ฉู่เฉินยิ้มเย็นขณะสาวเท้าเข้าไป กระชากผมของหลิ่วชิงเหอ จับร่างเธอขึงติดกับกระจกใสบานใหญ่“เธออยากให้ฉันตายมากไม่ใช่เหรอ? ฉันขอเตือนให้เธอดูเวลาตอนนี้ให้ดีๆ!”หลิ่วชิงเหอส่ายหน้า พลางออกแรงดันฉู่เฉินออกไป พร้อมกับด่าสาดเสียเทเสียไปด้วย “ไอ้ฉู่เฉิน! ไอ้เดรัจฉาน แกอย่าคิดจะแตะต้อง…”เธอยังพูดไม่ทันจบ เสียงพูดก็เงียบหายไปในทันที!พอเห็นเข็มนาฬิกาชี้ไปที่สามโมงตรง หลิ่วชิงเหอรีบอ้อนวอนทันที “ฉู่เฉิน ฉันขอร้องแกได้ไหม? อีกไม่นานหรูเยียนก็จะกลับมาแล้ว”“ให้ฉันได้รักษาศักดิ์ศรีความเป็นแม่คนไว้หน่อยเถอะ ได้ไหม?”ฉู่เฉินเพียงยิ้มอย่างเย็นชาเป็นคำตอบให้หลิ่วชิงเหอ“เต๊ง เต๊ง เต๊ง!”เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาสามครั้งดังขึ้นจากห้องรับแขก หัวใจของหลิ่วชิงเหอหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม……ในอีกด้านหนึ่ง หลิ่วหรูเยียนเพิ่งจะจบการประชุมช่วงบ่ายของวันนี้ เธอบิดขี้เกียจพร้อมกับหาวกว้างๆ ชุดทำงานสีดำบนตัวถูกเบียดจนเป็นทรงนูนเว้าไปตามการเคลื่อนไหวของเธอหลังจากเก็บกวาดเล็กน้อย หลิ่วหรูเยียนหันไปพูดกับเลขาว่า “หาคนขับส่งฉันกลับบ้านด้วย ฉันเหนื่อยแล้ว”วันนี้เธอยุ่งอยู่ทั้งวัน รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวตอนนี้เ
หลิ่วหรูเยียนได้ยินอย่างนั้น เธอกลับไม่ได้ตกใจเท่าหลิ่วชิงเหอยังไงซะวีดิโอที่ฉู่เฉินรักษาหลินรั่วเวยจนหายก็ได้แพร่ไปทั่วโซเชียลแล้ว แม้จะใช้เส้นสายขนาดไหนก็ไม่สามารถลบชื่อฉู่เฉินออกจากการแข่งขันได้แต่ทว่า ของปลอมไม่มีวันเป็นของจริงได้อยู่แล้ว“เขาก็แค่เข้ารอบแรก ไม่ได้ชนะได้รางวัลซักหน่อย คนที่บริษัทของเราส่งไปต่างหากที่เป็นม้ามืดคว้ารางวัลในครั้งนี้ได้”หลิ่วหรูเยียนพูดอย่างมั่นอกมั่นใจเธอได้ส่งคนไปสืบเรื่องของหลี่จวิ้นเฟิงอย่างลับๆ แล้ว ศิษย์ผู้มีพรสวรรค์จากยอดเขาที่เจ็ดแห่งสำนักหมอเซียน ถึงแม้อายุน้อย แต่ทักษะด้านการแพทย์ไม่ได้ด้อยกว่าฮว่าจิ่วหยางมากนักคนแบบนี้ใช่คนที่จอมลวงโลกอย่างฉู่เฉินเทียบได้เสียที่ไหน?“หลี่จวิ้นเฟิงอะไรนั่นเก่งขนาดนั้นจริงๆ เหรอ?”หลิ่วชิงเหอยังคงมีท่าทีสงสัยต่อเรื่องนี้เธอเคยเห็นความสามารถด้านการแพทย์ของฉู่เฉินมากับตา หนำซ้ำ วีดิโอที่เขารักษาหลินรั่วเวยเธอก็ดูมาไม่ต่ำกว่าสิบครั้งแล้วด้วยไม่ใช่การแสดงอย่างแน่นอนหลิ่วชิงเหอส่งคนไปสืบเรื่องอาการป่วยของหลินรั่วเวยอย่างลับๆ ทุกอย่างเป็นความจริง อีกอย่าง อาการป่วยของหลินรั่วเวยก็หายแล้วจริงๆ“แม
