เด็กน้อยตัวเล็กหมุนตัวกลับมาอย่างไร้เดียงสาอาจเพราะเขาได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้ ตอนนี้ใบหน้าที่น่ารักและบริสุธิ์ของเขากำลังเผชิญหน้ากับมาเดลีน ดวงตาที่สดใสและชัดเจนของเขาเหมือนกระเบื้องเคลือบขณะที่กระพริบและจ้องไปที่มาเดลีนประกายไฟแห่งความเกลียดชังในใจที่ท่วมท้นขอ มาเดลีน ถูกสกัดดับลงในทันที มันถูกแทนที่ด้วยความรักและความเมตตาที่ไม่อาจบรรยายได้น้ำตาไหลซึมที่มุมตาทั้งสองข้างของเธอและเธอก็อยากจะร้องไห้ออกมา‘ถ้าลูกฉันยังอยู่ที่นี่ เธอคงน่ารักเหมือนเขาเช่นกัน’นั่นเป็นเพราะ เจเรมี่ที่มีความโดดเด่นมาก ลูกหลานที่ได้รับสืบทอดเชื้อสายของเขาก็จะหน้าตาดีเช่นกันมาเดลีนก้มลงลูบใบหน้าที่บอบบาง และน่ารักของเขา “เธอชื่ออะไรเอ่ย เด็กน้อย?”เด็กชายตัวเล็กกระพริบตาและพูดอย่างน่ารักว่า “แม่และพ่อเรียกผมว่าแจ็ค”‘แม่และพ่อ’คำพูดเหล่านั้นทำร้ายมาเดลีนลูกของเธอควรมีแม่และพ่อของเธอเช่นกัน แต่ตอนนี้ ...“แมดดี้ เธอกำลังพยายามทำอะไรของเธอ? ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้วว่าเธอสามารถทำทุกอย่างกับฉันได้แต่โปรดอย่าทำร้ายลูกชายของฉันกับเจเรมี่!”เสียงกรีดร้องของเมเรดิธฟังดูเกินจริงอย่างผิดปกติ นอกจากนั้น เธอย้ำ
เธอควรกลับไปกับเขาไหม?มาเดลีนแสร้งยกมุมริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนตอบอย่างอ่อนหวานว่า “โอเค”หลังจากพูดจบ เธอหันหน้าไปมองเมเรดิธทันที ในขณะนี้ ใบหน้าของเมเรดิธดำราวกับถ่านและริมฝีปากของเธอก็กดเข้าหากันแน่น เธอโกรธจนแทบจะขบฟันตัวเองอย่างไรก็ตาม มันเป็นลักษณะตัวตนที่ขัดแย้งกันของเธอสิ่งนี้ที่ทำให้มาเดลีนรู้สึกพอใจมากที่สุด เธอคงกำลังจะระเบิด แต่เธอก็ไม่ต้องการที่จะทำลายภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่อ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความรัก และสิ่งที่เธอเห็นต่อมาคือเจเรมี่เดินตรงดิ่งเขาไปหาผู้หญิงสองหน้าคนนั้น เขาคงจะปลอบโยนเธออย่างแน่นอนจากระยะไกล มาเดลีนเห็นเมเรดิธอุ้มลูกของเธอขณะที่เข้าใกล้เจเรมี่ด้วยท่าทางที่น่าสมเพช“เจเรมี่ ฉันกลัวว่าแมดดี้จะทำร้ายฉันและลูกอีกครั้ง เธอถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สะทกสะท้านใดๆเลยตอนนี้” เมเรดิธบ่นกับเจเรมี่“เจเรมี่ คุณไม่ลืมสิ่งที่เคยสัญญากับฉันตอนเด็กๆ ใช่ไหม? เธอบอกว่าฉันจะเป็นเจ้าสาวของคุณและปกป้องฉันตลอดไป”มาเดลีนคิดมาเสมอว่าเธอคงไม่มีความรู้สึกใดๆต่อไปหากเจเรมี่ได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่น แต่เพียงแค่ได้เห็นพวกเขาพูดคุยกันอย่างใก
