หลังเลิกงานปฐพีก็แวะทานอาหารเย็นที่ร้านประจำก่อนถึงคอนโด พอกลับถึงห้องก็อาบน้ำ จากนั้นก็นั่งดูรูปที่คุณอานนท์พ่อค้าเพชรส่งมาให้ ซึ่งรูปที่ส่งมานั้นมีทั้งเพชร พลอยและทับทิม เขาดูแล้วก็ค่อนข้างพอใจและคิดว่าจะปรึกษากับเอลินอร์เพราะอยากฟังความคิดเห็นของเธอว่าจะออกแบบเครื่องประดับอะไรบ้าง
ปฐพีนั่งดูรูปไปได้สักพักใหญ่ก็เปลี่ยนมาดูทีวีซึ่งเขาเปิดช่องแฟชั่นของต่างประเทศ เพราะอยากจะดูว่าตอนนี้เทรนด์การแต่งตัวนั้นไปถึงไหนแล้ว เพื่อจะได้ผลิตเครื่องประดับให้ออกมาได้ตรงกับเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยม และสินค้าพวกนี้บริษัทก็จะเสนอขายให้กับลูกค้าซึ่งจะได้กำไรมากกว่าการผลิตตามแบบที่ลูกค้าสั่งเข้ามา
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงปฐพีก็เริ่มง่วง แต่ยังไม่ทันจะได้เข้านอนเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาก่อน
เมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้าเป็นคุณแอนเดรียชายหนุ่มก็รีบกดรับทันที
“สวัสดีครับคุณป้า คุณลุงเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ปฐพีรีบถามอย่างร้อนใจเพราะมีหลายครั้งที่คุณเอกภพเจ็บหน้าอกกลางดึก แล้วเขาต้องรีบพาไปโรงพยาบาล เพราะท่านไม่ยอมให้รถพยาบาลเข้ามาที่บ้าน เนื่องจากกลัวว่าคนอื่นจะรู้ถึงสุขภาพที่ย่ำแย่ของตนเอง
“เปล่าหรอกดิน คือป้าอยากให้ดินช่วยไปประกันตัวยัยแอลที่โรงพักให้ป้าหน่อย”
“อะไรนะครับ”
“คืออย่างนี้นะ ยัยแอลออกไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วมีเรื่องทะเลาะตบตีกันนิดหน่อย ตอนนี้ถูกตำรวจจับไปที่โรงพัก ป้าอยากดินไปประกันตัวให้หน่อย เรื่องนี้อย่าให้คุณลุงรู้นะ ป้ากลัวท่านจะตกใจแล้วอาการจะกำเริบขึ้นมา”
“ได้ครับ โรงพักไหนครับป้าเดี๋ยวผมจะรีบไป”
พอคุณแอนเดรียบอกชื่อโรงพักแล้วเธอก็วางสายส่วนชายหนุ่มก็รีบเปลี่ยนชุดแล้วตรงไปยังโรงพักทันที
เขาไปถึงโรงพักในเวลาเกือบจะตีหนึ่ง ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อย
“ใส่นี่คลุมไว้ก่อน” เขาพูดขณะที่ถอดเสื้อตัวนอกของตนเองส่งให้หญิงสาวเพราะชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้มันแทบจะปิดอะไรไม่มิดเลย เขารู้ว่าใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศและการแต่งตัวแบบนี้ก็ดูจะธรรมดาสำหรับที่นั่นแต่มันใช้กับที่นี่ไม่ได้
“ทำไม หรือกลัวว่าฉันเซ็กซี่เกินไป” เธอพูดแต่ก็รีบรับมาสวมเพราะบนโรงพักยังมีผู้ต้องหาคนอื่นอีกหลายคนและพวกนั้นก็จ้องเธอตาไม่กะพริบตั้งแต่เดินขึ้นมาเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน
“คุณหนูจะกลับบ้านเลยไหมหรือจะไปเที่ยวต่อ”
“อย่ามากวนประสาทฉันนะ ใครจะมีอารมณ์เที่ยวต่อกัน อย่าให้เจออีกทีนะ ครั้งนี้จะเอาให้หนักเลยคอยดู”
“ยังไม่เข็ดอีกเหรอ”
“ก็มันน่าเจ็บใจไหม เต้นอยู่ดี เดินมาหาเรื่องกันได้”
“เขาหาเรื่องคุณก็แค่เดินหนี จะไปสู้กับเขาทำไมล่ะ”
“เดินหนีให้โง่ละสิ คนอย่างฉันไม่เคยยอมใคร ตบมาก็ตบกลับ”
“แล้วยังไง สุดท้ายก็ต้องมาขึ้นโรงพัก ผมไม่อยากจะคิดเลยถ้าพ่อคุณหนูรู้ท่านจะโกรธแค่ไหน”
“พ่อฉันจะไม่รู้ถ้านายไม่เอาไปฟ้อง”
“ผมไม่ใช่คนขี้ฟ้อง”
“งั้นก็ดี แต่ถ้าเรื่องนี้พ่อรู้เมื่อไหร่ นายตายแน่”
“นี่นะเหรอคำพูดที่ผมได้จากคนที่ผมช่วย”
“ก็ใครใช้ให้นายมาช่วย ฉันไม่ได้โทรตามนายสักหน่อย”
“ใจคอคุณจะให้แม่คุณขับรถมาประกันตัวกลางดึกอย่างนี้นะเหรอ คุณอายุเท่าไหร่แล้ว เอาอะไรคิด”
“นี่ ไม่ว่าฉันสักวันจะตายหรือไง ฉันโทรหาพี่ชายฉันแล้วย่ะ”
“อลันคงมาช่วยได้หรอกนะ เขาอยู่เชียงใหม่นู่น”
“ก็ใช่ไง เขาอยู่เชียงใหม่ ถ้าเขาอยู่เขาก็มาประกันตัวฉัน”
“ถ้างั้นคุณกลับไปนอนรอเขาในนั้นไหมล่ะ รอให้อลันกลับมาจากเชียงใหม่ เอาไหม ผมจะบอกร้อยเวรให้”
“จะบ้าเหรอนายดิน ใครจะไปนอนในนั้นกัน”
“หึหึ” ปฐพีหัวเราะแล้วรีบเดินเข้ารถตนเองขณะที่คุณหนูเอลินอร์ก็รีบเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านใน
“จะขึ้นมาทำไม”
“ไปส่งฉันที่บ้านหน่อยสิ”
“เพื่อนคุณล่ะ ไปไหนหมดผมว่าจะถามตั้งแต่เมื่อกี้ละ”
“พวกนั้นพ่อแม่มาประกันตัวกลับไปแล้ว”
“เพื่อนคุณหนูนี่น่ารักนะครับ พอตัวเองได้กลับบ้านก็ไม่สนใจเพื่อนเลย ถ้าหากว่าคืนนี้ผมไม่มาประกันตัวคุณคงได้นอนอยู่ในนั้นคนเดียวถึงเช้าแน่”
เอลินอร์นั่งนิ่งเพราะตัวเองก็รู้สึกน้อยใจเพื่อนอยู่เหมือนกัน เที่ยวด้วยกันดื่มด้วยกัน แต่พอเกิดเรื่องกลับเอาตัวรอดไปอย่างนั้น พวกนั้นไม่หันมามองหรือถามเธอด้วยซ้ำว่าจะมีคนมาประกันตัวไหม ผิดกับปฐพีที่เธอไม่เคยพูดดีหรือทำดีด้วย แต่เขากลับมาประกันตัวเธอกลางดึกแบบนี้ ถึงเขาจะทำเพราะเป็นคำสั่งของมารดาเธอก็ยังถือว่ามีน้ำใจในระดับหนึ่ง
“ขอบใจ” หญิงสาวพูดออกไปแล้วก็นั่งมองไปนอกรถเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น
“เหมือนผมได้ยินเสียงแมงอะไรในรถนะ คุณได้ยินไหม”
“ฉันบอกว่าขอบใจ” เธอพูดช้าๆ ชัดๆ อีกครั้ง
“ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดนะครับคุณหนู แต่ถ้าจะพูดก็ควรจะใช้คำว่าขอบคุณเพราะผมน่ะอายุมากกว่าคุณเยอะเลย”
“ได้คืบจะเอาศอก”
“ไปอยู่เมืองนอกมานานรู้จักสำนวนไทยด้วยเหรอ เก่งดีเหมือนกันนะครับคุณหนูเอลินอร์”
“ไม่ต้องมาประชด”
“ไหนลองพูดสิว่าขอบคุณค่ะพี่ดิน”
“นั้นไง นานนี่ชักจะเอาใหญ่”
“จะพูดไหมล่ะครับ”
“ขอบคุณ”
“แค่นี้เองเหรอ”
“มากสุดได้แค่นี้” พูดจบก็สะบัดหน้าหนี
“ก็โอเค ถือว่ายังมีมารยาทอยู่บ้าง เอาละใกล้จะถึงบ้านแล้วถ้าพ่อคุณถามคุณจะบอกว่ายังไง”
“พ่อคงเข้านอนไปแล้วมั้ง” เพราะทุกครั้งที่เธอไปเที่ยวกลับมาบิดาก็มักจะเข้านอนไปแล้ว แล้วเพื่อนของเธอก็จอดรถส่งแค่ที่หน้ารั้วเท่านั้น
“ท่านอาจจะตื่นเพราะได้ยืนเสียงรถก็ได้นะครับ”
“ฉันจะบอกว่าออกไปเที่ยวแล้วเจอนานก็เลยให้นายมาส่ง นายก็พูดให้ตรงกันด้วยล่ะ”
“ผมไม่ชอบโกหกด้วยสิ”
“นี่นายดิน”
“ผมไม่บอกท่านก็ได้ว่าไปรับคุณมาจากที่ไหน แต่มีข้อแม้ว่าวันมะรืนคุณจะต้องเขาไปเริ่มงานกับผมที่บริษัท”
“แค่นี้เองใช่ไหมข้อแลกเปลี่ยนของนาย”
“ครับแค่นี้เอง คุณหนูทำได้ไหม”
“งั้นก็ดีล”
ปฐพีจอดให้หญิงสาวลงจากนั้นตนเองก็รีบขับออกอย่างรวดเร็วเพราะถ้าคุณเอกภพมาเจอตอนนี้เขาก็รู้ว่าตัวเองจะโกหกได้แนบเนียนแค่ไหน
คงเพราะรีบมากไปหน่อยเพราะพอกลับมาถึงคอนโดเขาถึงเห็นว่ากระเป๋าถือของเอลินอร์จึงยังวางอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ
“สงสัยต้องเอาไปคืนพรุ่งนี้เข้า” ปฐพีบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะถือมันติดมือขึ้นไปบนห้อง
ยังไม่ทันได้นอนเสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าก็ดังขึ้น ปฐพีไม่ได้กดรับเพราะไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว พอทิ้งไว้สักพักโทรศัพท์ก็เงียบลง
ยังไม่ทันจะเก็บเข้ากระเป๋าก็มีสายจากอีกคนโทรเข้ามา ปฐพีได้แต่ถอนหายใจแล้วกดปิดเครื่องเพราะถ้ายังเปิดเครื่องไว้คืนนี้เข้าคงไม่ได้นอนแน่ๆ
ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าอย่างเดิม ในจังหวะที่กำลังจะปิดกระเป๋าก็เห็นซองอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน เพราะไม่แน่ใจว่าใช่อย่างที่ตนเองคิดหรือเปล่าเขาจึงใช้กระดาษทิชชูรองมือก่อนที่จะจับซองซึ่งด้านในเป็นเกล็ดคล้ายสารส้มขนาดเล็กออกมาซึ่งมีทั้งหมดถึงสามซอง
เขาจะเก็บซองพวกนี้ไว้ก่อนเพราะอยากเห็นปฏิกิริยาของคุณหนูเอลินอร์ว่าจะเป็นยังไงถ้าเธอรู้ว่าของพวกนั้นไม่อยู่ในกระเป๋าแล้ว
เมื่อได้รับคำตอบจากภรรยาแล้วปฐพีก็เริ่มปฏิบัติการปั๊มทายาททันที ปฐพีอุ้มเจ้าสาวไปยังห้องนอน เขาวางเธอลงที่ปลายเตียงแล้วรั้งให้เธอเข้ามาแนบชิด จุมพิตไปบนริมฝีปากนุ่มสวย บดขยี้อย่างโหยหาเพียงแค่สัมผัสร่างกายก็ตื่นตัว ชายหนุ่มจับมือเล็กของภรรยาสาวไปสัมผัสกับส่วนแข็งขืนเพื่อให้เธอรับรู้ ว่าตอนนี้เขาต้องการเธอมากแค่ไหน “พี่ดินทำไมมันโตเร็วละคะ” “ก็พี่คิดถึงและต้องการหนูแอลไงครับ ไม่เจอกันหนึ่งเดือน แล้วพอเจอกันก็ได้แค่เดินจับมือ มันทรมานมากนะครับ รู้ไหมพี่ต้องการแอลมาก”เสียงของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าตัวเองนั้นต้องการเธอมากแค่ไหน ชายหนุ่มประคองใบหน้าคนรักแล้วประกบปากจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อนและเรียกร้องเอลินอร์เผยอปากรับลิ้นอุ่นเข้าให้เข้ามาตวัดไล้น้ำหวาน พร้อมส่งเสียงครางอย่างรัญจวน เมื่อฝ่ามือใหญ่ละจากใบหน้าลงมาทรวงอกอิ่มบีบคลึงเต้างามอย่างหนักมือ ปฐพีผละจูบออกเมื่อเธอเริมครางประท้วงเพราะกำลังจะขาดอากาศ สองตาสบประสานส่งผ่านความรู้สึกและความต้องการที่ต่างฝ่ายต่างต่างมีให้แก่กันอย่างท่วมท้นชุดนอนไม่ได้นอนและบราตัวจิ๋วที่พี่สะใภ้มอบให้ค่อยๆ
งานแต่งงานระหว่างปฐพีและเอลินอร์ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ความสวยงามของโบสถ์กับการออกแบบงานแต่งงานเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ซึ่งปฐพีเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ปฐพีสวมสูทสั่งตัดสีขาวที่ตัดเย็บอย่างประณีต แขกที่มาร่วมกันต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มและรอคอยการปรากฏตัวของเจ้าสาว เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้นชายหนุ่มก็หันไปมองที่ประตูทางเข้า เขารู้สึกใจเต้นแรง ในขณะที่แขกต่างลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาวที่เดินควงแขนคุณเอกภพผู้เป็นบิดาเข้ามาใบหน้าสวยปกปิดด้วยผ้าสีขาว นั้นยิ่งกระตุ้นให้ทุกคนอยากเห็นว่าหญิงสาวผู้โชคดีคนนี้จะมีใบหน้าสวยงามแค่ไหน แม้ว่าปฐพีจะไม่มีคนรู้จักที่นี่มากนักแต่เพราะเขาเป็นทายาทอย่างถูกต้องตามกฎหมายคนเดียวของวิลเลียม เบอร์เรลนักธุรกิจชื่อดังของเมืองนี้งานแต่งครั้งนี้จึงมีคนจับตามองอยู่มากพอสมควรเมื่อคุณเอกภพเดินมาถึงยังแท่นพิธีเขาก็ส่งตัวลูกสาวให้กับปฐพี ที่ยื่นมือมารับเจ้าสาวของเขาด้วยความตื่นเต้น มือใหญ่สั่นเล็กน้อยและนั่นก็ทำให้เอลินอร์รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อเอลินอร์มายืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มก็ยกผ้าคลุมใบหน้า
ความสุขมันแสนสั้นเมื่อถึงเวลาที่ปฐพีจะต้องกลับไปทำงานอีกครั้ง เอลินอร์มาส่งคนรักที่สนามบิน แต่ครั้งนี้เธอไมได้เศร้าเหมือนครั้งก่อนเพราะปลายเดือนหน้าเธอครอบครัวก็จะบินไปเที่ยวอังกฤษตามคำเชิญของคุณลินดาและคุณวิลเลียม“อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะเจอกันอีกแล้ว ครั้งนี้หนูแอลคงไม่งอแงให้พี่ต้องรีบกลับมาใช่ไหมครับ”“แอลไม่เคยงอแงนะคะ”“แล้วใครกันล่ะครับ ที่ไม่ยอมให้พี่โทรหาจนพี่ทนคิดถึงไม่ไหวรีบบินกลับมาแบบนี้”“มาโทษแอลได้ยังไงล่ะคะ พี่ดินอยากทนไม่ไหวเอง”“ถ้าไม่รักก็คงไม่รีบบินกลับมาหรอกครับ”“พี่ดินขา อย่าปากหวานแบบนี้กับใครนะคะ”“พี่ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ หนูแอลยังไม่ไว้ใจพี่อีกเหรอครับ”“ก็พี่ดินของแอลหล่อขนาดนี้เป็นใครก็ต้องหวง”“พี่ไม่เคยมองใครมานานหลายปีแล้ว มองแค่หนูแอลคนเดียว” ปฐพีกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาไม่อยากจะห่างเธอเลยแต่เพราะมีความจำเป็นเรื่องงานเลยต้องทำใจ“พี่ดิน เขาประกาศเรียกแล้ว”“พี่ไปก่อนะครับ รักหนูแอลนะ” ชายหนุ่มก้มจูบหน้าผากมนอย่างรักใคร่“แอลก็รักพี่ดินค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ดิน ถึงแล้วอย่าลืมโทรหาแอลนะคะ”“จะลืมได้ยังไงล่ะครับ พี่ไปก่อนนะครับ หนูแอลจะได้รีบกลับไปท
สามวันมาแล้วที่เอลินอร์ทำโทษปฐพี เธอทั้งคิดถึงและอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียงแต่ก็ต้องอดทนเพราะไม่อยากจะกลายเป็นคนผิดคำพูด แม้ว่าเขาจะไลน์มาหาทุกวัน วันละหลายรอบแต่เธอก็เพียงแค่อ่านแต่ไม่คิดจะตอบกลับ“เหลือแค่สาวันเองจิ๊บๆ” หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเก็บของใช่ลงกระเป๋าเพราะเลยเวลาเลิกงานมานานนับชั่วโมง แต่เพราะวันนี้ไม่ต้องกลับไปนอนที่บ้านเนื่องจากบิดามารดาไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเธอจังไม่เร่งรีบอะไร หญิงสาวแวะทานอาหารที่ร้านเดิมที่เคยมาทานกับปฐพีอยู่บ่อยๆ จากนั้นก็เข้าร้านสะดวกซื้อและเลือกอาหารแช่แข็งอีกหลายกล่องเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอจึงอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้ว่าแพรวาจะโทรศัพท์มาชวนไปเที่ยวแต่เอลินอร์ก็ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่สนุกกับการไปในสถานที่แบบนั้นอีกแล้ว กลับมาถึงห้องก็เก็บของที่ซื้อมาเขาตู้เย็นก่อนจะรับอาบน้ำเตรียมเข้านอนซึ่งก็ไม่รู้ว่าคืนนี้จะนอนหลับไหม เพราะที่ผ่านมาสองคืนเธอก็นอนไม่ค่อยหลับเนื่องจากไม่ได้คุยกับปฐพีอย่างเคย เอลินอร์ออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้บนเตียงของเธอนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสดเป็นตัวหนังสือคำว
เอลินอร์ออกจากงานออกจากงานเลี้ยงของคุณติณณ์ก็ตรงไปคอนโดเพราะคืนนี้เธอบอกกับบิดามารดาว่าจะค้างที่นี่ เนื่องจากจะกลับดึกก็ไม่อยากจะขับรถไปที่บ้านเพราะว่าระยะทางจากคอนโดไปที่งานเลี้ยงของคุณติณณ์นั้นใกล้กว่าบ้านของเธอมาก หญิงสาวพยายามจะข่มอารมณ์โมโหของตนมาตั้งแต่อยู่ในงาน พอประตูห้องปิดลงเธอก็กรีดร้องอย่างสุดเสียงเพื่อระบายความโกรธที่ทนจะอัดอั้นมาเกือบชั่วโมง อันที่จริงเธอก็อยากจะกรี๊ดตั้งแต่อยู่ในงานเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่พลอยลดานำมาบอก แต่เพราะเมื่อคืนตนเองไปในนามบริษัทจึงทำแบบนั้นไม่ได้ “พี่ดินนะพี่ดินทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง”เอลินอร์ตัวสั่นเทาขณะกดวิดีโอคอลไปหาคนรัก พอเขากดรับเธอก็พูดกับเขาด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด “พี่ดิน พี่ทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง ไหนพี่ว่าไม่เคยมีอะไร ไม่เคยนอนด้วย แล้วนี่ถึงกับนัดกันไปถึงอังกฤษ ไหนพี่ดินบอกว่ารักแอล ให้แอลรอ ให้แอลอดทน แล้วยังไงคะ ในขณะที่แอลอดทนอยู่ทางนี้พี่ดินก็มีความสุขอยู่ทางนู้น พี่ว่ามันยุติธรรมกับแอลไหมล่ะ พี่ดินใจร้าย พี่ดินทำลายความไว้ใจของแอล” เอลินอร์พูดยาวเหยียดก่อนจะร้องไห้อย่างหนักเมื่อพูดจ
เกือบเดือนแล้วที่เอลินอร์กับปฐพีไม่ได้เจอกับเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ของตนเองที่ต้องรับผิดชอบ แต่พวกเขาก็ยังคงคุยกันอยู่ทุกวันเหมือน เธอกับครอบครัววางแผนว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขาที่อังกฤษปลายเดือนหน้า แต่ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ได้วิดีโอคอลคุยกันบ้างแล้ว เอลินอร์ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีทั้งในฐานะรองประธานบริษัทและในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับ พนักงานทุกคนยอมรับในความสามารถของหญิงสาว และต่างพากันชื่นชมเจ้านายของตนเองที่ทั้งสวยและเก่งจนหาตัวจับยาก หญิงสาวรับผู้ช่วยส่วนตัวมาหนึ่งคนชื่อกมลมาศเพื่อจะได้ออกไปทำงานข้างนอกกับเธอในขณะที่คุณแขไขก็ยังทำหน้าที่เป็นเลขาได้เป็นอย่างดี "คุณแอลคะ งานเย็นนี้มาศเตรียมชุดให้แล้วนะคะ” “แอลไม่อยากไปเลยค่ะ พี่มาศไปแทนแอลได้ไหมคะ” “ได้ยังไงล่ะคะคุณแอล เขาเป็นคู่ค้าคนสำคัญเลยนะคะ ถ้าคุณแอลไม่ไปมาศว่าท่านประธานคงจะไม่ค่อยพอใจแน่ๆ” “แอลไม่ชอบงานแบบนี้เลยค่ะ” “แล้วแต่ก่อนใครไปล่ะคะ หรือว่าท่านประธานไปเอง” “ก็คงจะเป็นผู้ช่วยคุณพ่อนั่นแหละ พอเขาออกไปงานทุกอย