อันที่จริง เหตุผลที่เธอได้งานนี้อย่างง่ายดายเป็นเพราะเมเรดิธชักใยบางอย่างอยู่ด้านหลังนี่เองอย่างไรก็ตาม มาเดลีนไม่ใช่คนโง่ มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้เมเรดิธจะใจดีขนาดนี้?“หยุดเสแสร้ง เธอไม่รู้สึกขยะแขยง แต่ฉันรู้สึก” เธอปัดมือของเมเรดิธทิ้งด้วยความเกลียดเมเรดิธเอียงตัวราวกับว่าเธอนั้นแสนอ่อนแอและบอบบางเหลือเกิน จากนั้น เธอพิงไปซบเอโลอิสเอโลอิสเห็นว่าลูกสาวคนโปรดของเธอถูกรังแก เธอจึงเดินไปหามาเดลีนด้วยความกระวนกระวายใจและปกป้องเมเรดิธไว้ข้างหลังเธอ“มาเดลีน อย่าเป็นคนตาบอดที่มองไม่เห็นว่าใครแสนดีกับเธอ! ถ้าเมอร์ไม่ขอร้องฉันนะ ฉันจะไม่ปล่อยให้คนอย่างเธอทำงานในบริษัทของฉัน!” เอโลอิสพูดด้วยความโกรธ“แม้ว่าเธอจะไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของเมอร์ แต่ลูกสาวฉันก็ไม่เคยกลั่นแกล้งเธอเลยสักนิดแม้ว่า เธอจะราวีอย่างไม่ลดละ เมอร์คิดถึงเธอมาก มันไม่เป็นไร หากถ้าเธอไม่รู้สึกขอบคุณ แต่นี่เธอยังพยายามแว้งกัดมือที่เลี้ยงเธออยู่!”อีกแล้วรูปแบบประโยคนี้ถูกจัดฉากขึ้นมาอีกแล้วมาเดลีนกำลังจะปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการกระทำนั้นในตอนนี้จนถึงตอนนี้ เธอไม่รู้เลยว่าเมเรดิธมอบความเมตตากรุณาให้กับเธอด้วยเหตุผลอ
ดวงตาของมาเดลีนดูหดหู่ เธอมองเห็นแหวนที่เมเรดิธกำลังสวมอยู่ได้อย่างชัดเจนการที่เธอเอาแหวนขึ้นมาลูบนั้นเหมือนมีนัยยะบางอย่างเมื่อจ้องมองดีๆแล้ว แหวนวงนั้นมันเป็นแหวนที่เธอออกแบบ!“มาเดลีน เธอเองเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์ผลงานอยู่ไม่น้อย แหวนวงนี้ช่างงาม ฉันชอบมันมาก แต่เธอรู้ไหมว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เจเรมี่เป็นคนบรรจงสวมมันให้ฉัน”เมเรดิธกำลังอวดแหวนที่เธอสวมใส่ด้วยความภาคภูมิใจ ในทุกคำที่กล่าวออกมาถูกเขียนอย่างชัดเจนทั่วทั้งดวงตาแห่งความโอ้อวดนี้ของเธอมาเดลีนขดนิ้วของเธอและถือโทรศัพท์ที่กำลังบันทึกวิดีโอตลอดเวลาไว้ในมือ เธอยิ้มขณะที่เธอกัดฟัน“เมเรดิธ เธอยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเธอเป็นคนสร้างเรื่องใส่ร้ายกล่าวหาฉันทั้งหมด หาว่าฉันเป็นคนขโมยผลงานของคนอื่นมาทั้งๆที่ฉันเป็นคนรังสรรค์ผลงานนั้นออกมาจากมือตัวเอง เธอทำแบบนั้นกับฉันใช่ไหม?”เมเรดิธเย้ยหยัน “แล้วไง? ใครจะเชื่อเธอ? เธอเป็นใครคิดจะมาแข่งกับฉัน?”"พอแล้ว" มาเดลีนยิ้มมุมริมฝีปากของเธอเล็กน้อยก่อนจะหันหลังจากไปหลังจากที่เธอพูดสั้นๆเมื่อเมเรดิธสังเกตุเห็นมาเดลีนมีอาการที่แปลกไป เธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังผิดปกต
เห็นได้ชัดว่าเจเรมี่เองมีอาการตกตะลึงเล็กน้อยคิดไม่ถึงว่ามาเดลีนจะกล้าคุยกับเขาแบบนี้ตอนแรกเขาต้องการแค่สั่งสอนมาเดลีนเป็นบทเรียน แต่ทันใดนั้น การแสดงออกในดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไป น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นเหมือนปกติ “เธอหมายความว่าไง ที่เธอจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน”มาเดลีนคิดไม่ถึงเช่นเดียวกันว่าเขาจะกังวลสิ่งนี้ เขาควรจะตะโกนใส่เธอและเตือนเธอไม่ให้ล่วงละเมิดเมเรดิธไม่ใช่หรือ?เธอเดาไม่ออกว่าเจเรมี่กำลังคิดอะไรอยู่ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ต้องการบอกเขาเกี่ยวกับเนื้องอกในร่างกายของเธอ"ไม่มีอะไร คุณไม่ต้องกังวลกับสิ่งที่ผู้หญิงอย่างฉันพูด คุณชาย วิทแมน” หลังจากมาเดลีนพูดจบเธอก็ผลักเจเรมี่ออกไป บางทีอาจเป็นผลทางจิตใจ ที่ส่งผลให้เนื้อร้ายของเธอเริ่มมีอาการเจ็บอย่างไรก็ตาม เจเรมี่ไม่ยอมแพ้และปล่อยเธอไปแบบนี้ “มาเดลีน เธอดื้อมาก เธอพยายามทำตัวน่าสมเพชเพื่อที่จะทำให้ผมเสียใจกับเธอหรือเปล่า?”มาเดลีนผงะกึกก่อนที่เธอจะหัวเราะเบาๆ “ใช่ ฉันกำลังเตรียมการอีกครั้ง ผู้หญิงที่ไร้ยางอายและเลือดเย็นอย่างฉันจะไปเปรียบเทียบอะไรกับเจ้าของความรักที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณได้อย่างไร? ฉันคิดว่าเมเรดิธ ต้องเป็นคน
ถ้าเป็นเขาจริงๆ เขามีสิทธ์อะไรมาช่วยเธอในการชำระหนี้? สามีของเธอเนี่ยนะ?อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าความคาดหวังของมาเดลีนก็ถูกทำลายลง เมื่ออีกฝ่ายระบุชื่อ - แดเนียลมาเดลีนโทรหาแดเนียลทันที อย่างไม่รอช้า หลังจากนั้นไม่นานเขาเดินทางมาหาเธออย่างเร่งรีบเมื่อมาเดลีนบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ผมคิดว่ามีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับเธอ แมดดี้ ปรากฎว่ามันคือเรื่องนี้ ไม่เป็นไร เธอไม่จำเป็นต้องคิดกังวลถึงสิ่งนี้”“มันไม่มีอะไรเลย” มาเดลีน มองไปที่แดเนียลอย่างจริงจัง “แดน..ฉันเองไม่รู้ว่าฉันจะตอบแทนคุณได้เมื่อไหร่ แต่ก็ขอบคุณมากจริงๆ""ฉันไม่รีบ ฉันไม่ต้องการเงินด่วนขนาดนั้น”“ฉันรู้ว่าคุณอยากปฏิเสธ แต่ว่า-”“ถ้าเธออยากจะขอบคุณฉันจริงๆล่ะก็ แมดดี้ เธอสามารถเลี้ยงอาหารฉันเป็นการตอบแทนได้นะ ฉันรู้สึกหิวตอนนี้อยู่พอดีเลย” แดเนียลขัดจังหวะมาเดลีน เขามองเธออย่างสนใจด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ฉันมีความสุขที่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับเธอ”มาเดลีนสามารถรู้สึกถึงความรักที่ใกล้ชิดระหว่างชายหญิงในสายตาของแดเนียลเธอหลบสายตาที่จ้องมองอย่างกะทันหันและพยักหน้า "ตกลง"มาเดลีนเพิ่งออกจากคุกและ
