ฉู่เฉินมองหยางเทียนหลงที่คุกเข่าลงตรงหน้าแล้วเอ่ยพลางหัวเราะหยันว่า “ถ้าเกิดผมขุดหลุมศพบรรพบุรุษตระกูลหยางของพวกคุณ แล้วค่อยขอโทษคุณอีกที คุณคิดว่ายังไงบ้าง?”หยางเทียนหลงอึ้งไปกับคำถามของฉู่เฉิน เงยหน้าขึ้นอย่างตกตะลึงก่อนจะมองฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ ผมคุกเข่าให้คุณแล้ว คุณยังอยากให้ตระกูลหยางทำอะไรอีก!” ฉู่เฉินส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “ขอโทษด้วยครับ บางทีในสายตาของคนอื่น เข่าของคุณอาจจะมีค่ามาก แต่ในสายตาของผมฉู่เฉิน มันไม่มีค่าแม้แต่สตางค์เดียว” “ลูกชายคุณทำให้ผมเสียเวลามากขนาดนี้ คุณคิดว่าเวลาของผมไม่มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?”ฉู่เฉินกล่าวจบก็เล่าเรื่องการเดิมพันกับหยางเส้าหัวให้ฟังรอบหนึ่ง จากนั้นถึงค่อยตบไหล่ของหยางเทียนหลงเบา ๆ แล้วพูดว่า “เอาแบบนี้ละกัน ให้ตระกูลหยางของพวกคุณออกเงินค่ารถทั้งหมด”“ส่วนเรื่องที่เขาทำให้ผมเสียเวลาตลอดทั้งบ่าย ตระกูลหยางของพวกคุณจ่ายเงินห้าพันล้านก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรสินะ?”ตูม!ไม่ใช่แค่ทุกคนในที่แห่งที่นี้รู้สึกมึนงง แม้แต่หยางเทียนหลงก็รู้สึกว่าสมองไม่พอใช้นิดหน่อยแล้ว งานนี้ฉู่เฉินไม่ได้เสียเงินเลยสักแดงเดียว แต่ได้อวดเบ่งยกใหญ่ ห
สุดท้ายก็เหลือเพียงนางแบบสาวเซ็กซี่ข้างกายหยางเส้าหัวเท่านั้น เธอมองฉู่เฉินด้วยสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูกแล้วพูดอ้อนวอนว่า “คุณฉู่ ฉะ...ฉันเป็นผู้หญิง ไม่กลิ้งไปได้ไหมคะ?”ฉู่เฉินกวาดตามองขาสวยเรียวยาวคู่นั้นแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าไม่กลิ้งไป ขาสวย ๆ สองข้างนี้ของคุณอาจจะไม่ได้เป็นของคุณอีกต่อไปแล้วก็ได้นะครับ” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ นางแบบสาวเซ็กซี่ก็ร้องไห้โฮออกมา“ล้อเล่นน่า คุณไปเถอะครับ”ฉู่เฉินโบกมือให้นางแบบสาวเซ็กซี่ จากนั้นก็หันตัว สายตาเย็นชาทอดมองไปยังเชอฮุยเมื่อเห็นสายตาเย็นเยียบของฉู่เฉิน เชอฮุยก็ตกใจกลัวจนหดคอ ค่อย ๆ ถอยไปทางฝูงชนอย่างไรก็ตาม ผู้คนรอบด้านหลบไปทางด้านข้างทันที ทิ้งเขาไว้ตรงกลางวง“ผู้จัดการเชอใช่ไหม?”ฉู่เฉินยิ้มพลางมองไปทางเชอฮุยเมื่อได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยเลศนัยของฉู่เฉิน เชอฮุยก็ใจสั่นแล้วคุกเข่าลงไปดังตุบ“คุณฉู่ ขะ...ขอโทษด้วยครับ ทั้งหมดเป็นเพราะผมมีตาแต่ไร้แวว ไม่รู้จักภูเขาไท่ซาน คุณถือเสียว่าผมเป็นแค่ผายลม ปล่อยผมไปเถอะครับ”เชอฮุยกล่าวจบก็โขกศีรษะดังปึก ๆๆแม้แต่พ่อลูกตระกูลหยางก็ถูกฉู่เฉินจัดการจนน่าอนาถถึงเพียงนั้น แล้วเขาจะนับเ
