หญิงสาวเคลื่อนรถเข้าจอดขวางหน้ารถสีดำคันนั้น ถ้าไม่เกรงใจพ่อกับเสียดายรถคันโปรดของตัวเองที่บิดาเพิ่งให้เป็นของขวัญฉลองสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ต้องมีรอยถลอกละก็ เธอจะถอยชนรถหมอนั่นให้พังยับเยินไปเลย แต่ก็ใช่ว่าเธอจะทำอะไรไม่ได้นี่นา
“คุณหนูจะทำอะไรครับ!” คนรถเอะอะเสียงหลง เมื่อเห็นคุณหนูของเขาหยิบอะไรบางอย่างออกจากในรถก่อนตรงเข้าไปแทงที่ยางล้อรถทั้งสี่ด้านจนแบนแต๊ดแต๋
วิศราคลี่ยิ้มร้าย ก่อนปัดไม้ปัดมือยืนมองผลงานตรงหน้าอย่างสะใจ สั่งสอนแค่นี้ก่อน ถ้าไม่สำนึกคราวต่อไปจะวาดลวดลายให้รอบคันเลยคอยดู!
ทว่า หญิงสาวตัวแสบไม่รู้เลยว่ามีใครคนหนึ่งกัดกรามแน่นมองลงมาจากด้านบนบ้านอย่างหมายมาด ดวงตาคมกริบวาวโรจน์ราวกับมีประกายไฟบรรลัยกัลป์ ก่อนที่จะกระตุกยิ้มมุมปากออกมาอย่างมีเลศนัย...
บ้านเงียบกริบผิดจากทุกวัน เพราะบิดาของเธอเดินทางไปฮันนีมูนที่ญี่ปุ่นสองสัปดาห์กับยายแม่เลี้ยงสาวนั่น ทั้งบ้านจึงเหลือเพียงเธอกับคนรับใช้ที่มักไปรวมตัวกันที่ครัวหลังบ้านกันตอนกลางวัน อ้อ...แล้วก็กาฝากหนุ่มจอมโอหังนั่น วิศราพยายามอยู่ให้ห่างจากหมอนั่น เพราะไม่อยากไปสุงสิงกับคนแปลกหน้า และอีกเหตุผลก็คือ...เธอเกลียดดวงตาจาบจ้วงคู่นั้นที่เวลาเจอกันทีไรก็คอยแต่จะจ้องแทะโลมเรือนร่างของเธอโดยเฉพาะตรงหน้าอกหน้าใจราวกับสัตว์ร้ายที่อยากจะขย้ำเหยื่อ แต่ให้หนีอย่างไรก็ไม่พ้น เพราะห้องของหมอนั่นอยู่ก่อนจะถึงห้องเธอนั่นเอง
“อ๊ะ...อูย...”
เสียงครวญครางประหลาดดังมาจากห้องพักแขกทำให้หญิงสาวชะงักปลายเท้า ไม่อยากจะใส่ใจ แต่ก็อดอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ ใครกันมาทำเสียงทุเรศๆ ในบ้านเธอเวลานี้
วิศราค่อยๆ ย่องไปทางห้องพักแขกที่ตอนนี้นายกาฝากปราบดาใช้ซุกหัวนอนอย่างเงียบเชียบ ประตูห้องนั้นเปิดแง้มไว้อย่างจงใจ หรือไม่เจ้าของห้องก็รีบร้อนจนปิดไม่สนิทก็สุดรู้ ทำให้ง่ายต่อการสอดแนม หญิงสาวเหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นใครก็รีบย่องเข้าไปแอบมองด้านในห้องเงียบๆ
คุณพระช่วย! หญิงสาวยกมือปิดปาก หาไม่เธอคงเผลอส่งเสียงเอะอะทำให้คนในห้องรู้ว่ากำลังถูกส่อง เพราะภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือ ร่างเปลือยเปล่าของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังฟัดกันนัวเนียอย่างถึงพริกถึงขิง!
