Share

บทที่ 12

เมเดลีนถึงกับชะงัก จิตใจของเธอว่างเปล่าไปหมด

“แมดดี้ แมดดี้”

ผ่านไปไม่นานเมเดลีนได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเธอ

เธอได้สติกลับมาอีกครั้ง และเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เอวา ลองค์ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอ

เอวามองไปยังหน้าที่ไม่มีเลือดฝาดของเพื่อนสาว เธอรู้สึกโกรธและเป็นห่วงมาก “เมเดลีน เธอเป็นเพื่อนที่แย่มาก ทำไมเธอไม่ยอมบอกเรื่องใหญ่แบบนี้กับฉัน?”

เมเดลีนยังคงรู้สึกงงงวย “เอวา ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”

“เธอสิ เป็นคนที่จะต้องบอกฉัน เธอเป็นคนโทรหาฉันเมื่อคืนนี้ แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบเธอก็หมดสติไป” เอวาเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเมเดลีนเบา ๆ ขณะที่เธอพูด “เมเดลีน นี่เธอสูญเสียความทรงจำหรือเปล่า?”

แน่นอนเมเดลีนไม่ได้สูญเสียความทรงจำของเธอใด ๆ ทั้งสิ้น เธอจำได้ดีว่าเจเรมี่บีบคอเธอก่อนจะทิ้งเธอไปในคืนนั้น ท้องของเธอกระแทกที่มุมเตียง มันเจ็บปวดมากจนไม่สามารถลุกขึ้นได้ ถึงกระนั้นเขาก็เดินจากไปโดยไม่สนใจใยดีเธอสักนิด เขาพูดทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำที่ไร้ซึ้งหัวใจก่อนที่เขาจะจากไป

ในคืนนั้นหัวใจที่ถูกกรีดออก และความเจ็บทะลุออกมาจากกระดูกเธอ

เอวาหันหน้ากลับมานั่งลงบนเตียง สีหน้าของเธอดูจริงจังกว่าที่เคย “หมอนั่นอยู่ไหน เขาเป็นสามีของเธอ ตั้งแต่เธอเข้าโรงพยาบาลฉันก็ไม่เห็นเขาแม้แต่เงา”

เมเดลีนหลบหลีกสายตาของเอวาด้วยความรู้สึกผิด “เจเรมี่ เขางานยุ่งมาก”

“เหอะ! เขายุ่งอยู่กับผู้หญิงของเขางั้นเหรอ เมเรดิธงั้นเหรอ? ฮะ?” เอวาพูดจี้ใจดำ “เธอกำลังบ้าผู้ชายคนนั้นมาก จนเธอสับสนและสูญเสียความเป็นตัวเองไปแล้ว เธออยู่ในสภาพนี้ยังจะเข้าข้างเขาอีกงั้นเหรอ”

เมเดลีนหัวเราะกับตัวเอง “เป็นเพราะฉันชอบเขา นั่นคือทั้งหมดของเหตุผล”

“ฉันเดาว่าเธอชอบเขาได้อีกไม่นาน” เอวายังคงตรงไปตรงมาในคำพูด “เมื่อกี้ ได้ยินที่หมอพูดแล้วใช่ไหม?”

เมเดลีนตกอยู่ในอาการนิ่งค้างเหม่อลอยอีกครั้ง เอวามองไปที่เพื่อนสาวผู้น่าสงสาร เธอรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรจุกหน่วงอยู่ในใจ

“เธอสามารถมีลูกได้อีกในอนาคต แต่ตอนนี้ชีวิตเธอสำคัญกว่า”

เมเดลีนหัวเรากับตัวเองอีกครั้ง “มันจะไม่มีอีกแล้ว”

เอวามองเธอด้วยความแปลกใจ เธอกำลังจะถามอะไรบางอย่างแต่เมเดลีนก็จับมือเธอไว้

“เอวา ได้โปรดอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร โดยเฉพาะเจเรมี่”

“นี่ เมเดลีน! บ้าหรือเปล่า? เธอต้องการฆ่าตัวเอง เพื่อเด็กคนนี้หรือไง?”

เอวายืนขึ้นอย่างมีน้ำโห เธอตั้งท่าจะตะโกนใส่เมเดลีนอีกครั้ง แต่ทว่าเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เมเดลีนตกใจ เธอมองไปที่หมายเลขผู้โทรและรับสายหลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอได้ยินเสียงเจเรมี่จากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ “เมเดลีน เธอกำลังทำแบบนี้เพราะมีจุดประสงค์แอบแฝงใช่ไหม?”

ข้อกล่าวหาจากปลายสายทำให้นั้นทำให้เมเดลีนรู้สึกสับสน

“ถ้าฉันไม่เห็นเธอในบ้านภายในครึ่งชั่วโมง เธอลืมไปได้เลยว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง”

ในที่สุดเมเดลีนนึกถึงสิ่งที่เจเรมี่พูดไว้เมื่อคืนก่อน วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 50 ปีของแม่เขา เธอต้องไปร่วมงานในฐานะภรรยาของเขา

เธอกำลังจะตอบตกลง แต่ไม่ทันเอวาก็คว้าโทรศัพท์ของเธอไปก่อน “เจเรมี่ วิทแมน นี่คือสิ่งที่สามีพึงทำงั้นเหรอ? ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้ภรรยาคุณ...”

เมเดลีนเกรงว่าว่าเอวาจะบอกเขาเรื่องเนื้องอก เธอจึงคว้าโทรศัพท์คืน “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!” เธอวางสายทันทีที่จบประโยค เธอไม่กล้าเสียเวลาอีกสักวินาทีเดียว

เอวารู้สึกขุ่นเคืองใจมาก มาเดลีนที่ไม่ยอมทำตามในสิ่งที่เธอคาดหวังถึงอย่างงั้นเธอเองก็ไม่มีทางเลือก ก่อนที่เธอจะส่งมาเดลีนขึ้นรถแท็กซี่ เอวาเตือนมาเดลีนอย่างจริงจังให้เธอดูแลตัวเองให้ดีและมาเดลีนเองก็พยักหน้าน้อมรับ”

ปาร์ตี้กำลังดำเนินไปเรื่อย ๆ เมื่อเธอมาถึงคฤหาสน์วิทเเมน ชุดราตรีที่สวยงามและดูดีมีระดับ ถูกสวมใส่โดยหญิงงามที่ร่ำรวยมีฐานะ เหล่าไฮโซจำนวนมากกำลังพูดคุยกันในสวน เนื่องจากเมเดลีนพึ่งออกจากโรงพยาบาล เธอจึงสวมชุดลำลองสีเทา ซึ่งทำให้เธอดูเหมือนคนที่หลุดมาจากโลกอื่น

ดังนั้นเธอจึงก้มศรีษะลง ขณะที่เธอกำลังจะมองหาเจเรมี่ ผู้หญิงคนหนึ่งหันหน้าเข้ามาชนเธอ ไวน์กระเด็นออกมาจากแก้วของผู้หญิงคนนั้น ในขณะที่เธอเดินผ่าน

"ชุดของฉัน!" หญิงสาวร้องอุทาน เธอจ้องมองเมเดลีนด้วยความโกรธ “เธอมองไม่เห็นทางที่เธอจะไปหรือไง ห๊ะ ตาบอดรึไง? วิทแมนมีสาวใช้ที่ไร้สมองแบบเธอได้อย่างไร?”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status