“เอ่อ...”เจียงหย่วนอึ้งไปสักพัก แต่เขาก็ยังพยักหน้า “โอเคครับ งั้นผมไม่รบกวนคุณฉู่แล้วครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ”พูดจบ เจียงหย่วนก็วิ่งไปถนนอีกฝั่งอย่างรู้ตัวในตอนนั้นเอง พนักงานจากโรงงานรถขับรถเคอนิกเส็กก์ วัน มาจอดตรงหน้าฉู่เฉิน“คุณฉู่ นี่เป็นกุญแจรถของคุณครับ”พนักงานยื่นกุญแจให้ฉู่เฉินอย่างมีมารยาท“มอบให้คุณผู้หญิงคนนั้นเถอะ”ฉู่เฉินชี้ไปที่เย่ชิ่นเหยียนที่ยืนอยู่ข้างๆ“คุณฉู่คะ ของขวัญราคาแพงขนาดนี้ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ อีกอย่างระ... รถของฉันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังสามารถใช้ได้อยู่เลยค่ะ” เย่ชิ่นเหยียนลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด รถหรูราคากว่าห้าพันล้าน เธอไม่กล้าขับจริงๆ “ของที่ผมให้ไปแล้ว ผมไม่เอาคืนหรอกนะครับ หากคุณไม่ชอบก็เอาไปขายทิ้งให้โรงงานรถเก่าก็ได้ครับ”ฉู่เฉินพูดอย่างเฉยเมย“ฮะ?”เย่ชิ่นเหยียนตกใจมากจริงๆ รถหรูกว่าห้าพันล้าน ไม่ได้ขับเลยด้วยซ้ำ เขาจะให้เธอเอาไปขายให้โรงงานรถเก่างั้นเหรอ?ฉู่เฉินถือกุญแจรถไว้ในมือพร้อมยิ้มบางๆ หลังจากนั้นก็ยัดมันเข้าไปที่มือของเย่ชิ่นเหยียน“รับไว้เถอะครับ”เย่ชิ่นเหยียนถูกฉู่เฉินจับมือเล็ก ทำเอาหัวใจแทบจะทะลักมาที่คอหอย
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้ฉู่เฉินอดนึกถึงกลอนโบราณบทหนึ่งที่ว่า จอดม้าชมป่าสนยามพลบค่ำ เมื่อถึงคราวสองยามเสียงระฆังก็ดังสนั่นมายังเรือใบไม้ปลิดปลิวร่วงลงมา มันก็บดบังสะโพกขาวเนียนที่โผล่ให้เห็นตรงกระจกรถพอดีฉู่เฉินยื่นมือเข้าไปกดที่เอวเล็กของเย่ชิ่นเหยียน ค่อยๆ กดให้เธอนั่งทับลงมาตรงๆตามมาด้วยเสียงลมหายใจหอบถี่ รอบๆ ราวกับว่าทุกอย่างหยุดลงแม้ว่าพื้นที่ในรถจะแคบ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อท่าทางร่ายรำของเย่ชิ่นเหยียนแฉะแฉะจริงๆความเร่าร้อนและร้อนแรงของเย่ชิ่นเหยียน ทำให้ฉู่เฉินกระปรี้กระเปร่าไม่หยุด......อีกด้านหนึ่ง หยางเส้าหัวที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาล เขาเจ็บเหมือนจะตายจนถึงตอนที่หมอเวรดึกฉีดยาชาให้เขาไป อารมณ์ของหยางเส้าหัวถึงค่อยๆ สงบขึ้น“พ่อ! เรื่องวันนี้ปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้นะครับ!”เมื่อหวนนึกถึงเมื่อกี้ พวกเขาสองคนพ่อลูกที่ได้รับคำดูถูกเหยียดหยามจากฉู่เฉิน หยางเส้าหัวอยากจะฉีกฉู่เฉินออกเป็นชิ้นๆ กินเลือดกินเนื้อของฉู่เฉินให้เกลี้ยง!หยางเทียนหลงที่ยืนหน้าแดงก่ำอยู่ตรงข้างๆ หน้าต่าง ก็กัดฟันกรอดพูดขึ้นมาว่า “แน่นอนว่าปล่อยไปไม่ได้อยู่แล้ว!”“ไอ้แซ่ฉู่นั่นทำเรื่อง