ตั้งแต่เกิดมาจนเดี๋ยวนี้วิศรายังไม่เคยเห็นกิจกรรมทางเพศระหว่างชายหญิงแบบจะจะเช่นนี้มาก่อน เคยเรียนเพศศึกษา และอาจเห็นตามโลกโซเชียลที่แชร์กันมา แต่เธอก็ไม่คิดจะสนใจกับเรื่องพรรค์อย่างว่า แต่คราวนี้กลับต้องมาเป็นผู้ชมกิตติมศักดิ์ชนิดติดขอบเตียงเสียเอง
อีตาบ้าลามกนั่นช่างบังอาจนัก! อาศัยจังหวะที่บิดาเธอไม่อยู่บ้าน กลางวันแสกๆ ยังกล้าพาผู้หญิงมาทำประเจิดประเจ้อกันถึงในบ้านของเธออย่างหน้าไม่อาย ดีละ เธอจะฟ้องพ่อให้หมดว่าคนโปรดของพ่อแท้จริงเป็นคนสารเลวแค่ไหน คอยดูนะ คราวนี้แหละกาฝากสองคนพี่น้องนี่ต้องระเห็จออกไปจากบ้านนี้แน่นอน ว่าแล้วหญิงสาวก็ยิ้มสะใจ ก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเตรียมอัดคลิปไว้เป็นหลักฐานเงียบๆ
“ปะ...ปราบขา...โอ...”
เสียงสูดปากกระเส่าด้วยความเสียวซ่านทำเอาผู้ชมสาวถึงกับสะท้านไปทั้งร่าง มือที่ถือโทรศัพท์มือถือไว้เริ่มสั่นระริกโดยไม่รู้ตัว วิศราอยากจะวิ่งหนีกลับห้องเหลือเกิน ทว่าเท้าทั้งสองไม่ยอมให้ความร่วมมือด้วยเสียเลย ทันใดนั้นเองดวงตาคู่สวยก็บังเอิญสานสบเข้ากับดวงตาคมกริบที่ถูกเคลือบด้วยแรงพิศวาสที่ชวนวาบหวามเข้าให้ ทำให้ร่างระหงสะดุ้งโหยงยืนแข็งทื่อเป็นตอไม้ไปชั่วขณะ
เขาเห็นเธอหรือเปล่า หรือเธอคิดไปเอง ตานั่นกำลังตั้งหน้าปฏิบัติภารกิจบนเตียงอย่างเมามัน คงไม่เห็นคนที่ซ่อนตัวอย่างมิดชิดทางนี้หรอกมั้ง ดูสิ ถ้าเขาเห็นเธอจริง ป่านนี้คงได้วิ่งมาบีบคอเธอตายไปแล้ว ไม่ใช่หันไปตั้งหน้าตั้งตารำพม่าแทงกบเอาเป็นเอาตายแบบนั้นหรอก
ระหว่างที่หญิงสาวกำลังคิดเพลินๆ จู่ๆ เสียงหวานก็หวีดร้องขึ้น เมื่อถูกร่างยักษ์อุ้มขึ้นจากเตียงอย่างกะทันหัน แล้วค่อยๆ เดินมาอยู่กลางห้อง จังหวะที่ก้าวเดินแต่ละก้าวชวนให้ผู้ชมสาวแอบกลืนน้ำลาย หายใจสะดุดติดขัดจนแทบปล่อยโทรศัพท์มือถือร่วง ท่วงท่าของคนตรงหน้าชวนให้คนแอบมองรู้สึกปั่นป่วนมวนในช่องท้องน้อยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
แน่ละ อาจเพราะรู้สึกไม่สบายอยู่แล้วจึงทำให้รู้สึกวูบวาบเช่นนี้ ขนอ่อนลุกยามที่เห็นเรือนร่างกำยำด้วยมัดกล้ามที่เรียกว่าซิกซ์แพ็กสวยงามเต็มตา ถูกทรวงอกอวบเด้งเสียดสีไปกับแผงอกแกร่งขึ้นๆ ลงๆ ชวนให้เธอหวิววาบจนเกือบเผลออุทานออกมาเมื่อปราบดาหันกายแกร่งมาทางเธอพอดี หญิงสาวผวาเฮือกตาโตเบิกค้าง เผลอยกมือกุมทรวงอกอวบของตัวเองอย่างลืมตัว หัวใจสั่นสะท้านไปทั้งดวง
วิศราต้องกัดริมฝีปากตนเองไว้แน่น เพราะกลัวว่าเจ้าของห้องจะรู้ตัว มือที่กำลังอัดคลิปเริ่มสั่นสะท้านจวนจะควบคุมไม่อยู่เมื่อเห็นชายหนุ่มบรรเลงเพลงสวาทจนคู่ขาถึงกับผวาเฮือกไปทั้งร่าง ก่อนที่เสียงคำรามราวกับเจ้าป่าที่กำลังประกาศศักดาจะก้องกระหึ่ม พร้อมกับที่ผู้ชมสาวสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง และยิ่งเทความรู้สึกไปทางโกรธเกลียดปนขยะแขยงในพฤติกรรมสุดห่ามที่ชายหนุ่มตรงหน้าแสดงให้ชมอย่างโจ่งครึ่ม และแม้สงครามสวาทตรงหน้าจะสงบลงแล้ว แต่ร่างเปลือยเปล่าสองร่างก็ยังนอนแผ่หลาเคียงกัน ดูท่าผู้หญิงคนนั้นคงหมดแรงไปแล้ว ส่วนผู้ชายน่ะเหรอ วิศรารู้สึกผ่าวร้อนที่แก้มวูบวาบเมื่อเห็นบางสิ่งผงาดขึ้นอีกครั้ง
บ้าไปแล้ว ไอ้คนลามก นี่เขายังไม่อิ่มอีกหรือไงนะ พวกมักมากในกาม ทุเรศ อุบาทว์ที่สุด!
