คืนสุดท้ายของค่ายอาสา ไม่น่าเชื่อว่าความร่วมมือร่วมใจของทุกคนจะทำให้งานเสร็จทันเวลาพระอาทิตย์ตกดินพอดี ประธานค่ายอาสาอย่างพี่อาลีเลยให้ลูกน้องซื้อเครื่องดื่มเย็นๆ ขึ้นมาให้จากร้านสะดวกซื้อข้างล่าง เพื่อเป็นการฉลองและให้ทุกคนได้ผ่อนคลายกันพอหอมปากหอมคอ เพราะพรุ่งนี้มีพิธีส่งมอบและเดินทางกลับกันแต่เช้า
"พีช อะ" "อะไรหรอ" "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสเนื้อ" "พกมาด้วยหรอ กำลังอยากกินพอดีเลย" "อืม กลับไปเลี้ยงข้าวคืนด้วยนะ" "จิ๊" "รีบไปอาบน้ำ เดี๋ยวไม่สบาย" "บอกแต่คนอื่น ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ" "หึ" ดูเหมือนคืนนี้อากาศจะเย็นกว่าคืนก่อน ถ้าได้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปร้อนๆ คงจะอร่อยมากแน่ๆ ดีที่ผมพกยี่ห้อดังของเกาหลีแบบกล่องติดกระเป๋ามาด้วย ซึ่งกล่องนึงแบ่งกันกินได้สองสามคน ผมเลยหยิบรสเนื้อมาหนึ่งกล่องเดินไปให้เธอที่เต๊นท์จะได้แบ่งกันกินกับพี่ไอติม พอเดินไปถึงก็เห็นเธอนั่งต้มน้ำร้อนเตรียมชงโกโก้อยู่คนเดียว เพราะพี่ไอติมเดินไปหาขนม ผมเลยมีโอกาสได้หยอกล้อเธอนิดหน่อย ก่อนจะกลับมาต้มบะหมี่อีกสองกล่องที่เหลือแบ่งกินกับเพื่อนๆ หน้าเต๊นท์ จนสามสาวเดินกลับมาจากอาบน้ำ ก็อาสาไปเอาของกินจากกองกลางมาเพิ่มทันที ผมเลยลงมือจุดไฟที่เตารอเตรียมพร้อมสำหรับย่างเนื้อกินกันคืนนี้ "หอมอะกาย หิวเลย" "ใช่ นี่พวกเราเดินตามกลิ่นมาเลยนะ" "หึ รอแป็บ" "เตอร์กับนายละ" "ไปเอาเครื่องดื่มตรงโน้น" "พวกแก ไปเอาหมูกับเนื้อกัน" "กายเอาอะไรเพิ่มมั้ย" "เอาแบบพวกมินนั่นแหละ" "โอเค" ตะวันลับขอบฟ้าไม่นาน พวกผู้ชายก็เริ่มพากันกรึ่มๆ อาลีเลยบอกให้ฉันกับไอติมมานั่งกินกับสาวๆ ไอทีแทนเพราะสามสาวไม่ได้ดื่มเหมือนกับรุ่นน้องคนอื่นๆ และอาลีก็จะได้ไม่ต้องมานั่งเป็นห่วงเราสองคน หันไปดูแลรุ่นน้องได้เต็มที่ เห็นอาลีนิ่งๆ แบบนั้นแต่ถ้าเป็นเรื่องของแฝดและเพื่อนอย่างฉัน ทุกอย่างจะอยู่ในสายตาอาลีและมาก่อนเสมอ "ทุกคน พี่ขอนั่งด้วยสิ" "มาค่ะพี่ไอติม พี่ลูกพีช" "ลูกพีชแกนั่งข้างน้องกายสิ" "ฉันอยากนั่งข้างน้องลลิล" "อะ อ้าว อืมได้" "แล้วนี่กำลังคุยอะไรกันอยู่หรอ" "กำลังเล่าเรื่องผีกันค่ะ พี่ลูกพีช" "นายเล่าน่ากลัวมาก คืนนี้มินจะนอนหลับมั้ยก็ไม่รู้" "มาๆ พี่สองคนมาช่วยแชร์ความกลัว" "จัดมาเลยน้องนาย" "เคยได้ยินมาว่า ที่ตึกคณะวิศวะ..." "..." "นอนไม่หลับแน่" ระหว่างที่ทุกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาฟังน้องนายเล่าเรื่องพี่คณะวิศวะ ไอติมก็หันไปนั่งกอดกับน้องลลิลด้วยความกลัวไม่ต่างจากน้องมินกับน้องมายที่นั่งคลุมโปงกอดกันกลม มีก็แต่ติวเตอร์ที่นั่งฟังแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวจิบเบียร์ชิลๆ ส่วนเขาก็ก้มลงมากระซิบข้างหูของฉันเบาเบาให้ได้ยินกันสองคน พร้อมกับยื่นมือปลาหมึกมาเนียนลูบแผ่นหลังของฉันไปมาราวกับช่วยคลายหนาว แถมยังค่อยๆ เขยิบเข้ามานั่งใกล้ๆ ทีละนิดจนขายาวมาเบียดกับขาเรียวของฉัน ร้ายมั้ยละ! "ดื่มเยอะ เดี๋ยวก็เมาหรอก" "เป็นห่วง?" "..." "เป็นห่วงกาย?" "ไม่ ห่วง" "ขี้ โม้" ยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งเย็นขนาดฉันใส่เสื้อกันหนาวมายังช่วยไม่ค่อยได้เลย พวกเราเปลี่ยนจากฟังเรื่องผีเพราะเริ่มกลัวจนไม่ไหว มาเล่นเกมส์ทายคำในแอพบอร์ดเกมส์ที่น้องลลิลโหลดมา ส่วนเขาก็เดินหายเข้าไปในเต๊นท์นานแล้ว สงสัยจะแอบไปนอน พอนึกถึงปุ๊บร่างสูงก็ออกมาจากเต๊นท์พร้อมกับของในมือ จนเขาเดินกลับมาหย่อนตัวนั่งลงที่เดิมและยื่นของในมือมาให้ฉัน ถึงเห็นว่ามันเป็นหมวกไหมพรหมสีดำและบังคับฉันด้วยสายตาให้ฉันใส่คลุมศีรษะไว้ จนฉันใส่เรียบร้อยเขาถึงหันไปหยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะทักท้วงเบาเบาให้พอได้ยินกันแค่เขากับฉัน เพราะกลัวว่าพรุ่งนี้จะพาตื่นไม่ไหว กลายเป็นว่าเวลานี้ฉันนั่งเอามือเท้าคางมองหน้าเขาที่ยื่นหน้ามาพูดข้างหูใกล้ๆ พร้อมกับยิ้มเบาเบาที่ทำให้ฉันละสายตาไม่ได้เลย KKAY : เดี๋ยวส่งเพื่อนเสร็จไปหานะ My Peach🩷 : ? KKAY : หาอะไรกินกัน My Peach🩷 : ง่วง KKAY : เดี๋ยวซื้อเข้าไปเลยแล้วกัน KKAY : ลงมาเปิดประตูให้ด้วยนะ ผมทำหน้าที่วนรถส่งลลิลและมายโดยทิ้งไอ้นายไว้ที่คอนโดมายให้มันหาทางกลับเอง เพราะผมจะรีบไปหาที่รักของผม ป่านนี้พี่อาลีกับพี่ไอติมน่าจะไปส่งถึงที่เรียบร้อยแล้ว ดีที่พรุ่งนี้ไม่มีเรียนผมเลยตั้งใจจะหาเรื่องนอนค้างห้องเธอสักหน่อย แต่ก่อนจะไปกวนเธอ ผมก็ต้องหาของไปฝากเจ้าของห้องเป็นน้ำใจเล็กเล็กน้อยน้อย และเป็นมื้อเย็นสำหรับเราสองคนด้วย ผมเลือกเป็นเมนูไก่ย่างส้มตำน้ำตกคอหมูย่างรสจัดแต่เผ็ดน้อย เพราะพีชกินเผ็ดไม่เก่ง ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนอีกหนึ่งถุง พร้อมข้าวเหนียวของผมขนมจีนของเธอ มีโรตีกรอบสองแผ่นกับสตอเบอรี่ปั่นคนละแก้วเป็นของหวานแก้เผ็ด เพราะอยู่บนดอยมาหลายวันเลยทำให้คิดถึงเมนูเหล่านี้เป็นพิเศษและคิดว่าเธอก็น่าจะอยากกินเหมือนกัน "ซื้ออะไรมาเยอะแยะ มาช่วยถือ" "ส้มตำไก่ย่าง มีโรตีกรอบด้วย" "โห แค่ได้ยินท้องก็ร้องขึ้นมาทันทีเลย" "หึ รีบไปกินกัน" "อืม" "คืนนี้นอนด้วยนะ" "เหนื่อย