ฉู่เฉินแค่นเสียงหัวเราะ มองซ่งหรูเซียนที่กำลังโมโหแวบหนึ่งอย่างเหยียดหยาม “ถ้าอย่างนั้นผมขอเตือนคุณ ให้รีบหารถฉุกเฉินเอาไว้ เพราะว่าอีกเดี๋ยวคุณต้องได้กินหยกลายโลหิตก้อนนี้แน่”“เธอ! ไอ้หนู อวดดีเกินไปแล้ว!” ซ่งหรูเซียนกล่าวอย่างโมโห ชี้นิ้วทางด้านนี้ ฉู่เฉินลุกขึ้น สองมือเท้าสะเอว เดินมาตรงหน้าของปรมาจารย์กัวที่สีหน้าเขียวคล้ำ สายตาอึมครึม พูดพร้อมกับแสยะยิ้ม “ปรมาจารย์กัว คุณจะยอมรับเองตรง ๆ ว่าหยกลายโลหิตนี้เป็นของปลอม หรือว่าจะให้ผมเปิดโปงคุณดีล่ะ?”ปรมาจารย์กัวที่ตาตี่จมูกโด่งคนนั้น ดวงตาเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เชิดหน้าขึ้น กล่าวอย่างเหยียดหยาม “ไอ้หนู เธอหมายความว่ายังไง?”“หยกลายโลหิตก้อนนี้ของฉัน เป็นหยกโบราณชั้นยอด เป็นของวิเศษที่ผู้วิเศษท่านหนึ่งทำขึ้น”“คิดว่าทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ก็สัมผัสได้ถึงความไม่ธรรมดาของหยกลายโลหิตก้อนนี้ใช่ไหมล่ะ? ทำไมพอเป็นเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเธอพูด ก็กลายเป็นของปลอมไปได้ซะล่ะ?”“ในเมื่อเธอพยายามจะบอกว่าหยกลายโลหิตก้อนนี้เป็นของวิเศษปลอม ถ้าอย่างนั้นฉันก็อยากเห็นนักว่า เธอจะพิสูจน์ยังไง!”กัวหกนิ้วหรี่ดวงตา สายตาเย็นชาเล็กน้อย เต็ม
ฉู่เฉินไม่สนใจ กล่าวต่อ “ความรู้สึกแบบนี้ เป็นเพียงแค่ค่ายกลฮวงจุ้ยขนาดเล็กที่สร้างขึ้นไว้ในหยกลายโลหิตเท่านั้น ดูดซับพลังวิญญาณของเรือนและในห้องโถง กลายเป็นรัศมีฮวงจุ้ยที่พิเศษแบบหนึ่ง”“เมื่อคนธรรมดาอยู่ท่ามกลางนั้น จะรู้สึกเหมือนว่าร่างกายได้รับพลังวิญญาณ เหมือนว่าอยู่ในแดนสวรรค์”“ปรมาจารย์กัว ผมพูดถูกไหม?”ฉู่เฉินยิ้มจาง ๆ หันไปมองสีหน้าของกัวหกนิ้วที่คร่ำเครียดไปในทันทีก่อนหน้านี้ ฉู่เฉินเองก็เกือบถูกหยกลายโลหิตก้อนนี้หลอกลวงโชคดีที่เขาเปิดเนตรมังกรเพื่อมองทะลุแก่นแท้ เพียงแวบเดียวก็มองเห็นปัญหาภายในจนทะลุปรุโปร่งแล้วปรมาจารย์กัวที่มาจากเซียงเจียงคนนี้ ถือว่าพอมีความสามารถอยู่บ้างแต่ก็เป็นเพียงแค่วิชาลึกลับฮวงจุ้ย เพียงผิวเผินเท่านั้นค่ายกลฮวงจุ้ยประเภทนี้ อย่างมากก็คงอยู่ได้เป็นเวลาหนึ่งวันหลังจากหนึ่งวัน ก็จะเสื่อมลงไปเองหลอกถังจิ้งจือกับหวังคุนเจ้าใหญ่นายโตที่ไม่มีความรู้เรื่องวิชาฮวงจุ้ย และพวกเศรษฐีใหม่ยังพอไหว เมื่อเรื่องแดง คนพวกนี้ก็จะค้นพบว่าถูกหลอก ปรมาจารย์กัวผู้นี้ก็หอบเงินหนีไปไกลแล้วตั้งนานแล้ว“พูดจาเหลวไหล! ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไรเลยสักนิด!”
