปทั้งกายสาว“อร้ายยยยยยยยยยย”พรวดดดดดดดดดดดด น้ำหอยแตกพรวดทะลักง่ามขา รูหอยขมิบตอดอากาศอย่างหิวโหย ซ่านกระสันอยากให้มังกรจ้วงแทงแทบขาดใจ เหมยกุ้ยครางกระเส่าขมิบตอดความว่างเปล่าไม่ยอมหยุด นางลอยขึ้นสวรรค์ชั้นหนึ่งไปแล้ว“อะ อ่า อือ อ่อยยยยยย”“อู้ววว.. อ่า... เหมยกุ้ย... เงี่ยนมากแล้วสินะ นำทะลักเลยนะ โอ้ววววว”แม่ทัพหยัดกายขึ้นแลบล
“เชิญชิมสุราชั้นเลิศจากข้า... เหมยกุ้ย มอบเป็นของขวัญแด่ท่านแม่ทัพ”มือใหญ่ยึดข้อมือเล็กกางออก แล้วร่างใหญ่ก็ถาโถมเข้าใส่ร่างเล็กที่นอนแผ่หลาบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว“เหมยกุ้ยยยยยยย ฮ่า ๆ เหมยกุ้ย”จ๊วบ!ซู้ดดดด จ๊วบ“อะ อ่า หือ อ่า”ลิ้นสากร้อนระอุแทรกเข้าไปในโพรงปากอุ่น มันตวัดลิ้นเล็กให้ตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อนเลือดในกายนางร้อนระอุ เผยอเรียวปากขึ้น ตอบรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามา และหยัดร่างเข้าเบียดกายแข็งแกร่งทันทีซู้ดดดด จ๊วบจ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ“อืม อ่า จ๊วบ”ร่างอรชรใต้ร่างใหญ่กำยำบิดส่าย อย่างซ่านกระสันเมื่อแม่ทัพหนุ่มบรรจงจูบด้วยลิ้นร้ายอย่างหื่นกระหาย ลิ้นร้อนควาญรีดน้ำหวานในโพรงนางจนหมดสิ้น แล้วลามเลียมาถึงติงหูเกิดความสยิวแผ่ซ่านจนขนอ่อนของนางลุกซู่ทั้งกายจนครางกระเส่าออกมา“อร้ายยยย อ่า หือ”แผล็บ! จ๊วบ!ปากร้อนระอุของแม่ทัพใหญ่ลามเลียเลื้อยลากมาถึงซอกคอขาวผ่อง ลิ้นร้อนตวัดเลียกลืนกินสุราในเนื้อนวลมาเรื่อยๆ มือใหญ่ร้อนฉ่าดึงทึ้งอาภรณ์นางออกจนเกิดรอยแยกของเสื้อคลุม หน้าอกอวบอิ่มเผยชูชันอวดเต้าสล้างกลมกลึงเฉิดฉายอยู่ตรงหน้าแม่ทัพหนุ่มจับจ้องอกอวบๆ ของนางอย่างหลงใหล
แม่ทัพใหญ่ยืนนิ่งราวกับถูกสาป เขาคาดว่าจะได้กลิ่นคาวเลือดและการสู้รบซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัด แต่สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ คือ สาวงาม งามที่สุดที่เขาเคยพบยิ่งยามที่ร่างอรชรเยื้องย้ายขยับกายเข้าใกล้ กลิ่นหอมฟุ้งลอยอบอวลไปทั่วทั้งกระโจม ใจของแม่ทัพใหญ่เต้นตึกตักระส่ำ เต้นแรงยิ่งกว่าการเห็นกองทัพศัตรูนับแสนอยู่ตรงหน้าสติของแม่ทัพใหญ่หลุดลอยลืมสิ้นว่าตนมาที่กระโจมน้อยนี้เพื่อสิ่งใด หัวใจของเขามันวาบหวามเคลิบเคลิ้ม แม้มือเรียวของนางเอื้อมเข้าสัมผัสมือใหญ่ เขาก็ยอมให้นางนำพาแต่โดยดี“ท่านแม่ทัพเชิญทางนี้เถิด”เหมยกุ้ยจูงร่างสูงใหญ่ให้นั่งลงที่โต๊ะกลมกลางกระโจม ที่มีสำหรับอาหารและเหล้าชั้นดีไว้เพียบพร้อม หากแม่ทัพใหญ่มีสติมากพอเขาจะประเมินสถานการณ์ตรงหน้าว่าคือ กลลวง แต่เหตุไฉนร่างกายของเขากลับวูบไหวยอมนั่งลงตามคำสั่งนางแต่โดยดี“ขออภัยท่านแม่ทัพที่ข้าน้อยบังอาจมารบกวนท่าน”เหมยกุ้ยชวนคุยระหว่างรินสุราเลิศรสลงในจอก“อะ เอ่อ ไม่เป็นไร เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นแม่ทัพ?”แม่ทัพใหญ่จางหย่งตอบอย่างเงอะงะ หลายเดือนที่ผ่านมาเขากรำศึกทั้งวันทั้งคืนเจอแต่บรรดาทหารหนุ่มๆ นี่เป็นคืนแรกที่เขา
“หากผู้ใดแพร่งพรายเรื่องในพระตำหนักนี้ออกไป มันผู้นั้นจะมีสภาพเป็นเหมือนนายทหารผู้นี้!”ปากสีแดงสดเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น“หากผู้ใดสวามิภักดิ์ต่อข้า มันผู้นั้นจะยังคงนอนหลับกินอิ่มอยู่ในตำหนักแห่งนี้เหมือนเช่นเคย!”องค์จักพรรดินี จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!บรรดาข้าทาสบริวารต่างคุกเข่าหมอบลงถวายความจงรักภักดี ไม่มีใครไม่รักชีวิต!เมื่อผู้เป็นนายเก่าสิ้นวาสนา นกน้อยที่ไร้ผู้ปกครองย่อมบินหาคอนเกาะที่มั่นคงกว่ามันคือสัจธรรมของชีวิต“ฮ่าๆ ทุกคนจงฟัง!”เสียงประกาศก้อง ร่างอรชรในชุดสีทองกรุยกรายยืดกายขึ้นองครักษ์ทั้งสองยืนเคียงข้าง“ขอให้พวกเจ้าทุกคนจงปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเหมือนเช่นเคยปฏิบัติมา อีกไม่เกิน 1 ชั่วยาม พระชายาก็จะฟื้น แต่จะกลายเป็นคนไร้สติ ให้พวกเจ้าทุกคนบอกกล่าวต่อๆ กันออกไปว่า -พระชายาโศกเศร้าเพราะสูญเสียพระสวามีจนเสียสติ-”น้อมรับพระบัญชา!“ระหว่างที่เจ้าเฝ้าพระตำหนักพระชายามีผู้ใดเล็ดลอดคาบข่าวไปบอกแม่ทัพใหญ่หรือไม่?”เหมยกุ้ยเอ่ยถามหลี่เจี๋ยขณะเสด็จกลับตำหนักของตน“ไม่มีแม้แต่เงาเส้นหนึ่ง”องครักษ์หนุ่มตอบ“ดีมาก ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้ดูแลพระตำหนักของพระชายาเพราะข้ายังไม่ไว