ขี้เกียจขับรถกลับ" "..." #น้ำหยดลงหินทุกวัน พี่พีชจะไม่หวั่นไหวได้ยังไง #อ่านเพลินๆ ฟินๆ กันเหมือนเดิมนะคะ"ลูกหลับยัง" "ชู่ววว" "..." ผมนั่งมองลูกชายวัยหกเดือนตัวอ้วนจ่ำม่ำผิวขาวอมชมพูนอนหลับตาพริ้มแต่ปากยังอยู่ที่ยอดอกมามี๊ไม่ยอมปล่อย สงสัยจะอร่อยถูกใจน่าดูถึงได้กินไปยิ้มไป หรือจะกำลังฝันดีอยู่กันนะ นั่งมองนั่งหอมแขนป้อมอยู่สักพักปากจิ้มลิ้มก็ค่อยๆ คลายออกจากก้อนกลมของมามี๊บ่งบอกให้รู้ว่าเบบี๋น้อยหลับสนิทแล้ว ผมจึงค่อยๆ ยื่นแขนไปช้อนหลังเจ้าตัวเล็กอุ้มพาดบ่าแกร่งพร้อมกับตบก้นน้อยเบาเบาเป็นการกล่อมไม่ให้ตื่นมาโยเย เดินไปเดินมาอยู่ห้านาทีถึงพาไปส่งลงเปลนอนข้างๆ เตียงคิงไซต์ของผมกับพีช "จัดกระเป๋าเสร็จแล้วหรอ" "เสร็จแล้วคับผม" "ของเราสองคนหนึ่งใบ ของลูกหนึ่งใบ" "ชุดว่ายน้ำของมี๊ได้ใส่ไปมั้ย" "เรียบร้อยค้าบ แต่ป๊าไม่ให้ใส่" "มี๊อยากใส่" "ไม่รู้แหละ ห้ามเถียง เดี๋ยวลูกตื่น" "..." วันหยุดยาวนี้ผมและเพื่อนๆ จัดทริปไปเที่ยวทะเลหัวหินและแน่นอนว่าที่พักต้องเป็นหนึ่งในรีสอร์ทของผมอยู่แล้ว เพื่อความเป็นส่วนตัวของเราสี่ครอบครัวผมเลยสั่งปิดโซนบ้านพักทั้งหมด เปิดให้แขกเข้ามาพักผ่อนได้เฉพาะโซนโรงแรมซึ่งมองเห็นทะเลและลงไปเดินเล่นที่ชายหาดได้เหมือนกัน แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยอยากจะ
"ไหวมั้ยปะป๊า""ป๊าไหวครับมี๊""ยาดมหน่อยมั้ย มี๊ถือให้""ขอมือมี๊ก็พอครับ"หลังจากคืนเข้าหอของฉันกับเขาหนึ่งเดือน เบเบี๋ก็มานอนอยู่ในพุงกลมกลมของฉันอย่างสบายใจ ตอนแรกฉันก็ไม่รู้ตัวหรอกคิดว่าที่กินจุกกินจิกเป็นเพราะใกล้ช่วงวันนั้นของเดือนเท่านั้น จนทุกคนที่มาเจอต่างพากันทักเป็นเสียงเดียวว่าดูมีน้ำมีนวลขึ้น ให้ลองตรวจๆ ดูหน่อย เท่านั้นแหละ! เขาก็รีบไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาครบทุกยี่ห้อในเวลาไม่ถึงสิบนาที ตื่นเต้นที่สุดก็คุณสาของฉันเองและเหมือนเบบี๋จะรู้ว่าปะป๊ากับมามี๊รับรู้ถึงการมาของเขา เลยทักทายกันโดยการแกล้งให้ปะป๊าสุดหล่อแพ้ท้องทุกวัน บางวันทำเอาปะป๊าแทบจะนอนในห้องน้ำเพราะอาเจียนหนักมาก จนฉันอดสงสารไม่ได้ แต่นิสัยขี้แกล้งแบบนี้ก็มาจากเขานั่นแหละ...อย่างวันนี้ ฉันต้องเข้ามาประชุมสำคัญเป็นเพื่อนเขา เพราะนอกจากอาการแพ้ท้องอาเจียนของเขาแล้วยังติดกลิ่นฉันหนักมากเหมือนกันราวกับเป็นยาดมแก้เวียนหัวอย่างดีอย่างไงอย่างงั้น"โอ้โห หมดสภาพเพื่อนกู""ไงวะ ไหว?" "มันแค่หาเรื่องอ้อนพี่ลูกพีชแค่นั้นแหละ""เหมือนมึงไง"เมื่อก่อนตอนซุ่มคบกันมันก็มีบ้างที่เขาออกไปปาร์ตี้แฮ้งค์เอาท์กับเพื่อนตามประสาห
