ฉู่เฉินหัวเราะเยาะขึ้นมาเบา ๆ และกล่าวอย่างเรียบเฉย “แค่นี้เอง”ทันใดนั้นก็เห็นฉู่เฉินยกมือขึ้นปล่อยหมัดที่มีพลังเหนือกว่าออกไป ราวกับมังกรแม่น้ำเข้าสู่ท้องทะเลและฝ่าคลื่นหลายระลอกนั้นจนปะทะเข้ากับฝ่ามือของคุณชายเซียวเหยาอย่างจังตูม!ปราณอันน่าสะพรึงปะทุแผ่ออกไปทุกทิศทางและแม้แต่พื้นโรงยิมก็สั่นสะเทือนตามไปด้วย!ดวงตาของคุณชายเซียวเหยาหรี่ลงและกล่าวอย่างเย็นชา “วิชาหมัดดี!”สิ้นเสียง ฝ่ามือที่สองของเขาก็ปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว“กระบวนท่าที่สอง สงบรำงับ!”ตูม!สิ้นเสียงคำรามของเขาแล้ว พลังแห่งความตายสีเทาพุ่งโจมตีตรงไปยังหน้าอกของฉู่เฉินทันทีซี้ด ๆ!แม้แต่ซ่งหนิงซวงที่เห็นฉากตรงหน้านี้ก็ถึงขั้นสูดอากาศเย็นเข้าปอดไม่เสียแรงที่สิบสามกระบวนท่าสำนักชิงอวิ๋นเป็นวิชาไร้เทียมทานที่สร้างขึ้นโดยบรรพจารย์สำนักชิงอวิ๋น ทุกการเคลื่อนไหวและทุกกระบวนท่ามีพลังอันเหลือล้นไม่มีที่สิ้นสุด“กระบวนท่าที่สองนี้ไม่ได้ทำลายง่าย ๆ ขนาดนั้นแล้ว หากสัมผัสโดนพลังแห่งความตายนั้นเข้า แม้ว่าจะไม่ตาย แต่เส้นลมปราณก็จะได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน”ถานอวี้ซานขมวดคิ้ว มือราวกับหยกบอบบางกำยันต์ปิดผนึกไท่จี
แต่ในไม่ช้า ใบหน้าของคุณชายเซียวเหยาก็กลับมามีรอยยิ้มเย็นชาอีกครั้งและพูดว่า “แกมีฝีมืออยู่บ้างตามคาด!”“แต่น่าเสียดาย เมื่อมาอยู่ต่อหน้าฉัน ไพ่ตายแค่นั้นของแกก็ยังไม่พอหรอก!”สิ้นเสียงคุณชายเซียวเหยาก็มีกระบี่เล่มเล็กยาวหนึ่งนิ้วปรากฏกลางฝ่ามือทันทีที่ยกมือขึ้นมา จากนั้นเปลี่ยนรูปร่างเป็นกระบี่ยาวสามฟุตในชั่วพริบตาแล้วแทงไปยังหน้าอกของฉู่เฉินทันที!พลังกระบี่ดุจสายรุ้ง เหมือนเงากระบี่นับหมื่นนับพันกักขังฉู่เฉินไว้ตรงกลางการรุกโจมตีของคุณชายเซียวเหยายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และไม่ให้โอกาสฉู่เฉินได้หายใจหายคอสักนิดเลยฉู่เฉินใช้วิชาเจ็ดก้าวดารา ก้าวไปอย่างอิสระท่ามกลางเงาเสมือนกระบี่นับไม่ถ้วนนั้นวินาทีต่อมาในเสี้ยววินาทีที่คุณชายเซียวเหยากำลังเตรียมที่จะแสดงอาคมเต๋าอีกครั้ง ฉู่เฉินก็ออกหมัดอย่างกะทันหันพัวะ!คุณชายเซียวเหยายังไม่ทันได้สติกลับมา ร่างกายก็ลอยละลิ่วออกไปราวกับลูกกระสุนที่ออกจากปลายกระบอก!พู่!คุณชายเซียวเหยาร่วงหล่นกระแทกบนเวทีอย่างรุนแรง แม้แต่พื้นสนามที่ทำจากหินเหล็กชั้นดีก็ยังถูกชนจนแตกระแหงทันที“ซี้ด ๆ!”ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ต่างสูดลมเย็นเข้าปอด