สีหน้าของมาเดลีนเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด เธอคือสิ่งสกปรกของแท้เละเทะมากในจิตใจเขา“เจเรมี่ ช่วยมีมารยาทในคำพูดคำจาด้วย!” แดเนียลดึงมาเดลีนไว้ข้างหลังเขาและบรรยากาศระหว่างพวกเขาเริ่มมีประกายไฟคุกรุ่นขึ้นมาทันทีเจเรมี่หัวเราะเบาๆ "เคารพงั้นหรอ? เธออยู่กับชู้รักในฐานะผู้หญิงที่แต่งงานแล้วในที่สาธารณะและเธอยังพยายามที่จะถามหาการความเคารพนั่นอยุ่อีกหรือ?เขาใช้คำพูดที่คมชัด แสดงให้เห็นว่าเขาไม่สนใจความรู้สึกของมาเดลีนด้วยซ้ำ“เมื่อไหร่กันที่นายปฏิบัติกับแมดดี้ในฐานะภรรยา? จากนี้ไป เธอไม่ใช่ภรรยาของนายอีกต่อไป!” แดเนียลไม่ได้มีทีท่ากลัวเจเรมี่ เขาหันหน้าเข้าประจันหน้าใบหน้าของเจเรมี่ถูกปกคลุมด้วยความรู้สึกเยือกเย็น เขามองไปที่มาเดลีนด้วยสายตาที่น่าขนลุก “นี่เป็นวิธีที่เธอยั่วยวนผู้ชายข้างนอกหรือเปล่า?”มาเดลีนรู้สึกหนาวสั่นที่กระดูกสันหลังของเธอ เธอไม่เข้าใจความขุ่นมัวในดวงตาของเจเรมี่เขาเอื้อมมือไปดึงมาเดลีนมาอยู่ข้างๆ ดวงตาหยิ่งผยองของเขามองไปที่แดเนียล “เธอยังคงเป็น เมียที่แต่งงานถูกต้องตามกฎหมายของผม ถึงแม้วันหนึ่งผมจะเบื่อเธอ แต่ผมจะไม่มีวันยอมให้นายมีโอกาสได้สิ่งของที่ผมเคยได้ไปเด
เสียงต่ำและทุ้มของเขาดังก้องอยู่ในหูของเธอและหัวใจเธอตอนนี้กำลังเต้นเร็วขึ้น ถึงอย่างไร เธอจะไม่มีคาดหวังอะไรที่ไร้สาระอย่างที่เคยมีอีกต่อไป ตอนนี้ ความรักที่มีต่อเจเรมี่ถูกครอบงำโดยความเกลียดชังที่เธอมีต่อเขามาเดลีนไม่คาดคิดว่าท่านปู่วิทแมนจะไม่รังเกียจที่เธอต้องเข้าคุกเป็นเวลาสามปี แต่เขา บอกให้ มาเดลีนเริ่มต้นชีวิตใหม่และใช้ชีวิตที่ดีที่เหลือกับเจเรมี่เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสท่านนี้มีความคิดดั้งเดิม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า เขาควรโกรธและรังเกียจหลานสะใภ้ของเขาที่ได้ทำอาชญากรรมเช่นนี้ แต่ในขณะนี้ มาเดลีนยังคงตกตะลึงเธอรู้สึกซาบซึ้งและอบอุ่นอย่างไร้คำพูดการกระทำของคุณปู่ท่านนี้ทำให้เธอนึกถึงปู่ของเธอที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเขาทั้งสองเป็นชายชราที่ใจดีและอบอุ่นมาเดลีนร่วมรับประทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์ของวิทแมน เธอรับรู้ได้อย่างแจ่มแจ้งว่าทุกคนที่นี่กำลังเยาะเย้ยเธอโดยเฉพาะแม่ของเจเรมี่ หลังจากที่ท่านขอตัวกลับไปก่อน แม่ของเจเรมี่เริ่มแสดงกริยาท่าทางดูถูกเธอทันที "ถ้าเธอฉลาดมากพอ เธอควรเป็นคนเสนอเรื่องการหย่าร้างที่ไม่ต้องมีการต่อรองและที่สำคัญต้องไม่ขัดขวางงานแต่งงานของเจเรมี่กับเมเรดิธ"