กัวหกนิ้วสีหน้าบิดเบี้ยว ขมับเต้นตุบ ๆเผาไฟ?ทันทีที่เผาไฟ เรื่องของหลอกลวงของเขาก็ต้องถูกเปิดโปง“ทำไม ปรมาจารย์กัวไม่กล้าใช่ไหม?” ฉู่เฉินถามพร้อมแสยะยิ้มกัวหกนิ้วพ่นลมหายใจอย่างเหยียดหยาม กล่าว “ไอ้เด็กเมื่อวานซืน พูดจามั่วซั่วไม่คำนึงถึงความจริง! ทำไมถึงต้องเชื่อเธอที่บอกว่าให้เอาไปเผาไฟแล้วต้องทำตาม? ฉันเป็นปรมาจารย์จากเซียงเจียง เป็นบุคคลที่มีหน้ามีตา ทำไมถึงต้องสร้างเรื่องหยกปลอมของวิเศษปลอมอะไรพวกนี้ด้วย?”“ในเมื่อพวกคุณไม่เชื่อ ก็ช่างเถอะ วันนี้ หยกลายโลหิตก้อนนี้ ผมเอากลับไปเองแล้วกัน”ในขณะที่พูด กัวหกนิ้วก็เริ่มเก็บของ เตรียมจะหนีในเวลานี้ เจ้าใหญ่นายโตหลายท่านที่อยู่ในห้องโถง ต่อให้โง่แค่ไหนก็ได้สติกลับคืนมาแล้วนี่คือกำลังจะเตรียมตัวหนีแล้วนี่!“ปรมาจารย์กัว อยากจะไปย่อมได้ แต่เอาของไว้!” ถังจิ้งจือกล่าวเสียงเย็นเยียบกล้ามาหลอกตนถึงที่ รนหาที่ตาย!ในเวลานี้ กัวหกนิ้วเหงื่อแตกเต็มจนหลังเปียกชุ่ม สีหน้าอึมครึมสุดขีดเขาโกรธเกรี้ยว จ้องฉู่เฉินเขม็ง เพลิงโทสะระเบิดอยู่ในใจตนอุตส่าห์แต่งเรื่องราวขึ้นอย่างลำบากลำบน แต่ดันมาถูกไอ้เด็กนี้ทำลายเสียได้...น่ารังเก
ในเวลานี้ กัวหกนิ้วจ้องฉู่เฉินด้วยสายตาดุร้าย ใบหน้าเต็มไปด้วยความชั่วร้าย กล่าว “ไอ้หนู! เธอทำลายเรื่องดีของฉัน วันนี้ ฉันจะเก็บวิญญาณของเธอไว้ในธงหมื่นวิญญาณ ให้เธอไม่ได้ไปผุดไปเกิดตลอดไป!”“ดีเลย แล้วก็ให้มดแมลงอย่างพวกคุณได้เปิดหูเปิดตา ว่าอะไรเรียกว่าของวิเศษที่แท้จริง!”ทันทีที่พูดจบ กัวหกนิ้วยกมือขึ้นแล้วสะบัด ชักธงเล็กหน้าตาแปลกประหลาดสีดำผืนหนึ่งออกมาจากบริเวณเอว สีดำทั้งผืน มีหมอกสีดำที่น่ากลัวพวยพุ่งออกมา ด้านบนยังมีสัญลักษณ์และตัวหนังสือหน้าตาประหลาดต่าง ๆ อยู่บนนั้นอีกด้วย‘วืด!’กัวหกนิ้วสะบัดธงหมื่นวิญญาณ หมอกสีดำก็พวยพุ่งออกมาจากด้านในเสียงดังวืด ๆภายในชั่วพริบตา อุณหภูมิภายในห้องโถง ก็ลดลงจนถึงจุดเยือกแข็ง!ทุกคนรู้สึกหนาวไปทั่วทั้งตัว ราวกับตกลงไปในหุบเขาน้ำแข็งไม่นานนัก ด้านบนของห้องโถงก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำหลายกลุ่มก้อน มองดูน่าขนลุก และน่าหวาดกลัวมาก“ไอ้หนู! ของวิเศษชิ้นนี้เรียกว่าธงหมื่นวิญญาณ สามารถกลืนกินวิญญาณชั่วร้าย และขับไล่ผีได้ทุกประเภท! การที่ถูกของล้ำค่านี้ดูดกลืนเข้าไป ก็จะกลายเป็นผีหุ่นเชิด ก็จะเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจของเธอไปชั่วชีวิต”