"อุ้ย มีงานแต่งหรอ""ไปดูกันมั้ย""...""ไปนะ""..."วันนี้ตั้งแต่ตื่นนอนขึ้นมาฉันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกผิดปกติ ท่าทางดูอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษของเขาที่รีบตื่นแต่เช้ามาอาบน้ำแต่งตัว จัดทรงผมให้ดูหล่อเป็นพิเศษ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแบรนด์ดังคู่กับกางเกงสแล็คสีน้ำเงินเข้มราคาแพง ฉีดน้ำหอมกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วห้อง และพอฉันอาบน้ำเสร็จก็มาจัดแจงเตรียมชุดสวยๆ ให้ จนฉันแปลกใจว่าเขาไปแอบสั่งตัดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วก็ท่าทางพูดผิดผิดถูกถูก ไม่รู้จะเอามือใหญ่ๆ ไปวางไว้ตรงไหนนั่นอีก ฉันเลยเออออตามน้ำปล่อยให้เขาพามาขับรถเล่นอย่างที่พยายามบอกกันทันทีที่รถสปอร์ตสีดำหรูแล่นเข้ามาในสวนขนาดใหญ่ มีทั้งต้นไม้สีเขียวและดอกไม้หลากสีเสียงเปียโนเล่นคลอเบาเบา มีเขาที่ไม่รู้ว่าไปใส่เสื้อสูทตอนไหนเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้เหมือนเช่นทุกครั้ง ถ้าเซ้นส์ของฉันไม่ผิด ฉันว่าสิ่งที่ฉันคิดเป็นจริง"สวยมั้ย""สวย""ชอบมั้ย""ชอบ""แต่งงานกันมั้ย""แต... ห๊ะ" "แต่งงานกัน งานแต่งของเรา"เพี๊ยะ!"ได้ไง พีชยังไม่ได้ตกลงเลย""วันนี้พีชไม่สวยด้วย""สวยแล้ว วันนี้พีชสวยมาก""สรุปแต่งนะ" "สถานที่พร้อม แขกพร้อม เจ้าบ่าวพร้
K.NAI : @KKAY ใช้กูฉ่ำTutor.T : 👍KKAY : แค่นี้บ่นKKAY : กูโดนพวกมึงใช้มาเยอะละKKAY : กูไม่รับขวัญหลานซะดีมั้งK.NAI : กูพิมพ์นิดเดียว😭Tutor.T : กูไม่เกี่ยว ไอ้นายคนเดียวนั่งอ่านข้อความโอดโอยของไอ้สองคนนั้นด้วยความเบื่อหน่าย ผมแค่ให้ช่วยเตรียมอะไรบางอย่างให้ทันวันที่ผมเดินทางกลับแค่นิดหน่อย ทีตอนพวกมันสองคนแต่งงานผมก็จัดการให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนที่มายกับมินนี่คลอดเจ้าแฝดผมก็เป็นธุระจัดการเรื่องห้องพักที่โรงพยาบาลให้ ดีที่ช่วงนั้นผมกลับไปงานเลี้ยงสำคัญของบริษัทพอดี ไม่อย่างนั้นคงพลาดโมเมนต์น้ำตาซึมของไอ้เตอร์ไอ้นาย น่าเสียดายแย่...และเพราะทั้งสองคู่มีลูกแฝด ผมก็ต้องรับขวัญหลานคูณสองเท่า เล่นเอาเงินในบัญชีผมสั่น เลยตัดสินใจว่ากลับไปคราวนี้จะยกบ้านพักตากอากาศติดทะเลทางภาคใต้ให้คนละหลังแทน แต่ผมก็ไม่ได้ใจดีถึงขนาดที่จะไม่เอาคืนไอ้เตอร์ไอ้นายเลย เพราะทุกอย่างที่ผมไหว้วานให้เพื่อนรักทั้งสองช่วยเตรียมการให้ ผมไม่ได้ควักกระเป๋าจ่ายเงินให้พวกมันสักบาท ตีมึนใส่แบบเนียนๆ พวกมันก็ไม่กล้าทวง 'หึ' "ทำไรอะ" "ปะ ป่าว""พิรุธนะ คุยกับสาวหรอ""ไม่ได้คุย" "...""กายไม่ได้คุยกับสาวคับ"