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์จากเซี่ยฉีฉีดังขึ้นฉู่เฉินหยิบมือถือขึ้นมากดรับสาย เสียงอ่อนหวานของเซี่ยฉีฉีดังมาจากปลายสาย “ฉู่เฉิน ว่างไหม? ช่วงนี้ในเมืองเจียงจงมีร้านอาหารส่วนตัวเปิดใหม่ ถ้าไม่มีธุระอะไร ไปกินข้าวกับฉันหน่อยได้ไหม?”ปลายสาย เสียงของเซี่ยฉีฉีสะท้อนแววเขินอายอย่างชัดเจน เห็นได้ว่าเธอยังคงอยู่ในภวังค์หลังจากที่แยกกับฉู่เฉินเมื่อวาน“ได้ คุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปรับ”ฉู่เฉินพยักหน้าทันที“ฉันไปรับคุณดีกว่า รอฉันอยู่นั่นแหละ สิบนาทีก็ถึงแล้ว”พูดจบ เซี่ยฉีฉีก็วางสายไปผ่านไปไม่นาน หน้าประตูบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ก็มีเสียงแตรรถยนต์ดังขึ้นฉู่เฉินเก็บกวาดเล็กน้อย จากนั้นก็กำชับอินซู่ซู่ว่า “จำไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ห้ามสู้กับคนอื่นง่ายๆ ต้องรอฉันกลับมาก่อน เข้าใจไหม?”อินซู่ซู่ได้รับบทเรียนจากหลี่เต้าผิงและกุหลาบเพลิง รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองยังอ่อนหัดเกินไป ไม่มีความสามารถมากพอที่จะช่วยฉู่เฉินแก้ปัญหาต่างๆ ได้ จึงได้แต่พยักหน้าอย่างหนักแน่น “อืม นายท่านวางใจได้ ฉันจะไม่วู่วามอีกแล้ว”ฉู่เฉินถึงได้ผลักประตูและเดินออกไปอย่างวางใจเวลานี้ เซี่ยฉีฉียืนพิงประตูรถโคโรลล่าอยู่ เธอยกมือเสย
ขณะที่เวลานี้ เซี่ยฉีฉีเองก็สัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้ออันกำยำบนตัวของฉู่เฉินด้วยเช่นกันครั้นกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเพศชายลอยเข้ามาในโพรงจมูก หัวใจของเซี่ยฉีฉีเต้นเร็วจนเหมือนจะกระเด็นออกมาเวลานี้ ปากเล็กๆ ของเธออยู่ห่างจากปลายจมูกของฉู่เฉินไม่ถึงหนึ่งนิ้ว และท่าของพวกเขาในตอนนี้ก็ล่อแหลมสุดๆแค่ฉู่เฉินขยับปากเล็กน้อย เขาก็จะสัมผัสโดนกลีบปากที่ทาลิปของเธอแล้วฉู่เฉินสัมผัสได้ถึงความเนียนเด้งและนุ่มลื่นจากผิวของเซี่ยฉีฉี จังหวะลมหายใจเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงผ่านไปสิบกว่าวินาที กว่าเซี่ยฉีฉีจะได้สติกลับมาจากเหตุสะเทือนขวัญเมื่อครู่ เธอหลุบตาต่ำเล็กน้อย ดวงตางามจับจ้องไปที่กลีบปากของฉู่เฉินที่กำลังหอบหายใจหนักๆ ดวงหน้าเรียวงามแดงแปร๊ดจนเหมือนจะมีเลือดหยดออกมาเซี่ยฉีฉีในตอนนี้ งดงามน่าหลงใหลดุจแสงอาทิตย์ยามสายัณห์“ฉู่เฉิน นะ…นายพกอาวุธอะไรมารึเปล่า? เหมือนมีอะไรทิ่มเอวฉันอยู่…”เซี่ยฉีฉีจ้องฉู่เฉินตาไม่กะพริบ“อะแฮ่ม!”ฉู่เฉินหน้าแดงกับคำถามของเธอ เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากปัญหาคือเขาไม่ได้ตั้งใจ แต่สาวงามที่อยู่ตรงหน้ากลับน่าเย้ายวนจนเกินต้านนี่นาถ้าสาวสวยอยู่ตรงหน้า แต
“บริษัทยาเหรอ? งั้นถ้าบริษัทนายอยากทำโลโก้ ฉันช่วยได้นะ บริษัทของเราเชี่ยวชาญเรื่องนี้ อีกอย่างบริษัทใหญ่หลายที่ในมณฑลก็เป็นลูกค้าเก่าของเรา”“ด้านความน่าเชื่อถือและความสวยงาม นายไว้ใจได้เลย”เซี่ยฉีฉีเอ่ยพลางหยิบมือถือขึ้นมา ก่อนจะโชว์โลโก้ที่บันทึกเก็บไว้กว่าหนึ่งร้อยรูปให้ฉู่เฉินดูต้องยอมรับว่า วิสัยทัศน์ด้านความงามของเซี่ยฉีฉีเรียกได้ว่าอยู่ในระดับสูงมากทีเดียวหนำซ้ำมีหลายโลโก้ที่ไม่ว่าจะดูจากด้านแนวคิดการออกแบบ หรือสไตล์การออกแบบ ล้วนไม่แพ้แบรนด์ระดับนานาชาติ!“อืม แน่นอนอยู่แล้ว พอดีเลย เดี๋ยวอีกช่วงหนึ่งบริษัทของเราต้องนำเสนอยาตัวใหม่ ถึงตอนนั้นมอบหมายงานนี้ให้บริษัทของเธอก็แล้วกัน”ฉู่เฉินยิ้มบอกตอนนี้ยาบำรุงปราณยังขายแค่ในตลาดออฟไลน์ ถ้าเป็นที่รู้จักกันในตลาดเมื่อไร เขาก็จำเป็นต้องออกแบบโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้ามอบหมายเรื่องนี้ให้เซี่ยฉีฉี ฉู่เฉินเองก็ค่อนข้างวางใจทีเดียวในตอนนี้เอง จู่ๆ โทรศัพท์ของเซี่ยฉีฉีก็ดังขึ้น ฉู่เฉินกวาดสายตาไปที่หน้าจอ เป็นหมายเลขที่ถูกบันทึกไว้ว่า ‘คุณชายจาง’“ฉีฉี โทรศัพท์เธอน่ะ”ฉู่เฉินยื่นโทรศัพท์ให้ฉู่เฉินโดยไม่พูดอะไรพอเห็นชื่อที
“จางไห่หยาง คุณจะทำอะไร!”เซี่ยฉีฉีเห็นลูกน้องอันธพาลสิบกว่าคนนั้นถือท่อนไม้บ้าง มีดปอกผลไม้บ้าง เธอลุกขึ้นด้วยความตกใจ ก่อนจะดึงฉู่เฉินไปหลบข้างหลัง“ทำอะไรงั้นเหรอ?”จางไห่หยางตวัดสายตาไปที่ฉู่เฉินซึ่งยังคงจิบชาอย่างสงบนิ่งดุจภูเขาไท่ซาน ก่อนจะยิ้มชั่วร้ายและบอกว่า “นางแพศยาเซี่ยฉีฉี ฉันอุตส่าห์ไว้หน้าเธอ แต่เธอกลับไม่เห็นค่ามัน!”“ไสหัวออกไป!”พูดจบ จางไห่หยางก็เอื้อมมือมาจะดึงเซี่ยฉีฉีแต่มือของเขายังไม่ทันสัมผัสโดนแขนของเซี่ยฉีฉี เสียงอันเยือกเย็นก็ดังมาจากข้างหลังของเซี่ยฉีฉีก่อน“ไว้หน้าแล้วใช่ไหม?”“หมาหมู่รุมเห่าหอน ตอนแรกก็ไม่อยากใส่ใจ แต่นี่คิดจะใช้กำลังกันด้วย? ใจกล้ามาจากไหน!”พูดจบ จางไห่หยางยังไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ ฉู่เฉินก็ลุกขึ้น สะบัดฝ่ามือใส่หน้าของจางไห่หยางอย่างแรงเพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือปะทะเข้ากับกกหูดังก้องไปทั่วทั้งห้องจางไห่หยางหน้าอันไปอีกทาง ร่างของเขากระเด็นออกไปไกลถึงสองเมตรกว่า ก่อนที่หัวจะกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรงส่งผลให้หัวแตกเลือดไหลอาบหน้า“คุณชายจาง ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”ลูกน้องสองคนรีบวิ่งเข้าไปประคองจางไห่หยางขึ้นมา“ไอ้เด็กเปรต แกอยากต
ฉู่เฉินหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า ปรมาจารย์ยุทธ์?เฮ้อ เดี๋ยวนี้ปรมาจารย์ยุทธ์เกลื่อนกลาดขนาดนี้แล้วเหรอ?“ได้ แกโทรได้ตามสบาย แต่ฉันขอบอกแกไว้ให้ชัดๆ ตรงนี้เลยนะ ว่าถ้าวันนี้แกไม่ขอโทษเซี่ยฉีฉี ถึงเง็กเซียนฮ่องเต้มาก็ช่วยอะไรแกไม่ได้!”พูดจบ ฉู่เฉินก็ดึงเก้าอี้มานั่งขวางจังก้าอยู่หน้าประตูเห็นฉู่เฉินปิดทางเข้าออกห้องส่วนตัว พวกลูกสมุนของจางไห่หยางตกใจจนแทบฉี่ราดถึงแม้พวกเขาไม่ได้ผ่านโลกมามากมาย แต่พวกเขายังหวาดกลัวฝ่ามือเมื่อกี้ของฉู่เฉินไม่หายความรู้สึกอย่างนั้น เหมือนใช้ท่อนไม้ฟาดใส่ท่อนเหล็ก ฉู่เฉินไม่เพียงไม่เป็นอะไร พวกเขากลับเจ็บจนแขนชาไปหมดคนอย่างนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน!ตระกูลจางมีสายสัมพันธ์กับปรมาจารย์ยุทธ์อยู่จริงๆ แต่ปัญหาคือคนอื่นเขาจะไว้หน้าจางไห่หยางที่เป็นรุ่นลูกของตระกูลจางหรือเปล่าถ้าเชิญปรมาจารย์ยุทธ์มาไม่สำเร็จ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจะมีจุดจบยังไง ดีไม่ดี แม้แต่พวกเขาก็ยังต้องเอาชีวิตน้อยๆ มาทิ้งไว้ที่นี่ด้วย“เหอะ! ไอ้หนู แกรอฉันก่อนเถอะ!”จางไห่หยางพูดจบก็ค้นเบอร์โทรศัพท์และโทรศัพท์ออกทันทีรออยู่นาน กว่าอีกฝ่ายจะรับสายจางไห่หยางร้องคร่ำครวญทันทีที่อีกฝ่ายร
ปรมาจารย์ยุทธ์มาแล้ว!พวกจางไห่หยางดีใจมาก ลูกสมุนที่อยู่ด้านหนึ่งชี้ไปทางประตูใหญ่ และพูดอย่างลิงโลดว่า “คุณชายจาง ปรมาจารย์ยุทธ์โจว เขามาด้วยตัวเองเลยครับ”จางไห่หยางมองตามนิ้วมือของคนคนนั้น เห็นเพียงชายชราผมขาวคนหนึ่งสวมชุดฝึกยุทธ์สีขาวบริสุทธิ์ ผมยาวถึงกลางหลัง ท่าทางสง่างาม ยืนในท่าเอามือไพล่หลัง เขากำลังเดินมาทางนี้โดยมีลูกศิษย์รายล้อมอยู่รอบๆพอเห็นปรมาจารย์ยุทธ์โจวมา จางไห่หยางกลับมามีความมั่นใจขึ้นหลายส่วนแม้อยู่ห่างกว่าหนึ่งร้อยเมตร คำพูดของฉู่เฉินกลับไม่อาจรอดพ้นหูของปรมาจารย์ยุทธ์โจวได้มิหนำซ้ำ เมื่อกี้ปรมาจารย์ยุทธ์โจวยังจงใจสำแดงวิชาขจรเสียงพันลี้อีกด้วย!ปรมาจารย์ยุทธ์ก็ยังเป็นปรมาจารย์ยุทธ์วันยังค่ำ แม้แต่ฉากเปิดตัวก็ยังต้องเว่อร์วังอลังการอย่างนี้!จางไห่หยางที่มีที่พึ่งตวัดสายตามองฉู่เฉินอย่างดูแคลน เขาดึงเก้าอี้มานั่งไขว่ห้าง จากนั้นก็ชำเลืองมองฉู่เฉินด้วยหางตาแววตาของเขาเหมือนกำลังมองเจ้าโง่คนหนึ่งที่ไม่รู้อะไรเลย“ไอ้แซ่ฉู่ แกคงไม่คิดว่าฉันจะเชิญปรมาจารย์โจวมาได้จริงๆ ใช่ไหมล่ะ? จะบอกอะไรให้ นี่แหละอำนาจของเงิน ต่อหน้าตระกูลจางของฉัน ถึงแกจะเป็นมังกรก็ย
หลินเยว่หรูพูดจบก็รูดคีย์การ์ดห้องทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทลั่วหัวเอ๋อร์อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นถึงค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของหลินเยว่หรูว่าต้องการโยนเคราะห์ให้คนอื่น ลั่วหัวเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง .....อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อหลินซานมาถึงเจียงจง ฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยก็เดินออกมาจากทางออกของเมืองชิงหลงที่อยู่ในเจียงจงพอดี เมื่อเห็นฉู่เฉิน หลินซานก็รีบเข้าไปต้อนรับแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉู่ ผมได้รับคำสั่งจากคุณนายให้มารับคุณครับ” ฉู่เฉินมองหลินซานแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุณนาย? คุณนายไหน?”“คุณนายของบ้านชื่อหลินเยว่หรูครับ!”หลินซานรีบแนะนำตัวเองฉู่เฉินถึงค่อยพยักหน้า แล้วจูงมือหลิงเสวี่ยเดินไปยังรถเอสยูวีที่จอดอยู่ทางด้านข้าง“ไปกันเถอะ”ฉู่เฉินจูงหลิงเสวี่ยมานั่งที่เบาะหลัง แล้วออกคำสั่งอย่างเฉยชา หลินซานสตาร์ตรถทันที ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมในชานเมืองปินเฉิน หลายชั่วโมงต่อมา รถก็จอดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม“คุณฉู่ครับ เนื่องจากโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับตระกูลลั่วมากที่สุด ดังนั้นเลยจัดเตรียมห้องเพ
เมื่อลั่วเทียนเต๋อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ลั่วหัวเอ๋อร์ก็อดรู้สึกหนักอึ้งในใจไม่ได้!เธอเคยเจอเจ้าสำนักน้อยคนนั้นแค่ครั้งเดียว แต่ว่าต่อให้เห็นผ่าน ๆ แค่แวบเดียวเท่านั้น เธอก็ดูออกได้ไม่ยากว่า นั่นเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ดูดีแค่ภายนอกตามมาตรฐานเลย ถ้าต้องแต่งกับผู้ชายแบบนั้นจริง ๆ ชีวิตนี้ของเธอมีหวังได้จบสิ้นแล้วไม่ใช่หรือไง?และถ้าครั้งนี้กัวเฟิงช่วยตระกูลลั่วให้ผ่านพ้นวิกฤติได้จริง ๆ เธออยากปฏิเสธการแต่งงานก็คงไม่ได้แล้ว“เจ้าสำนักน้อย? ไอ้กัวเฟิงนั่นมันตัวอะไรกัน! ลูกสาวฉันจะไปแต่งงานกับเขาได้ยังไง!”หลินเยว่หรูกัดฟันกรอด ดึงลั่วหัวเอ๋อร์ให้มาอยู่ด้านหลังตัวเอง ก่อนจะเอามือชี้หน้าลั่วเทียนเต๋อแล้วพูดว่า “ไอ้คนแซ่ลั่ว คุณเป็นคนหาเรื่องเอง เลิกลากพวกเราแม่ลูกเข้าไปเกี่ยวข้องได้แล้ว” พอลั่วเทียนเต๋อได้ยินคำพูดนี้ โทสะก็พุ่งพล่านขึ้นมาเช่นกัน ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “ดี! คุณมันแพศยาไร้ยางอาย รีบไสหัวออกไปจากบ้านตระกูลลั่วเดี๋ยวนี้เลยนะ!”“ไม่ต้องพึ่งตระกูลหลินของพวกคุณ ฉันก็จัดการเรื่องนี้ได้อยู่ดี!” อะไรนะ?หลินเยว่หรูถลึงตาใส่ลั่วเทียนเต๋อ กัดฟันกรอแล้วกล่าวว่า “คุณ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่