เด็กน้อยตัวเล็กหมุนตัวกลับมาอย่างไร้เดียงสาอาจเพราะเขาได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้ ตอนนี้ใบหน้าที่น่ารักและบริสุธิ์ของเขากำลังเผชิญหน้ากับมาเดลีน ดวงตาที่สดใสและชัดเจนของเขาเหมือนกระเบื้องเคลือบขณะที่กระพริบและจ้องไปที่มาเดลีนประกายไฟแห่งความเกลียดชังในใจที่ท่วมท้นขอ มาเดลีน ถูกสกัดดับลงในทันที มันถูกแทนที่ด้วยความรักและความเมตตาที่ไม่อาจบรรยายได้น้ำตาไหลซึมที่มุมตาทั้งสองข้างของเธอและเธอก็อยากจะร้องไห้ออกมา‘ถ้าลูกฉันยังอยู่ที่นี่ เธอคงน่ารักเหมือนเขาเช่นกัน’นั่นเป็นเพราะ เจเรมี่ที่มีความโดดเด่นมาก ลูกหลานที่ได้รับสืบทอดเชื้อสายของเขาก็จะหน้าตาดีเช่นกันมาเดลีนก้มลงลูบใบหน้าที่บอบบาง และน่ารักของเขา “เธอชื่ออะไรเอ่ย เด็กน้อย?”เด็กชายตัวเล็กกระพริบตาและพูดอย่างน่ารักว่า “แม่และพ่อเรียกผมว่าแจ็ค”‘แม่และพ่อ’คำพูดเหล่านั้นทำร้ายมาเดลีนลูกของเธอควรมีแม่และพ่อของเธอเช่นกัน แต่ตอนนี้ ...“แมดดี้ เธอกำลังพยายามทำอะไรของเธอ? ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้วว่าเธอสามารถทำทุกอย่างกับฉันได้แต่โปรดอย่าทำร้ายลูกชายของฉันกับเจเรมี่!”เสียงกรีดร้องของเมเรดิธฟังดูเกินจริงอย่างผิดปกติ นอกจากนั้น เธอย้ำ
เธอควรกลับไปกับเขาไหม?มาเดลีนแสร้งยกมุมริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนตอบอย่างอ่อนหวานว่า “โอเค”หลังจากพูดจบ เธอหันหน้าไปมองเมเรดิธทันที ในขณะนี้ ใบหน้าของเมเรดิธดำราวกับถ่านและริมฝีปากของเธอก็กดเข้าหากันแน่น เธอโกรธจนแทบจะขบฟันตัวเองอย่างไรก็ตาม มันเป็นลักษณะตัวตนที่ขัดแย้งกันของเธอสิ่งนี้ที่ทำให้มาเดลีนรู้สึกพอใจมากที่สุด เธอคงกำลังจะระเบิด แต่เธอก็ไม่ต้องการที่จะทำลายภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่อ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความรัก และสิ่งที่เธอเห็นต่อมาคือเจเรมี่เดินตรงดิ่งเขาไปหาผู้หญิงสองหน้าคนนั้น เขาคงจะปลอบโยนเธออย่างแน่นอนจากระยะไกล มาเดลีนเห็นเมเรดิธอุ้มลูกของเธอขณะที่เข้าใกล้เจเรมี่ด้วยท่าทางที่น่าสมเพช“เจเรมี่ ฉันกลัวว่าแมดดี้จะทำร้ายฉันและลูกอีกครั้ง เธอถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สะทกสะท้านใดๆเลยตอนนี้” เมเรดิธบ่นกับเจเรมี่“เจเรมี่ คุณไม่ลืมสิ่งที่เคยสัญญากับฉันตอนเด็กๆ ใช่ไหม? เธอบอกว่าฉันจะเป็นเจ้าสาวของคุณและปกป้องฉันตลอดไป”มาเดลีนคิดมาเสมอว่าเธอคงไม่มีความรู้สึกใดๆต่อไปหากเจเรมี่ได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่น แต่เพียงแค่ได้เห็นพวกเขาพูดคุยกันอย่างใก