[10]
เขาคือดวงจันทร์ ส่วนฉัน...อุกกาบาต!
__________________
อรุณรุ่งวันใหม่
ฟูกนอนอีกฝั่งเย็นชื้นด้วยเครื่องทำความเย็นที่ยังเปิดค้างอยู่ มือของชายหนุ่มลูบคลำไปทั่วแม้ตายังปิดสนิท ทว่าเมื่อไร้ร่างคนที่นอนอยู่ข้างกัน เขาเลยต้องฝืนลืมตาตื่น มองไปทางห้องแต่งตัวที่ประตูกระจกเปิดอยู่ก็ไม่เห็นผู้ใด ลองลุกไปหาในห้องน้ำก็พบเพียงความว่างเปล่า หรือว่าเวนิสาจะลงไปข้างล่างเพื่อเตรียมมื้อเช้าแล้ว
รอยยิ้มสดใสแต้มแต่งใบหน้าหล่อเหลา ศศินรีบอาบน้ำแต่งตัว เขาลงมาข้างล่างในอีกยี่สิบนาทีให้หลัง แต่ไม่พบเจอใครแม้แต่บิดาของตัวเอง เขาโทร หาเวนิสา ทว่าได้ยินเพียงเสียงตอบรับของระบบอัตโนมัติ เขาบึ่งรถไปหาหล่อนที่โรงเรียนสอนทำอาหาร แต่ก็ไม่พบ เริ่มหวั่นใจเล็กน้อย แต่ยังปลอบตัวเองว่าหล่อนอาจมีธุระด่วน เขาแวะไปที่ร้านขนมที่มีช็อกโกแลตยี่ห้อดังที่หล่อนโปรดปราน ซื้อมากล่องใหญ่ มันอยู่ในกล่องผูกโบเรียบร้อยน่ารัก เขายิ้มให้มันราวกับเป็นเวนิสาเสียเอง
“หรือว่าจะอยู่ที่ห้างนะ” ถามตัวเองแล้วยิ้มออกมา เบี่ยงพวงมาลัยรถไปย
เวลานี้สี่ทุ่มแล้ว แต่เวนิสาคนงามยังเดินทอดน่องอยู่ริมสนาม ตากน้ำค้างยามค่ำคืนพร้อมกับชื่นชมพระจันทร์ดวงโต โชคดีฝนไม่ตก พระจันทร์เลยได้อวดโฉมงดงาม ก่อนกลับเข้ามาที่บ้านวันนี้ มีสายโทรเข้ามารายงานทั้งจากโรงเรียนสอนทำอาหารและจากร้านเบเกอรี่ว่ามีผู้ชายไปถามหาเธอ ก็พอจะรู้ละว่าเป็นศศิน แต่มันเรื่องอะไรต้องมาตามจิกเธอเล่า“อะแฮ่ม! จะนอนไหม ฉันจะล็อกประตู”เสียงห้วนดังมาจากข้างหลัง บุรุษในชุดเสื้อคลุมสีกรมท่าเดินวางมาดเคร่งขรึมเข้ามาถามไถ่ ใบหน้าเขาเหมือนไม่สบอารมณ์นัก คงมีบางเรื่องให้เคืองใจกระมังหญิงสาวทำใจดีสู้เสือ อย่างน้อยเขาก็โทรหาเธอทั้งวัน ถือเสียว่าเขาเป็นฝ่ายง้อก่อนก็แล้วกัน“ขอสิบนาทีค่ะ”เขาพยักหน้าเออออ เดินมายืนข้างหล่อน ได้กลิ่นหอมละมุนจากร่างบางผสมกับกลิ่นความชื้นจากต้นไม้ใบหญ้า พอได้มองใบหน้านี้ชัดๆ ก็ราวกับว่าความขุ่นเคืองใจทั้งหมดทั้งมวลได้สูญสลายไป“เธอเล่นซ่อนแอบเหรอ หายไปทั้งวัน”“แหม...ฉันก็มีธุระปะปังบ้างสิคะ”“ธุระกับผู้ชายสินะ ผู้ชายอายุน้อยกว่าซะด้วย”เวนิสามุ่นคิ้ว มองเขาอย่างค้นคว้า นี่เขาไปรู้ไปเ