"พีช""หืม""กายโกรธพีช""พีชทำอะไรให้""ก็ดูสิ ไอ้สองคนนั้นแชทมาอวดว่าสาวๆ ท้อง""แล้วก็ว่ากายไม่มีน้ำยา""ก็จริง""อยากโดน?""..."เป็นไปตามที่ผมคิด หลังจากงานแต่งพวกมันเพียงไปนานผมก็ได้รูปแผ่นฟิล์มอัลตราซาวด์ ที่มีภาพสีขาวๆ คล้ายกันพร้อมกับข้อความโอ้อวดของไอ้เพื่อนขี้คุยนั่นทุกวัน แล้วก็ขยันส่งกันซะด้วย ไปหาหมอทีก็ส่งมาอวดที จนผมรู้สึกอินตามไปด้วย และถ้าวันไหนที่ผมเบื่อหรือรำคาญไม่อ่านแชทพวกมันก็จะรอผมตื่นแล้ววิดีโอคอลมาหา ถ้าไม่รับก็จะโทรกันมาอยู่อย่างนั้นจนต้องกดรับและด่ากลับไปหนึ่งชุดถึงจะหยุดกวนกัน นี่ผมยังนึกภาพบทปะป๊าของไอ้นายไม่ออกนะ คิดแล้วก็แอบสงสารเด็กเด็กอยู่เหมือนกัน"ทำอะไรอะ""นับวัน""นับวันอะไร""ผลิตลูก""..."แล้วพอมาเล่าให้คนตัวเล็กที่กำลังนอนพิงอกแกร่งอ่านเทคบุ๊คอยู่ เธอก็เห็นดีเห็นงามตามพวกนั้นจนผมหมันไส้ก้มไปงับเข้าที่ต้นแขนขาวก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเธอตาขวาง ถ้าไม่ติดว่าคนท้องไม่ควรนั่งเครื่องบินนะ ผมจะเอาน้องอังกฤษกลับไปฝากทุกคนตอนนี้คงทำได้แค่หยิบปฏิทินมากากบาทนับวันถอยหลังบินกลับและเริ่มขบวนการผลิตแค่นั้น แต่จะว่าไปซ้อมสักยกสองยกซ้อมท่าทางหน่อยท่าจะดีวัน
"ลูกพีช ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ แกไปด้วยกันมั้ย""ไปสิ แต่โต๊ะจะไม่หายใช่มั้ย""ไม่หรอก รีบไปรีบมา""อ้าว หวัดดีคับพี่พี่""น้องนาย มาดื่มเหมือนกันหรอ""คับพี่ติม พี่พี่นั่งตรงไหน ไปนั่งกับพวกผมมั้ย""มะ ไม่ดีกว่าจ๊ะ พี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ""ไปเร็วไอติม""..."ฉันลืมไปเลยว่าไม่ได้บอกเด็กยักษ์ว่าตอนนี้อยู่ร้านเดียวกัน แล้วโลกก็กลมเกินไปดันมาเจอน้องนายเพื่อนสนิทของเขาตรงทางเดินพอดี เฮ้อ... ความลับแตกแน่ๆ ตั้งใจจะมาแอบดูแท้ๆ เลย แต่ไม่เป็นไรโต๊ะฉันหลบมุมอยู่ด้านในไม่มีทางเดินมาเจอกันง่ายๆ หรอก พอเข้าห้องน้ำเสร็จก็รีบจูงมือไอติมเดินแหวกฝูงชนกลับมาที่โต๊ะทันที ชั่วโมงนี้หลบมุมก่อนดีที่สุด"ไอ้กาย ทายสิกูเจอใคร""ผี""ผิด กูเจอนางฟ้า""กูโทรหามายแป็บ""มึงหยุด เดี๋ยวกูไม่ได้เข้าห้อง""หึ" "แล้วสรุปมึงเจอใคร""พี่คนสวย""ใครวะ""..."พี่คนสวยของไอ้นายมีอยู่ไม่กี่คนหรอก และหนึ่งในนั้นก็คือ 'ลูกพีช' อยู่ๆ ก็รู้สึกเท้ากระตุกอยากจะถีบไอ้เพื่อนเวรนี่สักทีมาก็ช้าแล้วยังจะพูดมากอีกลึกลึกก็เริ่มรู้สึกตะหงิดใจแปลกๆ อยู่เหมือนกัน แต่ผมเห็นเธอขับรถออกไปแล้วนี่หรือถ้าจะมาก็น่าจะบอกกันตั้งแต่แรกหรือแ