เจเรมี่จับเธอไว้แน่น และแม้มาเดลีนจะพยายามหนีออกจากการจับกุม แต่เธอยังถูกบังคับให้ขึ้นรถไปในที่สุดมาเดลีนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อไหร่ที่เขาหยุดคิดว่าเธอจะทำให้รถของเขาสกปรก ตอนนี้เขาปล่อยให้เธอนั่งในที่นั่งผู้โดยสารข้างๆด้วยซ้ำท้องฟ้าภายนอกมืดมนลงในทันที ไม่นาน ทั้งลมทั้งฝนต่างพากันกระหน่ำตกหนักอารมณ์ของมาเดลีนเริ่มปั่นป่วน เมื่อใดก็ตามที่ฝนตกอย่างหนัก เธอจะนึกถึงคืนที่เธอถูกบีบบังคับให้คลอดลูกในรถแคบๆ ความกลัวในใจของเธอขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เธอไม่อยากมองย้อนกลับไปในคืนที่มืดมิดคืนที่เลือดนองเต็มพื้น คืนที่ทำให้เธอและลูกสาวแยกจากกัน"เจเรมี่ จะพาฉันไปไหน? นี่วางแผนที่จะฆ่าฉันเพียงเพราะฉันปฏิเสธที่จะหย่ากับคุณหรือเปล่า? ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณทำมันสำเร็จอีกต่อไปแล้ว!" มาเดลีนสูญเสียการควบคุมอารมณ์ของเธอและเธอพยายามเปิดประตูรถเธอไม่สามารถตายได้ เธอยังไม่ได้แก้แค้นลูกสาวของเธอ!เจเรมี่ล็อคประตูอย่างรวดเร็วก่อนจะดึงเบรก"มาเดลีน เธอบ้าหรือเปล่า?"เขาขมวดคิ้วก่อนจะลากมาเดลีนเข้ามาหาเขา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นชามาเดลีนจ้องมองเขาด้วยดวงตาสีแดงเข้ม "ใช่ ฉันบ้
"คุณมองเห็นร่องรอยเหล่านี้ไหม? คุนชาย วิทแมน ฉันต้องขอขอบคุณสำหรับความห่วงใย คุณปล่อยให้ฉันมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบทุกวันในช่วงที่ฉันติดคุกเป็นพันๆวัน”รอยยิ้มขมขื่นถูกขรี่ออกก่อนที่น้ำตาไหลออกมาเยอะมากของเธอจะตกลงบนหลังมือของเจเรมี่ นิ้วเรียวของเขาสั่นเบาๆ เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าน้ำตาจะมีอนุภาคร้อนแรงขนาดนี้ฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ และมาเดลีนได้ยินเสียงที่ปัดน้ำฝนกระทบกับกระจกหน้ารถที่ถูกสะบัดไปมาอากาศรอบตัวของเธอดูเหมือนจะเงียบลงในทันที มาเดลีนรีบเช็ดน้ำตาของเธอทิ้งไป ดวงตาของเธอเริ่มสงบลง"เจเรมี่ ถ้าฉันเลือกย้อนเวลาได้อีกครั้ง ฉันก็ไม่อยากจะพบคุณเลย”หลังจากได้ยินคำพูดของมาเดลีน เจเรมี่ดูเหมือนจะกลับมามีสติอีกครั้ง เขาจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่ไร้อารมณ์ของเขา"มาเดลีน เธอไม่มีทางเลือก เธอกลายเป็นภรรยาของฉัน และเธอจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงนี้ได้ไปชั่วชีวิตนี้”มาเดลีนเยาะเย้ยถากถาง "โอ้? งั้นหรอ? คุณชาย วิทแมน คุณกำลังจะบอกว่าจะไม่มีวันหย่ากับฉันตลอดชีวิตนี้งั้นหรอ? แล้วยัยผู้หญิงสองหน้าของคุณล่ะ? ไม่กลัวหรือว่าเธอจะเสียใจจนพยายามฆ่าตัวตายหลังจากได้ยินเรื่องนี้อีกครั้งหรือไง?”