[10]เขาคือดวงจันทร์ ส่วนฉัน...อุกกาบาต!__________________อรุณรุ่งวันใหม่ฟูกนอนอีกฝั่งเย็นชื้นด้วยเครื่องทำความเย็นที่ยังเปิดค้างอยู่ มือของชายหนุ่มลูบคลำไปทั่วแม้ตายังปิดสนิท ทว่าเมื่อไร้ร่างคนที่นอนอยู่ข้างกัน เขาเลยต้องฝืนลืมตาตื่น มองไปทางห้องแต่งตัวที่ประตูกระจกเปิดอยู่ก็ไม่เห็นผู้ใด ลองลุกไปหาในห้องน้ำก็พบเพียงความว่างเปล่า หรือว่าเวนิสาจะลงไปข้างล่างเพื่อเตรียมมื้อเช้าแล้วรอยยิ้มสดใสแต้มแต่งใบหน้าหล่อเหลา ศศินรีบอาบน้ำแต่งตัว เขาลงมาข้างล่างในอีกยี่สิบนาทีให้หลัง แต่ไม่พบเจอใครแม้แต่บิดาของตัวเอง เขาโทร หาเวนิสา ทว่าได้ยินเพียงเสียงตอบรับของระบบอัตโนมัติ เขาบึ่งรถไปหาหล่อนที่โรงเรียนสอนทำอาหาร แต่ก็ไม่พบ เริ่มหวั่นใจเล็กน้อย แต่ยังปลอบตัวเองว่าหล่อนอาจมีธุระด่วน เขาแวะไปที่ร้านขนมที่มีช็อกโกแลตยี่ห้อดังที่หล่อนโปรดปราน ซื้อมากล่องใหญ่ มันอยู่ในกล่องผูกโบเรียบร้อยน่ารัก เขายิ้มให้มันราวกับเป็นเวนิสาเสียเอง“หรือว่าจะอยู่ที่ห้างนะ” ถามตัวเองแล้วยิ้มออกมา เบี่ยงพวงมาลัยรถไปย
“อ้าปากวี ได้โปรด...นิดเดียว แล้วเธอ...จะชอบมัน”เขาล่อลวงกิเลศอันดำมืดของอิสตรี และสาวผู้ไร้เดียงสาอย่างเวนิสาก็ตกหลุมพรางอย่างง่ายดาย หล่อนอ้าปากช้าๆ ค่อยๆ ไล้เล็มแท่งทวนอันร้อนผ่าวอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะเริ่มทวีความเร็วถี่ขึ้นๆ ยามรับรู้ถึงรสราคะอันแสนวิเศษ ปากน้อยๆ ค่อยๆ สาวรูดเข้าออกแท่งเนื้ออุ่นร้อนอย่างโหยหิว ริมฝีปากสีชาดระเรื่อตัดกับสีน้ำตาลอ่อนของแท่งเนื้ออย่างชัดเจน ปากอุ่นๆ ของหล่อนกำลังจะรีดพิษร้ายออกจากปลายแท่งทวน ทว่ายังก่อน เขาไม่ยอมให้มันถูกรีดด้วยปากน้อยๆ ของหล่อนหรอกวินาทีต่อมา แท่งเนื้ออันใหญ่โตก็หลุดออกจากริมฝีปาก เวนิสามองตามอย่างแสนเสียดาย เขาดึงมันออกจากปากเธอโดยไม่ให้สัญญาณ อยากจะฆ่าเธอหรือ ขอชิมมันต่อได้ไหม นี่คือรสชาติอะไรกันเล่า หาได้มีความหอมหวานทว่ายามได้ตวัดลิ้นไล้ชิมเหตุใดจึงได้เอร็ดอร่อยนักหนา“พี่คะ...ขอ...”“ชู่ว์...กำลังจะให้” บอกแล้วขยับกายเลื่อนลงเบื้องล่าง ส่งตำแหน่งจับวางร่างกายให้เข้าที่ ปากประกบปาก อกอวบทาบทับอกแกร่ง แท่งเนื้ออุ่นถูกดุนดันเข้าไปในซอกหลืบอันเร้นลับของกายสาว บุกท
“เป็นอะไรอีกล่ะ โกรธละสิ”“ฉันคิดเรื่องงานอยู่ ไม่ต้องพูดอะไรกับฉัน พี่ขับรถไปเถอะ”เมื่อถูกเตะโด่งออกจากความคิดของหล่อน ศศินก็หันกลับมาตั้งหน้าตั้งตาขับรถ เวนิสาไม่ยอมเอ่ยอะไร เขามั่นใจว่าหล่อนคงโกรธที่เห็นรวีกานต์จุ๊บแก้มเขา แต่เขาไม่ได้ตั้งใจนี่นาหญิงสาวเอาแต่จ่อมจมอยู่กับความคิดร้อยแปดของตัวเอง กระทั่งศศินเลี้ยวรถเข้ามาจอดในบ้านศิวเศขร เธอลงรถแล้วรีบก้าวเข้าบ้าน ไม่สนใจแม้ศศินจะเรียกชื่อไล่หลัง ท่านวศินอยู่บ้านในวันนี้ เธอทักทายตามมารยาท แจ้งว่าขอผ่านมื้อค่ำที่กำลังจะมาถึง แล้วขอตัวขึ้นไปอาบน้ำศศินตามมาติดๆ“นี่! คุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ เธอเป็นอะไรฮะ!” เขาวิ่งขึ้นไปยังบันไดขั้นที่สาม คว้าแขนเวนิสาไว้อย่างแรง“ฉันเจ็บนะ!”“ก็เธอไม่ฟังฉันนี่”“อะไรกัน อะไรกันฮะ! คุยกันดีๆ แกอย่าใช้กำลังสิ” ท่านวศินมีเคือง มองสองคนที่กำลังยื้อยุดกันอยู่บนขั้นบันได“คุณลุงคะ บอกให้เขาปล่อยที หนูจะขึ้นไปอาบน้ำ”“ฉันไม่ปล่อย จนกว่าจะเคลียร์ก
จุ๊บ!“เฮ้ย พี่!?” เธอท้วงเสียงขรม เอามือข้างหนึ่งปิดปากตัวเองไว้ เขาทำอะไรกัน ไม่อายชาวบ้านบ้างหรือ“พวกนั้นจะได้เลิกมองเธอซะที เดินเร็วๆ ล่ะ ฉันไปก่อนนะ”แล้วศศินก็ล่วงหน้าไปก่อน เวนิสาเดินตามมาแต่ไม่ได้เดินเข้าไปขัดจังหวะศศินกับรวีกานต์ พวกเขาแบ่งไอศกรีมให้กันคนละถ้วย กินไปก็หันมองนักร้องบนเวทีเตี้ยๆ ไปด้วย รอยยิ้มสดใสของศศินกระจ่างทั่ววงหน้าเขา เธอไม่ค่อยเห็นเข้ายิ้มแบบนี้บ่อยนัก เต็มที่ก็แค่อมยิ้มน้อยๆ ยามอยู่กับเธอ รวีกานต์คงถูกใจเขาสินะ เขาเคยบอกว่าอยู่ใกล้หล่อนแล้วสบายใจ บางที...รวีกานต์อาจสมหวังในความรักคราวนี้ก็เป็นได้___________ดวงตะวันลาลับขอบฟ้า บอกเวลาว่าค่ำเต็มที สาวๆ มาส่งศศินที่รถรวีกานต์ยืนอยู่ข้างประตู ในขณะที่เจ๊หวานกับเวนิสายืนรออยู่ห่างๆ“วันนี้สนุกมากเลย ไม่ใช่การเดตแต่เหมือนเดตยังไงก็ไม่รู้” รวีกานต์ว่าศศินพยักหน้า มีรอยยิ้มบางๆ แต้มแต่งวงหน้าให้ดูน่าหลงใหล เม็ดเหงื่อที่ข้างขมับไม่ได้ทำให้ดูน่ารังเกียจ แต่ทำกลับให้เขาดูเซ็กซี่“งั้นหรือครับ แต่วันนี้สนุกจริงๆ เราน่าจะปั่นรอบบึงอี
เสียงดนตรีแบบน่ารักสดใสดังมาจากเวทีเล็กๆ กลางสวน ผู้คนมากกว่ายี่สิบชีวิตกำลังยืนรับชมพร้อมรอยยิ้ม นักดนตรีวัยรุ่นราวหกเจ็ดคนกำลังเล่นสดอยู่บนเวที เสียงปรบมือดังขึ้นทุกครั้งเมื่อเสียงเพลงจบลง ก๊วนของรวีกานต์มาถึงในตอนที่เพลงจบพอดี ต่างจอดจักรยานไว้ใต้ร่มไม้แล้วนั่งบนอานของมันเพื่อรับชมดนตรี“ปวดฉี่อ่า ไปหาที่ฉี่ก่อนจะแก” เจ๊หวานว่า ปากบอกจะไปฉี่ แต่ตามองไปยังกลุ่มหนุ่มๆ ที่ยืนฟังดนตรีอยู่ไม่ไกลรวีกานต์รู้ทัน “ไปฉี่หรือจะไปอ่อยผู้ชาย ตอบ!”“ไปฉี่ แต่ถ้าอ่อยผู้ชายได้ ฉันก็เอา ไปนะ” ว่าแล้วทิ้งจักรยานให้เป็นภาระคนที่ยังอยู่ ส่วนตัวเองก็เดินเฉียดกลุ่มหนุ่มๆ เพื่อไปห้องน้ำ ยิ้มหวานให้พวกเขาในขณะที่หนุ่มๆ เหล่านั้นได้แต่ทำหน้าขยาด“เจ๊หวานนี่จริงๆ เลย อ่อยไปทั่ว” เวนิสาค่อนขอด มองตามเจ๊คนสวยแล้วอมยิ้มบ้าง “แหม...หนุ่มๆ กลุ่มนั้นมีแต่คนหน้าตาดีแฮะ หน้าเด็กอย่างกับเด็ก ม.ปลายเลย”รวีกานต์ส่ายหน้าระอา“เก็บอาการหน่อย ตรงนี้มีผู้ชายเหลือตั้งคนนะยัยวี”เพื่อนสา