- 5 – จัดฉาก
ซินเดียคว้าไปเพียงโทรศัพท์และกุญแจรถ เมื่อจอดรถยังลานหน้าผับชื่อดังเมืองกรุง มองกระจกหลังสำรวจความเรียบร้อย ปัดลูกผมออกจากกรอบหน้า เพียงชั่วเวลาไม่นานนักตั้งแต่เมื่อเย็น เธอสลัดคราบพนักงานออฟฟิศมาดนางพญากลายเป็นสาวท่องราตรี ด้วยชุดที่มักมีติดรถไว้เสมอ
สาวสวยจัดพาร่างระหงลงจากรถ ชุดรัดรึงสีดำตัวสั้นสายเดี่ยวประดับมุก เนื้อผ้าซาตินมันเงา คอเสื้อย้อยเป็นชั้นตรงกลางหน้าอก หากแต่ด้านหลังกลับย้อยต่ำกว่าโชว์แผ่นหลังขาวเนียนไร้สายเสื้อชั้นใน
“เดียร์” น้ำเสียงหวานของเพื่อนรักดังขึ้นพร้อมร่างเล็กโบกไม้โบกมือ
“โบ นี่มากันหมดบริษัทเลยหรือเปล่า”
“จะเหลือรึ มาหมดยกเว้นพวกลุง ๆ ป้า ๆ อายุแก่เกินขอบาย”
“แล้วเห็นเขามาหรือยัง”
“เขา..เขาไหน”
“อย่ามาทำไขสือ ฉันจะหมายถึงใครได้ถ้าไม่ใช่ประธานน่ะสิ”
“ฮ่า ฮ่า ยังไม่มา ไป ๆ เข้าไปหาอะไรดื่มก่อน ย้อมใจไง”
ซินเดียถูกเพื่อนรักฉุดมือเดินเข้าในผับดังซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาว นี่เพิ่งจะสองทุ่มเท่านั้นแต่พนักงานทุกคนดูเหมือนจะเริ่มเมาแล้ว
“ไม่ ๆ โบ นั่งที่บาร์”
“อ้าว ทำไมล่ะ โน้นเจ้าลลิตเต้นอยู่โน้น”
เธอเห็นโบนิตาโบกมือทักทายทำท่าจะเดินเข้าไปจึงรั้งมือไว้
“ฉันว่าจุดยุทธศาสตร์ที่ดีคือที่ ๆ สว่าง ไปนั่งบาร์น้ำ”
“ไอ้บ้า ต้องมุมมืดสิ เวลาเสือออกล่ามันยังสุ่มอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ ขืนแกนั่งที่สว่างโร่แบบนั้น แกโดนจับได้แน่ ไปเร็ว ไปอยู่กับพวกพนักงาน อย่างน้อยท่านประธานของแกก็ได้ไม่กล้าเข้าไปยุ่ง”
ซินเดียอึ้งงันมองหน้าเพื่อนก่อนคลี่ยิ้มกว้าง
“ฉันไม่นึกเลยว่าแกจะฉลาดขนาดนี้”
“นี่ชมหรือหลอกด่า ไป ๆ”
ซินเดียหัวเราะร่า เดินตามเพื่อนเข้าไปในซอกหลืบความมืดมิดท่ามกลางแสงหลากสีสาดส่อง พลางคิดในใจว่าตัวเองจะกังวลไปไย เคยวันไนท์สแตนด์แล้วยังไง ก็แค่นั้น แต่หากจะให้คิดลองทำอีกคงไม่เอาแล้ว ยิ่งเป็นถึงประธานบริษัทตัวเองแล้ว ยิ่งไม่ขอเล่นด้วย เธอยังไม่ต้องการเป็นขี้ปากเพื่อนร่วมงานในบริษัท
รถหรูสีดำโหลดเตี้ยแรงม้าสูงขับผ่านย่านธุรกิจและแหล่งบันเทิงของพนักงานออฟฟิศ
“ไม่เล่นใหญ่ไปหน่อยหรือเจ้านาย ปิดผับ แค่จะรื้อฟื้นความหลังแสนหวาน” เสียงอลันเอ่ยเย้าหลังพวงมาลัยทำหน้าที่คนขับรถให้บอสหนุ่ม
อีธานแค่นเสียงฮึ แล้วขยับตัวถอดเสื้อสูทออกโยนไปด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจแล้วพับแขนเสื้อขึ้นจนเกือบถึงข้อศอก ปลดเนคไทและกระดุมออกถึงกลางอก อลันเหลือบสายตามองแล้วส่ายหน้า
“จุ๊ ๆ ๆ นี่นาย กะจะอ่อย...”
“อ่อยอะไร เข้าผับจะมาสวมสูทเต็มยศอย่างนายเนี่ยนะ”
อีธานชายตามองเพื่อนยังอยู่ในชุดทำงาน เสื้อสูทสีเข้มและเนคไทอันโต
“อลัน นี่ถ้าไม่รู้จักกันดี ใคร ๆ คงคิดว่านายเป็นคนเรียบร้อย”
“ทำไม”
“ก็ดูนายสิ สวมแว่นสายตา และยังสวมสูทตลอดเวลาแม้กระทั่งมาเที่ยวผับ”
“อ้าว ก็คนทำงาน ไม่เหมือนนายนี่หว่า คืนนี้แม่สาวนั่นคงไม่รอดมือ”
“ไม่แน่ ประมาทไม่ได้”
“ประมาทไม่ได้ อืม..แต่มาเสียดึก นี่เกือบสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว กว่าจะถึงเข้าไปในผับคงปาไปเกือบสี่ทุ่มครึ่ง”
“เวลาออกรบ มันต้องให้ข้าศึกตายใจ ดื่มเข้าไปหลายแก้วหน่อย”
อลันเลิกคิ้วเอี้ยวหน้าไปมองแวบหนึ่งแต่ถึงกับขนลุกเกรียว ยามเสือร้ายออกล่าคงมีหน้าตาประมาณนี้ ดวงตาเหยี่ยวของอีธานหรี่ประเมินและเจิดจ้ามุ่งมั่น ท่าทางมั่นใจในเสน่ห์ตนเองและคาดว่าคงโปรยมันออกมาเต็มที่ คิดถึงเหยื่อร่างระหงคนนั้นแล้วอลันหวั่นใจแทน
“ไม่ต้องให้สาวเมา นายก็เอาอยู่ อีธาน แล้วนี่โทรกลับไปหานายแม่หรือยัง”
“ยัง” อีธานตอบด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระ
“เฮอะ! ให้ฉันรับหน้าอีกตามเคย” อลันพ่นลมออกมาแล้วตวัดรถหรูเข้าลานจอดรถ
“จะมีเรื่องอะไรให้แม่อย่างฉันมาวุ่นวายได้ นอกจากเรื่องแต่งงาน”
ปัง!