อะไรนะ?ทุกคนภายในห้องโถง สายตาจ้องเขม็ง หันไปมองฉู่เฉินพร้อมกับหยุดหายใจไอ้เด็กนี่พูดอะไร?คาถาที่แท้จริง?เขาเป็นคาถาด้วยเหรอ?ขี้โม้ละมั้ง!หวังคุนสีหน้าเคร่งขรึม กล่าวถามอย่างตื่นเต้น “ปรมาจารย์ซ่ง คุณมีความเห็นว่ายังไง? คนสมควรตายอย่างฉู่เฉิน สามารถต่อกรกับกัวหกนิ้วได้จริงไหมครับ?”ซ่งหรูเซียนหัวเราะอย่างชั่วร้าย สีหน้าดูถูกเหยียดหยาม “ผู้นำตระกูลหวัง ไอ้เด็กนั่นก็แค่เสแสร้งอยากจะได้ความสนใจจากทุกคนเท่านั้น”“คาถาไล่ผีของปรมาจารย์กัว เป็นคาถามนต์ดำที่มีชื่อเสียงของทางเซียงซี! ไม่มีใครสามารถทำลายได้!” “อีกอย่าง ธงหมื่นวิญญาณในมือของเขา มองแวบเดียวก็ไม่ใช่ของของวิเศษธรรมดา ๆ”“สำหรับไอ้หนุ่มอย่างฉู่เฉิน เป็นเรื่องที่ง่ายดาย”“คอยดูเถอะ อีกไม่นานหรอก ไอ้เด็กนั่นก็จะถูกดูดเข้าไปอยู่ในธงหมื่นวิญญาณ กลายเป็นเลือด!”เมื่อได้ฟังแบบนี้ หวังคุนก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ ยิ้มอย่างเหยียดหยามด้วยสีหน้าดุร้าย“แบบนี้เยี่ยมเลย!”หวังคุนยิ้มชั่วร้ายแน่นอนว่าเขาอยากให้ฉู่เฉินตายจนทนแทบไม่ไหวแล้วไอ้เด็กนี่ กล้าหลอกลวงเขา ก็คือการรนหาที่ตาย!ทางด้านนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดร้าย ก
ฉู่เฉินถามอีกครั้ง “วันนี้ ผมทำลายคาถามนต์ดำของคุณ คุณยอมไหม?”“ยอม! ผมยอมแล้วจริง ๆ!” กัวหกนิ้วโขกหัวพร้อมกล่าวเสียงดัง ตกใจจนตัวสั่นระริกฉู่เฉินถามอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นธงหมื่นวิญญาณผืนนี้ เป็นของผม คุณยอมไหม?”“หา?”กัวหกนิ้วตกใจ แหงนหน้ามอง พบว่าฤทธิ์อัสนีบาตรในดวงตาของฉู่เฉินยังคงหลงเหลืออยู่ ตกใจจนพยักหน้ารัว ๆ “ยอม ๆ ๆ! ธงหมื่นวิญญาณผืนนี้ ถือว่าเป็นค่าชดใช้ของศิษย์ แสดงความกตัญญูต่อปรมาจารย์ฉู่”ฉู่เฉินถึงได้พยักหน้าอย่างพอใจ ยกมือขึ้นโบก ขจัดพลังอัสนีบาตบนตัวออกไปจี้หยกขาวที่ลอยอยู่กลางอากาศ เมื่อเสียการสนับสนุนของคาถาอาคม ก็ตกลงมาอยู่ในมือของฉู่เฉินเขาจ้องมองกัวหกนิ้วที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสายตาเมินเฉย กล่าวเสียงเย็นชา“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นวันนี้จะไว้ชีวิตคุณสักครั้ง! วันหลัง ถ้าหากให้ผมเห็นว่าคุณแอบอ้างชื่อเสียงหลอกชาวบ้านอีก ผมจะทำลายรากเต๋าของคุณ แล้วฆ่าแกทิ้งซะ!”สะอึก!กัวหกนิ้วตกใจจนขนลุกซู่“ครับ ๆ ๆ สิ่งที่ปรมาจารย์ฉู่สั่งสอน ศิษย์จำไว้ขึ้นใจแล้ว” กัวหกนิ้วรีบโขกหัวพร้อมกล่าวเสียงดังจากนั้น เขารีบลุกขึ้น กำลังจะหนี“เดี๋ยวก่อน!”ทันใดนั้น
ซ่งหรูเซียนตกใจจนเข่าแทบทรุด สีหน้าย่ำแย่สุดขีด เขาพูดตะกุกตะกัก “คือว่า คุณหนูใหญ่กู้ เมื่อกี้ผมก็แค่พูดเล่น”“พูดเล่น?”ดวงหน้าเรียวงามของกู้รั่วเสวี่ยแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ปรมาจารย์ซ่ง ถ้าฉันบอกว่าฉันจะทำให้คุณไม่มีที่ยืนในวงการนี้ คุณยังคิดว่าฉันพูดเล่นหรือไม่?”เฮือก!ซ่งหรูเซียนตกใจหน้าซีด ตัวสั่นสะท้านท่าทางของกู้รั่วเสวี่ยไม่เหมือนกำลังพูดเล่นสักนิดหนำซ้ำ อำนาจของตระกูลกู้สามารถเล่นงานเขาได้อย่างง่ายดายพอได้ยินดังนั้นซ่งหรูเซียนก็ตกใจ รีบคุกเข่าบนพื้นดังตุบ โขกศีรษะตะโกนว่า “คุณหนูใหญ่กู้ ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดเมตตา ปล่อยผมไปสักครั้งเถอะ ถ้ากินต่อไป ผมต้องตายแน่ๆ...”ซ่งหรูเซียนได้สติ รีบหันไปทางฉู่เฉินซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือ รีบโค้งหัวตะโกนว่า “สหายฉู่ ไม่ๆๆ ปรมาจารย์ฉู่ ขอร้องล่ะ โปรดเมตตาปล่อยผมไปสักครั้งเถอะนะ”“นับตั้งแต่วันนี้ ผมซ่งหรูเซียนไม่มีทางเหยียบเข้ามาในเจียงจงอีกแม้แต่ครึ่งก้าว!”“หากที่ใดมีปรมาจารย์ฉู่อยู่ ผมซ่งหรูเซียนจะถอยห่างสิบลี้!”ฉู่เฉินยิ้มเยาะ ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ขออภัย ผมเป็นคนที่ถือคติหากมีเหตุผลมากพอก็จะไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครหน้าไหน
ฉู่เฉินสีหน้าเรียบเฉย เขาไม่ได้พูดอะไรถังจิ้งจือเห็นดังนั้นก็ร้อนใจ เขากัดฟัน ก่อนจะคุกเข่า และอ้อนวอนว่า“ปรมาจารย์ฉู่ ก่อนหน้านี้ผมล่วงเกิน ปรมาจารย์ได้โปรดเมตตา หวังว่าจะช่วยผมและตระกูลถังสักครั้ง หากยอมช่วยครั้งนี้ ผมและตระกูลถังจะไม่ลืมบุญคุณ!”ฉู่เฉินยังคงไม่พูดอะไรกู้รั่วเสวี่ยกระซิบเบาๆ“พี่ฉู่เฉิน ท่านถังเป็นคนดี หลายปีมานี้เขาทำบุญกุศลมากมาย อีกอย่าง พี่ก็เพิ่งเปิดบริษัทไม่ใช่เหรอ ตระกูลถังก็มีธุรกิจด้านยาอยู่เหมือนกัน น่าจะเป็นประโยชน์กับพี่นะ”พอได้ยินดังนั้นฉู่เฉินก็พยักหน้า “ก็ได้ เห็นแก่หน้ารั่วเสวี่ย ผมจะช่วยคุณเอง”“จริงเหรอ? ขอบคุณปรมาจารย์ฉู่!” ถังจิ้งจือดีใจเกินคาดจากนั้น ทั้งสามก็มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ตระกูลถังส่วนผู้นำตระกูลจ้าว หลังจากถังจิ้งจือกลับออกไป เขาก็ถูกจับมัดออกจากลานบ้าน และโยนใส่กระโปรงท้ายรถของรถคันหนึ่งผู้นำตระกูลจ้าวร้องอ้อนวอนเสียงดังทะลุฟ้า “ท่านถัง ไว้ชีวิตผมด้วย ต่อไปผมไม่กล้าอีกแล้ว…”……ไม่นาน รถยนต์ได้เคลื่อนตัวเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลถังคฤหาสน์ทั้งหลัง ดูเหมือนจวนอ๋องในสมัยโบราณ ใหญ่โตมโหฬาร“ปรมาจารย์ฉู่ เชิญ”ถังจิ้งจือลงจาก
ชายหนุ่มหญิงสาวเหล่านี้แต่ละคนล้วนมีกลิ่นอายของผู้บำเพ็ญเพียร ต่อให้เป็นคนที่มีพลังฝึกปรืออ่อนด้อยที่สุดก็มีพลังฝึกปรือราว ๆ ระดับหลอมปราณชั้นแปดต่อให้เป็นปรมาจารย์ที่สามารถสั่นคลอนทั้งเมือง เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขาก็ไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึงเลย และตู้หรงเฉิงก็เป็นตัวตนที่อยู่จุดสูงสุดในกลุ่มพวกเขา ด่าตู้หรงเฉิงก็เท่ากับด่าพวกเขาทุกคน!สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาดูไม่ออกจริง ๆ ว่าฉู่เฉินมีอะไรโดดเด่นเหนือคนอื่น ราวกับว่าไม่มีแม้กระทั่งคลื่นพลังลมปราณเลยสักนิดดัยว คนธรรมดาคนหนึ่งถึงกับกล้าสบประมาทผู้บำเพ็ญเพียรเนี่ยนะ? “ไอ้หนู คุณบ้าดีเดือดมากเลยนะ”ตู้หรงเฉิงหรี่ตา ลมปราณระดับสร้างรากฐานชั้นหนึ่งรอบกายพลันระเบิดออกมา พรืด!หลิงเสวี่ยที่นั่งอยู่ข้างฉู่เฉินเห็นแบบนั้นก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมาทันทีระดับสร้างฐานชั้นหนึ่งก็ไม่เลวจริง ๆ แต่นั่นต้องดูด้วยว่าเทียบกับใคร อย่าว่าแต่ฉู่เฉินเลย แค่เธอก็สามารถตบตู้หรงเฉิงให้ตายได้ในฝ่ามือเดียว! เพียงแต่ว่า ตอนที่ออกจากโลกแห่งการหยั่งรู้ ฉู่เฉินใช้ยันต์ซ่อนวิญญาณเก็บซ่อนลมปราณของพวกเธอสองคนไว้ ดังนั้นดูแล้วถึงไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาต้องพูดว
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา หลินซานก็อึ้งไปด้านหนึ่งคือหลินเยว่หรูกับลั่วหัวเอ๋อร์เข้าพักแล้ว อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินก็เป็นแขกผู้มีเกียรติที่หลินเยว่หรูเชิญมาจะปล่อยให้ฉู่เฉินถูกเมินตรงนี้ไม่ได้หรอกใช่ไหม?แต่ตู้หรงเฉิงคนนี้ หลินซานเองก็ล่วงเกินไม่ไหวเช่นกันต่อให้เป็นตระกูลหลินก็ต้องไว้หน้าตระกูลตู้เล็กน้อย ถึงอย่างไรคนหนุนหลังของตระกูลตู้ก็แข็งแกร่งไม่ธรรมดาพอเห็นหลินซานอึ้งอยู่กับที่ ตู้หรงเฉิงก็เอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยว่า “ว่ายังไง ลูกน้องตระกูลหลินอย่างคุณกล้าไม่ไว้หน้าผมด้วยเหรอ?” เมื่อคำพูดนี้ออกมา กลุ่มชายหนุ่มหญิงสาวที่อยู่รอบ ๆ ก็พากันมองไปทางหลินซานด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ในขณะเดียวกัน ชายร่างกำยำที่แต่งกายทะ มัดทะแมงไว้ผมเกรียนคนหนึ่งก็มองหลินซานอย่างพิจารณาด้วยสายตาเย็นชาหลังจากสิ้นเสียงของตู้หรงเฉิง“คุณชายตู้เข้าใจผิดแล้วครับ ผะ...ผมแค่...”ในตอนนี้เอง ชายร่างท้วมวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินลงมาจากชั้นสอง ก่อนจะเอ่ยตัดบทหลินซานว่า “ท่านทั้งหลาย เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ?”ตู้หรงเฉิงหันหน้าไปมองชายวัยกลางคนแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งเล็กน้อยว่า “คุณเป็นเจ้าของ