“แค่ก...”หยางเส้าหัวแววตาเต็มไปด้วยงุนงง เขาไม่อยากจะเชื่อสาวงามที่สวมชุดคนใช้ตรงหน้า ร่างกายของเขาสูญเสียพลังชีวิตไปเรื่อยๆ อาการชักก็ตามมาอัตโนมัติแม้ว่าภายในใจของเขาจะเต็มไปด้วยคำว่าทำไม แต่คอของเขาถูกมีดปอกผลไม้แทงจนทะลุหมดแล้วคอของเขาเต็มไปด้วยฟองเลือด เขาทำได้แต่เพียงส่งเสียงอึกอัก ไม่แม้แต่จะแปลงคำพูดออกมาได้“คุณฉู่ให้ฉันมาเยี่ยมคุณ คุณชายหยางความจำคงไม่แย่ขนาดนั้นใช่ไหมคะ?”ระหว่างที่พูดสาวงามก็ถอดหมวกบนหัวออก สะบัดผมสีแดงไวน์สยายออกมาหยางเส้าหัวมองเห็นลอนผมตรงหน้าผาก และรอยแดงที่เผยให้เห็นของหญิงคนนั้นอย่างชัดเจนแล้ว ม่านตาของเขาก็หดลงอย่างควบคุมไม่ได้ นี่มันหนึ่งในสองพี่น้องสาวงามนี่!ไม่ผิดแน่ คนที่มาก็คือกุหลาบเพลิง!เผชิญหน้ากับนักฆ่าชั้นยอดแบบนี้ อย่าพูดถึงหยางเส้าหัวเลย แม้แต่ประมุขของประเทศในแถบแอฟริกาก็ยังไม่สามารถหนีรอดไปได้“อั่ก...”ร่างกายของหยางเส้าหัวชักอย่างรุนแรง หลังจากนั้นก็แน่นิ่งไปกุหลาบเพลิงเข้าไปทดสอบลมหายใจของหยางเส้าหัวดู หลังจากนั้นเธอก็เผยให้เห็นรอยยิ้มชวนหลงใหล เธอควักกุหลาบสีแดงเพลิงออกมาจากหน้าอกอันอวบอั๋น หลังจากนั้นก็ยื่นเข้าไป
“ไม่เป็นไรครับ อ้อ บริษัทผมยังขาดที่ปรึกษาด้านกฎหมายอยู่ คุณสนใจจะมาทำงานที่ซินฉู่ฟาร์มาติคอลไหมครับ?”ฉู่เฉินพูดประเด็นอย่างตรงไปตรงมาคนที่ฉู่เฉินส่งไปเป็นถึงนักฆ่าระดับประเทศหากสามารถสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับการฆ่าใครสักคนของกุหลาบเพลิงได้แม้กระทั่งเบาะแสเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถย้อนไปถึงนายจ้างได้ อย่างนั้นเธอคงถูกองค์กรนักฆ่าเก็บไปนานแล้วอีกทั้งดูจากท่าทีของพ่อลูกตระกูลหยางที่ออกจากโรงงานรถไป ฉู่เฉินก็พอจะเดาได้ว่ายอมแพ้แค่ชั่วคราวเท่านั้นและนั่นก็เป็นเพราะสถานการณ์บังคับไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องเผชิญหน้าจังๆ กับตระกูลหยาง ฉู่เฉินจึงไม่ลังเลที่จะใช้นักฆ่าชั้นยอดสองคนที่มีในมือแทนที่จะเผชิญหน้าโดยตรงกับตระกูลหยางในการต่อสู้ที่อยู่บนความเป็นความตายแบบนี้ คงมีแค่คนโง่เท่านั้นที่จะยอมเปิดไพ่อย่างเปิดเผย“คะ... คุณเป็นประธานซินฉู่ฟาร์มาติคอลเหรอคะ?”เย่ชิ่นเหยียนถามขึ้นมาด้วยความสงสัย“ครับ! เป็นยังไงครับ สนใจทำงานร่วมกันไหมครับ?”ฉู่เฉินคลี่ยิ้มพร้อมเอ่ยถามขึ้นมาพูดตามความจริง งานด้านกฎหมายของบริษัทเป็นปัญหาที่ฉู่เฉินต้องปวดหัวมาโดยตลอดขณะที่ยอดขายยาบำรุงปราณกำลังพุ่งกระฉูด คนรว