อีธานและอลันพาร่างสูงใหญ่ลงจากรถมองทางเข้าผับ เสียงเพลงอึกทึกดังลอดแม้ยังไม่ทันได้เข้าไปในตัวโรงแรม
“ฉันเพิ่งจะสามสิบสอง ก็เร่งรัดให้ไปดูตัว น่าเบื่อ”
“นายก็ตามใจท่านสักหน่อยเป็นไรไป ยังไงท่านก็มีพระคุณกับนายมาก”
“เพราะอย่างนั้นน่ะสิ ฉันถึงได้ยอมตกลงไปแล้ว”
“อ้าว”
“เฮ้อ! เดี่ยวก็รู้ ไปเถอะ ค่ำนี้ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องวันสละโสด เหยื่อของฉันรออยู่ นายไปเปิดห้อง”
อลันชะงักเท้ามองตามร่างสูงของเพื่อนกำลังมุ่งหน้าตรงไปทางเข้าผับ ดูท่าเสือตัวนี้จะเป็นเสือโหยใช่ย่อย ว่าแต่..เหยื่อตัวน้อยจะรู้ตัวหรือยัง
แสงสีระบบเลเซอร์ของผับทันสมัยเรียกเสียงกรี๊ดของเหล่าพนักงานบริษัท ซินเดียผ่อนคลายลงเมื่อเวลาผ่านไปจนสี่ทุ่มแต่ยังไร้วี่แววของชายร่างโต ยิ่งดื่มเข้าไปหลายแก้วฤทธิ์แอลกอฮอล์ไหลวนส่งให้เธอลดเกราะป้องกันตัวลง
“คุณเดียร์คะ ชนค่ะ”
เธอมองเลขานุการตัวเล็ก ลลิตกำลังยกแก้วขึ้นข้ามโต๊ะทรงกลมสูงที่มักใช้ในผับชนเข้ากับแก้วของเธอ ดวงหน้าอย่างไทยแท้ ผิวไม่ขาวมากนักแดงซ่าน
“ลลิตดูท่าจะเมาแล้วโบ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันพากลับเอง อีกอย่างพรุ่งนี้วันหยุด”
เธอยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมดไม่ทันาาง มือของลลิตคว้าไปชงเพิ่มทันที
“พอแล้วลลิต โบ แกพาลลิตไปล้างหน้าดีกว่า”
“เออ ได้ ไปลลิต”
ซินเดียมองลลิตที่ถูกโบนิตากึ่งลากออกไปด้วยความเป็นห่วง ถ้ากลับไม่ได้คืนนี้คงได้เปิดห้องไปก่อน
“คุณเดียร์”
เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นซอกหูก่อนที่จะมีแก้วเหล้าชนเข้ากับแก้วของเธอบนโต๊ะ
“คุณภีม”
“เป็นไงบ้างครับ วันนั้นเป็นลม ผมตกใจแย่เลย”
เธอชำเลืองมองร่างสูงของภีม เขายังสวมชุดทำงานเพียงแต่ไม่มีเสื้อสูท ตาตี๋ สูงแต่ไม่ใหญ่เท่าอีธาน โดยรวมแล้วดูดีเลยทีเดียว
“หายดีแล้วค่ะ แล้วนี่แผนกคุณภีมอยู่ตรงไหนกันคะ”
“อยู่ตรงกลางเลยครับ สาว ๆ ชอบใจกันใหญ่ได้ดูนักดนตรีใกล้ ๆ”
ซินเดียชะเง้อมองจนพบกลุ่มสาว ๆ ของแผนกบัญชี กำลังคึกคักทั้งเต้นทั้งร้อง
“น่าสนุกจัง”
“ไปสิครับ ไปเต้นกัน”
“แต่ว่าโบกับลลิตไปล้างหน้า เดี๋ยวรอโบกลับมาก่อนค่ะ”
“งั้นผมไปรอที่โต๊ะนะครับ”
