ที่หลิ่วชิงเหอพูดเตือนฉู่เฉินอีกครั้ง ข้อแรกคือไม่อยากให้เกิดเหตุไม่คาดฝันกับฉู่เฉินจากใจจริง อีกข้อคือหอการค้าตะวันออกใหญ่ไม่ได้ธรรมดาเหมือนที่เห็นภายนอกเลยจริงๆแค่กองกำลังตระกูลเซียวในเมืองเอกของมณฑลเพียงอย่างเดียวก็เทียบกับตระกูลใหญ่ในเจียงจงไม่ได้เลยแถมเธอยังยอมรับฉู่เฉินจากก้นบึ้งของหัวใจ ดังนั้นจึงไม่อยากเห็นฉู่เฉินเลือกเดินไปทางเดียวเหมือนกับพ่อแม่ของเขาฉู่เฉินหัวเราะเยาะขึ้นมา ยื่นมือกดแขนของหลิ่วชิงเหอ แนบหน้ากับหลิ่วชิงเหอแล้วพูดด้วยลมหายใจเร่าร้อน “ไม่ว่าใครที่กล้ามาแตะต้องตระกูลฉู่ของฉัน ต้องจ่ายค่าตอบแทน!”สิ้นเสียง ฉู่เฉินพลิกร่างกดร่างของหลิ่วชิงเหออีกครั้ง……อีกด้านหนึ่ง เซียวเฟิงกลับมายังคฤหาสน์ตระกูลเซียวด้วยความโมโหพุ่งทะลักเซียวจี้กวางถูกกรมตำรวจฝ่ายอำนวยการควบคุมตัวที่เมืองเอกของมณฑลนี้ไม่ใช่เรื่องดีเลย ถ้าหากคดีของเซียวจี้กวางเกี่ยวพันมาถึงตระกูลเซียว งั้นแม้แต่ตำแหน่งผู้บัญชาการนี้ของเขาก็จะรักษาไว้ไม่อยู่แล้วน่ะสิ“พ่อบ้าน รีบไปแจ้งนายท่านใหญ่ และพ่อของผม อาสามอาสี่ให้รีบมาที่ห้องโถงเดี๋ยวนี้ แจ้งไปว่าเกิดเรื่องใหญ่กับตระกูลเซียวแล้ว!”เซียวเฟิงสั
ที่สนามฝึกซ้อมของกองทหารรักษาการณ์มณฑลเจียงในขณะนี้ มีหญิงสาวใบหน้างดงามตามสัดส่วนทองคำคนหนึ่งทุ่มชายฉกรรจ์ร่างบึกบึนหกเจ็ดคนในชั่วพริบตา“ไร้ค่า! มาอีกสิ!”หญิงสาวอายุน้อยที่ถึงแม้จะสวมเสื้อกั๊กยุทธวิธีธรรมดา แต่ยากที่จะซ่อนผิวขาวราวหิมะและรูปร่างสัดส่วนอันน่าภูมิใจได้ขายาวงามทั้งสองข้างนั้นมองดูเนียนละเอียดบอบบาง อ่อนนุ่มชุ่มชื้นราวกับลูกโป่งน้ำ แต่พอยกมือยกเท้าเท่านั้นแหละ กลับมีแรงห้าร้อยกิโลกรัม“ผู้นำเซียว พวกเราไม่ไหวแล้วจริงๆครับ…”แม้ว่าไม่ใช่การต่อสู้จริง แต่ทั้งหมัดทั้งเท้าของเซียวเสวี่ยอิ๋งก็ยังคงไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะทนไหวนั่นเป็นถึงผู้นำเขตทหารหนึ่งดาวซึ่งเป็นหนึ่งในห้าอันดับต้นๆ ของกองทหารรักษาการณ์มณฑลเจียงเชียวนะถ้าว่ากันตามคนธรรมดาทั่วไป นั่นคือยอดฝีมือขั้นหนึ่งระดับสร้างรากฐานเชียวนะ“ผู้นำเซียว ไม่งั้น…ให้ผู้นำหลัวมาสู้เป็นเพื่อนคุณเถอะครับ พวกเรา…ทนรับเท้าและกำปั้นของคุณไม่ไหวแล้วจริงๆ”ชายฉกรรจ์หนึ่งในนั้นแยกเขี้ยวยิงฟันกล่าวอย่างวิงวอน“เหอะ ไม่ต้องแล้ว!”เซียวเสวี่ยอิ๋งรับผ้าขนหนูจากเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งจากด้านข้างมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก จากนั้นส่งเ