หลี่เจี้ยนเย่เดินตามหลังฉู่เฉินอย่างหวั่นเกรง เดินเข้าไปในลานบ้านของบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ ฉู่เฉินยังไม่ได้บอกให้เขานั่ง เขาจึงทำได้แค่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู แม้แต่ถอนหายใจออกมาเขายังไม่กล้าหลังจากไปสืบในช่วงที่ผ่านมานี้ หลี่เจี้ยนเย่พึ่งเข้าใจว่าทำไมหลี่ซื่อกรุ๊ปถึงถูกเจ้าใหญ่นายโตจ้องเล่นงาน ที่แท้เป็นเพราะไอ้ลูกอกตัญญูนั่นทำให้บุคคลยิ่งใหญ่อย่างฉู่เฉินขุ่นเคืองหลังจากผ่านการพิจารณามาอย่างหนัก สุดท้ายหลี่เจี้ยนเย่ก็ยังตัดสินใจมาขอโทษฉู่เฉินด้วยตัวเองไม่อย่างนั้น อย่างมากที่สุดก็อีกหนึ่งสัปดาห์ หลี่ซื่อกรุ๊ปต้องประกาศขายกิจการล้มละลายอย่างแน่นอน!“ประธานหลี่ใช่ไหมครับ คุณเลี้ยงลูกชายได้ดีเลยนะครับ วันนั้นผมยังจำได้อยู่ว่าคุณชายหลี่ยังโอหังมากๆ ไม่ใช่เหรอครับ? ยังบอกอีกว่าแค่ตระกูลหลี่ของพวกคุณเอ่ยปากพูด ก็สามารถทำให้บริษัทเล็กๆ ของผมล้มละลายได้”“แล้วทำไมตอนนี้กลับเป็นประธานหลี่มาขอโทษผมเองเลยล่ะครับ?”ฉู่เฉินดื่มชาไปด้วย พร้อมทั้งยิ้มอย่างเย็นชามองไปที่หลี่เจี้ยนเย่เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลี่เจียนเย่ก็คุกเข่าต่อหน้าฉู่เฉินดังตึง ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความโศกเศร้า “คุณฉู่ คุณอย่าใ
เพียงแต่ว่า หากเทียบความใหญ่ของเธอกับเย่ชิ่นเหยียนแล้ว ของเธอเล็กกว่าห้าคัพเลย!“ประธานหลี่แบบนี้ไม่ดีไหมครับ? หลานชายยังอยู่นะครับ”ระหว่างที่พูด ใบหน้าของฉู่เฉินที่เต็มไปด้วยยิ้มเยาะมองไปที่หลี่ฮุยหลี่ฮุยในตอนนี้แม้ว่าตอนนี้โทสะในใจยังไม่ปะทุ แต่เขาก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองฉู่เฉินเป็นคนที่กุมชีวิตของตระกูลหลี่ไว้อยู่ เขาสามารถทำให้ตระกูลล้มละลายได้ทุกเมื่อหากตระกูลหลี่จบลงเพราะหลี่ฮุย ทายาทรุ่นสองที่ทำอะไรไม่เป็น จะให้เขาไปขอข้าวกินเขาก็คงทำไม่ได้ “คุณฉู่ครับ คุณอย่าสนใจเขาเลยครับ ถือซะว่าเขาตาบอดเถอะครับ”หลี่เจี้ยนเย่พูดไปด้วย พร้อมทั้งถีบหลี่ฮุยอีกครั้งหนึ่งฉู่เฉินบีบหยกอ่อนในมือ ดมกลิ่นน้ำหอมที่ออกมาจากตัวของจางหลิง เขาส่ายหัวเล็กน้อย “ประธานหลี่ ความจริงใจของคุณไม่ค่อยพอนะครับผมว่า เอาแบบนี้ดีกว่าครับ คุณลองกลับไปทบทวนดูดีๆ ก่อน”“ผมก็อยากจะกลับไปพิจารณาอีกครั้ง เราค่อยนัดกันวันหลังเถอะครับ”พูดจบ ฉู่เฉินก็เอามือออกมายกแก้วน้ำชาเล็กๆ ดื่มเข้าไปนี่มัน...หลี่เจี้ยนเย่ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแม้แต่เมียของเขาก็มอบให้ฉู่เฉินแล้ว แต่เขากลับไม่ร
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก