หนึ่งเดือนผ่านไป
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา อนาคินยังคงไปรับไปส่งคริมาที่บ้าน เขาพาหญิงสาวไปทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลง พาไปเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า หรือไม่ก็สวนสาธารณะ อีกสองสัปดาห์จะถึงวันเกิดเขา ชายหนุ่มตั้งใจว่าจะปิดจบทุกอย่างในวันเกิดของเขา ติ้ง! เสียงข้อความดังขึ้น คริมารีบหยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านทันที พี่คิน : ทานข้าวยังครับ ครีม : ทานแล้วค่า พี่คินล่ะคะ พี่คิน : พี่เรียบร้อยแล้วครับ ครีม : พี่คินทำอะไรอยู่คะ พี่คิน : กำลังคิดถึงครีมอยู่ครับ ครีม : ไม่เชื่อหรอกค่ะ พี่คิน : ถ้าครีมไม่เชื่องั้นพี่ไปหาครีมที่บ้านตอนนี้เลยดีมั้ยครับ ครีม : สติ๊กเกอร์ตกใจ ครีม : เชื่อแล้วค่า พี่คิน : เดี๋ยวพี่ไปเที่ยวผับกับเพื่อนก่อนนะครับ ไอ้คี ไอ้ซัน มันไลน์มาตามพี่แล้ว ครีม : ค่า ขับรถดีๆ นะคะ อย่าดื่มจนเมามากนะคะ พี่คิน : เป็นห่วงพี่เหรอ ครีม : สติ๊กเกอร์ยิ้ม ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง “ไงวะ..ไอ้คิน เมื่อไหร่มึงจะจัดการน้องครีมสักที” เสียงของคีตะเอ่ยถามเมื่ออนาคินเดินมานั่งที่โต๊ะประจำในผับที่พวกเขามากันทุกค่ำคืน “วันเกิดกูนี่แหละ..พวกมึงคอยดูรูปได้เลย” “อ้าว! แล้ววันเกิดมึงพวกกูก็ไม่ได้ฉลองด้วยสิ..หรือว่ามึงจะพาน้องเค้ามาที่นี่ด้วย” เสียงของอาทิตย์วราเอ่ยขึ้น “ไม่ กูจะไปฉลองกับน้องครีมสองคนที่ทะเล” “ว้าวๆๆๆ โคตรโรแมนติดเลยว่ะ..พี่คินคะ พี่คินขา” คีตะเอ่ยแซว “เออ..พรุ่งนี้มีเรียนวิชาเดียว มึงพาน้องเค้ามาแนะนำให้พวกกูรู้จักหน่อยสิ” ธาวินทร์กล่าว “พวกมึงจะอยากเจอน้องเค้าไปทำไม?” อนาคินลังเลชั่วครู่ก่อนจะถามกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ “ทำไม? มึงหวงเหรอ?” คีตะเอ่ยถาม “ป่าว!” อนาคินตอบเสียงสูง เขาเนี่ยนะหวงยัยนั่น น่าเบื่อจะตาย วันๆ เขาต้องคอยเอาอกเอาใจ คนอย่าง อนาคินไม่เคยต้องเอาใจผู้หญิงคนไหน มีแต่ผู้หญิงที่ต้องเป็นฝ่ายเอาอกเอาใจเขา อีกไม่นานเกินรอ เรื่องพวกนี้จะจบลง และเขาต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง “วันนี้ครีมเรียนเสร็จกี่โมงครับ?” ชายหนุ่มถามออกไปเมื่อเขาขับรถมาส่งหญิงสาวที่ตึกคณะอักษรศาสตร์ “สิบเอ็ดโมงค่ะ” “พี่จะพาครีมไปเจอเพื่อนๆ ของพี่ ครีมสะดวกมั้ยครับ?” “อ่อ..ได้ค่ะ” “งั้นเดี๋ยวสิบเอ็ดโมงพี่มารับนะครับ” “ค่ะ” จากนั้นคริมาก็ลงจากรถหรูของอนาคินเดินเข้าตึกของคณะ ท่ามกลางสายตาที่บ่งบอกว่าอิจฉา และเสียงซุบซิบนินทา ซึ่งเธอได้ยินจนชินเสียแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยเอามาใส่ใจ เวลาสิบเอ็ดโมง อนาคินมาจอดรถรอหญิงสาวที่หน้าคณะ เมื่อเห็นคริมาเดินมาชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหาและจับมือเธอเดินไปขึ้นรถ และพาเธอไปยังร้านอาหารชื่อดังร้านหนึ่งที่พวกเพื่อนๆ เขารออยู่ “ครีมครับ..นี่เพื่อนพี่ ไอ้คี ไอ้วินทร์ ไอ้ซัน” อนาคินแนะนำเพื่อนทีละคนพร้อมกับชี้ไปที่เพื่อนเพื่อให้เธอรู้ว่าคนไหนชื่ออะไร “สวัสดีค่ะ พี่ๆ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” คริมายกมือไหว้รุ่นพี่ พวกหนุ่มๆ ยิ้มและพยักหน้าให้หญิงสาวเล็กน้อย นี่สินะ..แก๊งหนุ่มหล่อพ่อรวย เธอพึ่งจะเคยเจอตัวจริงก็วันนี้แหละ แต่เอ๊ะ! มีคนหนึ่งที่เธอรู้สึกคุ้นหน้าเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน ใช่แล้ว! คนที่ชื่อคี เขาเคยมาคุยกับเธอแล้วเธอก็เดินหนีเขา เมื่อนึกขึ้นได้หญิงสาวถึงกับทำหน้าไม่ถูก “น้องครีม เชิญนั่งก่อนครับ” เป็นเสียงของธาวินทร์ “ค่ะ” “น้องครีมจะทานอะไรสั่งได้เลยนะ..พวกพี่สั่งไปแล้ว อ้อ! ไอ้คินกูสั่งเผื่อมึงแล้วนะ” เป็นเสียงของคีตะ “เอาตามที่พวกพี่สั่งก็ได้ค่ะ..ครีมทานได้หมด” เรื่องนี้อนาคินรู้ดีว่าหญิงสาวเป็นคนกินง่าย อยู่ง่าย ไม่เรื่องมาก ไม่เรียกร้อง ไม่จู้จี้จุกจิก ที่ผ่านมาอนาคินไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้ พวกเธอเหล่านั้นล้วนแต่เรียกร้องอยากได้แต่ของแบรนด์เนม หรือของแพงๆ ส่วนคริมาเวลาที่เขาพาเธอไปเกินห้างสรรพสินค้า เธอไม่เคยอยากได้อะไรเลย เขาตั้งใจซื้อให้เธอก็ไม่ยอมรับ เธอบอกว่ามันสิ้นเปลือง แต่ใครจะรู้? เธออาจจะกำลังแสดงละครต่อหน้าเขาอยู่ก็เป็นได้ ตอนนี้เขารอแค่ให้เธอ ใจง่าย กับเขาเท่านั้น เมื่อวันนั้นมาถึงเกมนี้ก็ต้องจบลง เขาก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตตามประสาคาสโนว่าตัวพ่อสักที “น้องครีมนี่เก่งมากเลยนะ..ที่เอาไอ้คินซะอยู่หมัดเลย” เสียงของคีตะเอ่ยขึ้น “ใช่ๆ ไอ้คินเลิกเจ้าชู้เพราะน้องครีมเลยนะ” อาทิตย์วราเอ่ยสมทบอีกเสียง “หยุดเลย..พวกมึงพูดอะไรกัน เอ่อ..ที่จริงพี่ไม่ได้เจ้าชู้นะครับแค่พี่ยังไม่เจอคนที่ถูกใจแค่นั้นเอง” อนาคินต่อว่าให้เพื่อนก่อนจะหันมาพูดกับหญิงสาวด้วยเสียงนุ่มนวล “อ่อค่ะ..” หญิงสาวยิ้มด้วยความเขินอาย ที่ อนาคินและเพื่อนๆ เขาพูดออกมา หมายความว่า ตอนนี้เขาเจอคนที่ถูกใจแล้ว ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป ผู้หญิงคนนั้นก็น่าจะคือเธอใช่ไหม หลังจากที่ทั้งหมดรับประทานอาหารและพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งส่วนมากเป็นการพูดคุยกันของ คริมากับเพื่อนๆ ของเขาที่เปลี่ยนกันถามคำถามใส่เธอจนหญิงสาวตอบไม่ถูก จากนั้นทุกคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน อนาคินพาหญิงสาวมาส่งที่บ้าน ระหว่างทาง เขาเอ่ยถามหญิงสาวขึ้นมา “ครีมครับ..อาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดพี่ ครีมไปฉลองวันเกิดกับพี่ได้มั้ยครับ?” เขาเอ่ยถามหญิงสาว “อ้าว! วันเกิดพี่คินเหรอคะ..แล้วพี่คินจะพาครีมไปที่ไหนคะ?” หญิงสาวถามออกไปด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “พี่อยากไปทะเล ครีมอยากไปเที่ยวทะเลกับพี่มั้ยครับ?” “ไปเสาร์อาทิตย์ใช่มั้ยคะ?” จำได้ว่าไปเที่ยวทะเลครั้งสุดท้ายเมื่อตอนเธออายุสิบขวบหลังจากที่มารดาเสียเธอก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวทะเลอีกเลย “ครับ” “ครีมไม่รู้จะไปได้หรือเปล่า..ครีมกลัวพ่อไม่ให้ไปค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยความกังวล อีกใจก็อยากไป แต่กลัวบิดาของเธอจะไม่อนุญาต “ครีมก็บอกพ่อว่าไปทัศนศึกษาของมหาลัยสิครับ..รับรองว่าพ่อของครีมต้องอนุญาตแน่นอน” “แต่ครีมไม่เคยโกหกพ่อเลยนะคะ..ครีมกลัว” “นะครับ..นะ ครีมไปกับพี่นะครับ วันเกิดพี่ทั้งที” “ก็ได้ค่ะ..ครีมจะลองขอพ่อดู” “ดีมากครับ” พูดจบชายหนุ่มก็ยื่นมือไปลูบหัวเธอเบาๆ หลังจากที่ไปส่งคริมาเสร็จ ชายหนุ่มก็ไปลั้นลากับเพื่อนๆ ต่อ ทางด้านคริมาได้ขออนุญาตผู้เป็นบิดาว่าจะไปทัศนศึกษาที่หัวหิน คราแรกบิดาของเธอไม่ยอมให้ไป แต่หญิงสาวยกเหตุผลสารพัดขึ้นมาอ้างสุดท้ายบิดาของเธอจึงอนุญาตให้เธอไป คริมาดีใจจนเนื้อเต้นที่จะได้ไปเที่ยวทะเลอีกครั้ง เธอรีบส่งข้อความบอกอนาคินทันที ครีม : พี่คินคะ พ่ออนุญาตให้ครีมไปทัศนศึกษาแล้วนะคะ พี่คิน : จริงเหรอครับ พี่ดีใจที่สุดเลย ครีมน่ารักที่สุด พี่คิน : สติ๊กเกอร์หัวใจ ครีม : สติ๊กเกอร์ยิ้ม พี่คิน : ครีมฝันดีนะครับ อย่าลืมฝันถึงพี่ด้วยนะ ครีม : ค่ะ หลังจากส่งข้อความสุดท้าย อนาคินแสดงความดีอกดีใจจนออกนอกหน้า “มึงเป็นไร?ไอ้คิน กูเห็นมึงจับโทรศัพท์แล้วก็ยิ้มออกมาคนเดียว” คีตะถามออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนนั่งยิ้มให้โทรศัพท์ “ป่าว! ไม่มีไร” อนาคินตอบเสียงเรียบ “ไม่จริงอ่ะ..กูไม่เชื่อ มึงแอบนอกใจน้องครีมเหรอวะ” คีตะยังคงสงสัย “นอกใจเหี้ยอะไร..กูยังไม่ได้เป็นแฟนกับครีมสักหน่อย” เสาร์นี้แหละกูจะขอครีมเป็นแฟนเสร็จแล้วก็จับทำเมียเสียเลย..ชายหนุ่มคิดในใจ “ก็กูเห็นมึงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ กูนึกว่ามึงคุยกับสาวๆ” “กูคุยกับครีม..พ่อของครีมยอมให้ครีมไป ทัศนศึกษาวันเสาร์อาทิตย์นี้แล้วโว้ย” “ทัศนศึกษากับมึงสองคนอ่ะนะ” ครานี้เป็นเสียงของอาทิตย์วรา “เออ” อนาคินตอบแบบไม่เต็มใจสองปีต่อมาคริมาท้องอีกครั้ง เธอตั้งใจว่าหลังจากคลอดลูกคนนี้แล้วเธอจะทำหมัน เพราะมีลูกสามคนก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอ แต่อนาคินอยากมีลูกสี่คน ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างชายหนุ่มใช่! เธอท้องลูกแฝดและเป็นฝาแฝดชายหญิงเสียด้วยอนาคินดีอกดีใจจนออกนอกหน้า ส่วนคริมานั้นก็ดีใจ แต่ลึกๆ เธอก็กังวลเล็กน้อย เพราะแค่เลี้ยงลูกน้อยคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว นี่เธอต้องเหนื่อยคูณสอง แต่เธอก็ไม่กลัวเพราะมีอนาคินคอยช่วยเลี้ยง ในเมื่อเขาอยากได้ลูกมากนักเธอก็จะให้เขาเลี้ยงซะให้เข็ด จะได้รู้ว่าเลี้ยงลูกไม่ได้สบายอย่างที่ผู้ชายหลายๆ คนคิดหลังจากที่คริมาคลอดลูกแฝดแล้ว อนาคินก็พาครอบครัวย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ที่ไร่พรรณิภา เพราะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนานั้นตอนนี้ก็แก่ชรามากแล้ว ไม่สามารถดูแลไร่ได้เหมือนเดิม เขาจึงตกเป็นผู้สืบทอดกิจการของพ่อเลี้ยงไปโดยปริยาย ส่วนอนามิกา พี่สาวของเขานั้นก็ดูแลในส่วนของบริษัทผลิตเครื่องดื่มแบรนด์ดังที่สุดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และแน่นอนว่าไวน์ที่อนาคินคิดค้นผลิตขึ้นมานั้นกลายเป็นไวน์แบรนด์ดังที่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะรสชาติของไวน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกับไวน์ทั่วๆ ไป ส่งผลให้อ
หนึ่งปีต่อมาวันนี้อนาคินพาคริมาและลูกน้อยทั้งสองคนมาเที่ยวพักผ่อนที่ไร่พรรณิภา คนงานในไร่ต่างพากันดีอกดีใจที่ได้เจอคริมากับลูกของเธออีกครั้ง และโดยเฉพาะพ่อเลี้ยงพัฒน์ธนาที่ตอนนี้กลายเป็นคุณปู่ทวดไปแล้ว ชายชราดีใจที่ลูกหลานมาเยี่ยมเยือน พ่อเลี้ยงจึงสั่งให้มีการจัดงานเลี้ยงพิเศษขึ้นในค่ำคืนนี้ และให้คนงานทุกคนมาร่วมดื่มกินสังสรรค์กันให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด“พ่อเลี้ยงไม่บอกก่อน ครีมไม่มีชุดสวยๆ ติดมาเลยค่ะ” คริมายังคงเรียกคุณตาของอนาคินว่าพ่อเลี้ยง เพราะความเคยชิน“ไม่ต้องห่วง..พี่เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ทั้งของครีมกับของลูกๆ”“จริงเหรอคะ..พี่คินไปเตรียมตอนไหน ครีมไม่เห็นรู้เลย”“ไม่บอก..แต่พี่รับรองว่าครีมต้องชอบแน่ๆ”“พี่คินคิดจะทำอะไรกันแน่ บอกครีมมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” คริมาหันไปทำเสียงดุใส่สามี“เปล่า..ไม่ได้จะทำอะไร ก็พอดีพี่บอกกับคุณตาว่าพวกเราจะมา คุณตาก็เลยจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเรา เพียงแต่พี่ไม่ได้บอกครีมเท่านั้นเอง”“จริงนะคะ”“จริงที่สุดครับ” อนาคินยิ้มอย่างมีเลศนัยและในค่ำคืนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง อนาคินส่งตัวลูกสาวกับลูกชายให้ป้าสายช่วยจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ และเขาก็บอก
สามวันผ่านไปอนาคินออกจากโรงพยาบาลหลังจากที่อาการดีขึ้นมากแล้ว เพราะได้พยาบาลส่วนตัวดูแลเป็นอย่างดี รวมไปถึงกำลังใจจากคนรอบข้าง ทำให้เขาแข็งแรงขึ้นในเร็ววัน“ครีมมีนัดตรวจครรภ์อีกเมื่อไหร่” อนาคินเอ่ยถามคนรักในขณะที่เขากำลังนั่งเอามือลูบท้องของเธออยู่“วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ค่ะ..อุ้ย!” คริมาคลี่ยิ้มก่อนจะอุทานออกมาเพราะลูกน้อยในท้องดิ้นแรงเหลือเกิน“ลูกดิ้นเหรอ?” อนาคินถามเพราะเขาก็รู้สึกได้ว่าลูกน้อยกำลังดิ้น“ค่ะ”“เราจะได้รู้แล้วใช่มั้ยว่าจะได้ลูกสาวหรือลูกชาย”“จริงๆ รู้ได้ตั้งแต่เดือนก่อนแล้วค่ะ แต่ลูกคงจะอายหนีบไว้ไม่ยอมให้เห็น”“พี่ตื่นเต้นจัง..อยากรู้ว่าได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย”“วันอาทิตย์นี้น่าจะรู้นะคะ..ถ้าลูกไม่แอบอีก”“เรานอนกันเถอะครับ..ดึกแล้ว”“ค่ะ..ฝันดีนะคะ”“ฝันดีเหมือนกันครับ” จากนั้นทั้งสองก็นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันจนถึงเช้าวันอาทิตย์วันที่คริมากับอนาคินรอคอยก็มาถึง เมื่อเขาพาเธอมาหาหมอเพื่อตรวจครรภ์ตามนัด อนาคินตื่นเต้นที่ได้เห็นลูกน้อยบนหน้าจอเป็นครั้งแรก ภาพของลูกน้อยที่ดิ้นอยู่ในครรภ์ทำให้เขาน้ำตาซึมออกมา มันเป็นความรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก เขาพลาดโอ
อนาคินที่แกล้งนอนหลับ อมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อได้ยินคริมาพูดความในใจกับเขา คริมานั่งบนเก้าอี้เธอจับมือข้างหนึ่งของเขามาแนบกับแก้มของเธอ เธอพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลดมือเขา อนาคินอดใจไม่ไหวอยากจะดึงเธอเข้ามากอดปลอบเสียเดี๋ยวนี้เขาพึ่งรู้ว่าการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้มันช่างดีเหลือเกิน เพราะมันทำให้คริมาหายโกรธเขาและให้โอกาสเขาอีกครั้ง เหมือนเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และครั้งนี้เขาจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกเด็ดขาด อนาคินสัญญากับตัวเอง เขาจะดูแลคริมากับลูกให้ดีที่สุด เขาจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในที่สุดอนาคินก็ทนไม่ไหว ลืมตาขึ้นมา“ครีมพูดจริงใช่ไหม?” เขาถามออกไปพร้อมยิ้มอย่างดีใจ“จริงค่ะ ครีมพูดจริงๆ” คริมาตอบก่อนจะตกใจที่ได้ยินเสียงของเขา เธอเงยหน้ามองเขา อนาคินฟื้นเเล้ว แถมยังยิ้มหน้าแป้นใส่เธออีกนี่เธอโดนเขาหลอกอีกแล้วเหรอ..“นี่พี่คินฟื้นแล้วเหรอคะ? แล้วไม่เห็นมีใครบอกครีมเลย” คริมาหันมาถามเพื่อนๆ ของเขาเธอดีใจที่เขาฟื้น..แต่ก็เสียใจที่โดนหลอก“ก็น้องครีมไม่ได้ถามนี่นา..” เป็นเสียงของธาวินทร์เอ่ยออกมาเบาๆ“ต้องโทษไอ้คีเลย มันเป็นคนวางแผนทั้งหมด” อาทิ
หลังจากที่อนาคินขับรถออกมาจากบ้านของคีตะได้สักพัก เขามุ่งหน้าไปยังผับแห่งหนึ่ง ตอนนี้เขาต้องการตัวช่วยให้ตัวเองหายเครียดอนาคินนั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวโดยไม่สนสายตาของใครต่อใครที่มองเข้ามา โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต่างก็อยากจะเข้ามาทักทายเขา แต่หลังจากที่สาวๆ เหล่านั้นเห็นสายตาที่แข็งกร้าวของเขา พวกหล่อนต่างก็พากันล่าถอยไม่ย่างกรายมาใกล้เขาอีกเลยในขณะที่เขานั่งดื่มอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้ว ใบหน้าเล็กๆ น่ารักเหมือนตุ๊กตาก็ลอยเข้ามาในหัว ใช่! ลูกสาวของเขาเอง ป่านนี้ลูกคงจะรอเขาไปอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนเป็นแน่..ตอนนี้ลูกสาวติดเขามากจนเขาไม่สามารถจะไปไหนได้เลย อนาคินคิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นและก้าวเท้ายาวๆ ออกจากผับไปทันทีสติสัมปชัญญะของเขาตอนนี้อาจจะไม่เต็มร้อยนัก แต่เขารู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เมาถึงขนาดขับรถไม่ได้ เขาแค่รู้สึกมึนๆ นิดหน่อย ในระหว่างทางกลับบ้านซึ่งเป็นถนนสี่เลน เขาเห็นรถสิบล้อคันหนึ่งพุ่งข้ามฝั่งมาทางที่เขากำลังขับรถ อนาคินเห็นท่าไม่ดีรีบหักหลบรถสิบล้อคันนั้น ก่อนที่รถของเขาจะเสียหลักไปพุ่งชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางโครม!จากแรงกระแทกอย่างแรงของการขับไปชนเสาไฟฟ้าทำให้สติของเขาดับไปใ
คริมาลืมตาตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นของวันนั้น เธอพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น“เป็นยังไงบ้างครีม” คีตะเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคริมาฟื้นแล้ว“ลูก..พี่คี ลูกของครีมล่ะคะ?” คริมาถามออกไปด้วยความกลัว“ลูกของครีมปลอดภัย แต่ครีมต้องนอนอยู่บนเตียงห้ามขยับจนกว่าหมอจะอนุญาต”“ลูกครีมไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่มั้ยคะ?”“จริงสิ..ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพี่เรียกหมอก่อนนะ”จากนั้นหมอและพยาบาลก็เข้ามาตรวจอาการของหญิงสาว เบื้องต้นไม่มีอะไรผิดปกติ คุณหมอบอกให้เธอพักผ่อนให้มากๆ“พี่คีคะ..แล้ว เอ่อ”“ไอ้คินมันไม่อยู่หรอก พอดีน้องเค้กไม่สบาย มันก็เลยต้องรีบกลับไปดูลูก”“ตายจริง! แล้วน้องเค้กเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ?” คริมาอุทานออกมาด้วยความตกใจ“เห็นบอกว่าตัวร้อน แต่ครีมไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไอ้คินมันพาน้องเค้กไปโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้ครีมต้องทำใจให้สบาย อย่าเครียด เดี๋ยวจะส่งผลถึงเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้อง”“ค่ะ”ค่ำคืนนั้นกว่าคริมาจะหลับลงก็กินเวลาไปเกือบเที่ยงคืน เพราะเป็นห่วงลูกสาวเช้าวันต่อมา / โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้อนาคินยังไม่ได้นอน เมื่อวานเขาพาเด็กหญิงเค้กมาหาหมอที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าติ