เมเรดิธชี้ไปที่มาเดลีนอีกทั้งตะโกนใส่เธอ หล่อนละทิ้งภาพลักษณ์ที่แสนหลอกลวงและหญิงสาวแสนอ่อนโยนทิ้งไปแม่บ้านฮิวจ์ไม่แปลกใจกับความดุร้ายและป่าเถื่อนของเมเรดิธ เห็นได้ชัดเลยว่าเธอเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเมเรดิธเมื่อนานมาแล้วในตอนแร มาเดลีนต้องการที่เพียงแค่จากไป แต่เมื่อเห็นเมเรดิธที่กำลังลุกลี้ลุกลนกับอาการโกรธมาก ในขณะนี้เธอจึงเลือกที่จะต่อกรกับเมเรดิธสักเล็กน้อย หล่อนนั่งลงบนโซฟาก่อนจะแยกริมฝีปากขยับออกไม่มีท่าทีเดือดร้อนใดๆ "ฉันเป็นนายหญิงบุคคลสำคัญของบ้านหลังนี้แปลกไหมที่ฉันมาอยู่ที่นี่? ถ้ามีอะไรแปลกก็คงเป็นคนนอกอย่างเธอที่ทำไมถึงมาอยู่ในบ้านฉันตอนนี้?”"เธอเป็นนายหญิงของบ้านหลังนี้งั้นหรือ?" ราวกับว่าเมเรดิธได้ยินเรื่องตลกที่เรื่องใหญ่ในรอบปี "มาเดลีน เธอกลายเป็นคนโง่ไปเเล้วในขณะที่อยู่ในคุกหรือเปล่า? ฉันคือนายหญิงที่แท้จริงของบ้านหลังนี้! และเธอเป็นแค่สุนัขที่ไล่ตามเจเรมี่!”คำพูดของหล่อนเป็นการดูถูกและสบประมาทอย่างมาก หล่อนดูมีความคิดมุ่งร้ายด้วยการขบฟันพูดของหล่อนทำให้ดูหล่อนสูญสิ้นท่าทางที่เหมือนหญิงสาวจากครอบครัวที่ร่ำรวยเลยมาเดลีนหัวเราะเบาๆ "ถ้าฉันเป็นหมา เธอก็คงไม
แท้ที่จริงแล้ว มาเดลีนค่อนข้างกระวนกระวายใจและไม่สบายใจอย่างมาก ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเธอ ไม่สามารถสู้กับเมเรดิธได้เลยนอกจากนี้ทเธอไม่สามารถอ่านการกระทำของเจเรมี่ที่มีต่อเธอในวันนี้ได้ขณะที่เธอยังคงคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องนี้ เธอรับรู้ว่ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวจากโถงทางเดิน กำลังเข้าใกล้เธอทุกทีมาเดลีนเงยหน้าขึ้นขณะที่ร่างสูงโปร่งอย่างสง่าของเจเรมี่เข้ามาบดบังทัศนียภาพในการมองเห็นของเธอสายฝนยังคงโหมกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย และด้วยนิสัยที่เยือกเย็นตามปกติของเขาในเวลานี้อุณหภมูิที่แผ่ออกมาดูเยือกเย็นขึ้นไปอีกเเพราะฝนที่กำลังตกหนักอยู่ตอนนี้เขาตั้งใจที่จะมองลึกเข้าไป ในดวงดวงตาของเขามีมาเดลีนสะท้อนอยู่ ดวงตาของเขาจ้องมองเธอช่างลึกเหลือเกิน ราวกับว่าเธอจะจมดิ่งลงไปในดวงตานั้นมันเป็นการสบตาแบบนั้นอีกครั้งหัวใจของมาเดลีนถูกสูบฉีดอย่างอธิบายไม่ถูก เมื่อเธอกำลังจะหลีกเลี่ยงการจ้องมองนี้ เธอรู้สึกได้ถึงลมกรโชกแรงที่พัดผ่านข้างๆเธอเมเรดิธกุมใบหน้าข้างหนึ่งก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปหาเจเรมี่พร้อมกับสะอื้น จากนั้น หล่อนฝังตัวเองลงไปในอกของเขา"เจเรมี่…" เสียงของหล่อนสั่นราวกับว่าห