“เฮ้อ น้องสาว น้องก็น่าจะรู้ ตระกูลเซียวของพวกเราไม่ได้ทำงานถวายชีวิตให้เกาเซิ่งอี้ แต่เพื่อโลกแห่งการหยั่งรู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังเขาต่างหาก”“ถ้าไม่ใช่เพราะทรัพยากรจากเกาเซิ่งอี้ ตอนนี้น้องจะกลายเป็นผู้นำเขตทหารยศหนึ่งดาวที่อายุน้อยที่สุดได้เหรอ?”“ในบางครั้ง พวกอาเขาก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง ยังไงก็ตามตระกูลเซียวของพวกเรายังยึดเส้นที่จะล้ำไม่ได้ เรื่องในวันนี้เห็นได้ชัดว่าไอ้หนูคนแซ่ฉู่กับหลูติ้งไห่สมรู้ร่วมคิดเล็งเป้ามาทางตระกูลเซียวของเรา!”ได้ยินแล้ว เซียวเสวี่ยอิ๋งก็เบื่อที่จะอธิบายอีกจึงกล่าวพร้อมโบกมือให้เซียวเฟิง “ช่างเถอะ พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ”หลูติ้งไห่มองผ่านหน้าต่างไกลออกไปอยู่ภายในห้องทำงานก็เห็นเซียวเสวี่ยอิ๋งที่ห้าวหาญและดาวหนึ่งดวงที่ส่องแสงบนบ่าของเธอตามที่คาดไว้เลย!หลูติ้งไห่จึงรีบส่งข้อความไปหาฉู่เฉินก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นสั่งลูกน้องให้ไปพาสองพี่น้องเซียวเสวี่ยอิ๋งมายังห้องทำงานของตนในเวลาไม่นาน สองพี่น้องเซียวเฟิงและเซียวเสวี่ยอิ๋งก็ได้เดินเข้ามายังห้องทำงานของหลูติ้งไห่หลูติ้งไห่รีบลุกขึ้นเข้าไปกล่าวต้อนรับ “ผู้นำเซียว ดึกขนาดนี้แล้ว มายังสถานที่เล็ก
เซียวเสวี่ยอิ๋งไม่ทันได้กล่าวต่อ ฉู่เฉินก็กวาดตามองเซียวเฟิงและกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แกอะไร? ถ้าผมพูดไว้ไม่ผิดละก็ พวกคุณคงมาเพราะเซียวจี้กวางสินะ?”“ในเมื่อมาขอร้องขอคน ก็ต้องมีท่าทีให้เหมือนกับคนที่มาขอร้องหน่อยสิ”“ถ้าผมไม่ถอนคดี ต่อให้ฮ่องเต้สวรรค์ลงมาก็อย่าคิดที่จะพาตัวมันออกไปจากคุกได้”คำพูดของฉู่เฉินดังมากจนสามารถได้ยินได้ชัดเจนในทางเดินตำรวจที่เพิ่งออกเวรกะดึกต่างพากันมามุงดูเหตุการณ์อยู่ที่หน้าประตูห้องของหลูติ้งไห่“คนนี้ใครกัน กล้าไม่เบานะ กล้าพูดกับผู้นำเขตเทพนักรบหญิงอันดับหนึ่งในมณฑลเจียงแบบนี้?”“ฉันว่าเจ้าหมอนี่คงต้องลำบากแล้วล่ะ ผู้นำเซียวมีชื่อเสียงเรื่องมือไม้หนักไม่ปรานีเชียวนะ ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็จัดการเสิร์ฟด้วยหมัดและเท้า”“เร็วเข้า รีบเรียกรถพยาบาลมารอที่หน้าทางเข้าตึกก่อนเถอะ!”คนจำนวนไม่น้อยเห็นแล้วก็จำเซียวเสวี่ยอิ๋งได้ในทันที และต่างใช้สายตาเห็นใจมองไปยังฉู่เฉินรู้ไหมว่าแม้แต่หลูติ้งไห่ก็ยังต้องยิ้มต้อนรับเมื่ออยู่ต่อหน้าเซียวเสวี่ยอิ๋งฉู่เฉินที่เป็นวัยรุ่นยี่สิบกว่าปี ทำไมถึงกล้าแสดงกิริยาโมโหใส่ผู้นำเซียวได้ล่ะ?เซียวเสวี่ยอิ๋งจ้องตา