ภีมแกว่งแก้วเหล้าชนแก้วเธออีกครั้ง เร่งให้เธอยกดื่มแล้วพาร่างสูงเดินลัดคนในผับกลับไปยังโต๊ะ ซินเดียมองแก้วเหล้าในมือแล้วยิ้ม หางตาเห็นโบนิตาพาลลิตเดินกลับมาแล้วจึงค่อยลงจากเก้าอี้ ถือแก้วเหล้าติดมือไปด้วยขณะเดินตามภีม หนุ่มหล่อแผนกบัญชี
เธอไม่ได้ปล่อยตัวสนุกเต็มที่มานานแล้วนับจากเรียนจบ หรือพูดให้ถูกนับจากวันที่หิ้วอีธานขึ้นโรงแรม ความทรงจำมันแสนวิเศษมากเกินไปจนเธอไม่อาจมองหาเรื่องทำนองนี้จากผู้ชายคนอื่นได้อีก
ร่างระหงเดินลัดอย่างมั่นใจในรองเท้าส้นสูงสีแดงเพลิงตัดกับผิวขาวนวลใส ส่งรอยยิ้มไปก่อนล่วงหน้าให้ชายหนุ่มที่มองเธอด้วยความวาดหวัง
แต่ไม่หรอก เธอไม่นอนกับคนในบริษัท นั่นคือกฎเหล็ก และอันที่จริงเธอยังไม่เคยนอนกับใครอีกเลยต่างหากยกเว้นเขา
ทว่านับจากวันนี้ไป เธอตั้งใจเต็มที่ที่จะใช้ชีวิต ใช้ร่างกายอันสวยสดนี้ไปกับความเพลิดเพลินบนเตียง ได้แต่หวังว่าผู้ชายคนอื่นจะมีความสามารถเพียงพอ ทำให้เธอลืมค่ำคืนอันแสนพิเศษนั้นเสีย โดยเร็วที่สุด
อีธานยืนนิ่งอยู่บนชานทางเดินตรงขั้นบันได ทางเดินลงไปชั้นโถงกลางที่เหยื่อของเขากำลังส่งยิ้มให้กับผู้ชายคนอื่น
นัยน์ตาสีนิลเข้มจัดกวาดไล้มองร่างระหงในชุดล่อแหลม ผ้าซาตินเนื้อลื่นสีดำด้านหลังเผยแผ่นหลังนวลเนียน ผมดำยาวสยายดัดลอนใหญ่เลยบ่าเกือบถึงกลางหลัง ดวงหน้าคมเฉี่ยวอย่างที่เขาจำได้ ไม่มีวันลืม
มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อยยามออกก้าวเดินตรงไปยังกลุ่มคน แว่วเสียงพนักงานเอ่ยสวัสดีเป็นระยะ หลายมือยื่นแก้วเหล้ามาตรงหน้าแต่เขาเพียงปัดออกเบา ๆ ส่งยิ้ม ไร้คำพูด ดวงตายังจ้องไปทางร่างงดงาม เหยื่อของเขา
สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคงเป็นช่วงจังหวะขณะที่เขากำลังก้าวเข้าไปใกล้ทุกที อีกไม่กี่โต๊ะจะถึงตัวเธอ พลันร่างระหงหันกลับมามอง อาจเพราะมีเสียงหรือมีคนสะกิด เขาไม่แน่ใจนัก
ฝีเท้าของเขาเกือบสะดุดยามดวงตาคมรีคู่นั้นจ้องสบตา ความทรงจำขณะที่เขากำลังชะโงกกายอยู่ด้านบน จ้องมองลึกเข้าไปยามผ่านปราการเปราะบางนั้น ดวงตาของเธอค่ำวันนั้นคล้ายกับค่ำนี้
-25-nc จบบริบูรณ์อีธานกดศีรษะคนร่างเล็กลงจมฟูกแทนแล้วคว้าโทรศัพท์มาจากมือเล็กปัดรับสาย“ครับแม่ อีธานครับ เดียร์อยู่กับผมครับ ครับแม่ คงราวสามวันถึงจะได้กลับบ้านนะครับ ครับผมรับปากจะดูแลอย่างดีเลยครับแม่ สวัสดีครับ” พูดทั้ง ๆ ที่หอบหายใจหนักหน่วงซินเดียตาเบิกกว้างอยู่กับที่ ตัวดิ้นหนีแต่ได้แค่อึกอักดั่งปลาถูกกด เพราะมือแกร่งจับแน่นบนศีรษะ ท่อนล่างเสียบเสย หางตามองเห็นโทรศัพท์ถูกโยนตกมาตรงหน้า เขาวางสายแม่จันทร์นิลไปแล้ว“อีธาน คุณจะบ้าหรือไง นั่นคุณบอกอะไรแม่!”“อ่า แคบ หืมม์ แค่บอกเดียร์อยู่กับผมไง”“แต่ อ่า หยุดนะ อ่า อย่าเพิ่งกระแทกสิ อีธาน...”เสียงหวานขาดหายทันควันยามลำแกร่งเนื้ออุ่นสอดใส่เต็มลำรักกดแน่นคลึงเน้นก่อนกระทั้นถี่แรงขึ้น เขายืนบนพื้นให้หัวเข่าทาบขอบเตียงเป็นหลักขณะเสือกกายนำท่อนมังกรยักษ์สอดใส่ไม่ผ่อนปรนตับ ตับ ตับร่างระหงสั่นสะเทือนตามแรงตอกใส่ อีธานกระหนำลงร่องรักด้วยเรี่ยวแรงชายเต็มเปี่ยมไฟพิศวาสท่วมท้นทรวงอกอัดแน่นด้วยอารมณ์บางอย่างที่พัดพากระพือภายในมาหลายวัน เขากำเส้นผมดกหนาไว้ในมือกดแน่นเพื่อส่งแรงให้ร่างเล็กใต้ตัวสั่นไหวไปพร้อมกับเขา ใกล้แตะจุดสุดยอดแล้วช
- 24 ncอีธานรัดคนร่างเล็กกว่าไว้แน่นขณะจับเอวคอดให้เคลื่อนไหวดั่งใจต้องการ อีกมือรั้งชุดเดรสลงอีกกองบั้นเอวก่อนบีบเคล้นคลึงเนินนมกระเพื่อมไหวตรงหน้า ปากล้วงลึกเสาะหาความหวานล้ำอย่างที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน หรือเป็นเพราะใจของเขาเองต่างหากที่กำลังพองโตลำแกร่งทะลวงขึ้นแทรกกลีบอ่อนนุ่มบอบบาง ต้องการส่งให้สาวด้านบนถึงฝั่งฝันอย่างรุนแรงและรวดเร็ว“เดียร์ อ่า คนดี อ่า แคบ รัด ซี้ดด”เขาผละปากออกส่งเสียงครางแล้วเลื่อนลงหายอดหัวชูชันเต่งตึง ดูดกลืนและขบกัด วนหาเต้างามอีกข้างทำเช่นเดียวกันแล้วค่อยปาดเลีย คลุกหน้าลงกลางทรวงอกเบี่ยงปากครอบเนื้ออ่อนนุ่มดูดดึงเขารู้ว่าทำเช่นนี้จะทำให้เนินทรวงเป็นรอยช้ำเขียว แต่มันช่างให้ความรู้สึกที่ดียามมองเนื้อนวลขาวตรงหน้าขึ้นสีจากฝีมือตัวเอง อีกมือบีบขยำเสียวร้าวทั่วหน้าท้อง - - และยังไม่ทันได้ถอดกางเกง“ใกล้หรือยังเดียร์ อ่า ใกล้เสร็จหรือยัง”อีธานละมือออกจากทรวงงามเลื่อนลงหน้าท้องบีบคลึงก่อนหงายมือลงซอกหลืบเปียกฉ่ำหวาน“อีธาน อ่า”ร่างระหงคุกเข่าขยับถี่เคลื่อนขึ้นลงรูดท่อนเนื้ออุ่นร้อนเร่งเร้าดั่งเช่นคนใต้ร่าง มือแกร่งกุมเนื้อสวาทนิ่มอูมลงแรงบีบก่อนเลื่อนนิ