ทำเนียบอัจฉริยะแห่งเขาสือวั่นสามารถกล่าวได้ว่ารวบรวมรายชื่ออันดับทั่วทั้งภูเขาสือวั่นอัจฉริยะทั้งหมดจากหลายร้อยสำนัก แค่เลือกจากในนั้นมาสักคนหนึ่งก็เป็นตัวตนที่สามารถบดขยี้เมืองหนึ่งได้ยิ่งไปกว่านั้นคือคุณชายเซียวเหยาเป็นถึงยอดฝีมือตัวท็อปในห้าสิบอันดับแรกแล้วด้วยนั้น ฉู่เฉินที่แค่ได้เปรียบเล็กน้อยเพียงชั่วคราวนี้ไม่ได้หมายความว่าฉู่เฉินจะสามารถเอาชนะได้อย่างราบรื่นคำพูดนี้ทำให้ซ่งหนิงซวงหันไปมองคุณชายเซียวเหยาอย่างรวดเร็วหลังจากฟังคำเตือนของถานอวี้ซานแล้ว เธอจึงค้นพบสิ่งประหลาดขึ้นมา ถึงแม้คุณชายเซียวเหยาจะมีสีหน้าเจ็บปวดทรมาน แต่กลิ่นอายรอบกายกลับกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน“เขา…เขาแอบเลื่อนขั้นพลังอย่างเงียบ ๆ?!”แม้แต่ตัวซ่งหนิงซวงก็ยังตกใจมากการทะลวงเลื่อนขั้นพลังระหว่างการต่อสู้ถือเป็นเรื่องต้องห้ามเชียวนะเบาหน่อยก็ธาตุไฟเข้าแทรกทันทีที่สติหลุด และอาจถึงขั้นทำให้เส้นลมปราณในร่างกายขาดสะบั้นจนกลายเป็นคนพิการขึ้นมาก็ได้ถานอวี้ซานพยักหน้าเล็กน้อยกล่าว “ถูกต้อง เขากำลังแอบทะลวงเลื่อนขั้นพลังอยู่ แต่น่าเสียดายตรงที่ฉู่เฉินพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการลงมือสังหารเขาไ
ในระหว่างที่ทุกคนฟันธงแล้วว่าฉู่เฉินจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอนนั้น ฉู่เฉินกลับหัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน และมองสำรวจคุณชายเซียวเหยาพร้อมกล่าวขึ้นว่า “คาดไม่ถึงว่าแกจะทะลวงขั้นในระหว่างการต่อสู้จนสำเร็จ?”แบบนี้ถือว่าอยู่นอกเหนือการคาดเดาของฉู่เฉิน คุณชายเซียวเหยาผู้นี้ช่างมีของจริง ๆ พอมีความสามารถอยู่บ้างคุณชายเซียวเหยาหัวเราะเยาะกล่าว “เป็นยังไงบ้าง คิดไม่ถึงสินะ นี่ก็คือความแตกต่างระหว่างอัจฉริยะผู้มีความสามารถกับคนธรรมดาอย่างพวกแก”“ไอ้คนแซ่ฉู่เอ๊ย ยอมรับชะตากรรมเถอะ”พูดถึงตรงนี้แล้ว กลิ่นอายของคุณชายเซียวเหยาก็ระเบิดออกมาอย่างสมบูรณ์ มีจิตสังหารอันท่วมท้นปรากฏขึ้นในดวงตา!หลังจากเลื่อนขั้นระดับสร้างรากฐานขั้นแปดสำเร็จ คุณชายเซียวเหยาก็รู้สึกเพียงว่าภายในร่างของเขาเหมือนจะมีพลังไม่มีที่สิ้นสุด แม้แต่พลังวิญญาณในจุดตันเถียนก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวไม่ว่าด้านวรยุทธ์และอาคมเต๋าก็สูงขึ้นหนึ่งระดับกว่าตัวเขาเมื่อก่อนหน้านี้แล้วความรู้สึกแบบนี้ทำให้ใจที่ว่างเปล่าของเขากลับมามีความมั่นใจขึ้นอีกครั้ง!ตามความคิดของเขานั้น อาศัยแค่พลังในตอนนี้ของเขาก็สามารถบดขยี้ฉู่เฉินได้อย่างแน่นอน
คุณชายเซียวเหยาในขณะนี้ จะยังมีความสง่างาผ่าเผยเหมือนต้นไม้หยกอีกได้ยังไง?ร่างกายเปื้อนไปด้วยเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิงปล่อยสยายบนบ่า คนทั้งคนราวกับปีศาจร้ายที่คลานขึ้นมาจากขุมนรกอย่างไรอย่างนั้นวินาทีต่อมา จู่ ๆ คุณชายเซียวเหยาก็คำรามขึ้นมากะทันหัน พลังวิญญาณรอบกายระเบิดอย่างบ้าคลั่งถึงขีดสุด!ต่อให้เสี่ยงอันตรายที่จุดตันเถียนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ เขาก็จะตายตกไปพร้อมกับฉู่เฉิน!คุณชายเซียวเหยาในเวลานี้สูญเสียสติปัญญาการรับรู้ไปทั้งหมดแล้ว พุ่งเข้าใส่ฉู่เฉินราวกับกระทิงที่บ้าคลั่งตัวหนึ่ง“แย่แล้ว เขาจะตายไปพร้อมกับฉู่เฉิน!”ถานอวี้ซานยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว คิดจะไปผนึกพลังของคุณชายเซียวเหยาตอนนี้ก็สายไปแล้วเธอหวังเพียงว่าฉู่เฉินจะตายไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแล้วแผนการทั้งหมดที่จื่อเยว่วางไว้จะกลายเป็นศูนย์ทันที!ทว่าวินาทีต่อมา ทุกคนยังไม่ทันได้สติกลับมา คุณชายเซียวเหยาก็ระเบิดเสียงร้องโหยหวนรุนแรงขึ้นมาอย่างกะทันหัน“โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย…”ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ดอกบัวโลหิตสองดอกมาระเบิดที่เข่าทั้งสองข้างของคุณชายเซียวเหยาอย่างไร้สุ้มไร้เสียงคุณชายเซียวเหยาก็ล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรงในเวลาเ
ในขณะนั้น ทั้งสนามราวกับจักจั่นในฤดูหนาวฉู่เฉินไม่เพียงเด็ดขาดและเฉียบคมเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้คำว่าโหดเหี้ยมมาบรรยายได้เลยแม้แต่ซ่งหนิงซวงและถานอวี้ซานล้วนถูกฉากตรงหน้าทำให้ตกตะลึงดูเหมือนว่าข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับฉู่เฉินก่อนหน้านี้จะผิดพลาดโดยสิ้นเชิง จำเป็นต้องประเมินฉู่เฉินคนนี้ใหม่ ไม่เช่นนั้นน่ากลัวว่าวังจื่อเซียวจะนำภัยมาสู่ตัวเองจริงๆ“ศิษย์พี่ คนคนนี้ดูเหมือนจะต่างจากที่หลิ่วชิงเหอเคยบอกไว้อย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่อัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ธรรมดาๆ เลย”ซ่งหนิงซวงกล่าวด้วยสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น ถานอวี้ซานก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า “เราไปกันเถอะ”กล่าวจบ ซ่งหนิงซวงและถานอวี้ซานก็พากันเดินออกจากโรงยิมอย่างเงียบเชียบแต่เหล่ายอดฝีมือศิลปะการต่อสู้ที่อยู่ในสนาม กลับไม่กล้าพูดอะไรออกมาเป็นเวลานาน“ทุกท่าน พวกคุณคงไม่คิดว่าเหล่าผู้ฝึกยุทธ์จากเจียงจงจะถูกรังแกได้ง่ายๆ หรอกนะ? แค่ตอนเข้าประตู ก็ใช้บัตรเชิญมากลั่นแกล้งเรา พอเข้าไปก็ยังให้พวกเราคุกเข่าทักทาย”“ถ้าไม่อยากตาย ก็คุกเข่าลงให้หมด”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง ยืนหยัดอย่างภาคภูมิอะไรนะ?!ผู
ขณะที่มองฉู่เฉินจากไปอย่างสง่างาม ภายในโรงยิมก็เกิดความโกลาหลขึ้น“เฮ้อ เกรงว่าในวงการต่อสู้อาจจะเกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นอีกครั้งแล้ว”ฉินเหว่ยมองตามแผ่นหลังของฉู่เฉินด้วยสายตาแน่วแน่ ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงชราแหบแห้งฉู่เฉินไม่ได้สังหารเพียงประธานใหญ่ของสมาคมศิลปะการต่อสู้สามมณฑลเท่านั้น ยังสังหารคุณชายเซียวเหยาและหลิงเฟิงทั้งสองต่อหน้าทุกคน เท่ากับเป็นการสร้างความบาดหมางที่แก้ไขไม่ได้กับสองสำนักในโลกแห่งการหยั่งรู้ แม้ว่าผู้คนในที่นั้นจะเงียบงัน แต่ภายในใจล้วนถูกปกคลุมไปด้วยชั้นความมืดมนอันหนาทึบหลังจากที่ฉู่เฉินและคนอื่นๆ จากไป การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้ก็จบลงแบบลวกๆในเมื่อแม้แต่ประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้ก็เสียชีวิตไปแล้ว ใครจะยังมีใจลงสนามไปประลองกันอีก?……ไม่นานหลังจากที่ฉู่เฉินและคนอื่นๆ ออกจากเมืองปินเฉิง ลั่วเสี่ยวเทียนก็ถูกบรรดาทายาทตระกูลชาวยุทธ์ในท้องถิ่นเมืองปินเฉิงใช้เปลหามกลับไปที่ตระกูลลั่วเมื่อเห็นว่าบนเปลมีลั่วเสี่ยวเทียนที่ร่างกายย้อมไปด้วยเลือด ลั่วเทียนเต๋อก็อดไม่ได้ที่จะโกรธจัดและกล่าวว่า “ใครกล้าดีมาทำร้ายเทียนเอ๋อร์ของฉันจนเป็นแบบนี้!”ทันทีที
อะไรนะ?ลั่วเทียนเต๋อรีบขวางหลินเยว่หรูไว้แล้วกล่าวว่า “เยว่หรู คุณคงไม่ได้บ้าไปแล้วหรอกนะ? แม้แต่คุณชายเซียวเหยายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนคนนั้น คุณ…คุณยังจะไปหาเรื่องเขาอีกเหรอ?”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลินเยว่หรูก็เท้าเอว ดวงตาคู่สวยจ้องเขม็งก่อนเอ่ยเสียงเย็น “คนแซ่ลั่ว คุณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน? ถ้าไม่มีตระกูลฝ่ายแม่ของฉัน พวกคุณตระกูลลั่วจะมีตำแหน่งอย่างทุกวันนี้ไหม?!”“คุณดูสิว่าลูกชายของฉันถูกทำร้ายจนเป็นแบบนี้แล้ว แล้วคุณล่ะ? มัวแต่หดหัวเหมือนเต่าอยู่ได้!”เหล่าคนรับใช้ของตระกูลลั่วได้ยินเช่นนี้ก็รีบออกจากโถงทันทีเมื่อใดที่คุณนายโมโห ก็จำเป็นต้องรักษาหน้าของผู้นำตระกูลไม่ใช่เหรอความจริงแล้วในนามของตระกูลลั่ว ลั่วเทียนเต๋อจะเป็นผู้ดูแล แต่ในความเป็นจริง ทุกเรื่องล้วนต้องได้รับการอนุมัติจากหลินเยว่หรู ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับอะไรสุดท้ายแล้ว ตระกูลหลินก็มีอำนาจมากกว่าอย่างไรก็ตาม อิทธิพลของตระกูลหลินไม่ได้อยู่ในโลกมนุษย์และยิ่งไม่ใช่โลกธุรกิจ แต่กลับเป็นโลกแห่งการหยั่งรู้และภูเขาสือว่านตระกูลหลินในโลกแห่งการหยั่งรู้ เรียกได้ว่ามีสถานะไม่ด้อยไปกว่าสำนัก อีกทั้งสำนักใน
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า