“ท่านโจว ทำไมท่านทำแบบนี้ล่ะครับ?”ฉู่เฉินรีบพยุงโจวว่านคังขึ้นมาจากพื้น“คุณฉู่ ทักษะการแพทย์ของคุณขั้นเทพแล้วครับ ผมก็ได้มีประสบการณ์บางอย่างในชีวิตมาบ้าง แต่ไม่เคยเห็นใครที่สามารถเปรียบเทียบกับคุณฉู่ได้ในรอบหลายสิบปีเลย”“หากใช้พรสวรรค์ของคุณ อนาคตของคุณจะไร้ขีดจำกัด หากถามความเห็นของผม ผมว่าคุณฉู่ควรจะแสดงให้คนทั้งโลกประจักษ์ความสามารถของคุณนะครับ และการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นเวทีที่ไม่เลวเลย ไม่ทราบว่าคุณฉู่เคยคิดเข้าร่วมบ้างไหมครับ?”โจวว่านคังพูดถึงความคิดภายในใจตนเองอย่างไม่อ้อมค้อมบุคคลที่มีความสามารถแบบฉู่เฉินแบบนี้ หากไม่ได้เฉิดฉาย เช่นนั้นก็จะเป็นความสูญเสียของวงการแพทย์แผนจีน อีกทั้งยังเป็นความสูญเสียของแดนมังกรอีกด้วยในฐานะที่เขาเคยดำรงตำแหน่งประธานสมาคมแพทย์แผนจีน โจวว่านคังแทบจะใช้น้ำเสียงอ้อนวอนเพื่อเชื้อเชิญฉู่เฉิน“การแข่งขันแพทย์แผนจีนอีกแล้วเหรอ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อไม่กี่วันก่อนฮว่าจิ่วหยางมาเชิญเขาด้วยตนเอง อีกทั้งฉู่เฉินเองก็ตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ว่าวันนี้โจวว่านคังก็ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะเข้าร่วม นั่นกลับทำให้ฉู่เฉินกลัดกลุ้มใ
หลินชือหย่าที่เดินไปทางลานจอดรถไปด้วย กำลังต่อสายหาประธานหลินหลินฟางเจิ้งของหลินซื่อกรุ๊ปไปด้วย ก็นำผลงานแถลงข่าวรายงานให้เขาฟังอีกครั้งหนึ่ง“ไม่ได้! ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามจำเป็นต้องได้รับสิทธิการจำหน่ายมาให้ได้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของหลินซื่อกรุ๊ป! หลาน เมื่อกี้หลานพูดเองไม่ใช่เหรอว่าคนแซ่ฉู่นั่นดูไม่ได้เป็นคนดีมากเท่าไหร่...”“อารองคงไม่ได้จะให้หนู...”ร่างกายอันละเอียดอ่อนของหลินชือหย่าสั่นเล็กน้อย และใบหน้าของเธอก็ซีดเซียวราวกับกระดาษทันที“แน่นอนว่าอาไม่ได้จะให้หลานอุทิศตนให้แพทย์แผนจีนต่ำต้อยนั่น สิ่งของที่ได้มาอย่างง่ายดายมักจะถูกไม่เห็นค่าเสมอ เอาแบบนี้ดีกว่าอีกเดี๋ยวอาจะรีบไปที่ตึกเทียนเฟิ่ง หลานรออาอยู่ที่ลานจอดรถ เมื่อถึงตอนนั้นทำตามที่อาบอกก็พอ”พูดจบก็ตัดสายไปใบหน้าเล็กๆ ที่น่ารักของหลินชือหย่าแสดงความเศร้าเล็กน้อยตั้งแต่ที่พ่อแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน หลินซื่อกรุ๊ปก็ถูกส่งต่อไปให้อารองแต่ว่าในช่วงไม่กี่ปีนี้หลินฟางเจิ้งพยายามคิดหาวิธีที่จะใช้หลินชือหย่า และยังบังคับให้เธอตกเป็นเหยื่อของการแต่งงานเพื่อธุรกิจหลายครั้งแ
ใช่แล้วล่ะ!ในใจของเธอ ฉู่เฉินก็เป็นแค่คนโกหกหลอกลวงคนหนึ่งคนไร้ประโยชน์คนหนึ่งจะสามารถหลอมยาบำรุงปราณออกมาได้อย่างไร?หากฉู่เฉินมีความสามารถแบบนั้นจริง ทำไมพวกเธอสองแม่ลูกจึงไม่รู้ล่ะ อีกทั้งยังถูกขังไว้นานกว่าสามปีอีกด้วย?แค่คิดก็ไม่สมเหตุสมผลแล้ว“เธอดูมั่นใจมากเลยนะ?”สายตาที่คุกคามมองไปที่เนินหิมะขาวของหลิ่วหรูเยียน“มองอะไร แกมันก็แค่ไอ้คนไร้ประโยชน์ มองไปก็เท่านั้น!”หลิ่วหรูเยียนรีบยกมือขึ้นมาปิดที่หน้าอก เธอสาปแช่งด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้า“มองเธองั้นเหรอ? เธอประเมินตัวเองสูงไปหรือเปล่า อีกอย่างนะส่วนไหนในร่างกายของเธอบ้างที่ฉันไม่เคยเห็น? แม้แต่ปานบนก้นเธอรูปร่างเป็นอย่างไร ฉันก็รู้หมดนั่นแหละ”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์สามปีที่ผ่านมานี้สองแม่ลูกไม่เคยแม้แต่จะหลบซ่อนเขาตอนอาบน้ำเลย แล้วจะมีความลับอะไรอีกล่ะ?“แก... หน้าไม่อาย!”หลิ่วหรูเยียนกระทืบเท้าเล็ก ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ “ฉู่เฉิน แกอย่าได้ใจให้มันมากไปเลย ในการแข่งขันแพทย์แผนจีนฉันจะเปิดโปงแกต่อหน้าทุกคน!”“ให้ทุกคนได้เห็นว่าธาตุแท้ของคนไม่ได้เรื่องแบบแกเป็นอย่างไร!”ฉู่เฉินได้ยินดังนั้นก็อ
ฉู่เฉินก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป ระยะเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่วินาที ภายในรถก็มีเสียงครางไม่ได้ศัพท์ดังออกมาในขณะที่ฉู่เฉินกำลังโชว์ศักยภาพของเขาอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของกู้รั่วเสวี่ยก็ดังขึ้นมากะทันหัน ทำเอากู้รั่วเสวี่ยที่กำลังร่วมสงครามรักอยู่นั้นตกใจจนอกสั่นขวัญแขวนอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านก็ถูกดับลงทันทีเธอหอยหายใจผละออกมาจากอ้อมอกของฉู่เฉินเธอมองไปที่ปลายสาย เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ของที่บ้านโทรมา กู้รั่วเสวี่ยก็โกรธขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล“หนูบอกแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าได้รับสิทธิการจำหน่ายมาแล้ว แต่ว่าแบ่งกับหลายบริษัท ไม่มีใครได้ไปแค่คนเดียว!”กู้รั่วเสวี่ยเบ้ปากพูดด้วยความโมโหเวลาสำคัญแบบนี้โทรมาหามันน่ารำคาญจริงๆฝ่ายตรงข้ามสนทนากับกู้รั่วเสวี่ยอีกเพียงแค่มากี่ประโยคก็ตัดสายไป“หึ น่ารำคาญจริงๆ เซ็งหมดแล้วเนี่ย!”กู้รั่วเสวี่ยโยนโทรศัพท์ทิ้งไปด้านข้าง เธอเม้มริมฝีปากแล้วแนะนำขึ้นมาว่า “ฉู่เฉินเย็นนี้มากินข้าวที่บ้านฉันดีไหมคะ ฉันรับรองค่ะว่าครั้งนี้จะไม่ใส่เกลือลงไปเยอะแล้ว” ฉู่เฉินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้พูดขึ้นมาว่า “วันนี้เกรงว่าจะไม่ได้นะครับ ในสถานการณ์งานแถลงข่าววันนี้คุณก็เ