-23-ncอีธานล้วงนิ้วเข้าถุงน่องคลึงเนื้อนิ่มโคนต้นขาใกล้จุดลี้ลับก่อนดีดเพียะ!!คราวนี้เป็นซินเดียที่สะดุ้งสุดตัวยามถุงน่องดีดลงเนื้อโคนขา“ดึงเสื้อลง แล้วผมจะปราณีอย่างที่สุด”ซินเดียพวงแก้มแดงซ่านสะท้านไปทั่วร่างยามสันจมูกจดลงหัวเข่าแล้วเลื่อนไต่ขึ้นจากนั้นจึงหยุดเงยหน้าขึ้น“ไม่กล้า?”ริมฝีปากกระจับสาดสีแดงเต็มอิ่มเม้มคว่ำทันที เอื้อมมือขึ้นตั้งใจดึงลงพลันมือแกร่งรั้งข้อมือเธอไว้เสียก่อน“ช้า ๆ เดียร์ ค่อย ๆ เปิด” ว่าพลางยืดกายกลับไปที่เดิมนั่งเอนกายเท้าแขนลงฟูก มองภาพงดงามตรงหน้าด้วยสีหน้าคนเหนือกว่าพร้อมรอยยิ้มมุมปาก“อ่า เอาลงอีก” น้ำเสียงกระเส่าอีธานใจเต้นแรงจับจ้องเนินเนื้อนมขาวผ่องกำลังถูกเปิดเปลือยออกทีละน้อย นิ้วเรียวทาสีแดงเช่นกันเกี่ยวขอบชุดเกาะอกไว้ขยับกระทั่งเต้าซ้ายหลุดออกผัวะ! เฮือก!“ชอบแบบนี้เหรออีธาน”“ใช่ ชอบมาก อ่า ลองลูบนมตัวเอง ไม่ ไม่ ทำแบบวันนั้น บีบหัว ขยี้น้อย ๆ”ซินเดียปากสั่นยามเลื่อนนิ้วลงหัวนมสีชมพู ส่งนิ้วชี้และหัวแม่มือบี้ปลายเล็กน้อยคลึงวน“อา เดียร์ ผมแย่แน่ ๆ”เธอยกแชมเปญกระดกอมไว้ในปากแล้วปล่อยให้มันไหลลงผ่านลำคอ ลากนิ้วพาน้ำรสแรงลงเข้าหาปลายยอ
- 22 - ncแอ๊ด...คลิก...อีธานเดินนำเข้าห้องชุดที่เขามาเปิดไว้ก่อนเข้าไปในผับเมื่อหัวค่ำ ตรงไปยังโซฟาหยิบขวดแชมเปญแช่น้ำไว้แล้วอย่างดีขึ้นมาเปิดป๊อก!!มือรินแชมเปญราคาแพงลงแก้วสองใบ ตาลอบสังเกตคนร่างเล็กกว่า จากนั้นจึงเดินไปยังหน้าต่าง รูดม่านออกพลางจิบน้ำสีเหลืองรสแรงไปด้วย ก่อนหันกลับมามองซินเดียตรง ๆ ที่ดูเหมือนยังยืนสับสนอยู่กลางห้อง“ส่วนตัวแล้วเดียร์” อีธานยกแก้วขึ้น อีกมือผายออกดวงตาคมกล้ายังจดจ้องมองร่างระหงกำลังขยับเดินเข้ามาใกล้แล้วก้มลงหยิบแก้วแชมเปญยกดื่มรวดเดียวหมดก่อนรินอีกแก้วยกดื่ม“ระวังจะเมาแล้วพลาดของดีนะ”“คะ แค่ก ๆ ๆ”ด้วยความรีบร้อนยกดื่มทำให้ซินเดียสำลักเล็กน้อย เธอวางแก้วลงแล้วเดินเข้าไปหาร่างสูงใหญ่กระทั่งห่างกันราวสามก้าว - - นี่เธอไม่ได้นับทุกครั้งหรอก แต่บังเอิญว่าสังเกตเห็นอีธานยกแก้วขึ้นจิบเอียงร่างพิงกระจก กวาดสายตาขึ้นลงเชื่องช้ามองร่างตรงหน้าใกล้หมดความอดทนเต็มทน โดยเฉพาะเจ้าตาข่ายสีแดงสานตลอดทั้งท่อนขางาม ทำเอาเขาอยากจะรู้ว่าส่วนบนมันไปสิ้นสุดที่ตรงไหน“ฉันพูดไม่ค่อยเก่งเท่าไร”“พูดไม่ค่อยเก่ง..อ่า นั่นคงไม่จริง เมื่อครู่ตอนอยู่ในผับปากคุณค่อนข้าง