เมเรดิธแสร้งกระพริบตาอย่างบริสุธิ์ดูไม่มีพิษไม่มีภัยใดๆ น้ำเสียงของเธอฟังดูนุ่มนวลและหมดแรงแย่างไรก็ตาม ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะตาบอดกับการแสดงที่ชัดเจนขนาดนี้แต่ไม่สามารถดูออกได้ การแสดงงี่เง่าเช่นนี้มีผลสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะไม่ต้องบอกมาเดลีนรู้ดีว่าเจเรมี่จะเห็นด้วยโดยแทบไม่มีคำถามใดๆกับเรื่องนี้ ไม่นานนัก เป็นดั่งเช่นมาเดลีนคิดไว้ไม่มีผิดเขาพยักหน้า "ถ้างั้นก็อยู่”นั่นไง! มาเดลีนรู้ว่าเจเรมี่จะทำแบบนี้โดยแทบไม่ต้องคาดเดากับเรื่องนี้ได้เลย และเธอรู้สึกได้ว่าเมเรดิธ มองมาที่เธอด้วยหางตาอย่างยั่วโมโหกระทั้ง เมเรดิธที่ดูภาคภูมิใจได้เพียงไม่กี่วินาทีก่อนจะถูกเจเรมี่ทำลายวิมานแห่งชัยชนะของเธอ เขาหันไปทางแม่บ้านฮิวจ์ เขาพูดเพียงไม่กี่คำ "ไปเตรียมห้องรับรองสำหรับคุณครอว์ฟอร์ด”มาเดลีนที่กำลังดื่มซุปแทบสำลักเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้กับหูสีหน้าแห่งชัยชนะบนใบหน้าของเมเรดิธที่เคยมีแทบเลือนหายไปในพริบตานี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?เมเรดิธรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นจริง ‘ฉันคือคุณครอว์ฟอร์ดที่เขาพูดถึงหรือเปล่า?’มาเดลีนตระหนักคิดเรื่องนี้อย่างดี เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เธอต้องมีชีวิตอยู่รอดจนกว่าจะถึงวันที่เมเรดิธได้รับผลกรรมอย่างสาสม!มาเดลีนไม่สามารถหลบหนีไปจากเกลนเดลได้สำเร็จ เจเรมี่มักพาเธอกลับไปที่คฤหาสน์วิทแมนเป็นครั้งคราวท่านปู่ วิทแมน ชื่นชอบมาเดลีนอย่างเหลือเชื่ออีกทั้งเขายังใจดีกับเธออย่างน่าประหลาดใจ ครั้งหนึ่งเขาเคยตบไหล่เธอแล้วพูดว่า 'เด็กคนนี้ช่างดูคุ้นเคยอะไรขนาดนี้ เธอคิดว่าเราเคยเป็นปู่และหลานสาวในชาติก่อนหรือไม่?'ความจริงแล้วไม่ใช่แค่คุณปู่ท่านนี้ที่มีความรู้สึกแบบนี้ แต่มาเดลีนเองก็รู้สึกเช่นเดียวกันในขณะที่เธอได้พบกับชายชราผู้มั่งคั่งคนนี้ เธอรู้สึกเหมือนเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนเมื่อใดก็ตามที่มาเดลีนไปที่คฤหาสน์วิทแมน นอกจากเธอต้องแสร้งทำเป็นใจดีและอ่อนโยนต่อเจเรมี่่แล้ว เธอยังได้เห็นปฏิกิริยาของทุกคนที่ปฏิบัติต่อเธอราวกับว่าเธอเป็นสิ่งที่อุจาดตาไม่หน้ามอง — โดยเฉพาะเมเรดิธในตอนแรก หล่อนสามารถกำจัดมาเดลีนออกไปและได้รับตำแหน่งคุณนายวิทแมนได้สำเร็จ แต่ตอนนี้ คนพวกนี้ไม่สามารถข้ามหน้าข้ามตาเจ้าของตระกูลอย่างผู้อาวุโสวิทแมนได้ การที่จะได้รับตำแหน่งของนายหญิงวิทแมนตอนนี้ยากพอๆกับการบินได้ในช่วงบ่ายวันจ