“พ่อเจ...” ราวกับหัวใจที่แห้งแล้งได้น้ำชโลม เจษภัทรรู้สึกอุ่นวาบในอก หัวใจพองโต ก่อนอ้าแขนโอบร่างเล็กเข้ามากอดอย่างอ่อนโยน“ครับคนเก่ง พ่อเจพ่อของลูกชิ้น พ่อขอโทษนะที่ทำงานเสร็จช้า แต่ต่อไปนี้พ่อสัญญาว่าจะไม่ทิ้งลูกกับแม่แตมไปไหนอีกแล้ว พ่อรักลูกนะครับ”เตชิตามองภาพนั้นอย่างตื้นตันใจจนน้ำตาคลอเบ้า ในที่สุดลูกของเธอก็ได้มีพ่อกับเขาเสียที“จริงๆ นะครับ พ่อเจห้ามโกหกนะ”“ไม่โกหกครับ”“เย้! ลูกชิ้นมีพ่อแล้ว ลูกชิ้นรักพ่อเจที่สุดเลย”“เดี๋ยวนะ แล้วแม่ล่ะครับ” หญิงสาวแกล้งแหย่ลูกชายตัวแสบ“ลูกชิ้นรักทั้งพ่อเจ รักทั้งแม่แตม รักมากที่สุดในโลกเลยครับ” เด็กน้อยยิ้มแป้น พลางยื่นหน้าไปหอมแก้มพ่อและแม่อย่างมีความสุขสองปีต่อมา...ร้านก๋วยเตี๋ยวโกวีในวันหยุดมีลูกค้าคึกคักกว่าปกติ เจ้าของร้านแม้จะอายุเกือบหกสิบปีในอีกไม่กี่วัน แต่ดูแข็งแรงกระฉับกระเฉง แต่ที่ทำให้ขายดีเป็นพิเศษนั้นอาจเป็นเพราะวันนี้มีเด็กเสิร์ฟกิตติมศักดิ์มาช่วยงานก็เป็นได้“หมี่เหลืองแห้งโต๊ะสี่ได้แล้ว” พอขาดคำ ร่างสูงใหญ่ของเด็กเสิร์ฟที่ว่าก็เข้ามารับชามก๋วยเตี๋ยวเพื่อไปเสิร์ฟให้ลูกค้าสาวใหญ่ที่นั่งส่งตาหวานให้วิ้งๆ“ดูสามีเธอสิยัย
“ตาภาส”ชื่อนั้นทำให้เจษภัทรหันไปมองตาม พลางคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อได้พบอดีตศัตรูหัวใจ“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมมารับวินนี่ไปทานข้าวครับ” คนพูดหันไปสบตาแขกที่นั่งอยู่ พลางพยักหน้าให้นิดๆ “ไม่พบกันนานนะคุณเจ สบายดีเหรอ”“ครับ” เจษภัทรรับคำ น่าแปลกที่ครั้งนี้เขาไม่ได้รู้สึกอะไรที่เห็นอีกฝ่าย กลับรู้สึกเหมือนโล่งราวยกหินออกอก“ใครไปตามยัยวินนี่มาที บอกว่าพี่ภาสมารับแล้ว” คุณวิมาดากระวีกระวาดต้อนรับแขกผู้มาใหม่ราวกับต้องการให้เห็นว่าเธอไม่ได้แยแสอดีตคนรักของลูกสาวแม้แต่น้อยรอเพียงไม่นานวินรดาก็เดินลงมา หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้ภาสกร แต่พอเห็นหันมาเห็นใครอีกคน ยิ้มหวานก็ลบเลือนหาย เหลือเพียงความเย็นชา“คุณมาที่นี่ทำไมอีก”“พี่มาขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ดูท่าคงไม่จำเป็นแล้ว” เจษภัทรยกยิ้ม น่าแปลกที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรยามได้เห็นวินรดาเดินไปควงแขนชายหนุ่มอีกคนแสดงความสนิทสนมอย่างออกนอกหน้าผิดกับวินรดาที่หวังจะได้เห็นสีหน้าของผู้พ่ายแพ้เหมือนครั้งอดีตที่เธอเคยบอกเลิกกับเขาเพื่อคบกับภาสกร แต่ทว่าก็ต้องแอบผิดหวังและขัดใจนิดๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ทำหน้าผิดหวังเสียใจอย่างที่เธอต้องการเห็น ต