“แกอยากตายเหรอะ!”ยังไงหานหลิงก็เป็นถึงผู้ช่วยเซียวเสวี่ยอิ๋งเชียวนะ ปกติในตอนที่ประลองในกองทัพก็ไม่เคยเสียเปรียบใครแบบนี้มาก่อนต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เธอประมาทศัตรูเอง ดังนั้นจึงถูกคนแซ่ฉู่อาศัยจุดนี้!ยังไงก็ต้องกู้หน้ากลับมาให้ได้ ไม่งั้นจะเป็นการทำให้ผู้นำเซียวขายหน้าด้วยไม่ใช่เหรอ?ทันทีที่พูดจบ หานหลิงก็กระโดดขึ้นโน้มตัวไปข้างหน้าปล่อยหมัดเล็กๆ ของเธอผ่าอากาศโจมตีไปยังช่วงหน้าอกของฉู่เฉิน!ฉู่เฉินยิ้มเฉยเมย แม้ว่าหานหลิงจะมีพลังระดับประมาณฝึกปราณชั้นห้า บวกกับทักษะหมัดมวยแบบทหาร จึงเป็นที่รู้จักในด้านความว่องไวและรุนแรงหมัดนี้ของเธอเมื่อเผชิญหน้ากับคนระดับขั้นเดียวกันก็ยังเหนือกว่าแต่น่าเสียดายที่ในสายตาของฉู่เฉิน การต่อสู้หมัดมวยของเธอเป็นแบบมาตรฐานตามตำรา“คนสวย คุณอย่ารีบร้อนส่งนมสิ ที่ผมพูดเมื่อกี้คือดื่มนมนะ”ฉู่เฉินพูดหยอกเอินหานหลิง จากนั้นค่อยๆเอียงตัวหลบหมดที่มีพลังรุนแรงของหานหลิง ในระหว่างที่พลาดเป้า ฝ่ามือใหญ่ก็กางออกไปโดนหน้าอกของหานหลิงพอดีสัมผัสได้ถึงนุ่มเด้งดึ๋งกลางฝ่ามือขึ้นมาทันที“แตกต่างจากคนทั่วไปจริงด้วย”แม้แต่ฉู่เฉินยังชมหานหลิงไม่ขาดปากมื
บัดซบ!หลูติ้งไห่ใจกระตุก รีบตามไปอยู่ข้างหน้าฉู่เฉินและกระซิบกล่าว “คุณฉู่ อย่าไปรับคำท้าเด็ดขาดนะครับ อย่ามองแค่รูปลักษณ์หน้าตาสวยสดงดงามของยัยหนูเซียวเสวี่ยอิ๋งเพียงอย่างเดียว ฝีมือก็ร้ายไม่เบานะครับ”“คุณเคยพบผู้บัญชาการโจวอวี้หมิงกรมเสนาธิการกองทหารรักษาการณ์สินะ หลายชายของเขาถูกยัยหนูนี่ทำลายจนจุดตันเถียนจนแตกในตอนที่ประลองกันในค่ายทหารนี่เอง ชั่วชีวิตนี้ก็ไม่สามารถฝึกวรยุทธ์ได้อีกแล้ว”“คุณอย่าให้อารมณ์แก้ปัญหาเด็ดขาดนะครับ”ดังสุภาษิตจีนที่ว่าไม่เห็นแก่หน้าภิกษุสงฆ์ ก็ควรต้องเห็นแก่หน้าพระพุทธรูป หลูติ้งไห่ไม่ได้สนใจความสัมพันธ์กับตระกูลกู้ แต่ก็ต้องพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างฉู่เฉินกับเกาหมิงหลายถ้าเกิดฉู่เฉินถูกยัยหนูเซียวเสวี่ยอิ๋งทำร้ายจนพิการขึ้นมา เขาจะไปอธิบายกับเกาหมิงหลายยังไงฉู่เฉินได้ยินแล้วก็ยิ้มอย่างไม่ยี่หระ ตบบ่าหลูติ้งไห่แล้วกล่าว “ผู้บังคับบัญชาสูงสุดหลูวางใจได้เลย ผมทำแต่พอดี”ฉู่เฉินกล่าวจบแล้วก็จ้องมองเนินหน้าอกสูงตระหง่านของเซียวเสวี่ยอิ๋งจากระยะไกลด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยการรุกรานแม้ว่าจะไม่เคยสู้กับเซียวเสวี่ยอิ๋ง แต่รับรู้ความแตกต่างได้จากกลิ่นอา
ถือดีอย่างไรมาคิดว่าฉู่เฉินจะชนะน้องสาวเขา?ฝันยังไม่กล้าฝันเกินจริงขนาดนี้เลย!“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมจะชนะไม่ได้? ผู้ชายยังไงก็ห้ามพูดว่าไม่ไหว”ฉู่เฉินเอามือไพล่หลัง กล่าวพร้อมจ้องมองเซียวเสวี่ยอิ๋ง “ยังไง กลัวแล้วเหรอ?”เซียวเสวี่ยอิ๋งยิ้มเย้ยหยันกล่าว “เงื่อนไขประลองแกเลือกมาได้เลย ฉันตกลงทุกอย่าง”มั่นใจ!เซียวเสวี่ยอิ๋งมั่นใจมาก!คนที่ต่อสู้ผลออกมาเสมอทั้งหมดมีไม่ถึงห้าคนในกองทหารรักษาการณ์ทั่วทั้งมณฑลเจียงและมีไม่เกินสามคนที่สามารถเอาชนะเธอได้ภายในหนึ่งร้อยกระบวนท่าส่วนฉู่เฉินที่ฝึกฝนด้วยตนเองในโลกคนทั่วไป ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเธอด้วยซ้ำรู้ไหมว่าเทคนิคหมัดมวยในกองทัพเป็นผลงานชิ้นเอกที่ผสมผสานร้อยตระกูลจนสำเร็จเชียวนะถ้าประลองกับยอดฝีมือที่มีระดับขั้นเหมือนกัน ยอดฝีมือในกองทัพก็จะชนะขาดภายในหนึ่งร้อยกระบวนท่าแค่อย่างเดียวนี้ก็เพียงพอที่จะเห็นความห่างชั้นแล้วและเซียวเสวี่ยอิ๋งก็สังเกตอย่างละเอียดในตอนที่ฉู่เฉินตั้งรับกระบวนท่าของหานหลิงเมื่อครู่ อย่างมากฉู่เฉินก็แค่ระดับสร้างรากฐานขั้นหนึ่งเท่านั้นกล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่เป็นการดวลกันระหว่างคนระดับขั
เมื่อข่าวการท้ารบกับเทพนักรบหญิงอันดับหนึ่งแห่งมณฑลเจียงของฉู่เฉินแพร่สะพัดออกไป เจ้าหน้าที่ทั้งกรมตำรวจต่างทยอยกันยื่นใบลา ก่อนจะขับรถบัสของกรมตำรวจฝ่ายอำนวยการมุ่งหน้าไปยังกองกำลังรักษาการณ์อย่างรวดเร็วไม่นานข่าวนี้ก็มาถึงหูของผู้บังคับบัญชาสูงสุดกองกำลังรักษาการณ์แห่งมณฑลเจียง“พวกนายได้ยินข่าวหรือยัง!? มีคนกล้าท้าประลองกับผู้นำเซียว!”“บ้าไปแล้ว ใครกันที่ไม่กลัวตายขนาดนี้? ครั้งก่อนที่โจวเทียนห้าวท้าประลอง ก็โดนซัดจนจุดตันเถียนแตกเลยนะ!”“ได้ยินมาว่าไม่ใช่คนจากกองกำลังรักษาการณ์ เหมือนจะแซ่ฉู่”ไม่ใช่คนจากกองกำลังรักษาการณ์?ในตอนนี้ กองกำลังรักษาการณ์กำลังปั่นป่วนเป็นอย่างมากและในตอนนั้นเอง ทหารคนสนิทของโจวอวี้หมิงก็รีบวิ่งเข้ามาในห้องทำงานของเขา หอบหายใจหนักก่อนพูดขึ้น “ท่าน… ท่านผู้บัญชาการ! เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่ครับ!”“ได้ยินมาว่ามีคนแซ่ฉู่ต้องการท้าประลองกับผู้นำเซียว!”โจวอวี้หมิงที่กำลังจิบชา ในตอนแรกเขาไม่ได้ใส่ใจนัก แต่ไม่นาน ภาพของใครคนหนึ่งที่เขาไม่มีวันลืมตลอดชีวิตก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที…ฉู่เฉิน?!“คนแซ่ฉู่ที่นายพูดถึง ใช่ฉู่เฉินหรือเปล่า?” เขาถามด้วยสีหน้าจ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า