“เรารีบไปกันเถอะ ฉันหิวแล้ว”
ระหว่างทางมาร้านอาหารนายหัวชาวีแอบมองชมจันทร์เป็นระยะๆ วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนๆ แต่กลับทำให้ดูสวยสะพรั่งมากขึ้นอีกหลายเท่า ปากเล็กๆ นั่นแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูสวย จนเขาอยากจะคว้าเอามาจูบเสียตอนนี้เลยจริงๆ
เขาจันทร์มาทานสเต๊กร้านประจำที่เข้าเมืองทีไรมักจะแวะมาทานทุกครั้ง
“อร่อยไหม”
“อร่อยค่ะ อร่อยกว่าสเต๊กในโรงเรียนเยอะเลยค่ะ ราคาก็ต่างกันมากด้วย”
“ที่โรงเรียนขายเท่าไหร่ล่ะ” เขาห่างจากคำว่าโรงเรียนมานานเลยไม่รู้ว่าตอนนี้ราคาอาหารเป็นยังไงบ้าง
“59 บาทค่ะ แพงกว่าอย่างอื่นเลยแต่จันทร์ก็ชอบกินนะคะเพราะมันอร่อย แต่พอมากินร้านนี้แล้วจันทร์ลืมรสชาติของที่โรงเรียนไปเลยค่ะ”
“ถ้าชอบเวลาเราเข้ามาในเมืองฉันจะพามากินบ่อยๆ ดีไหม ฉันก็ชอบร้านนี้เหมือนกัน”
“ไม่ดีกว่าค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“ก็ราคามันแพงนี่คะ”
“ราคาแค่นี้ไม่แพงหรอก บางร้านแพงกว่านี้อีกนะ”
“จริงเหรอคะ”
“อยากไปกินไหม”
“ไม่ดีกว่าค่ะ มีคนบอกว่าของอร่อยไม่ต้องกินบ่อยก็ได้เพราะรสชาติของมันจะอยู่ในความทรงจำขอเราอยู่แล้ว”
คำพูดของชมจันทร์ทำให้นายหัวยิ้มก่อนจะรีบทานเพราะกลัวว่าไปถึงผับดึกสารินทร์จะยุ่งจนไม่มีเวลามาเจอกับเขาและชมจันทร์
พอออกจากร้านนายหัวชาวีก็พาเธอมายังผับของสารินทร์และขึ้นไปนั่งโซนวีไอพีอย่างเคย
“นายหัวค่ะจันทร์ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม”
“ได้สิห้องน้ำอยู่ด้านในสุดนะ ไม่ต้องลงไปใช้ข้างล่าง”เขาบอกให้เธอไปยังห้องน้ำอีกด้านหนึ่งซึ่งจะเป็นห้องน้ำที่ลูกค้าโซนวีไอพีใช้เท่านั้น
“ค่ะนายหัว”
ชมจันทร์กลับออกมาจากห้องน้ำโต๊ะของเธอก็มีผู้ชายคนหนึ่งมานั่งเพิ่ม
“จันทร์มารู้จักกับสารินทร์ก่อนเขาเป็นเจ้าของที่นี่และเป็นหุ้นส่วนของฉัน”
“สวัสดีค่ะคุณสารินทร์” ชมจันทร์ยกมือไหว้เพื่อนของเจ้านาย
จากนั้นเธอก็นั่งฟังทั้งสองคุยกันไม่นานและสารินทร์ก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อทิ้งให้ทั้งสองนั่งดื่มด้วยกันตามลำพัง
“เธอกินเหล้าเป็นไหมจันทร์”
“จันทร์เคยกินค่ะ”
“ไอ้คำว่าเคยกินเนี่ย กินได้มากแค่ไหนถึงจะเมา”
“ไม่รู้เหมือนกันจันทร์ก็ไม่เคยกินจนเมาสักที”
“จะลองดูไหมล่ะ ว่ากินเท่าไหร่ถึงจะเมา”
“ไม่ดีกว่าค่ะ จันทร์ไม่อยากรู้” ชมจันทร์รับปฏิเสธเพราะกลัวตนเองเมาแล้วจะขาดสติและอาจจะโดนนายหัวทำเรื่องอย่างว่าทั้งที่เธอยังไม่พร้อมก็ได้
“ถ้างั้นจะเอาไวน์หรือเอาเครื่องดื่มอะไรไหม”
“จันทร์เกรงใจ”
“ไม่ต้องเกรงใจอย่าลืมว่าฉันเป็นหุ้นส่วนที่นี่ด้วยนะ”
“จันทร์สั่งไม่เป็นหรอกค่ะ นายหัวสั่งให้จันทร์หน่อยได้ไหมคะจันทร์อยากกินที่มันเป็นน้ำสีสวยๆ เหมือนที่เคยเห็นในละคร”
“ค็อกเทลเหรอ”
“ค่ะ แต่จันทร์ไม่รู้ว่ามันต้องสั่งยังไง”
“โอเคเดี๋ยวฉันจัดการให้” นายหัวชาวีเรียกบริกรมาสั่งเครื่องดื่มให้กับหญิงสาวโดยเลือกดีกรีที่อ่อนที่สุด ไม่นานนักเครื่องดื่มสีสวยก็มาเสิร์ฟตรงหน้า
“ลองชิมดูสิว่าถูกใจไหม ฉันให้เขาใส่เหล้าไปนิดเดียว” ชาวีรีบบอกเมื่อเห็นว่าชมจันทร์ลังเลที่จะดื่ม
“ขอบคุณค่ะนายหัว” ชมจันทร์ยกขึ้นมาจิบแล้วรู้สึกสดชื่นกับเครื่องดื่มที่เขาสั่งให้ เธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆ ที่ผสมอยู่ด้วย
“กินแล้วจะไม่เมาใช่มั้ยคะ”
“ฉันบอกแล้วไงว่าใส่เหล้าไปแค่นิดเดียวเธอไม่เมาหรอกน่า”
รสชาติและกลิ่นที่หอมหวานของเครื่องดื่มทำให้ชมจันทร์จิบไปทีละนิดอย่างเพลิดเพลินเธอไม่ได้รู้สึกเมาอย่างที่เขาบอกจริงๆจริงขอเขาเพิ่มอีกแก้ว
“นายหัวคะมันอร่อยจันทร์ขออีกแก้วได้ไหม”
“ได้สิ อยากได้อะไรที่มันแรงกว่านี้ไหมหรืออยากได้รสชาติใหม่ไหม”
“เอารสชาติใหม่ก็ได้ค่ะแต่ใส่เหล้าไม่เยอะเหมือนเดิมนะคะจันทร์ไม่อยากเมา” ชมจันทร์บอกกับเจ้านายจากนั้นก็รอคอยว่าเครื่องดื่มที่มาเสิร์ฟ ครั้งนี้จะสีสันและรสชาติต่างจากแก้วแรกไหม พอบริกรยกมาให้เธอก็ยิ้มอย่างถูกใจเพราะนอกจากสีของมันจะสวยก็อร่อยจนชมจันทร์จิบหมดแก้วที่สอง
“อร่อยใช่ไหม”
“ค่ะ”
“เอาอีกไหม”
“ไม่ดีกว่าแค่นี้ก็พอแล้ว”
“ถ้างั้นเราจะกลับกันเลยไหม พรุ่งนี้อาจจะต้องไปซื้อของแต่เช้าตอนบ่ายจะได้กลับสวนยางกัน”
“ค่ะนายหัว”
ขึ้นรถมาไม่นานชมจันทร์ก็รู้สึกแปลกๆ หญิงสาวรู้สึกว่าแอร์ในรถของในหัวที่มันเคยเย็นฉ่ำเมื่อตอนกลางวันมันกลับไม่ทำงานเลย
“รถในหัวแอร์เสียหรือเปล่าทำไมจันทร์รู้สึกร้อนๆ”
“ร้อนที่ไหนฉันว่าก็ปกตินะ เธอเมาหรือเปล่า”
“คนเมาที่ไหนจะพูดจารู้เรื่องคะนายหัว จันทร์กินไปแค่สองแก้วเองตอนไปกินกับเพื่อนจันทร์กินได้เยอะกว่านี้” ชมจันทร์พูดขณะที่มือของเธอก็พยายามพัดให้ตัวเองหายร้อน
“เอาล่ะเดี๋ยวฉันเร่งแอร์ให้ก็ได้” นายหัวปรับทั้งแอร์ให้หันให้กับหญิงสาวแต่ชมจันทร์กับรู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆ
“ดีขึ้นไหม” นายหัวชาวีเห็นท่าทางของเธอก็พอจะเดาออกว่าในเครื่องดื่มนั่นคงมีอะไรสักอย่างที่ไปกระตุ้นให้หญิงสาวเกิดอาการแบบนี้แต่เขาไม่ใช่คนทำและคิดว่าคนที่ทำแบบนี้น่าจะเป็นสารินทร์อย่างแน่นอน
“แล้วเมื่อไหร่จะถึงคอนโดจันทร์อยากอาบน้ำ” หญิงสาวเริ่มร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เธอหันหน้าไปจ่อแอร์แต่ก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
“อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้วใจเย็นๆ นั่งนิ่งๆ เธอดิ้นไปดิ้นมาแบบนี้ฉันไม่มีสมาธิขับรถ”
“ก็มันร้อนนี่ค่ะนายหัวจันทร์อยากถอดเสื้อจันทร์ขอถอดเสื้อได้ไหม”
“เฮ้ย! จะมาถอดอะไรกันบนรถชมจันทร์ใจเย็นๆ มีสติหน่อยเดี๋ยวก็ถึงคอนโดแล้วอีกแค่ไฟแดงเดียว”
นายหัวหนุ่มรีบขับรถพาชมจันทร์ขับรถกลับมายังคอนโดอย่างรวดเร็ว
ประตูห้องเปิดชมจันทร์ก็รีบวิ่งเข้าห้องของตัวเองและเปิดฝักบัวอาบน้ำแต่ยิ่งอาบก็กลับยิ่งร่างกายกับร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ยิ่งเวลาสัมผัสผิวกายตัวเองกลับยิ่งรู้สึกร้อนมากขึ้น
ชมจันทร์คิดว่าสายน้ำคงไม่ช่วยอะไรมากหญิงสาวจึงรีบแต่งตัวและใส่ชุดนอนออกมาหาน้ำเย็นเพื่อดับร้อน
“จันทร์ออกมาทำไม ฉันนึกว่าเธอหลับไปแล้ว หายดีแล้วใช่ไหม” เขามองท่าทางของชมจันทร์แล้วกระตุกยิ้มเพราะเขาโทรศัพท์ไปถามสารินทร์แล้วถึงรู้ว่าเขาแอบเอายาใส่แก้วของเธอ
“จันทร์ไม่รู้เป็นอะไรค่ะนายหัว มันร้อนไปหมดจันทร์ว่าจะหาน้ำกินสักหน่อย” ชมจันทร์พูดด้วยเสียงสั่นก่อนจะเดินไปทางตู้เย็นและเปิดน้ำดื่ม แต่ความเย็นของน้ำก็ไม่ทำให้ดีขึ้นเลย เธอจึงยกขวดน้ำราดลงมาบนเสื้อผ้าของตัวเองจนเปียกปอนไปหมดก่อนจะเดินมาหานายหัวหนุ่มที่นั่งดูทีวีอยู่
“นายหัวพาจันทร์ไปหาหมอได้ไหม จันทร์ไม่ไหวแล้วค่ะ มันร้อนไปหมด มันทรมาน”
ชาวีละสายตาจากทีวีจอยักษ์ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้ชุดนอนของชมจันทร์มันเปียกแนบเนื้อจนเห็นสัดส่วนของเธออย่างชัดเจน
เขารีบลุกขึ้นมายืนใกล้ๆ เอามือจับไปที่ศีรษะ
“ตัวเธอก็ไม่ร้อนนี่”
“ร้อนสิคะนายหัวมันร้อนมาก ไม่เชื่อนายหัวลองจับสิคะ” เธอดึงมือเขาสัมผัสไปตามลำคอและเนื้อตัวของตนเองแต่มันกลับรู้สึกดีจนอยากจนอยากให้เขาสัมผัสมากขึ้น
ลมหายใจติดขัดเมื่อมือใหญ่ของเขาสัมผัสผิวสวยของเธออย่างแผ่วเบา
“แบบนี้ล่ะ ดีขึ้นไหม”
“ดีขึ้นนายหัวแบบนี้ดีขึ้น”
“ให้ฉันช่วยเธอนะ”
“ช่วยยังไง”
“เชื่อฉันสิฉันทำให้เธอหายจากอาการนี้ได้ไปที่ห้องฉันสิ”
“ช่วยตรงนี้ไม่ได้เหรอจันทร์เดินจะไม่ไหวแล้ว”
“ห้องของฉันมันเย็นกว่าที่นี่เยอะ เชื่อฉันแล้วเธอจะหาย”
เมื่อเสียบคีย์การ์ดเข้าที่ประตูห้องทุกอย่างก็ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติชาวีกับชมจันทร์ปรี่เข้าหากันราวกับไม่ได้เจอกันมานานทั้งสองจูบแลกลิ้นอย่างเราร้อนสองลิ้นพัวพัน ขณะที่มือก็ช่วยกันถอดชุดของอีกฝ่ายออกจนร่างกายเปลือยเปล่านายหัวหนุ่มกอดเธอกระชับสองมือบีบคลึงสะโพกขณะที่ชมจันทร์ก็ใช้มือเล็กของเธอลากไปตามลำตัวก่อนจะชักรูปท่อนเอ็นร้อนของเขาเป็นจังหวะ“จันทร์เธอร้อนแรงเป็นบ้า”“แล้วชอบแบบนี้ไหม”“ชอบสิ ฉันชอบผู้หญิงร้อนแรงแบบเธอนะจันทร์”นายหัวครางอย่างพอใจ เขาแทบคลั่งเมื่อชมจันทร์คุกเข่าลงตรงหน้าและใช้ลิ้นเล็กๆ ของเธอเลียไปบนท่อนเอ็นขณะที่มือก็รูดอย่างชำนาญ“เธอไปฝึกแบบนี้มาจากไหนจันทร์”เขาครางสะท้านลมหายใจขาดห้วง เมื่อชมจันทร์ยังคงชักรูดท่อนเอ็นเป็นจังหวัด ขณะที่ปากเล็กของเธอก็กำลังหยอกล้อกับลูกตุ้มที่มันกำลังหดเกร็งเพราะความเสียวซ่าน เธออมก้อนกลมสองก้อนเข้าปากเล็ก ก่อนจะปล่อยออกมาแล้วใช้ลิ้นเลียตั้งแต่ส่วนโคนมายังส่วนปลายที่บานฉ่ำ“อ้าห์...ใจเย็นนะ ฉันยังไม่อยากแตก”เขารีบห้ามเพราะกลัวว่าชมจันทร์จะทำให้เขาปลดปล่อยออกมา ชาวีอยากปลดปล่อยในตัวของเธอหลายๆ ครั้งมากกว่าปลดปล่อยใส่ลำคอของเธอซึ่งค
เช้าวันเสาร์นายหัวชาวีพาชมจันทร์มายังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้และเสื้อผ้าเพิ่มอีกคนละหลายชุด นอกจากของจำเป็นแล้วนายหัวยังพาหญิงสาวมายังร้านขายเครื่องประดับ ก่อนจะให้ชมจันทร์เลือกของที่ตัวเองชอบหนึ่งชิ้น“จันทร์ไม่เอาหรอกค่ะนายหัว แต่ละอย่างแพงทั้งนั้นเลย”“แต่ฉันอยากซื้อให้นะ”“นายหัวอย่าซื้อของแพงพวกนี้ให้จันทร์เลยค่ะ จันทร์ยังเรียนอยู่นะคะใส่ของแบบนี้ไม่ได้”“ก็ใส่เล่นไง ลองแหวนนี่สิฉันว่ามันเหมาะกับวัยรุ่นดีนะ”เมื่อพนักงานเห็นนายชายหนุ่มสนใจแหวนก็รีบหยิบขึ้นมาให้ชมจันทร์ลองสวมแต่ขนาดของมันใหญ่เกินไป พนักงานจึงจะเอาวงใหม่ที่ขนาดเล็กลงเธอลอง“ไม่เป็นไรหรอกคะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธเพราะเธอไม่มีทางซื้ออยู่แล้ว“จันทร์ ฉันให้เธอเลือกมาหนึ่งอย่างถ้าไม่เลือกฉันจะจูบเธอโชว์พนักงานเลย”“นายหัว....” หญิงสามหันมามองหน้าแล้วสะบัดหน้าหนีเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขาที่แสนจะเจ้าเล่ห์“มีอะไรที่ถูกกว่านี่ไหมคะ” ชมจันทร์ถามพนักงานไปแบบตรงๆ“มีค่ะ เชิญด้านนี้เลยค่ะ” พนักงานผายมือไปยังตู้โชว์อีกด้านที่มีเครื่องประดับสำหรับใส่เล่นราคาไม่สูงมาก“เลือกตามที่ตัวเองชอบนะจันทร์ อย่าสนใจราคา” นายหัวสั่งเมื่อชมจัน
นายหัวชาวีพาชมจันทร์มากรุงเทพด้วยเครื่องบินเที่ยวหัวค่ำ เมื่อมาถึงก็พาเธอเข้าพักยังห้องพักในโรงแรมที่เขาพักอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว“เดี๋ยวเราเอาของเก็บแล้วไปหาอะไรกินกันนะจันทร์” ชาวีพูดจากับหญิงสาวอย่างอ่อนโยนเพราะอยากจะทดแทนกับสิ่งที่ทำไม่ดีกับเธอ แต่เขาก็รู้ว่ามันทดแทนยากแต่ตัวเองก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดเพราะกลัวว่าชมจันทร์จะไปจากเขา“ได้ค่ะ” ชมจันทร์ตอบสั้นๆ เธอยังไม่อยากคุยกับชาวีมากไปกว่าการสนทนาถามตอบตามปกติเพราะเธอรู้สึกกลัวเขาและอีกใจหนึ่งก็กลัวว่าเขาจะได้ใจและทำกับเธอแบบนั้นอีกเขาพาหญิงสาวมารับประทานหรูที่อยู่ในโรงแรม ชาวีเอาอกเอาใจ เมื่อเห็นเธอยิ้มและทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยนายหัวหนุ่มก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น“คืนนี้อยากไปเที่ยวกลางคืนไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ อายุไม่ถึง”“ไม่เห็นต้องกลัวเธอมากับฉันนะ”“นายหัวคงไม่มีหุ้นอยู่ที่ผับในกรุงเทพหรอกนะคะ”“มันไม่ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่ฉันก็มีเพื่อนที่ทำร้านแบบนั้นอยู่ เธออยากเข้าไปเที่ยวไหมล่ะ จะได้เห็นว่าเด็กกรุงเทพเขาเที่ยวกันยังไงบ้าง”“ไม่ล่ะค่ะ”“ทำไม”“ถึงจะเห็นว่าเขาเที่ยวยังไงจันทร์ก็ไม่ได้มีโอกาสขึ้นมาอยู่กรุงเทพหรอกค่ะนายหัว”“ไม่คิดอย
“จันทร์ไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว” ชมจันทร์เถียงคอเป็นเอ็นแม้ความจริงมันก็ไม่ต่างอะไรเลยกับคำว่าขายตัว“ไม่ขายก็ไม่ขาย แต่เธอจะทำแบบนี้กับใครไม่ได้อีกแล้ว เธอต้องมีแค่ฉันคนเดียว”“จันทร์ไม่เคยคิดจะทำแบบนี้กับใคร”“แล้วที่เธอเข้าไปในผับนั่นล่ะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ”“หมายถึงผับไหน”“นี่ไงล่ะ” เขาเอาภาพที่หญิงสาวเดินออกจากผับแห่งหนึ่งให้กับชมจันทร์ดู“รูปนี้ใช่มั้ยที่ทำให้นายหัวโมโหเป็นฟืนเป็นไฟและคิดว่าจันทร์ไปขายตัว”“แล้วเธอจะให้ฉันคิดว่ายังไงล่ะ”“ทำไมไม่ถามจันทร์ก่อน”“มันก็เห็นชัดเจนแล้วทำไมจะต้องถามอีก”“จันทร์ก็แค่ไปคุยกับรุ่นพี่ของเพื่อน”“คุยเรื่องอะไร ทำไมจะต้องเข้าไปคุยในนั้น”“จันทร์บอกไม่ได้”“นั่นไง เธอมีพิรุธ”“มันเป็นความลับของผู้หญิง” เพราะสัญญากับพี่ชมพูและเพื่อนไว้แล้วว่าเรื่องที่คุยกันจะไม่บอกใครอย่างเด็ดขาด และชมจันทร์ก็ไม่อยากผิดสัญญา“แต่ถ้าเธอไม่บอกฉันจะทำโทษเธอให้หนักกว่าเมื่อคืนอีกนะ”“แค่นี้มันยังหนักไม่พอเหรอคะ จันทร์ยังเจ็บไม่พอใช่ไหม” ชมจันทร์มองเขาน้ำตาคลอ“ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันทำแบบนั้นเธอก็บอกความจริงมา ฉันลืมบอกเธอไปอีกอย่างว่าอารมณ์ของฉันมันจะคุมไม่อยู่ถ้าหากโ
นายหัวไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่ชมจันทร์พูดเท่าไหร่เพราะน้าพิกุลไม่เคยพูดถึงเรื่องมารดาของชมจันทร์ให้เขาฟังเลย“เธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าที่เธอเข้ามาตีสนิทกับฉันเพราะอะไร”“นายหัวรู้เหรอคะ”“รู้สิ”“ถ้ายังงั้นนายหัวก็ควรปล่อยจันทร์ไปได้แล้ว เพราะจันทร์ไม่ได้ต้องการอะไรจากนายหัวอีกแล้ว มันก็แค่ของนอกกาย”“ฉันว่าเธอรู้มาจากนะพิกุลไม่หมดนะจันทร์”“หมายความว่ายังไงคะ”“น้าพิกุลของเธอน่ะ ขายเธอให้ฉันแล้วนะ”“อะไรนะคะ ขายเหรอคะ”“ใช่น้าเธอขายเธอให้ฉัน”“ไม่จริงน้าพิกุลบอกว่าให้จันทร์เข้ามายั่วยวนนายหัวเพื่อให้นายหัวคืนบ้านกับที่ดินคืนเท่านั้น และไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย”“เธอจะดูหลักฐานไหมล่ะ ฉันเพิ่งโอนเงินให้น้าเธอไป สามแสน”“สามแสนเหรอคะ นายหัวต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย”“ก็ใช้น่ะสิฉันมันบ้า บ้าที่ไปหลงเด็กดื้ออย่างเธอไงล่ะ” เขาพูดแล้วก็เอาสลิปที่บันทึกอยู่ในโทรศัพท์ให้ชมจันทร์ดู“จันทร์ไม่เชื่อหรอกค่ะว่าน้าพิกุลจะทำอย่างนั้น” หญิงสาวมองสลิปโอนเงินที่นายหัวโอนให้กับแม่เลี้ยง เธอไม่อยากจะเชื่อแต่เมื่อเห็นหลักฐานความมั่นใจก็ลดน้อยลง“เธอก็เห็นสลิปแล้วนี่”“มันต้องมีการเข้าใจผิดแน่ๆ น้าพิกุลไม่มีทาง
นายหัวชาวียังคงคาท่อนเอ็นร้อนในช่องคับแน่น ปากร้อนขบเม้มแผ่นหลังขาวของเธอจนขึ้นรอย ฟันขาวครูดไปตามแนวสันหลัง“อื้อ....”ชมจันทร์ทรุดลำตัวลงแนบกับพื้นสะโพกยังคงแอ่นขึ้น เธอหันหน้ามามองอย่างร้องขอ ความเป็นสาวของเธอมันกำลังทรยศ มันเรียกร้องเขาอย่างน่าอาย“นายหัวขา...”“ยังไม่พอใช่ไหม เธอยังอยากให้ฉันเอาเธอต่อใช่ไหม เขาถามอย่างรู้ทัน”เธอกัดริมฝีปากของตนเองแน่น เขาก้มหน้าลงมือใหญ่บีบปลายคางเธอก่อนจะสอดลิ้นร้อนเข้าไปดูดดึงลิ้นเล็ก ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดร่างหนาของนายหัวชาวีเริ่มขยับอีกครั้ง“ฉันจะทำต่อถ้าเธอสัญญากับฉันว่าจะมีฉันเป็นผัวแค่คนเดียว”“จันทร์จะมีนายหัวแค่คนเดียว”“มีฉันเป็นผัวแค่คนเดียวจันทร์”“เขาพูดย้ำอีกครั้ง”“ค่ะนายหัว จันทร์จะมีนายหัวเป็นผัวแค่คนเดียว”หญิงสาวรีบตอบไปตามที่เขาอยากได้ยินเพราะกลัวว่าเขาจะทำรุนแรงและมัดเธอติดกับเตียงอีกครั้ง“ดีมาก จันทร์ของฉัน เอาล่ะตอนนี้ฉันอยากนอนพัก”ชมจันทร์ได้ยินก็ทั้งดีใจและขัดใจ ร่างกายของเธอกำลังร้อนขึ้นเพราะท่อนเอ็นของเขาที่มันยังคาอยู่ในรูสวาทของเธอ“ได้ค่ะ จันทร์จะไม่กวนนายหัวเลย”“ฉันหมายถึงฉันอยากนอนพักแต่ไม่ได้อยากหยุดเอากับเธอ”