คลับอวิ๋นติ่งเป็นคลับใหม่ที่เพิ่งเปิดไม่นานในเจียงจง เป็นออนเซ็นสุขภาพขนาดใหญ่ที่รวบรวมไว้ทั้งที่พัก อาหาร และความบันเทิงแค่พื้นที่ก็ครอบคลุมไปกว่าหลายพันตารางเมตรหลินชือหย่าพาฉู่เฉินมายังห้องอาบน้ำส่วนตัวในสระน้ำพุร้อนกลางแจ้งในสนาม กลีบดอกไม้ที่โปรยไว้ล่วงหน้า และไฟในห้องก็ปรับเป็นโทนสีอุ่น และอบอุ่นเป็นอย่างมาก“คุณฉู่คะ งั้นฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ เดี๋ยวจะรีบกลับมาค่ะ”พูดจบหลินชือหย่าก็เดินเข้าไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าห้องข้างๆใช้เวลาไม่นานเธอก็สวมเสื้อคลุมอาบน้ำออกมา สวมบิกินี่สีขาวและสีน้ำเงินเท่านั้นอยู่ข้างใต้ ผลักประตูแล้วเดินออกมาในตอนที่เธอปรากฏกายข้างหน้าฉู่เฉินเป็นครั้งที่สอง แม้แต่ฉู่เฉินที่มีประสบการณ์มามากมายก็สายตาลุกวาวขึ้นมาหลินชือหย่าที่มองไปดูเหมือนไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร คิดไม่ถึงว่าเรือนร่างของเธอจะเป็นภัยได้ถึงขนาดนี้?บางทีอาจจะเป็นเพราะหลินชือหย่ามักจะออกกำลังกายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นท้องน้อยหรือขาเรียวยาวขาวสวยนั่นไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยผิวกายขาวเนียนกระชับบั้นท้ายคู่นั้นที่กลมฟูโค้งงอนราวกับลูกท้อที่สุกงอมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ
แม่สาวคนนี้ไม่ธรรมดาเมื่อคิดได้อย่างนั้น ฉู่เฉินก็สนใจในหลินชือหย่ามากยิ่งขึ้น เขาที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาก็พูดขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ตามที่คุณบอกเลยครับ สั่งแชมเปญที่ทำขึ้นเป็นพิเศษมาลองชิมดู”หลินชือหย่ายื่นขวดแชมเปญพร้อมฝาจุกไม้ให้ฉู่เฉิน ขณะที่เธอหยิบน้ำส้มคั้นสดหนึ่งแก้วดื่มไปแค่จิบเล็กๆ พลังวิญญาณในร่างกายของฉู่เฉินก็ปฏิกิริยาขึ้นมาวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ก็โคจรขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ที่แท้ก็ใส่ยาขับเหงื่อจำนวนมากลงไปนี่เองน่าเสียดาย ยาขับเหงื่อนี่ใช้ได้ผลแค่กับคนธรรมดา สำหรับผู้บำเพ็ญพรตแล้วไม่ได้ผลอะไรเลยเมื่อเห็นฉู่เฉินเงยหน้าขึ้นและจิบเข้าไปอึกใหญ่ หลินชือหย่าก็เข้าไปหยุดเขาโดยไม่รู้ตัว แต่สุดท้ายมันก็สายเกินไปฉู่เฉินมองเห็นฉากนี้จากหางตาของเขา และในที่สุดก็รู้สึกใจชื้นเล็กน้อยในใจเธอดูจิตใจดีอยู่นะ เธอกังวลว่าเขาดื่มลงไปในปริมาณเยอะๆ เขาอาจจะเป็นอันตรายได้หลินชือหย่าสังเกตตรวจสอบดูสักพัก เมื่อเห็นว่าฉู่เฉินไม่ได้สลบไป เธอก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจขึ้นมาแต่วินาทีต่อมาเธอนั่งลงอย่างสงบ และใช้ร่องลึกของเธอหนีบแก้วน้ำส้มคั้นไว้แล้วดื่มลงไปเชี่ย!ฉู่เฉินมองไปท
ตั้งแต่เด็กจนโต นอกจากพ่อแล้วก็ไม่เคยมีชายคนไหนเลยที่ได้แตะต้องไหล่ของเธอโดยเฉพาะในห้องที่ชายหญิงอยู่สองต่อสองแบบนี้ อีกทั้งยังเป็นสถานการณ์ที่ทั้งตัวของเธอเปลือยเปล่า หลินชือหย่ากังวลใจเต้นจนแทบจะเต้นมาจนถึงคอหอยแล้วโชคดีที่เธอหันหลังให้ฉู่เฉิน นอนบนโซฟา ไม่อย่างนั้นละก็เธอยอมสละการแลกเปลี่ยนที่ได้ทำกับหลินฟางเจิ้งอย่างแน่นอน“เป็นอะไรไปครับ การนวดนี้จะออกแรงเยอะหน่อยนะครับ คุณไม่โอเคเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองไปด้านข้างที่หลินชือหย่า ดวงตาของเขาค่อยๆ กวาดไปทั่วเรือนร่างที่บอบบางของเธอ“ไม่ค่ะ... เทคนิคของคุณฉู่ดีมากๆ เลยค่ะ เมื่อกี้ฉันแค่รู้สึกว่าตรงไหลชาๆ น่ะค่ะ”เมื่อเห็นว่าหลินชือหย่ากังวลจนพูดไม่เป็นคำ ฉู่เฉินก็ยิ้มออกมาบางๆ โคจรวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ต่อไป ปราณแท้แผ่กระจายไปตามฝ่ามือของฉู่เฉิน และค่อยๆ เข้าสู่ร่างกายของหลินชือหย่าตามมาด้วยความรู้สึกสบายตัวที่ไม่เคยมีมาก่อน หลินชือหย่าที่กังวลจนหัวใจแทบจะเต้นมาถึงคอหอยก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างรวดเร็วความสึกชาๆ ที่เหมือนถูกไฟช็อตนั้นทำให้หลินชือหย่าหยุดไม่ได้“อือ... สบายตัวมากๆ... ลงไปข้างล่างอีกหน่อย...”หลินชือหย่าอดไม่
ปรากฏว่าฉู่เฉินกลับไม่ยอมรับปาก“คุณฉู่ ที่จริงฉันแค่อยากจะขอให้คุณฉู่เปิดโอกาสให้หลินซื่อกรุ๊ปของเราได้แสดงความสามารถบ้าง อีกอย่าง พวกเรายอมยกผลประโยชน์ให้หนึ่งส่วน ถ้าทำอย่างนี้ ทางสำนักเฟิ่งก็คงไม่มีปัญหาอะไรแล้วรึเปล่าคะ?”หลินซือหย่าหงายไพ่ตายของตัวเองและนี่ก็เป็นขีดจำกัดของหลินฟางเจิ้งเช่นกันยกผลประโยชน์ให้หนึ่งส่วน ฟังดูแล้วอาจเป็นแค่เงินจำนวนไม่กี่ล้าน แต่นั่นคือยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเชียวนะ ด้วยความสามารถและเส้นสายของหลินซื่อกรุ๊ป การขายยาบำรุงปราณหลายร้อยเม็ดภายในหนึ่งเดือน เป็นเรื่องที่ง่ายดายเหมือนพลิกฝ่ามือเท่านั้นหากคำนวณตามหลักที่กล่าวไปนี้ ความเสียหายที่หลินซื่อกรุ๊ปต้องพบเจอ เรียกได้ว่ามีมูลค่าสูงเสียดฟ้าทีเดียวฉู่เฉินก้มหน้าเท้าคาง แสร้งทำเหมือนลังเลเล็กน้อย แท้จริงกำลังชื่นชมความงามของหุบเหวลึกตรงหน้าอกของหลินซือหย่าผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงเอ่ยปากด้วยสีหน้าลำบากใจว่า “คุณทำอย่างนี้ผมลำบากใจจริงๆ ผมยังคงพูดคำไหนคำนั้น ผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้เจ้าสำนักเฟิ่งเป็นคนตัดสินใจ”หลินซือหย่าได้ฟังคำตอบก็เริ่มนั่งไม่ติดเธอไม่ทันผูกผ้าขนหนูให้ดี ก็ลุกขึ้นนั่งบน
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า