-21- ต่างระเบิดอารมณ์เขาดันร่างเธอไปด้านหลังใช้ร่างตัวเองบังไว้ พลางยืดกายตัวเองข่มคู่ต่อสู้ที่ร่างเล็กกว่า แต่ดูเหมือนว่าไอ้หมอนี่เองก็ไม่ยอม ทำท่าลุกขึ้นยืนแล้วจึงผงะถอยฉากเนื่องจากสูงเลยหัวไหล่อีธานมาเล็กน้อยเท่านั้นอีธานไม่พูดมากอะไรอีก หลุบตาลงมองผู้ชายร่างเตี้ยกว่าเย็นชาพิฆาตแล้วดึงข้อมือซินเดียออกเดินไปยังโต๊ะ“อีธานคะ เกิดอะไรขึ้น”เสียงหวานอ่อนนุ่มของนางแบบสาวทำให้ซินเดียชำเลืองมอง พลันโดนอีธานดันผลักออกให้ไปยืนข้างโบนิตา“ไม่มีอะไรหรอกลิซ สนุกต่อเถอะ คุณเฉินด้วยครับ ขอโทษด้วย”“แล้วนี่ใครกันครับ คุณอีธานไม่เห็นแนะนำให้รู้จัก”คิ้วเข้มกระตุกเบาแล้วค่อยเบือนหน้ากลับไปมองตัวต้นเหตุ ตัวปัญหาใหญ่ที่มาพร้อมชุดยั่วใจ เอ่ยขึ้นเสียงราบเรียบ“แค่..พนักงานในบริษัท” เสียงเย็นชา“ฉันชื่อซินเดียค่ะ เรียกเดียร์ก็ได้ค่ะ รองผู้อำนวยการฝ่ายขาย”“ยินดีอย่างยิ่งครับ มาครับ ชนแก้ว”ซินเดียมองหาแก้วของตัวเองแต่ไม่มีเลยแย่งเอาแก้วจากมือเพื่อนรักโบนิตามาก่อน ยื่นไปตรงหน้าแกร้ง!!“ค่ะ ชนค่ะ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันค่ะ”อีธานคิ้วกระตุกอีกครั้ง ดูมาดสาวสังคมจัดชุดยั่วยวนยิ้มหัวร่อต่อกระชิกกับผู้ร่วมทุ
-20- ไม่รู้จะง้อยังไงแล้ว“อีธาน”ซินเดียเอ่ยเรียกทันทีขณะที่ประธานบริษัทหนุ่มกำลังเดินผ่านร่างเธอไป แต่ดูท่าท่านประธานจะยังงอนเพราะทำเพียงตวัดหางตาใส่จากนั้นเชิดหน้ากลับเดินออกห่าง - - ทำเป็นผู้หญิงไปได้ร่างระหงรีบโผออกจากมุมเสาออกเดินแกมวิ่งตามร่างสูงใหญ่ตรงหน้าแล้ววิ่งไปขวางทางยกมือกางออกทั้งสอง แหงนศีรษะขึ้นจ้องตา“ฉัน ฉันขอโทษ”เธอยื่นกล่องช็อกโกแลตขนาดเล็กให้แต่อีธานไม่รับ ยังคงหลุบตาก้มมองก่อนออกเดินเบี่ยงไปด้านซ้าย แต่ซินเดียก้าวเท้าขวางหน้าอีกครั้ง“อีธาน ฉันขอโทษที่พูดไม่ดี”คิ้วเข้มเริ่มขมวดแล้วก้าวไปด้านขวาพลันซินเดียก้าวขวางไว้อีกเช่นเดิม“ฉันพูดจากใจจริงนะ อีธาน คุณจะยกโทษให้ฉันได้ไหม”คราวนี้เขาก้มลงมองส่งสายตาเย็นชาให้แล้วจึงค่อยเปล่งเสียงทุ้มต่ำ“คุณไม่กลัวคนในบริษัทนินทาแล้วหรือเดียร์”“ไม่ ฉันไม่กลัวแล้ว อีธาน คุณหายโกรธฉันแล้วใช่ไหม”“ฮึ ผมจะไปมีสิทธิ์โกรธอะไรคุณกันเดียร์ ผมมันแค่ผู้ชายที่คุณเคยวันไนท์ด้วยเท่านั้น อ๋อ อาจจะพิเศษหน่อยตรงที่ได้เปิดซิง”พวงแก้มทั้งสองข้างของซินเดียแดงซ่านระเรื่อลามถึงลำคอรีบหันมองซ้ายขวาก่อนผ่อนลมหายใจเมื่อไม่เห็นใคร“เห็นไหม คุณยังก