หลินเยว่หรูพูดจบก็รูดคีย์การ์ดห้องทันที ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทลั่วหัวเอ๋อร์อึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นถึงค่อยเข้าใจจุดประสงค์ของหลินเยว่หรูว่าต้องการโยนเคราะห์ให้คนอื่น ลั่วหัวเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อยแล้วค่อยเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง .....อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อหลินซานมาถึงเจียงจง ฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยก็เดินออกมาจากทางออกของเมืองชิงหลงที่อยู่ในเจียงจงพอดี เมื่อเห็นฉู่เฉิน หลินซานก็รีบเข้าไปต้อนรับแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มว่า “คุณฉู่ ผมได้รับคำสั่งจากคุณนายให้มารับคุณครับ” ฉู่เฉินมองหลินซานแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “คุณนาย? คุณนายไหน?”“คุณนายของบ้านชื่อหลินเยว่หรูครับ!”หลินซานรีบแนะนำตัวเองฉู่เฉินถึงค่อยพยักหน้า แล้วจูงมือหลิงเสวี่ยเดินไปยังรถเอสยูวีที่จอดอยู่ทางด้านข้าง“ไปกันเถอะ”ฉู่เฉินจูงหลิงเสวี่ยมานั่งที่เบาะหลัง แล้วออกคำสั่งอย่างเฉยชา หลินซานสตาร์ตรถทันที ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมในชานเมืองปินเฉิน หลายชั่วโมงต่อมา รถก็จอดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม“คุณฉู่ครับ เนื่องจากโรงแรมนี้อยู่ใกล้กับตระกูลลั่วมากที่สุด ดังนั้นเลยจัดเตรียมห้องเพ
เมื่อลั่วเทียนเต๋อเอ่ยคำพูดนี้ออกมา ลั่วหัวเอ๋อร์ก็อดรู้สึกหนักอึ้งในใจไม่ได้!เธอเคยเจอเจ้าสำนักน้อยคนนั้นแค่ครั้งเดียว แต่ว่าต่อให้เห็นผ่าน ๆ แค่แวบเดียวเท่านั้น เธอก็ดูออกได้ไม่ยากว่า นั่นเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ดูดีแค่ภายนอกตามมาตรฐานเลย ถ้าต้องแต่งกับผู้ชายแบบนั้นจริง ๆ ชีวิตนี้ของเธอมีหวังได้จบสิ้นแล้วไม่ใช่หรือไง?และถ้าครั้งนี้กัวเฟิงช่วยตระกูลลั่วให้ผ่านพ้นวิกฤติได้จริง ๆ เธออยากปฏิเสธการแต่งงานก็คงไม่ได้แล้ว“เจ้าสำนักน้อย? ไอ้กัวเฟิงนั่นมันตัวอะไรกัน! ลูกสาวฉันจะไปแต่งงานกับเขาได้ยังไง!”หลินเยว่หรูกัดฟันกรอด ดึงลั่วหัวเอ๋อร์ให้มาอยู่ด้านหลังตัวเอง ก่อนจะเอามือชี้หน้าลั่วเทียนเต๋อแล้วพูดว่า “ไอ้คนแซ่ลั่ว คุณเป็นคนหาเรื่องเอง เลิกลากพวกเราแม่ลูกเข้าไปเกี่ยวข้องได้แล้ว” พอลั่วเทียนเต๋อได้ยินคำพูดนี้ โทสะก็พุ่งพล่านขึ้นมาเช่นกัน ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “ดี! คุณมันแพศยาไร้ยางอาย รีบไสหัวออกไปจากบ้านตระกูลลั่วเดี๋ยวนี้เลยนะ!”“ไม่ต้องพึ่งตระกูลหลินของพวกคุณ ฉันก็จัดการเรื่องนี้ได้อยู่ดี!” อะไรนะ?หลินเยว่หรูถลึงตาใส่ลั่วเทียนเต๋อ กัดฟันกรอแล้วกล่าวว่า “คุณ
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้