ปฐพีมาที่บ้านเอกประดิษฐ์มณีตั้งแต่เพื่อเอากระเป๋ามาคืนเอลินอร์แต่เจ้าของกระเป๋าคงจะยังไม่รู้ตัวว่าลืมไว้บนรถเขา
“อ้าว ดินมากินข้าวด้วยกันก่อนสิ”
“ครับคุณลง”
“ได้ยินว่าเมื่อคืนไปเที่ยวเจอกับยัยแอลเหรอถึงได้พามาส่งบ้าน” เอกภพรู้จากภรรยาเมื่อเช้าว่าคนที่มาส่งลูกสาวของตนถึงในบ้านนั้นคือปฐพี
“ครับคุณลุง”
“ลูกลุงไปทำอะไรให้ดินเดือดร้อนหรือเปล่า”
“เปล่าครับเธอก็แค่เที่ยวตามประสาวัยรุ่นครับ”
“ยังไงลุงก็ฝากด้วยนะ ตอนนี้อลันก็มีครอบครัวไปแล้วเหลือแต่ดินนี่แหละที่พอจะช่วยลุงดูแลเธอได้”
ถึงแม้ลูกสาวของตนเองจะอายุ 24 ปีแล้วแต่ในสายตาขอผู้เป็นบิดาก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่
“ครับคุณลุง แล้ววันนี้คุณหนูจะไม่ลงมาทานอาหารเช้ากับเราเหรอครับ”
“เช้าขนาดนี่ยัยแอลยังไม่ตื่นหรอกจ้ะดิน” คนที่ตอบคำถามของชายหนุ่มก็คือคุณแอนเดรียที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านหลังใหญ่
“ครับ”
“ดินมีอะไรกับยัยแอลหรือเปล่า”
“พอดีคุณหนูลืมกระเป๋าถือไว้ในรถ ผมเลยจะเอามาคืนเธอครับคุณป้า”
“ขอบใจจ้ะ ดินฝากไว้ที่ป้าก่อนก็ได้นะ ถ้ารอให้ยัยแอลก็คงบ่ายนู่นแหละกว่าจะตื่น”
“ครับ”
“ยังไงวันนี้คุณก็ดูลูกหน่อยนะ พรุ่งนี้จะต้องไปทำงานตั้งแต่เช้า ถ้าคืนนี้อย่าให้เขาออกไปเที่ยว” เอกภพสั่งภรรยาเพราะเขาคงจะรอให้ลูกสาวตื่นไม่ไหว
“ค่ะ เดียวฉันจะบอกยัยแอลให้ แต่ตอนนี้เรารีบทานข้าวกันเถอะ คุณกับดินจะได้รีบไปทำงาน” แอนเดรียไม่อยากให้สามีต้องอารมณ์ขุ่นมัวเพราะลูกสาวก่อนไปทำงาน
“วันนี้ดินขับรถให้คุณเอกได้ไหม พอดีตอนบ่ายป้าจะให้ลุงสมานช่วยขับรถให้หน่อย”
“ได้ครับ ตอนเย็นคุณป้าไม่ต้องให้ลุงสมานไปรับนะครับ เดี๋ยวผมมาส่งคุณลุงเอง”
ขอบใจมากนะ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ก็ทานข้าวที่นี่เลยละกันนะ”
“ขอบคุณครับ” เพราะอยากจะเจอเอลินอร์อีกสักครั้งเขาเลยรับปากอย่างง่ายดาย
20.00 น. บ้านเอกประดิษฐ์มณี
“คุณหนูตรวจของในกระเป๋าหรือยังครับว่าของครบไหม”
“ทำไม นายแอบขโมยอะไรออกไปจากกระเป๋าฉันเหรอ”
“เปล่าครับ ผมก็แค่อยากให้คุณหนูตรวจดูให้ดีก่อนว่ามีอะไรหายไปหรือเปล่า เกินคุณหนูมาโวยวายทีหลังผมจะซวยเอานะครับ”
พอเขาพูดจบเอลินอร์ก็เปิดกระเป๋าถือแล้วเทข้าวของทั้งหมดลงบนโต๊ะ การกระทำของเธอไม่เหมือนกันคนที่ซ่อนอะไรไว้ในนั้นเลยสักนิด
“ครบไหมครับ”
“ก็ไม่มีอะไรหายนี่ กระเป๋าตัง แป้ง ลิปสติก กระดาษซับมันโทรศัพท์ก็มีแค่นี้ เดี๋ยวนะฉันของเช็กดูก่อนว่านายใช้ลิปสติกของฉันไปหรือเปล่า”
“แอล” คุณเอกภพทำเสียงดุทำให้เอลินอร์ต้องชะงักมือจากนั้นก็เก็บของทุกอย่างลงกระเป๋าอย่างเดิม
“ถ้าของทุกอย่างครบ งั้นผมก็ขอตัวกลับก่อน ผมลานะครับคุณลุงคุณป้า” ชายหนุ่มกล่าวลาก่อนจะยกมือไหว้
“เดี๋ยวสินายดิน”
“ครับ”
“พรุ่งนี้ฉันจะขับรถให้คุณพ่อเองนายไม่ต้องมารับนะ”
“ได้ครับคุณหนู”
“แอล หนูยังขับไม่ค่อยคุ้นกับเส้นทางเลยนะ” แอนเดียเป็นห่วงลูกสาว
“แม่คะ ถ้าไม่ให้แอลขับตอนนี้แล้วเมื่อไหร่แอลจะขับรถไปทำงานเองได้ล่ะคะ”
“เอาอย่างนี้ดีไหมครับ พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณลุงกับคุณหนูไปทำงานก่อน ผมจะบอกทางให้คุณหนูเองทั้งทางตรงและทางลัดในช่วงเวลาเร่งด่วน อาทิตย์หน้าคุณหนูค่อยขับไปทำงานเอง” ปฐพีเสนอเพราะถ้าให้เธอขับรถไปทำงานก็คงได้ถึงบริษัทไม่ทันเวลาเข้างานอย่างแน่นอน
“ตกลงตามนั้นจ้ะดิน ป้าขอบใจมากนะ”
เอลินอร์ยอมรับโดยที่ไม่ได้โต้แย้งอะไรเพราะเธอก็ไม่ชำนาญเท่าไหร่อย่างที่เขาพูดจริงๆ
ปฐพีออกจากบ้านหลังใหญ่ แต่เขาไม่ได้กลับที่คอนโดของตนเองเพราะมีเรื่องที่ต้องจัดการเกี่ยวกับซองที่เขาเจอในกระเป๋าของเอลินอร์เมื่อคืน
ชายหนุ่มขับรถมาหาเพื่อนที่บ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของตนเองมากนัก
“เท่าที่ดูด้วยตาก็น่าจะใช่อย่างที่นายคิดนั่นแหละ น้ำหนักรวมก็คงประมาณ 3 กรัม จำคุกสี่ปีถึงตลอดชีวิตเลยนะ นายไปเอาของพวกนี้มาจากไหน”
“ฉันเจอมันในกระเป๋าคนรู้จัก”
“แล้วนายเอาของเขามาแบบนี้เขายอมเหรอ”
“เหมือนเจ้าของกระเป๋าจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ามีของพวกนี้อยู่”
“เขาจะไม่รู้ได้ยังไง เขาแกล้งไม่รู้หรือเปล่าว่าของหายไป”
“ฉันแน่ใจว่าเธอไม่รู้”
“ผู้หญิงเหรอ”
“อือ”
“แฟนนายเหรอ”
“ไม่ใช่แฟน นายจำน้องสาวอลันได้ไหมล่ะ
“จำได้ว่าอลันมีน้องสาว แต่ไม่เคยเจอ อย่าบอกนะว่าเอามาจากนะเป๋าของเธอ”
“อือ”
ปฐพีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่โรงพักและเรื่องที่เขาเจอซองพวกนี้ในกระเป๋าของเอลินอร์รวมถึงปฏิกิริยาที่เธอแสดงออกตอนเขาถามถึงของในกระเป๋าให้กับเพื่อนรักที่ตอนนี้เป็นถึงรองผู้กำกับสถานีตำรวจที่เข้าไปประกันตัวเอลินอร์เมื่อคืน
“นายยังไม่จับด้วยมือเปล่าใช่ไหม”
“อือ”
“งั้นฉันว่าลองตรวจหาลายนิ้วมือก่อน ตัวอย่างลายนิ้วมือของเธอกับเพื่อนอยู่ในระบบอยู่แล้วก็คงไม่ยาก”
“แล้วจากนั้นจะเป็นยังไงต่อ” ถึงแม้จะมั่นใจว่าเอลินอร์ไม่รู้เห็นเรื่องนี้แต่ถ้าเกิดเขาคิดผิดขึ้นมาก็กลัวจะกระทบกับสุขภาพของคุณเอกภพ
“ถ้ารู้ว่าใครเป็นเจ้าของซองยาก็อาจจะเชิญตัวมาสอบสวน หาแหล่งที่ซื้อหรือบางครั้งก็อาจจะต้องตามสืบต่อเพราะคนพวกนี้ถ้าจับไม่ได้คาหนังคาเขาก็คงไม่ยอมรับง่ายๆ”
“ถ้าลายมีลายนิ้วมือคุณหนูบนซองยานั่น นายบอกฉันก่อนได้ไหม ฉันอยากจะคุยกับเธอเอง”
“มันไม่ควรเป็นอย่างนั้น แต่ฉันเห็นแก่นายที่เป็นเพื่อนกันมานาน ฉันจะบอกนายก่อน แต่นายอย่าทำอะไรไปมากกว่าการถามเธอเข้าใจใช่ไหม”
“อือ ฉันไม่ทำให้นายเสียงานหรอกน่า”
“เดี๋ยวฉันจะจัดการให้ นายก็อย่าเพิ่งเครียดไปล่ะ”
“ขอบใจมากนที ฉันกลับล่ะ แล้วจะรอฝั่งข่าวจากนายนะ”
“โชคดีเพื่อน”
ปฐพีขับรถออกจากบ้านของนทีแล้วตรงไปยังคอนโดของตนเอง เขาหลับตาและนึกย้อนไปถึงภาพเมื่อตอนหัวค่ำ ดูยังไงเอลินอร์ก็ไม่มีพิรุธเลย คงเพราะเธอไม่รู้เรื่องของในกระเป๋า แล้วถ้าคนที่เอามาใส่จะเป็นเพื่อนที่เธอออกไปดื่มด้วยมันก็น่าเป็นห่วงเพราะพวกนั้นคงจะต้องตามมาเอาของคืนและถ้าเธอไม่มีของคืนให้เขาก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง
ระหว่างนี้ปฐพีคิดว่าจะต้องตามประกบเอลินอร์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เธอออกเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มเดิมอีก ในใจของเขาตอนนี้แอบภาวนาว่าซองยาเหล่านั้นจะไม่มีลายนิ้วมือของคุณหนูอยู่บนนั้น เพราะถ้ามีเรื่องมันคงไม่จบง่ายอย่างแน่นอน
“เฮ้อ ปวดหัวชะมัด” ปฐพีถอนหายใจก่อนจะข่มตานอนในเวลาเกือบตีหนึ่ง
เมื่อได้รับคำตอบจากภรรยาแล้วปฐพีก็เริ่มปฏิบัติการปั๊มทายาททันที ปฐพีอุ้มเจ้าสาวไปยังห้องนอน เขาวางเธอลงที่ปลายเตียงแล้วรั้งให้เธอเข้ามาแนบชิด จุมพิตไปบนริมฝีปากนุ่มสวย บดขยี้อย่างโหยหาเพียงแค่สัมผัสร่างกายก็ตื่นตัว ชายหนุ่มจับมือเล็กของภรรยาสาวไปสัมผัสกับส่วนแข็งขืนเพื่อให้เธอรับรู้ ว่าตอนนี้เขาต้องการเธอมากแค่ไหน “พี่ดินทำไมมันโตเร็วละคะ” “ก็พี่คิดถึงและต้องการหนูแอลไงครับ ไม่เจอกันหนึ่งเดือน แล้วพอเจอกันก็ได้แค่เดินจับมือ มันทรมานมากนะครับ รู้ไหมพี่ต้องการแอลมาก”เสียงของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าตัวเองนั้นต้องการเธอมากแค่ไหน ชายหนุ่มประคองใบหน้าคนรักแล้วประกบปากจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อนและเรียกร้องเอลินอร์เผยอปากรับลิ้นอุ่นเข้าให้เข้ามาตวัดไล้น้ำหวาน พร้อมส่งเสียงครางอย่างรัญจวน เมื่อฝ่ามือใหญ่ละจากใบหน้าลงมาทรวงอกอิ่มบีบคลึงเต้างามอย่างหนักมือ ปฐพีผละจูบออกเมื่อเธอเริมครางประท้วงเพราะกำลังจะขาดอากาศ สองตาสบประสานส่งผ่านความรู้สึกและความต้องการที่ต่างฝ่ายต่างต่างมีให้แก่กันอย่างท่วมท้นชุดนอนไม่ได้นอนและบราตัวจิ๋วที่พี่สะใภ้มอบให้ค่อยๆ
งานแต่งงานระหว่างปฐพีและเอลินอร์ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ความสวยงามของโบสถ์กับการออกแบบงานแต่งงานเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ซึ่งปฐพีเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ปฐพีสวมสูทสั่งตัดสีขาวที่ตัดเย็บอย่างประณีต แขกที่มาร่วมกันต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มและรอคอยการปรากฏตัวของเจ้าสาว เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้นชายหนุ่มก็หันไปมองที่ประตูทางเข้า เขารู้สึกใจเต้นแรง ในขณะที่แขกต่างลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาวที่เดินควงแขนคุณเอกภพผู้เป็นบิดาเข้ามาใบหน้าสวยปกปิดด้วยผ้าสีขาว นั้นยิ่งกระตุ้นให้ทุกคนอยากเห็นว่าหญิงสาวผู้โชคดีคนนี้จะมีใบหน้าสวยงามแค่ไหน แม้ว่าปฐพีจะไม่มีคนรู้จักที่นี่มากนักแต่เพราะเขาเป็นทายาทอย่างถูกต้องตามกฎหมายคนเดียวของวิลเลียม เบอร์เรลนักธุรกิจชื่อดังของเมืองนี้งานแต่งครั้งนี้จึงมีคนจับตามองอยู่มากพอสมควรเมื่อคุณเอกภพเดินมาถึงยังแท่นพิธีเขาก็ส่งตัวลูกสาวให้กับปฐพี ที่ยื่นมือมารับเจ้าสาวของเขาด้วยความตื่นเต้น มือใหญ่สั่นเล็กน้อยและนั่นก็ทำให้เอลินอร์รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อเอลินอร์มายืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มก็ยกผ้าคลุมใบหน้า
ความสุขมันแสนสั้นเมื่อถึงเวลาที่ปฐพีจะต้องกลับไปทำงานอีกครั้ง เอลินอร์มาส่งคนรักที่สนามบิน แต่ครั้งนี้เธอไมได้เศร้าเหมือนครั้งก่อนเพราะปลายเดือนหน้าเธอครอบครัวก็จะบินไปเที่ยวอังกฤษตามคำเชิญของคุณลินดาและคุณวิลเลียม“อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะเจอกันอีกแล้ว ครั้งนี้หนูแอลคงไม่งอแงให้พี่ต้องรีบกลับมาใช่ไหมครับ”“แอลไม่เคยงอแงนะคะ”“แล้วใครกันล่ะครับ ที่ไม่ยอมให้พี่โทรหาจนพี่ทนคิดถึงไม่ไหวรีบบินกลับมาแบบนี้”“มาโทษแอลได้ยังไงล่ะคะ พี่ดินอยากทนไม่ไหวเอง”“ถ้าไม่รักก็คงไม่รีบบินกลับมาหรอกครับ”“พี่ดินขา อย่าปากหวานแบบนี้กับใครนะคะ”“พี่ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ หนูแอลยังไม่ไว้ใจพี่อีกเหรอครับ”“ก็พี่ดินของแอลหล่อขนาดนี้เป็นใครก็ต้องหวง”“พี่ไม่เคยมองใครมานานหลายปีแล้ว มองแค่หนูแอลคนเดียว” ปฐพีกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาไม่อยากจะห่างเธอเลยแต่เพราะมีความจำเป็นเรื่องงานเลยต้องทำใจ“พี่ดิน เขาประกาศเรียกแล้ว”“พี่ไปก่อนะครับ รักหนูแอลนะ” ชายหนุ่มก้มจูบหน้าผากมนอย่างรักใคร่“แอลก็รักพี่ดินค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ดิน ถึงแล้วอย่าลืมโทรหาแอลนะคะ”“จะลืมได้ยังไงล่ะครับ พี่ไปก่อนนะครับ หนูแอลจะได้รีบกลับไปท
สามวันมาแล้วที่เอลินอร์ทำโทษปฐพี เธอทั้งคิดถึงและอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียงแต่ก็ต้องอดทนเพราะไม่อยากจะกลายเป็นคนผิดคำพูด แม้ว่าเขาจะไลน์มาหาทุกวัน วันละหลายรอบแต่เธอก็เพียงแค่อ่านแต่ไม่คิดจะตอบกลับ“เหลือแค่สาวันเองจิ๊บๆ” หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเก็บของใช่ลงกระเป๋าเพราะเลยเวลาเลิกงานมานานนับชั่วโมง แต่เพราะวันนี้ไม่ต้องกลับไปนอนที่บ้านเนื่องจากบิดามารดาไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเธอจังไม่เร่งรีบอะไร หญิงสาวแวะทานอาหารที่ร้านเดิมที่เคยมาทานกับปฐพีอยู่บ่อยๆ จากนั้นก็เข้าร้านสะดวกซื้อและเลือกอาหารแช่แข็งอีกหลายกล่องเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอจึงอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้ว่าแพรวาจะโทรศัพท์มาชวนไปเที่ยวแต่เอลินอร์ก็ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่สนุกกับการไปในสถานที่แบบนั้นอีกแล้ว กลับมาถึงห้องก็เก็บของที่ซื้อมาเขาตู้เย็นก่อนจะรับอาบน้ำเตรียมเข้านอนซึ่งก็ไม่รู้ว่าคืนนี้จะนอนหลับไหม เพราะที่ผ่านมาสองคืนเธอก็นอนไม่ค่อยหลับเนื่องจากไม่ได้คุยกับปฐพีอย่างเคย เอลินอร์ออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้บนเตียงของเธอนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสดเป็นตัวหนังสือคำว