นายวีระหายใจฮึดฮัด ร่ำๆ อยากจะเอาเลือดหัวอีกฝ่ายออกให้สมอยาก ยิ่งเห็นลูกสาวสุดที่รักเข้าไปประคองและช่วยซับเลือดให้อีกฝ่าย ก็ยิ่งขัดตาขัดใจ“ยัยตาล พาน้องขึ้นห้องไปก่อน”“พ่อคะ...”เตชิตาร้องเรียกอย่างกลัวใจ ตาแลไปทางชายหนุ่มที่นั่งนิ่งยอมรับความผิด สภาพเขาตอนนี้อาจแค่ปากแตกสะบักสะบอม แต่หากเธอยอมขึ้นห้องไปตามที่พ่อสั่ง ไม่แน่ว่าตอนลงมาอาจพบเขานอนเป็นศพแล้วก็ได้“ถ้าพ่อจะลงโทษพี่เจ งั้นก็ลงโทษแตมด้วยอีกคนเถอะค่ะ หากเรื่องนี้จะมีใครผิด เราสองคนก็คงผิดเท่าๆ กัน หรือไม่แตมก็ผิดมากกว่า”เจษภัทรหันขวับไปมองหญิงสาวที่ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าข้างกายเขาด้วยสายตาห่วงใย“แตม อย่าทำแบบนี้”“พี่เจไม่เคยรู้ว่าแตมท้อง ตอนเกิดเรื่องเขาเคยขอรับผิดชอบแล้ว แต่เป็นหนูที่ปฏิเสธเขา”“แล้วทำไมตอนนั้นลูกไม่บอกพ่อสักคำ”“แตม...” เจษภัทรกดสายตามองหญิงสาวพลางส่ายหน้า ก่อนที่เขาจะหันไปสบตาพ่อของเธอ“เพราะตอนนั้นผมเป็นคนโง่ที่ไม่รู้ใจตัวเองครับ”ทุกคนมองสองหนุ่มสาว พลางหายใจไม่ทั่วท้อง เกรงว่าระเบิดจะลง“คนโง่ที่ไม่รู้ใจตัวเองงั้นเหรอ” นายวีระทวนคำเสียงเยาะ “แล้วตอนนี้เกิดฉลาดขึ้นมาแล้วหรือไง”“เปล่าครับ แค่เพิ่งรู้ใจ
เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง ในที่สุดประตูห้องไอซียูก็เปิดออก พร้อมกับคุณหมอที่ออกมาแจ้งผลด้วยสีหน้าอิดโรย“คุณหมอคะ ลูกชายฉันเป็นยังไงบ้างคะ” เตชิตาพุ่งไปเป็นคนแรก“เด็กปลอดภัยแล้วครับ โชคดีที่น้องได้เลือดจากคุณพ่อที่มีกรุ๊ปเดียวกัน ไม่งั้นคงแย่ เพราะเลือดกรุ๊ปนี้หายากเสียด้วย” ทุกคนพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก“แล้วตอนนี้พ่อของเด็กเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ”“กำลังนอนพักอยู่ในห้องบริจาคเลือดข้างๆ กันครับ เพราะให้เลือดไปเยอะ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ อีกเดี๋ยวก็คงฟื้น”“งั้นฉันขอเข้าไปดูได้ไหมคะ” คุณหมอพยักหน้าอนุญาต แต่ให้เข้าไปได้เพียงคนเดียวภาพคนตัวเล็กนอนเหยียดบนเตียงโดยมีสายน้ำเกลือและเครื่องช่วยชีวิตระโยงระยาง ทำให้คนเป็นแม่ใจแทบสลาย สีหน้าลูกแม้ซีดเผือด แต่เตชิตารู้ว่าลูกรักปลอดภัยแล้ว แม้จะมีบาดแผลตามร่างกายให้เห็น หญิงสาวปาดน้ำตาตัวเองเงียบๆในนาทีแห่งชีวิตที่เกิดขึ้นทำให้เธอรับรู้ว่าอะไรสำคัญที่สุด“แตม...ลูกเป็นยังไงบ้าง...”เสียงนั้นอ่อนระโหย แต่เต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างจริงใจที่สุด เตชิตาหันไปมองชายหนุ่มที่อยู่ในหัวใจมาตลอดนิ่งค้าง มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อถูกเขาดึงตัวเข้าไปกอดแนบอกเสียงห
คุณวิมาดาหันไปถามกับสามี แต่อีกฝ่ายก็ส่ายหน้าเพราะไม่รู้เช่นกัน“ว่าไงนะ ใครถูกรถชน เด็กที่ไหน...”เสียงซุบซิบเริ่มลามมาทางแถวหน้าอย่างรวดเร็ว และกระเด็นเข้าหูเจ้าภาพบนเวที พนักงานโรงแรมคนหนึ่งเดินแกมวิ่งไปที่ข้างเวทีด้านที่นายชิษณุนั่งพร้อมกระซิบบอก“มีลูกของแขกที่มางานถูกรถชนหน้าโรงแรมค่ะ”“ตายจริง ลูกของแขกคนไหนกัน” คุณวิมาดาที่ได้ยินพลอยตกใจ“เห็นว่าเป็นแขกของคุณชิษณุ เด็กคนนั้นชื่อลูกชิ้นค่ะ!”ชื่อนั้นทำให้เจษภัทรสะดุ้ง ใจหายวาบ“ว่าไงนะ เด็กชื่ออะไรนะ”“ชื่อน้องลูกชิ้นค่ะ”“ลูกชิ้น!”ร่างสูงใหญ่ผุดลุกพรวดพราดขึ้นทันทีจนหญิงสาวที่นั่งพับเพียบข้างๆ พลอยตกใจ หันมาขึงตาใส่“พี่เจจะทำอะไรคะ ใกล้ได้ฤกษ์แล้ว จะไปไหน” วินรดากัดฟันถาม ตามองแขกเหรื่อที่เริ่มมองมาทางเวทีเป็นตาเดียว“ตาเจ ลูกอยู่ทางนี้ก่อน เดี๋ยวพ่อไปดูให้เอง” นายชิษณุที่เห็นท่าไม่ดีรีบอาสา“ไม่ครับพ่อ ผมจะไปดูลูกเอง”“ลูก!” วินรดาเผลอตัวรีบคว้าแขนว่าที่คู่หมั้นหนุ่มไว้ “ลูกใครคะ”“ลูกชิ้น! ลูกชายของพี่!”วินรดาอ้าปากค้าง ส่วนคนบนเวทีพลอยตกอกตกใจกับประโยคนั้น คุณวิมาดาลมแทบใส่“ละ...ลูกชายพี่งั้นเหรอคะ นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“ทุกอย่างตอนนี้มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือคะ คุณกำลังจะได้สมหวังกับผู้หญิงที่คุณรักมาตลอด ส่วนฉันก็พอใจกับชีวิตตอนนี้แล้ว เราต่างก็มีทางเดินของตัวเอง งั้นอย่าทำให้เรื่องมันวุ่นวายอีกเลยนะคะ ดึกแล้วคุณควรกลับไปพักผ่อน ส่วนฉันก็ควรต้องกลับเหมือนกัน”“แล้วพรุ่งนี้เธอจะไปที่งานหรือเปล่า” อะไรบางอย่างทำให้เขาหลุดปากถามออกไป“ฉันรับปากพี่วินนี่ไว้แล้วว่าจะไปค่ะ คุณเองก็อย่ากลับดึกนะคะ เดี๋ยวว่าที่คู่หมั้นจะเป็นห่วง ลา...อุ๊บ!” คำสุดท้ายถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อถูกริมฝีปากอุ่นร้อนทาบทับลงมาเสียก่อนจูบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายของเขาสะกดตรึงเธอไว้ ราวกับปลดชนวนระเบิดในหัวใจที่แสนอัดอั้น หากนี่คือจูบอำลา เธอก็ขอเห็นแก่ตัวทำตามที่หัวใจไม่รักดีต้องการเป็นครั้งสุดท้ายบ้างเจษภัทรเลิกคิ้ว เมื่อรับรู้ถึงสัมผัสนุ่มละมุนที่ตอบกลับมา ความรู้สึกหวานที่คละเคล้าความเศร้าอวลในรสจูบนี้ จนนึกอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ ชายหนุ่มตัดใจถอนริมฝีปากออกเมื่อรับรู้ถึงน้ำตาอุ่นๆ ที่รินอาบแก้มของอีกฝ่าย“แตม...พี่...”“ครั้งก่อนพี่ทิ้งกันไปโดยไม่ได้บอกลา งั้นครั้งนี้แตมขอเป็นฝ่ายบอกพี่เอง...ลาก่อนนะคะพี่เจ