เอลินอร์ออกจากงานออกจากงานเลี้ยงของคุณติณณ์ก็ตรงไปคอนโดเพราะคืนนี้เธอบอกกับบิดามารดาว่าจะค้างที่นี่ เนื่องจากจะกลับดึกก็ไม่อยากจะขับรถไปที่บ้านเพราะว่าระยะทางจากคอนโดไปที่งานเลี้ยงของคุณติณณ์นั้นใกล้กว่าบ้านของเธอมาก หญิงสาวพยายามจะข่มอารมณ์โมโหของตนมาตั้งแต่อยู่ในงาน พอประตูห้องปิดลงเธอก็กรีดร้องอย่างสุดเสียงเพื่อระบายความโกรธที่ทนจะอัดอั้นมาเกือบชั่วโมง อันที่จริงเธอก็อยากจะกรี๊ดตั้งแต่อยู่ในงานเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่พลอยลดานำมาบอก แต่เพราะเมื่อคืนตนเองไปในนามบริษัทจึงทำแบบนั้นไม่ได้ “พี่ดินนะพี่ดินทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง”เอลินอร์ตัวสั่นเทาขณะกดวิดีโอคอลไปหาคนรัก พอเขากดรับเธอก็พูดกับเขาด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด “พี่ดิน พี่ทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง ไหนพี่ว่าไม่เคยมีอะไร ไม่เคยนอนด้วย แล้วนี่ถึงกับนัดกันไปถึงอังกฤษ ไหนพี่ดินบอกว่ารักแอล ให้แอลรอ ให้แอลอดทน แล้วยังไงคะ ในขณะที่แอลอดทนอยู่ทางนี้พี่ดินก็มีความสุขอยู่ทางนู้น พี่ว่ามันยุติธรรมกับแอลไหมล่ะ พี่ดินใจร้าย พี่ดินทำลายความไว้ใจของแอล” เอลินอร์พูดยาวเหยียดก่อนจะร้องไห้อย่างหนักเมื่อพูดจ
เกือบเดือนแล้วที่เอลินอร์กับปฐพีไม่ได้เจอกับเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ของตนเองที่ต้องรับผิดชอบ แต่พวกเขาก็ยังคงคุยกันอยู่ทุกวันเหมือน เธอกับครอบครัววางแผนว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขาที่อังกฤษปลายเดือนหน้า แต่ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ได้วิดีโอคอลคุยกันบ้างแล้ว เอลินอร์ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีทั้งในฐานะรองประธานบริษัทและในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับ พนักงานทุกคนยอมรับในความสามารถของหญิงสาว และต่างพากันชื่นชมเจ้านายของตนเองที่ทั้งสวยและเก่งจนหาตัวจับยาก หญิงสาวรับผู้ช่วยส่วนตัวมาหนึ่งคนชื่อกมลมาศเพื่อจะได้ออกไปทำงานข้างนอกกับเธอในขณะที่คุณแขไขก็ยังทำหน้าที่เป็นเลขาได้เป็นอย่างดี "คุณแอลคะ งานเย็นนี้มาศเตรียมชุดให้แล้วนะคะ” “แอลไม่อยากไปเลยค่ะ พี่มาศไปแทนแอลได้ไหมคะ” “ได้ยังไงล่ะคะคุณแอล เขาเป็นคู่ค้าคนสำคัญเลยนะคะ ถ้าคุณแอลไม่ไปมาศว่าท่านประธานคงจะไม่ค่อยพอใจแน่ๆ” “แอลไม่ชอบงานแบบนี้เลยค่ะ” “แล้วแต่ก่อนใครไปล่ะคะ หรือว่าท่านประธานไปเอง” “ก็คงจะเป็นผู้ช่วยคุณพ่อนั่นแหละ พอเขาออกไปงานทุกอย